ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 856 แดดดี้ หนูเป็นลูกสาวแท้ๆของแดดดี้นะ(5
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 856 แดดดี้ หนูเป็นลูกสาวแท้ๆของแดดดี้นะ(5
วินาทีต่อมาเจ้าหญิงน้อยถังจื่อซีพลันเบะปาก สีหน้าเสียใจด้วยความไม่เป็นธรรมฉายออกมาเต็มที่ จากนั้นน้ำตาก็ไหลลงมาเป็นเม็ดๆ
น้ำตานี่มาเร็วมาก เสมือนเปิดก๊อกน้ำกะทันหันไม่มีผิด
ถังจื่อซีไม่ได้ส่งเสียงร้องไห้ ไม่ได้ร้องอย่างโวยวาย เธอแค่มีน้ำตาไหลจากการเสียใจอย่างเงียบๆ ท่าทางเช่นนี้ดูแล้วช่างบีบหัวใจยิ่งนัก
เจ้าหญิงน้อยมีน้ำตาไหลลงมา แต่อยู่นิ่งๆ แววตาของเธอยังคงมองเลขาหลิวเช่นเดิม
เจ้าหญิงน้อยถังจื่อซีแสดงว่าความสามารถของเธอเช่นนี้ไม่ใช่คนทั่วไปจะทำได้
“เจ้าหญิงน้อยของผม อย่าร้องไห้สิ”หัวใจเลขาหลิวแตกเป็นหลายส่วน บาปมหันต์เลยทีนี้ เขาทำให้เจ้าหญิงน้อยร้องไห้เสียแล้ว
บัดนี้เลขาหลิวมีความคิดอยากจะฆ่าตัวเองเลยด้วยซ้ำ
เขาทำให้เจ้าหญิงน้อยร้องไห้ได้อย่างไร ได้อย่างไร?!
ถังจื่อซีได้ยินเขาพูด น้ำตายิ่งไหลเร็วกว่าเดิม เธอไม่ได้พูดอะไรเลยสักคำ แค่มองเลขาหลิวด้วยน้ำตา
ทันใดนั้นเลขาหลิวรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนชั่วช้าสามานย์สิ้นดี
“โอเคครับ โอเคครับ อารับปากหนูนะ อาจจะพาไปพบท่านประธานนะครับ”ภายใต้การจู่โจมด้วยน้ำตาของเจ้าหญิงน้อย เลขาหลิวไม่อาจทานทนได้ เลขาหลิวรู้สึกว่าไม่มีใครต้านทานได้หรอก
เพราะปฏิเสธเจ้าหญิงน้อยอย่างนี้จะทำให้ไม่สบายใจ
วินาทีนี้ เลขาหลิวรู้สึกว่าการทุกข์ใจของท่านประธานสามารถลืมเลือนได้ชั่วคราว แน่นอน การจู่โจมด้วยน้ำตาของเจ้าหญิงน้อย ทำให้เขาลืมท่านประธานของตนแล้วจริงๆ
พอเขารับปากเรียบร้อยจึงได้สติ แต่ก็สายเกินไปเสียแล้ว ตอนนี้ยังทันอยู่ไหมที่เขาจะกลับคำ?
“จริงเหรอคะ?คุณอาไม่หลอกหนูนะ?”เลขาหลิวกำลังลังเล เสียงสะอื้นของเจ้าหญิงน้อยก็แว่วเข้ามา
เจ้าหญิงน้อยไม่ได้ดีใจเพราะการรับปากของเขา ยังคงมีใบหน้าเสียใจจากการไม่ได้รับความเป็นธรรม น้ำตายังคงไหลต่อไป ภาพนี้ไม่ให้เลขาหลิวมีโอกาสกลับคำเลย
“ไม่ ไม่หลอกหนูหรอกครับ”เลขาหลิวแอบถอนหายใจหนึ่งเฮือก จากนั้นก็รวบรวมความกล้ารับปากเธอ
ตอนนี้เขายังทำอะไรได้อีก?ต้องรับปากเจ้าหญิงน้อยก่อนแล้วล่ะ
ตอนนี้ประธานยังประชุมอยู่ เจ้าหญิงน้อยขึ้นไปก็ยังไม่ได้เจอท่านประธานทันที ต่อไปนี้เขาลองคิดหาวิธี ดูว่าจะกล่อมเจ้าหญิงน้อยได้ไหม
ขอเพียงเจ้าหญิงน้อยไม่ร้องไห้……
“ไปเถอะ อาหนูขึ้นไป”เลขาหลิวตัดสินใจพาเจ้าหญิงน้อยขึ้นไป เรื่องอื่นค่อยว่ากันไปทีละก้าวเถอะ
“ไปค่ะ”เจ้าหญิงน้อยเบะปาก พลางสะอื้นเบาๆ ไม่ยอมเผยความดีใจสักนิด
เลขาหลิวรู้สึกประหลาดใจ ตามหลักแล้วเด็กทุกคนมักจะโอง่ายมาก เขารับปากเจ้าหญิงน้อยแล้ว เจ้าหญิงน้อยควรดีใจไม่ใช่หรือ ควรร่าเริงไม่ใช่หรือ?
ทำไมเจ้าหญิงน้อยยังทำหน้าเสียใจอีก เขารู้สึกว่าเจ้าหญิงน้อยเสียใจกว่าเดิมเสียอีก มันเกิดอะไรขึ้น?
ถึงแม้ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร แต่เลขาหลิวก็รับรู้ว่าเจ้าหญิงนั้นไม่ใช่จะหลอกได้ง่ายๆ
เลขาหลิวทายไม่ผิด เจ้าหญิงน้อยถังจื่อซีหลอกยากจริงๆ เจ้าหญิงน้อยถังจื่อซีรู้ว่า หากตอนนี้ตนเองทำท่าดีใจ เลขาหลิวก็ต้องรู้ว่าปลอบใจเธอสำเร็จแล้ว งั้นเลขาหลิวก็คงไม่พาเธอไปหาพ่อจริงๆ
เมื่อสักครู่เธอดูออกว่าเลขาหลิวไม่อยากพาเธอไปพบพ่อ ถึงแม้เธอไม่รู้สาเหตุ แต่เธอมั่นใจว่าตนดูไม่ผิด ที่เธอมาวันนี้เพื่อเซอร์ไพรส์ให้คุณพ่อ ดังนั้นเธอจำเป็นต้องให้เลขาหลิวพาเธอขึ้นไป
ดังนั้นเธอจึงต้องใช้ลูกไม้เสียหน่อย
มีเพียงเธอทำให้เสียใจ ทำให้ไม่ได้รับความเป็นธรรม อย่างนี้ถึงจะบีบให้เลขาหลิวพาเธอไปพบคุณพ่อได้
ถึงแม้เธอไม่ได้เก่งเท่าคุณแม่ แต่ก็ยังพออ่านใจคนได้บ้าง
โดยเฉพาะคนอย่างเลขาหลิว
เลขาหลิวเป็นคนที่ไร้เดียงสาและใสซื่อคนหนึ่ง ถ้าพูดแบบบ้านๆก็คือเป็นคนโง่เขลา
เลขาหลิวจัดเป็นคนประเภทหลอกง่ายที่สุด!!
เฮ้ย คนอย่างนี้ติดตามข้างกายคุณพ่อ ทำให้เธอเป็นห่วงไอคิวของคุณพ่อจัง
เลขาหลิวหากรู้ความนึกคิดของเจ้าหญิงถังจื่อซีในตอนนี้ คาดว่าคงต้องกระอักเลือดออกมาแน่ๆ
เป็นอย่างที่เจ้าหญิงน้อยถังจื่อซีคาดเดาไม่มีผิด เลขาหลิวเห็นเธอยังมีท่าทางเสียใจ หัวใจของเขาก็หนักอึ้ง ไม่กล้ามีความคิดอื่น เกรงว่าหากไม่ระวังจะทำให้เจ้าหญิงน้อยน้ำตาไหลได้
น้ำตาเจ้าหญิงน้อยเหมือนไม่คิดตังค์อย่างนั้น บอกว่าไหลก็ไหลอย่างไม่หยุดยั้ง
เลขาหลิวถอนหายใจอย่างจนปัญญา ชั่วขณะนี้เขาไม่กล้าชะล่าใจ ได้แต่รีบพาถังจื่อซีไปเข้าลิฟต์ส่วนตัวตำแหน่งประธานโดยเร็ว
ทว่าตอนนี้คุณชายสามเย่กำลังประชุมอยู่จริงๆ
เลขาหลิวพาถังจื่อซีขึ้นมาถึงชั้นชนก็นึกได้ว่า ที่เขาลงชั้นล่างเมื่อสักครู่นี้ เขามีงานสำคัญต้องทำ แต่เมื่อเห็นเจ้าหญิงน้อยถังจื่อซีก็ลืมเรื่องงานที่ท่านประธานมอบหมายให้เสียสนิทใจ
ส่วนท่านประธานกำลังประชุมอยู่ กำลังรอเขาอยู่……
“เจ้าหญิงครับ ที่นี่คือห้องทำงานของท่านประธานนะครับ หนูเข้าไปรอท่านประธานก่อนนะครับ อายังมีธุระนิดหน่อยนะครับ……”เลขาหลิวพาถังจื่อซีมาหน้าห้องทำงานประธาน พลางช่วยเธอเปิดประตู
หากตอนนี้เจ้าหญิงน้อยอารมณ์ดี เลขาหลิวก็สามารถพาเจ้าหญิงน้อยไปยังห้องทำงานอื่นได้ จากนั้นก็คิดหาวิธีให้เจ้าหญิงน้อยกลับไป
แต่ตอนนี้เจ้าหญิงน้อยถังจื่อซีทำหน้าเสียใจ เลขาหลิวคิดว่าหากตอนนี้ยังไปหลอกลวงเจ้าหญิงน้อยอีก เขาต้องกลายเป็นคนชั่วช้าสามานย์ขนานแท้แน่นอน
และเวลานี้ในใจเขายังคงจดจ่ออยู่กับงานที่ท่านประธานมอบหมายให้ เขาเลยไม่กล้าเสียเวลาไปมากกว่านี้
หลังจากลังเลเสร็จ สุดท้ายเลขาหลิวก็พาถังจื่อซีมาที่ห้องทำงานของท่านประธาน เลขาหลิวรีบกำชับหลายประโยค จกานั้นก็รีบหันหลังจากไป
ของที่เขาต้องเอาคือสิ่งที่ท่านประธานใช้ในการประชุม เพราะทางโน้นเพิ่งส่งมาถึง แถมยังสำคัญมาก ดังนั้นท่านประธานจึงสั่งให้เขาลงไปเอาอย่างเร่งด่วน
หากชักช้า เขาคาดว่าอย่าได้คิดทำงานต่อในบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปอีกเลย
“อ่อ”ถังจื่อซีตอบเสียงเบา ไม่ได้ใส่ใจอะไร เพราะอย่างไรเสียเธอก็ขึ้นมาแล้ว หาห้องทำงานของคุณพ่อเจอแล้ว ยังกลัวไม่ได้เจอหน้าคุณพ่ออีกหรือ?
เมื่อเลขาหลิวไป ถังจื่อซีก็ไม่ได้รีบเข้าไปในห้องทำงานของคุณชายสามเย่ แต่มองสำรวจโดยรอบด้วยความอยากรู้อยากเห็น
บริษัทคุณพ่อใหญ่จังเลย!!
คุณพ่อเก่งจริงๆเลย!!
เด็กน้อยถังจื่อซีปรับตัวเข้ากับสถานที่เก่ง เดินเที่ยวชมด้วยตัวเอง
เพราะคุณชายสามเย่กำลังประชุมอยู่ ดังนั้นด้านนอกทำงานจึงไม่มีคน ถังจื่อซีจึงเดินเที่ยวชมได้อย่างอิสระเสรี
“เอ๋ เด็กน้อย หนูเป็นใครคะ?หนูเข้ามาได้ยังไงคะ?”เลขาหรวนมาเอาเอกสารพอดี เมื่อเห็นถังจื่อซีก็ถึงกับอึ้ง!