ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 806 ผลตรวจDNAคือหลักฐานที่ดีที่สุด (3)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 806 ผลตรวจDNAคือหลักฐานที่ดีที่สุด (3)
ตามหลักแล้ว คนขององค์กรโกสต์ซิตี้ไม่มีเหตุผลที่จะมาต่อต้านพวกเขา
หรือว่า เธอเดาผิดไปแล้วจริงๆ
เวินลั่วฉิงมาถึงสำนักอัยการแล้ว จึงวางสายไป
เวินลั่วฉิงเข้าไปในสำนักอัยการ ตรงไปหาจินเหว้ยเลย
“คุณถัง คุณมาได้ยังไงครับเนี่ย?” จินเหว้ยเห็นเธอ มีความแปลกใจเล็กน้อย “คุณมาช่วยถังหลินเอาผลใช่ไหมครับ? ผลยังไม่ออกมาเลยครับ”
“อืม?” เวินลั่วฉิงขมวดคิ้ว ช่วยถังหลินเอาผลอะไร? ผลอะไร?
“เมื่อกี้ถังหลินนำผมเส้นหนึ่งมา ให้ผมทำการตรวจDNAให้หน่อย ดูว่าใช่คนในคืนนั้นหรือเปล่า? ทำไมหรอครับ? หรือว่าคุณถังไม่ได้มาช่วยเขาเอาผลรายงานหรอครับ?”
“คุณบอกว่าพี่ชายฉันนำผมมาตรวจสอบ? เร็วขนาดนี้เลยหรอ?” แววตาคู่หนึ่งของเวินลั่วฉิงเปล่งประกายขึ้นอย่างรวดเร็ว ความเร็วของพี่ชายเธอจะเร็วเกินไปหรือเปล่า?
เร็วขนาดนี้ เวินลั่วฉิงมีเหตุผลที่จะสงสัยถังหลินนั่นก็คือ “ได้รับวัสดุจากสถานที่นั้น” เลย
ดังนั้น เวินลั่วฉิงรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้ที่ผมเส้นนั้นจะเป็นของเจ้าชายทั้งสอง……
ไม่ถูกนิ เป็นเจ้าชายทั้งสองแท้ๆ ถังหลินนำผมเส้นหนึ่งมาหมายความว่าอะไรกัน?
หรือว่าถังหลินล็อกเป้าหมายเอาไวแล้ว? ได้ล็อกเจ้าชายคนใดคนหนึ่งในนั้นไว้แล้ว?
“ใช่แล้ว ฉันก็รู้สึกว่าความเร็วนี้เร็วเกินไปแล้วจริงๆ” จินเหว้ยจับจมูก “iสึกว่าคนคนนั้นเหมือนยืนรอถังหลินอยู่ที่ข้างถนนเลย”
“แต่ว่า ผมเส้นที่ถังหลินนำมาเหมือนกับผมเส้นที่คุณหาเจอตรงหมอนมาก” จินเหว้ยคิดไปคิดมา พูดเสริมไปอีกหนึ่งประโยค เพราะว่าผมสองเส้นนี้เหมือนกันมาก เขาจึงอยากจะรีบตรวจสอบผลออกมา
“พี่ของฉันได้พูดถึงอะไรเป็นพิเศษไหม?” เวินลั่วฉิงมองไปทางจินเหว้ย มุมปากแอบยิ้มโค้งไม่ได้ จากนั้นก็ถามไปหนึ่งประโยค
“พูดถึงอะไรเป็นพิเศษไหม?” จินเหว้ยขมวดคิ้วแน่น คิดไปคิดมา จากนั้นก็พูดขึ้นกะทันหันว่า “เขาบอกว่าให้ฉันตรวจด้วยว่าผมเส้นนั้นเป็นของผู้ชายหรือว่าผู้หญิง?”
“พู……” เวินลั่วฉิงอดหัวเราะแตกไม่ได้เลย เป็นเหมือนกับที่เธอคิดไว้เลย แต่ว่า พี่ชายเธอก็น่ารักมากจริงๆ ยังถามด้วยว่าเป็นชายหรือหญิง?
คำถามนี้ยังจำเป็นต้องถามอีกหรอ?
คนอื่นเป็นถึงเจ้าชายของประเทศD เจ้าชายประเทศDจะสามารถเป็นผู้หญิงได้หรอ?
แต่ไม่รู้ว่าผมที่ถังหลินนำมาจะเป็นของเจ้าชายใหญ่หรือว่าเจ้าชายน้อยกัน?
เวินลั่วฉิงนึกได้ว่าเมื่อกี้มู่หรงดัวหยางโทรมาบอกเธอว่า เจ้าชายใหญ่นั้นชอบผู้ชาย
ตอนนั้นถังหลินถูกคนวางยาไป หากถังหลินทับลงไปเอง เจ้าชายใหญ่อาจจะยอมรับตามน้ำก็เป็นไปได้!!
หากเป็นแบบนั้นจริงๆ พี่ชายใหญ่บ้านเธอจะรับผิดชอบเจ้าชายใหญ่ไหมนิ?
หากจะรับผิดชอบ เธอก็จะมีพี่สะใภ้แล้วไม่ใช่หรอ แต่หากว่าพี่สะใภ้เป็นเจ้าชายใหญ่ของประเทศD……
เวินลั่วฉิงนึกถึงปัญหา ก็แอบเบ้ปากแรง ปัญหานี้ซับซ้อนมาก ซับซ้อนมากๆ!!
“คุณถัง คุณกำลังคิดอะไรอยู่ครับ? การหัวเราะแบบคุณทำให้รู้สึกขนลุกนะครับเนี่ย” จินเหว้ยเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเวินลั่วฉิง ความรู้สึกแบบนั้นดูขนลุก บรรยายไม่ถูก
คุณถังกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่? ถึงได้ยิ้มขนาดนี้?
“ไม่มีอะไร หมอจินคะ ฉันสามารถขอดูผลรายงานการบาดเจ็บของคุณกงหน่อยได้ไหมคะ?” เวินลั่วฉิงเก็บใบหน้าที่ยิ้ม แล้วพูดถึงเป้ามาที่เธอมา
“คุณจะดูผลรายงานการบาดเจ็บของกงหยุน? ทำไมครับ?” จินเหว้ยได้ยินคำพูดของเธอแล้ว เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าอึ้งไปเลย ตอนที่มองไปทางเธอ ในแววตามีความสงสัยเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน
“ฉันสงสัยว่าการบาดเจ็บกงหยุนเธอเป็นคนสร้างขึ้นมาเอง ตอนนั้นหมอจินมีข้อสงสัยอะไรไหมคะ?” ในเมื่อเวินลั่วฉิงมาแล้ว แน่นอนว่าต้องสืบให้ชัดเจน เธอรู้ว่าตอนนั้นจินเหว้ยอยู่ในพื้นที่ มีสถานการณ์บางอย่างจะค่อนข้างชัดเจนหน่อย
จินเหว้ยค่อยๆ ขมวดคิ้ว “ตอนนั้นคนที่ทำการตรวจแผลให้กงหยุนคือนิติเวชหญิงคนหนึ่ง บนรายงานที่เธอเขียนไม่ได้มีปัญหาอะไรนะครับ”
จินเหว้ยคือนิติเวชที่โด่งดังท่านหนึ่ง แต่ไม่ว่ายังไงแล้วเขาก็เป็นผู้ชาย หากคนตาย ก็ไม่มีอะไรที่ต้องปกปิด แต่ว่าสถานการณ์ของกงหยุนนั้นมีความพิเศษ
“นิติเวชหญิงคนนั้นก็มีความรู้ลึกมาก ทำงานก็ละเอียดอ่อน น่าจะไม่มีผิด รายงานก็ส่งขึ้นไปแล้วครับ หากคุณถังอยากจะเปิดดูผลรายงาน เกรงว่าน่าจะยากครับ”
จินเหว้ยคิดว่าเวินลั่วฉิงอยากจะหาหลักฐานจากผลรายงานการบาดเจ็บ แล้วพลิกคดีให้ถังหลิน เขาค่อยๆ ส่ายหัว “หากเป็นไปได้ ผมทำตั้งนานแล้วครับ ไม่ต้องรอให้คุณถังมาด้วยตัวเองเลย”
จินเหว้ยและถังหลินคือเพื่อกัน สิ่งที่สามารถช่วยถังหลินได้ ไม่ต้องให้คนอื่นมาเตือน เขาก็จะไปทำ เขาไม่ทำ แสดงว่าทำไม่ได้
“คุณเข้าใจความหมายของฉันผิดแล้วค่ะ ฉันไม่ได้อยากจะใช้ผลรายงานการบาดเจ็บของกงหยุนมาพลิกคดี ฉันแค่มีความสงสัยบางอย่าง อยากจะมั่นใจหน่อยค่ะ” เวินลั่วฉิงรู้ว่าเขาเข้าใจผิดแล้ว รีบอธิบายทันที
ในเมื่อเธอมาหาจินเหว้ยแล้ว แน่นอนว่าก็รู้ว่าจินเหว้ยคือคนที่เชื่อถือได้
“คุณสงสัยอะไรครับ?” จินเหว้ยขมวดคิ้ว “จากผลรายงานของกงหยุน ยังสามารถพบเจออะไรได้อีกหรอครับ?”
“ฉันขอดูผลรายงานพวกนั้นหน่อยได้ไหมคะ?” ไม่ใช่ว่าเวินลั่วฉิงจะไม่เชื่อจินเหว้ย แต่เป็นเพราะว่าหลักสำคัญของเธอและจินเหว้ยไม่เหมือนกัน ดังนั้นสถานการณ์อาจจะไม่ค่อยเหมือนกันแล้ว
จินเหว้ยมองไปทางเธอ คิดไปคิดมา จากนั้นก็ค่อยๆ พยักหน้า “ได้ครับ”
คำพูดของเขาหยุดไปสักพัก สีหน้ามีความลำบากใจแอบแฝงอ่อนๆ แต่ว่าก็รีบพูดอีกว่า “เอกสารส่งขึ้นไปแล้ว คุณรอผมแปปหนึ่ง ผมไปเอามาให้”
เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า จินเหว้ยในตอนนี้ทำแบบนี้ไม่ถูกตามกฎหลักมาก แต่ว่าจินเหว้ยไม่ได้พูดอะไร ก็ไปเอาเอกสารให้เวินลั่วฉิงแล้ว
ขณะนี้เป็นเวลาเลิกงานพอดี คนอื่นๆ ต่างก็กลับไปหมดเลย ในห้องไม่มีคนอื่น เวินลั่วฉิงรออยู่ที่ห้องทำงานของจินเหว้ย ไม่ได้เดินมั่วไปที่อื่น สิ่งของในห้องของจินเหว้ย เธอเกรงว่าแค่ไม่ทันระวังจับโดนเล็กน้อยก็อาจจะส่งผลกระทบต่อข้อมูลผลรายงานของเขา
ผ่านไปไม่นาน จินเหว้ยก็นำเอกสารกองหนึ่งมา มอบไปยังข้างหน้าของเวินลั่วฉิง “พวกนี้ต่างก็เป็นเอกสารที่เกี่ยวข้องกับอาหารบาดเจ็บของกงหยุน แผลบนร่างกายของกงหยุนต่างก็ถูกถ่ายไว้หมดแล้วครับ ภาพถ่ายชัดเจนมาก ถึงแม้ว่าจะเทียบกับการตรวจด้วยตัวเองไม่ได้ แต่ว่าความแตกต่างก็ไม่มากครับ”
“ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ” เวินลั่วฉิงรับเอกสาร มองไปทางเขา แล้วยิ้ม
“ไม่ต้องเกรงใจ” จินเหว้ยอึ้งไปสักพัก หูของเขาแดงจนน่าสงสัย ไม่รู้ว่าเพราะกำลังปิดบังอะไรอยู่หรือเปล่า เขารีบหันหลัง เดินไปข้างๆ แล้วไปทำการทดลองต่อ
เวินลั่วฉิงนั่งอยู่ที่ข้างโต๊ะ เริ่มดูเอกสารอย่างตั้งใจ
ตอนแรก เวินลั่วฉิงได้ยินคำพูดของจินเหว้ยไม่ค่อยอยากจะเชื่อ พอเห็นภาพถ่ายแล้ว เธอเชื่อหมดเลย
จินเหว้ยพูดไม่ผิด แผลเล็กแผลใหญ่บนตัวของกงหยุนต่างก็ถ่ายรูปไว้หมดแล้ว ถ่ายได้ครอบคลุมมาก และชัดเจนมาก
ข้างล่างของกงหยุนก็ถ่ายไว้ไม่น้อยเลย ถึงขั้นมีสองสามภาพนำภาพถ่ายข้างล่างของกงหยุนมาซูมใหญ่ ดังนั้นแผลข้างในก็เห็นได้ชัดเจนมาก