ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 830 ลงมือก่อนได้เปรียบกว่า (6)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 830 ลงมือก่อนได้เปรียบกว่า (6)
คำพูดของหลินเป้ยหยุดชั่วครู่ จากนั้นก็กล่าวต่อไปว่า“ในเมื่อตอนนั้นคุณชายถังตื่นแล้ว ผมจึงถือโอกาสคุยธุระวันถัดไปซะเลยครับ
แน่นอน ตอนนั้นพวกเราก็อยากจะดูว่าจะเกิดอะไรต่อจากนั้นด้วยครับ?”
“แต่ผมกับคุณชายถังหารือธุระเสร็จก็ไม่พบความผิดแปลกแต่อย่างใด จากนั้นผมก็กลับไปยังห้องนอนของตัวเอง ออ ตอนนั้นผมอยู่ในห้องนอนของคุณชายถังประมาณสองชั่วโมงกว่าครับ ผมเป็นพยานได้ว่าช่วงเวลานั้นในห้องคุณชายถังไม่มีบุคคลอื่นอยู่ด้วยเลยสักคนครับ”ตอนที่หลินเป้ยพูด สีหน้าเป็นธรรมชาติมาก น้ำเสียงหนักแน่น จนทำให้คนไม่อาจสงสัยอะไรได้ทั้งนั้น
“หากเป็นอย่างที่เจ้าชายน้อยกล่าวมาจริงๆ เช่นนั้นกงหยุนก็กำลังพูดปดอยู่……”
“คำพูดของเจ้าชายน้อยน่าจะเป็นจริง คำพูดของเจ้าชายนั้นตรงกับผลตรวจของหมอนิติเวช”
“เช่นนั้นก็ยืนยันกงหยุนพูดโกหกสิครับ”
“หากกงหยุนพูดโกหก งั้นเรื่องที่เธอบอกว่าคุณชายถังกระทำชำเราเธอก็นเป็นเรื่องเท็จสินะครับ?งั้นเธอก็ใส่ร้ายคุณชายถังสินะครับ!”
นักข่าวหลายคนวิเคราะห์เรื่องราวจนทะลุหมดจดแล้ว
“เจ้าชายน้อย คุณอยู่ในห้องคุณชายถังเป็นเวลาสองชั่วโมง แค่ปรึกษากันเฉยๆหรือครับ?”มีนักข่าวคนหนึ่งมองมายังหลินเป้ย พลางถามขึ้นมากะทันหัน
ได้ยินคำถามของนักข่าว มุมปากหลินเป้ยก็ยกโค้งขึ้น ใบหน้าเผยรอยยิ้มหลายส่วน:
“ไม่งั้นล่ะ?พวกเราพวกชายสองคนยังทำอะไรได้อีก?ผมเป็นผู้ชาย ชื่นชอบผู้หญิง ผมคิดว่าคุณชายถังก็เช่นกัน”
คำพูดนี้หลินเป้ยจงใจใช้น้ำเสียงหยอกล้อ แต่เวลานี้เธอจงใจเน้นย้ำหนึ่งเรื่องราว
เน้นย้ำเป็นพิเศษว่าเธอเป็นผู้ชาย!!
ถังหลินรู้เรื่องทุกอย่างหมดเปลืองแล้ว ด้วยท่าทางของถังหลินคืนนี้ เห็นได้ชัดว่าไม่อยากปล่อยเธอไป
เห็นได้ชัดว่าถังหลินอยากเปิดเผยสถานะของเธอ ดังนั้นคืนนี้เธอจึงตัดสินใจชิงลงมือก่อน ซึ่งจะได้เปรียบกว่า
เธอจงใจเลือกพบนักข่าวเวลานี้ ก็เพื่อป้องกันถังหลิน บัดนี้ถังหลินน่าจะเข้านอนแล้ว เมื่อเขานอนหลับแล้ว คงไม่มีทางลบข่าวพวกนี้ได้
พอพรุ่งนี้ถังหลินตื่นขึ้นมา ทุกอย่างก็ถูกกำหนดไว้แล้ว……
ไม่รู้ว่าหลังถังหลินตื่นมาพรุ่งนี้ เมื่อเห็นข่าวนี้ เขาจะตอบสนองเช่นไร??
มุมปากหลินเป้ยอดยกโค้งขึ้นไม่ได้
เธอรอดูการตอบสนองของถังหลินพรุ่งนี้……
“หากเจ้าชายน้อยกับคุณชายถังแค่พูดธุระกันเฉยๆ ทำไมบนผ้าห่มคุณชายถังถึงมีคราบเลือดเจ้าชายน้อยได้ครับ ทำไมบนหมอนคุณชายถังถึงมีเส้นผมของเจ้าชายน้อยได้ครับ?”มีนักข่าวคนหนึ่งถามอย่างรวดเร็ว คำถามนี้จำเป็นต้องอธิบายจริงๆ
“ปกติผมชอบออกกำลังกายแบบโหดๆ วันนั้นบาดเจ็บเล็กน้อยบริเวณมือพอดี……”ขณะที่เจ้าชายน้อยกล่าว พลางยื่นมือซ้ายไปตรงหน้านักข่าว
ด้านข้างมือของหลินเป้ยมีร่องรอยการบาดเจ็บจริงๆ ซึ่งรอยแผลไม่ได้ใหญ่มากนัก ดูแล้วหมือนบาดเจ็บเมื่อสามวันก่อนจริงๆ
“เพราะแผลไม่ได้ใหญ่มาก ผมเลยไม่ได้ทำแผล อาจเป็นเพราะไม่ทันระวังไปโดนแผลเข้า ทำให้มีเลือดซึมออกบริเวณรอยแผล เพราะผมนั่งด้านข้างเตียงคุณชายถัง พอดีตอนนั้นอาจจะไปโดนผ้าห่มคุณชายถังเข้า ได้ยินหมอนิติเวชบอกว่าคราบเลือดที่พบนั้นมีน้อยมากๆ ดังนั้นตอนนั้นผมก็ไม่รู้ตัวเลยครับ”ต้องชมว่าตอนนี้หลินเป้ยอธิบายเช่นนี้ มันไร้ที่ติจริงๆ
“สำหรับเรื่องที่เส้นผมของผมหล่นอยู่บนหมอนคุณชายถัง ผมก็ไม่รู้จริงๆ คงอยู่ในวัยหนุ่ม เลยทำให้กระบวนการสร้างและสลายเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เส้นผมร่วงเยอะ”ใบหน้าหลินเป้ยเจือความกลัดกลุ้มไว้หลายส่วน ตอนที่เธอประโยคนี้ มือข้างหนึ่งของเธอยกไปจับเส้นผมแบบดูแล้วไม่ได้ตั้งใจ แค่จับเบาๆ แต่ตอนที่เธอปล่อยมือลง มือของเธอก็ติดเส้นผมมาสิบกว่าเส้น
“เส้นผมร่วงเกินไปแล้ว ผมมีหน้าตาหล่อเหลาและสง่าผ่าเผยขนาดนี้ ถ้ากลายเป็นคนหัวล้านในวัยหนุ่มก็คงน่าสลดใจมากเลย”หลินเป้ยเบะปาก พลางถอนหายใจเบาๆ
คล้ายกับสลดใจมากจริงๆ
ทุกคนได้ยินคำพูดของเจ้าชายน้อย ต่างก็อดหัวเราะไม่ได้ แค่ถือว่าเจ้าชายน้อยพูดหยอกล้อเท่านั้น แต่เจ้าชายน้อยแค่จับเบาๆ เส้นผมก็ติดมามากขนาดนี้ อาการเส้นผมร่วงหนักจริงๆ
ด้วยอาการผมร่วงของเจ้าชายน้อยเช่นนี้ คืนนั้นเจ้าชายน้อยอยู่ในห้องของคุณชายถังตั้งสองชั่วโมง หากมีเส้นผมร่วงหล่นทิ้งไว้ก็ถือเป็นเรื่องปกติ หากไม่หล่นถึงจะแปลก
“ในเมื่อคนที่อยู่ในห้องคุณชายถังเป็นเจ้าชายน้อย แล้วทำไมเจ้าชายน้อยไม่ช่วยคุณชายถังเป็นพยานตั้งแต่แรกล่ะครับ ทำไมถึงให้ทุกคนเข้าใจผิดต่อคุณชายถังด้วยครับ”นักข่าวคนหนึ่งถามขึ้นมา
คนอื่นได้ยินคำถามของเขา ต่างมองไปยังเจ้าชายน้อย รอคอยคำตอบจากเจ้าชายน้อย
จุดนี้ทำให้คนคิดไม่ตกจริงๆ
“ผมกับคุณชายถังคุยเรื่องนี้กันไว้แล้ว ตอนนั้นผมไม่ได้ออกตัวมาเป็นพยานยืนยันความบริสุทธิ์ เพราะพวกเราสงสัยว่าเรื่องนี้มีคนบงการอยู่ด้านหลัง พวกเราอยากหาตัวคนบงการออกมา เพราะกงหยุนกับคุณชายถังไม่ได้มีความเคียดแค้นต่อกัน คงไม่ใช้ชื่อเสียงของตัวเองมาปรักปรำคุณชายถังหรอก เรื่องนี้คงไม่ได้ง่ายอย่างนั้นหรอกครับ”หลินเป้ยเป็นฝ่ายนัดนักข่าวมา คำถามที่ควรเจอเธอก็คิดไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว
“แต่หลายวันมานี้ไม่เจอเบาะแสอะไรเลยครับ วันนี้ธุระฝ่ายผมได้เสร็จสิ้นหมดแล้ว พรุ่งนี้ผมต้องกลับประเทศ Dแล้ว ก่อนจะกลับไป ผมต้องชี้แจงเรื่องนี้ให้กระจ่างก่อนสิครับ”
ต้องชมว่าเหตุผลนี้ของหลินเป้ยก็เข้าท่ามากเหลือเกิน
หลินเป้ยตอบได้อย่างไร้จุดให้โจมตี
“ผมรับรองว่าคำพูดของผมเป็นจริงทุกประการครับ”หลินเป้ยไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดคลื่นใดๆเพิ่มขึ้นอีก เพราะมีเพียงสะสางเรื่องนี้จบ เธอจึงจะกลับประเทศได้
ระหว่างที่หลินเป้ยพูด หน้าไม่ได้แดง เสียงไม่ได้หอบ ไม่มีความละอายใจต่อการพูดปดเลยสักนิด
เป็นความจริง?ประเด็นสำคัญนั้นเป็นความจริง แต่รายละเอียดมากมายไม่ได้เป็นจริง
เมื่อหลินเป้ยเอ่ยปากบอกรับรอง ทุกข้อสงสัยของทุกคนก็มลายหายไป เจ้าชายของประเทศหนึ่งมารับรอง ต้องเป็นน้ำหนักอยู่แล้ว
“สิ่งที่ผมต้องการชี้แจงก็แจ้งไปหมดแล้ว หวังว่าทุกท่านจะรายงานตามความเป็นจริงนะครับ”หลินเป้ยมองนักข่าวทุกคน พลางยิ้มน้อยๆ
“ตอนนี้เจ้าชายน้อยออกมาเป็นพยานให้คุณชายถังด้วยตัวเอง ถ้วยคำของเจ้าชายน้อยต้องเป็นจริงอย่างแน่นอนครับ งั้นกงหยุนก็กำลังโกหกอยู่ กงหยุนใส่ร้ายคุณชายถัง”
ตอนนี้เรื่องราวกระจ่างแจ่มแจ้งหมดแล้ว นักข่าวที่อยู่ในนี้ล้วนเป็นคนฉลาด ต้องเข้าใจอยู่แล้ว
“คุณชายถังเป็นคนในแปดสุดยอดวงศ์ตระกูล ได้ยินว่าท่านประธานถังจะเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าแปดสุดยอดวงศ์ตระกูลแล้ว เวลานี้มีคนใช้วิธีการชั่วช้ามาใส่ร้ายป้ายสีคุณชายถัง ช่างน่ารังเกียจยิ่งนัก”บัดนี้ใบหน้าบรรดานักข่าวเผยความโกรธแค้นหลายส่วน
“ใช่ น่ารังเกียจมากจริงๆ”
“แล้วเชื้ออสุจิที่ตรวจพบในร่างกายกงหยุนมันเป็นยังไงกันแน่?”คำถามนี้ก็เป็นส่วนที่ทุกคนสงสัยมาโดยตลอด