ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 810 ผลตรวจDNAคือหลักฐานที่ดีที่สุด (7)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 810 ผลตรวจDNAคือหลักฐานที่ดีที่สุด (7)
เสียงของมู่หรงดัวหยางในตอนนี้กลับมีความสั่นอ่อนๆ อยู่
มู่หรงดัวหยางเป็นคนที่เกรี้ยวกราดบ้าบอมาโดยตลอด เรื่องที่สามารถทำให้เขากังวลและกลัวมีไม่มาก
แต่ว่ามู่หรงดัวหยางในตอนนี้กลัวมากจริงๆ
“ฉันได้ข่าวว่าคนขององค์กรโกสต์ซิตี้นอกจากเรื่องสีและสิ่งเสพติดแล้ว ธุรกิจอะไรก็ทำหมด ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นเราก็ทำธุรกิจกับเขาเถอะ” เวินลั่วฉิงยิ้มที่มุมปาก เวินลั่วฉิงเข้าใจดี อยากจะสืบเรื่องให้ได้มากกว่า วิธีที่ดีที่สุดก็คือติดต่อกับคนขององค์กรโกสต์ซิตี้
“ทำธุรกิจกับคนขององค์กรโกสต์ซิตี้? ทำธุรกิจอะไร?” มู่หรงดัวหยางอึ้งไปเลย เสียงในตอนที่มีความตื่นเต้นและความกลัวได้ลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดเจน เขาเหมือนจะเข้าใจแล้วว่าเวินลั่วฉิงอยากทำอะไร
“พวกเขาถนัดธุรกิจอะไรมากที่สุด พวกเราก็ทำธุรกิจนั้นกับพวกเขา” ในแววตาของเวินลั่วฉิงมีแสงสว่างลอยผ่านไป……
ในเมื่อจะตามหาพวกเขา งั้นก็ใช้สิ่งที่ถนัดของพวกเขา มีแต่แบบนี้ หน้าที่ที่พวกเขารับมาจึงจะมีความเป็นไปได้มาก
“พวกเขาถนัดฆ่าคนมากที่สุด พวกเราจะหาพวกเขาไปฆ่าคนไหม?” มู่หรงดัวหยางที่อยู่อีกทางหนึ่งของโทรศัพท์เงียบไปสองวิ จู่ๆ ก็พูดประโยคนี้ออกมา
“ถนัดฆ่าคนมากที่สุด?” แววตาของเวินลั่วฉิงเปล่งประกายขึ้นทันที “องค์กรโกสต์ซิตี้เป็นที่ฝึกนักฆ่าหรอ?”
แน่นอนว่าไม่ใช่ มู่หรงดัวหยางรีบปฏิเสธคำพูดของเวินลั่วฉิง “ฉันได้ยินพวกผู้อาวุโสบอกว่า ธุรกิจที่องค์กรโกสต์ซิตี้ทำเมื่อยี่สิบปีก่อนต่างก็เป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะว่าคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ต่างก็ถูกการฝึกที่หนักมากก่อน ดังนั้นแต่ละคนต่างก็เก่งมาก ตอนนั้นพวกเขาก็จะรับงานจากข้างนอกบ้าง แต่ว่าสิ่งที่รับต่างก็เป็นพวกบอดี้การ์ด แน่นอนว่า คนปกติแล้วเชิญไม่ไหวแน่นอน และเชิญไม่ขึ้นด้วย ตอนนั้นก็มีแต่พวกชนชั้นสูงหรือพวกหัวหน้าของแต่ละประเทศถึงจะเชิญพวกเขาไหว”
“ได้ข่าวว่ากฎขององค์กรโกสต์ซิตี้เคร่งครัดมาก หากคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ทำผิดกฎ ก็จะได้รับการลงโทษที่หนักมาก ดังนั้นภาพลักษณ์ขององค์กรโกสต์ซิตี้จึงถูกต้อง และยุติธรรม แต่ว่าสองสามปีนี้ หัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้ไม่สนใจเลย คนข้างล่างก็เริ่มทำอะไรมั่ว ไม่ว่างานอะไรก็เริ่มรับ โดยเฉพาะเรื่องของการฆ่าคน รับเยอะที่สุดแล้ว”
“นายสามารถติดต่อกับคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ได้ไหม?” เวินลั่วฉิงฟังคำพูดของมู่หรงดัวหยางจบแล้ว ก็ขมวดคิ้วขึ้น
หากเรื่องเป็นเหมือนกับที่เธอเดาจริงๆ หากคนขององค์กรโกสต์ซิตี้จะต่อต้านพวกเขา งั้นเป็นคนข้างบนขององค์กรโกสต์ซิตี้?
หรือว่าคนข้างล่างพวกนั้นกันแน่?
ระหว่างทั้งสองฝ่ายนี้มีความแตกต่างฟ้ากับดินเลย
หากเป็นคำสั่งจากเบื้องบน งั้นเรื่องนี้ก็จะยุ่งยากหน่อย น่ากลัวมาก แต่หากเป็นพวกคนข้างล่างขององค์กรโกสต์ซิตี้ทำล่ะ?
เมื่อกี้มู่หรงดัวหยางพูดแล้ว ตอนนี้หัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้ไม่สนใจเลย คนข้างล่างต่างก็มั่วไปหมด
ดังนั้น เวินลั่วฉิงรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้ที่เรื่องนี้จะเป็นแค่พวกคนข้างล่างขององค์กรโกสต์ซิตี้ทำ แน่นอนว่า เธอก็หวังว่าเรื่องราวจะเป็นแบบนี้
“คนขององค์กรโกสต์ซิตี้ที่อยู่แถวนี้ ฉันเคยติดต่อไปสองสามครั้ง แต่ว่าคนที่ฉันติดต่อด้วยน่าจะไม่ใช่คนเบื้องบน ทางเมืองA ไม่เคยติดต่อ เธออยากได้ช่องทางติดของทางไหน” มู่หรงดัวหยางตอบเร็วมาก ละเอียดมาก
“ทางเมืองAละกัน ฉันคิดว่าถึงแม้เรื่องนี้จะเป็นคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ทำ ก็คงจะเป็นส่วนที่อยู่A กับคนอื่นๆ ขององค์กรโกสต์ซิตี้น่าจะไม่เกี่ยวข้องด้วย หากเป็นการทำของคนส่วนหนึ่ง งั้นเรื่องนี้น่าจะไม่ได้หนักเหมือนที่นายพูด” เวินลั่วฉิงจะทำแต่สิ่งที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เธอรู้สึกว่าความคิดนี้ไม่ผิดแน่นอน
แต่ว่า อีกทางหนึ่งของโทรศัพท์ มู่หรงดัวหยางกลับเงียบไปเลย ผ่านไปนานมากก็ไม่มีเสียง!
“ทำไมหรอ?” เวินลั่วฉิงไม่ได้ยินเสียงตอบของมู่หรงดัวหยาง มีความแปลกเล็กน้อย ปกติแล้ว มู่หรงดัวหยางพูดมากๆ เลย เงียบไปนานขนาดนี้ น้อยมากเลยที่จะเห็น
“ฉิงฉิง ฉันได้ข่าวว่าหัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้เป็นคนที่ปกป้องให้อภัยความผิดพลาด ได้ข่าวว่า คนที่หัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้อยากจะปกป้อง ถึงแม้ว่าจะพลิกฟ้า พลิกแผ่นดิน หัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้ก็จะปกป้อง ปกป้องให้คนนั้นปลอดภัย มีคนพูดอีกว่า คนที่หัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้อยากจะปกป้อง แม้กระทั่งยมบาลก็ไม่สามารถเอาไปได้” อีกทางหนึ่งของโทรศัพท์ มู่หรงดัวหยางสูดหายใจลึก ครั้งนี้เสียงดูเงียบลงอย่างเห็นได้ชัดเจน
“ดังนั้นล่ะ?” เวินลั่วฉิงได้ยินคำพูดของเขาแล้ว แววตาคู่หนึ่งก็เปล่งประกายขึ้น หัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้เป็นคนที่ปกป้องให้อภัยความผิดพลาดเกี่ยวอะไรกับเธอด้วยหรอ?
“ดังนั้น ถึงแม้ว่าจะเป็นคนที่อยู่ข้างล่างสุดขององค์กรโกสต์ซิตี้ ก็เป็นคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ ในเมื่อเป็นคนขององค์กรโกสต์ซิตี้องค์กรโกสต์ซิตี้ก็จะปกป้องไว้ ดังนั้น ไม่ว่าเธอจะเป็นศัตรูกับคนที่ไหนขององค์กรโกสต์ซิตี้ ก็หมายความว่าเป็นศัตรูกับคนทั้งหมดขององค์กรโกสต์ซิตี้”
“งั้นหากคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ทำผิดล่ะ?” เวินลั่วฉิงยักคิ้ว การปกป้องให้อภัยความผิดพลาดก็ควรจะมีขีดจำกัดหรอกมั้ง? เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่แยกแยะความผิด ความถูกใช่ไหม?
หัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้คงจะไม่ใช่คนแบบนั้นหรอกมั้ง?
“หัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้มีชื่อเสียงโด่งดังมากในด้านการที่ปกป้องข้อบกพร่อง เขาช่วยแต่คนในสายเลือดไม่ช่วยตามหลักเหตุผล ถึงแม้ว่าจะเป็นคนที่อยู่ข้างล่างสุดขององค์กรโกสต์ซิตี้ นั่นก็คือคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ คนของตัวเองพวกเขาก็ต้องปกป้องอยู่แล้ว ไม่มีใครกล้าเป็นโทษกับคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ ถึงแม้ว่าจะเป็นคนข้างล่างสุดขององค์กรโกสต์ซิตี้ก็ไม่มีใครกล้าเป็นโทษ ก็เพราะว่าเหตุผลนี้ หัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้นั้นปกป้องความบกพร่อง พูดให้ง่ายๆ หน่อยก็คือ ทั้งองค์กรโกสต์ซิตี้คือคนบ้านเดียวกัน แต่เธอก็แค่คนนอกคนหนึ่ง…..” ความชัดเจนในประโยคนี้ของมู่หรงดัวหยางชัดเจนมากๆ แล้ว
“นี่เหมือนว่าจะไม่ค่อยมีเหตุผลหน่อยเลย?” เวินลั่วฉิงฟังแล้วยังรู้สึกตกใจ บนโลกใบนี้มีคนแบบนี้ด้วย?
“แต่คนอื่นมีสิทธิ์แบบนั้น ไม่พอใจ? ไม่พอใจเธอก็ทำได้แต่ทน เธอมีความสามารถก็ไปเรียกร้องเครือญาติกับเจ้าขององค์กรโกสต์ซิตี้ไป หากเธอได้เกาะความสัมพันธ์เล็กน้อยของหัวหน้าในองค์กรโกสต์ซิตี้ แต่จากนี้ทั้งแผ่นดินนี้ เธอสามารถเดินแบบแนวนอนได้เลย แต่นั่นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ บนโลกใบนี้ใครไม่อยากจะมีความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับหัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้ล่ะ แต่ว่าหัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้เป็นคนยืนหยัดมาก ไม่หลงใหลในตัวผู้หญิง คนสวยๆ งามอย่างเธอ อาจจะมีโอกาสหน่อย น่าเสียดายจริงๆ”
แน่นอนว่าเวินลั่วฉิงไม่มีทางนำคำพูดของมู่หรงดัวหยางมาคิดเป็นความจริง เวินลั่วฉิงก็ชินกับการที่มู่หรงดัวหยางชอบพูดไปมั่วแล้ว
“ตามที่นายพูดแล้ว หัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้นี้เป็นคนที่ไม่แบ่งแยกผิดถูก เป็นตาแก่ที่ไม่สนความผิดความถูก…..” ได้ยินคำพูดเมื่อกี้ของมู่หรงดัวหยางแล้ว เวินลั่วฉิงได้รับข้อสรุปนี้มา
เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าการสรุปของตัวเองสั้นมาก และได้ใจความ