ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 860 แดดดี้ หนูเป็นลูกสาวแท้ๆของแดดดี้นะ(9)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 860 แดดดี้ หนูเป็นลูกสาวแท้ๆของแดดดี้นะ(9)
ดังนั้นคุณย่าเย่จึงอยากพาเวินลั่วฉิงไปยังมุมที่ไร้ผู้คน จากนั้นก็คิดหาวิธีจัดการกับตัวปัญหาคนนี้
จัดการตัวปัญหาอย่างเวินลั่วฉิงเสร็จก็สามารถสู่ขอณหนูถังได้แล้ว!
“คุณย่าเย่ฉันกับท่านไม่มีอะไรต้องคุยกันค่ะ”แต่เวินลั่วฉิงไม่คิดจะให้ความร่วมมือท่าน ไม่ต้องทายเวินลั่วฉิงก็รู้ว่าคุณย่าเย่ต้องการถามอะไรเธอ
คุณย่าเย่กับคุณปู่เย่ก็อยากให้เธออยู่ห่างๆเย่ซือเฉินไว้ จากนั้นก็ให้เย่ซือเฉินสู่ขอคุณหนูถังอย่างราบรื่น
เวินลั่วฉิงรู้สึกตลกในใจ หากให้คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่รู้ว่าเธอก็คือคุณหนูถัง ไม่รู้ว่าพวกท่านจะตอบสนองเช่นไร?
ไม่รู้ว่าถึงเวลานั้นพวกท่านจะทำหน้าอย่างไร?
“เวินลั่วฉิง อยากมีเรื่องที่นี่มากนักหรือ?ที่นี่คือบริษัทเวินซื่อกรุ๊ปนะ คนขายหน้าคือเธอนะ”คุณย่าเย่แอบกัดฟัน พยายามระงับเพลิงโกรธในใจ เพียงแต่เมื่อเห็นเวินลั่วฉิงแล้วความโกรธก็พุ่งละลักออกมาอย่างควบคุมไม่ได้
เวินลั่วฉิงไม่อยากคุยกับท่าน ท่านก็ไม่อยากคุยกับเวินลั่วฉิงเช่นกัน ท่านยิ่งอยากฆ่าเวินลั่วฉิงให้สิ้นเรื่อง แต่ยังหาโอกาสอันเหมาะสมไม่ได้เลย
เวินลั่วฉิงทำตัวลึกลับมาโดยตลอด แม้แต่เงาก็หาไม่เจอ
เวินลั่วฉิงมองตึกบริษัทเวินซื่อกรุ๊ปแวบหนึ่ง บัดนี้ถึงแม้จะเป็นเวลางาน แต่คนเข้าๆออกๆก็มีไม่น้อย
เพราะจากเรื่องที่คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ก่อขึ้นครั้งก่อน ดังนั้นเวินลั่วฉิงก็นับว่าโด่งดังพอสมควร ดังนั้นคนเดินผ่านจำนวนมากจึงจำเธอได้ บางรายเมื่อเดินใกล้เธอก็ได้กล่าวทักทายเธอด้วย
ถึงแม้เวินลั่วฉิงจะเข้าบริษัทน้อย แต่พนักงานในบริษัทต่างก็รู้ดีว่าเวินลั่วฉิงคือประธานในบริษัท พนักงานบริษัทเวินซื่อกรุ๊ปจึงต้องเคารพเธอเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว
ไม่ว่าภายนอกจะมีข่าวลือถึงเวินลั่วฉิงอย่างไร แต่ในสายตาพนักงานบริษัทเวินซื่อกรุ๊ปนั้น เวินลั่วฉิงคือเจ้านายสูงสุดของพวกเขา คือคนที่จ่ายเงินเดือนให้แก่พวกเขา ดังนั้นพวกเขาไม่ได้กล้าขัดใจเด็ดขาด
คุณย่าเย่เห็นมีคนทักทายเวินลั่วฉิง แถมท่าทางยังนอบน้อมอีกด้วย จึงยิ่งรู้สึกโกรธมากขึ้น เวินลั่วฉิงมีสิทธิ์อะไรถึงได้รับการเคารพจากผู้อื่น?
หากไม่ใช่เย่ซือเฉินลงทุนในบริษัทเวินซื่อกรุ๊ป บริษัทนี้ก็ล้มละลายไปนานแล้ว เวินลั่วฉิงก็ไม่ถือว่าเป็นอะไรเลย
เวินลั่วฉิงพึ่งซือเฉินของพวกเขา
เวินลั่วฉิงไม่อยากสนใจคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ ทั้งสองท่านเป็นคนไร้เหตุผล เธอไม่อยากพูดไร้สาระกับพวกท่าน
เวินลั่วฉิงไม่มองคุณย่าเย่แม้แต่แวบเดียว หากแต่ก้าวเข้าไปภายในตึกบริษัทเวินซื่อกรุ๊ปทันที
“เวินลั่วฉิง ดูเธอทำตัวยังไงอยู่นี่?”เดิมทีคุณย่าเย่ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟอยู่แล้ว เมื่อเห็นท่าทางเช่นนี้ของเวินลั่วฉิง เพลิงโกรธก็ยิ่งลุกโชนกว่าเดิม
เป็นโกรธจัด คุณย่าเย่จึงไม่อาจระงับอารมณ์โกรธไว้ได้ เสียงก็พลอยดังขึ้น ซึ่งเสียงนี้แสดงนิสัยเสียออกมาได้เต็มสิบ อีกทั้งยังมีเสียงแหลมแสบแก้วหูอีกด้วย
คนเดินเข้าออกในบริษัทเวินซื่อกรุ๊ปก็อดหยุดก้าวเดิน แล้วมามุงดูไม่ได้ ซึ่งคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ล้วนเป็นคนมีชื่อเสียง จึงมีคนรู้จักพวกท่านจำนวนมาก
เพราะเรื่องครั้งก่อน ทุกคนจึงรู้ว่าเวินลั่วฉิงกับคนชราบ้านตระกูลเย่มีอคติต่อกัน สถานการณ์เช่นนี้ คนนอกไม่สะดวกเข้าแทรกแซง
เพราะสถานการณ์มันช่างลำบากใจเสียจริงๆ
ดังนั้นทุกคนจึงได้แต่มองอยู่ห่างๆ
ตึกบริษัทเวินซื่อกรุ๊ปอยู่ใจกลางเมืองที่เจริญรุ่งเรือง บริเวณโดยรอบมีห้างสรรพสินค้าและร้านค้าเต็มไปหมด ดังนั้นมีจำนวนผู้คนมาช้อปปิ้งเยอะมาก ซึ่งมีคนจำนวนมากได้ยินเสียงติเตียนของคุณย่าเย่เมื่อสักครู่ด้วย จึงอดมาล้อมดูไม่ได้
ดูความวุ่นวายคือนิสัยของผู้คน
คุณย่าเย่เห็นมีคนมุงล้อมกันมากมาย ส่วนเวินลั่วฉิงก็ไม่ให้ความร่วมมือกับท่าน คุณย่าเย่รู้ว่าวันนี้คงสะสางอย่างเงียบๆไม่ได้แล้วล่ะ
คุณย่าเย่หมุนนัยน์ตาไปมา ทันใดนั้นมุมปากก็เผยรอยยิ้มจางๆออกมา ในเมื่อเวินลั่วฉิงไม่กลัวขายหน้า งั้นท่านก็ไม่ถือสาที่จะให้เรื่องใหญ่โตเช่นกัน
เมื่อเรื่องใหญ่โต ตระกูลถังก็จะได้เห็นความหน้าไม่อายของเวินลั่วฉิง ถึงเวลานั้นตระกูลถังคงขัดขวางเรื่องแต่งงานด้วยเรื่องเวินลั่วฉิงอีกต่อไป
เมื่อคุณย่าเย่มีแผนการก็ไม่ได้โกรธเฉกเช่นเมื่อสักครู่อีกแล้ว ในทางกลับกันยังรู้สึกลำพองใจหลายส่วน ท่านจะให้เวินลั่วฉิงได้เห็นดีสักตั้ง
“ฉิงฉิง หนูปล่อยซือเฉินไปเถอะนะ ปล่อยซือเฉินไปเถอะ”คุณย่าเย่เปลี่ยนท่าทีกะทันหัน ท่านมองเวินลั่วฉิงด้วยใบหน้าวิงวอน
ซึ่งน้ำเสียงในความวิงวอนเจือความเจ็บปวดไว้ แน่นอนระหว่างที่คุณย่าเย่พูดก็จงใจยกเสียงให้สูงขึ้น เพื่อให้คนรอบข้างได้ยินชัดเจน
เห็นได้ชัดว่าตอนนี้คุณย่าเย่อยากแสร้งทำตัวน่าสงสาร แกล้งอ่อนแอ เพื่อให้คนรอบข้างเห็นใจ เพื่อจะได้ใช้มาจู่โจมเวินลั่วฉิง
ต้องชมว่าวิธีการนี้ของคุณย่าโหดร้ายอำมหิตมาก
ตอนแรกรอบข้างมีคนมามุงดูความคึกคักไม่น้อยอยู่แล้ว ซึ่งตอนแรกยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น บัดนี้เมื่อได้ยินคุณย่าเย่กล่าวเช่นนี้ ต่างจ้องมองเวินลั่วฉิงด้วยสายตาตำหนิหลายส่วน
จิตวิทยาของคนมักจะเข้าข้างคนอ่อนแอ และเวลานี้คุณย่าเย่ที่แก่เฒ่ากำลังร้องขอเวินลั่วฉิงอย่างขมขื่น จึงเรียนร้องความเห็นใจจากผู้คนได้ง่าย
เมื่อทุกคนเห็นอกเห็นใจคุณย่าเย่ จึงไม่พอใจต่อเวินลั่วฉิง
เวินลั่วฉิงเป็นคนรังเกียจวิธีการต่ำช้ามาก เธอก็ไม่อยากโต้แย้งกับคุณย่าเย่ในสถานการณ์เช่นนี้ด้วย ดังนั้นเธอไม่แยแส เดินเข้าภายในตึกบริษัทเวินซื่อกรุ๊ปต่อ
ทว่าคุณย่าเย่ไม่คิดจะปล่อยเวินลั่วฉิงไป คุณย่าเย่รีบพุ่งไปอยู่ด้านหน้าเวินลั่วฉิง ขวางทางเวินลั่วฉิง คล้ายกับกลัวเวินลั่วฉิงจะไป ท่านยังจับเสื้อผ้าของเวินลั่วฉิงไว้แน่น
“ฉิงฉิง ถือซะว่าฉันขอร้องแล้วกันนะ ขอเพียงหนูปล่อยซือเฉินไป หนูจะเอาเงินเท่าไหร่ฉันก็จะให้หนูนะ หนูมีเงื่อนไขอะไรฉันก็จะรับปากนะ”น้ำเสียงคุณย่าเย่มีความร้องขอหลายส่วน ดูแล้วช่างน่าสงสารจริงๆ
“นี่มันคนประเภทไหนกันเนี่ย?ทำไมรังแกคนแก่ล่ะ?”
“ทำไมแสดงกิริยาต่อคนแก่เช่นนี้ เกินไปจริงๆ”
“ใช่แล้ว ไม่รู้จักเคารพคนแก่เลยสักนิด”
ผู้มุงดูเริ่มช่วยคุณย่าเย่ตำหนิติเตียนเวินลั่วฉิงแล้ว
พนักงานของบริษัทเวินซื่อกรุ๊ปหลายคนเห็นเช่นนี้ก็ไม่กล้าช่วยเวินลั่วฉิงออกหน้า
เพราะท่าทางคุณย่าเย่ในตอนนี้น่าสงสารมากทีเดียว
คุณย่าเย่ได้ยินคนอื่นตำหนิเวินลั่วฉิงพลันแอบหัวเราะในใจ เห็นทีผลลัพธ์จะไม่เลวเลยแฮะ แน่นอน ท่านไม่พอใจเพียงแค่ผลลัพธ์เช่นนี้หรอก วันนี้ท่านจะทำให้เวินลั่วฉิงอับอายขายหน้าจนไม่อาจพบหน้าคนได้
นี่เพิ่งเริ่มต้นนะ
เวินลั่วฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย ดูท่าคุณย่าเย่จะไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆแล้วสินะ
เธอไม่เคยรังแกคนอื่นโดยไร้เหตุผลมาก่อน แต่ก็ไม่มีทางยอมให้ใครมารังแกเช่นกัน
“คุณย่าเย่ค่ะ ฉันกับเย่ซือเฉินหย่ากันแล้วค่ะ”เวินลั่วฉิงหยุดก้าวเดิน มองคุณย่าเย่ด้วยแววตาสงบนิ่ง สีหน้าเรียบเฉย น้ำเสียงแผ่วเบาและเนิบช้า ซึ่งเอ่ยความจริงอย่างสงบและเฉยเมยต่อเรื่องที่คนเมือง Aเกือบรู้กันหมดแล้ว!!