ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 861 พ่อลูกยอมรับกัน คุณชายสามเย่ตกใจจนบื้อไปแล้ว (1)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 861 พ่อลูกยอมรับกัน คุณชายสามเย่ตกใจจนบื้อไปแล้ว (1)
คุณย่าเย่ หนูกับเย่ซือเฉินหย่ากันแล้วค่ะ” เวินลั่วฉิงหยุดเดิน แววตาคู่หนึ่งมองไปทางคุณย่าเย่ด้วยความเงียบสงบ อารมณ์ดูเฉื่อยๆ น้ำเสียงเบา พูดเรื่องราวความจริงที่คนในเมืองAต่างก็รู้หมดออกมาด้วยความเงียบสงบ
มีเพียงคำพูดเดียว ไม่มีการทะเลาะใดๆ เงียบสงบจนฟังไม่ออกถึงคำพูดที่ผิดปกติ ทันใดนั้นทำให้คนที่กล่าวโทษเวินลั่วฉิงหยุดพูดไปเลย
จริงสิ เวินลั่วฉิงกับคุณชายสามเย่หย่ากันแล้ว จะให้เวินลั่วฉิงปล่อยคุณชายสามเย่ไปได้ยังไงล่ะ?
เวินลั่วฉิงไม่ได้ชอบเรื่องที่เรื่องที่ปากหวานก้นเปรี้ยวแบบนี้ แต่ว่ามีเพียงแต่การที่เธอคิด การที่เธอใช้ความเจ้าเล่ห์เล็กน้อย ก็สามารถควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดได้แล้ว
คุณย่าเย่มั่นใจแล้วว่าเวินลั่วฉิงนั้นอ่อนแอ สามารถรังแกได้ง่าย เป็นเรื่องที่ผิดมากจริงๆ
คุณย่าเย่ได้ยินคำพูดของเวินลั่วฉิงแล้ว สีหน้าก็เปลี่ยนไปเลย ทันใดนั้นกลับพูดอะไรไม่ออก
“พวกเธอนั้นหย่ากันแล้ว แต่เธอกลับไม่เอาหน้าตอแยซือเฉินอยู่ตลอดเวลา ไม่เช่นนั้น พวกเราที่อายุมากขนาดนี้แล้วยังจำเป็นต้องมาร้องขอเธออีกหรอ?” คุณปู่เย่เห็นคุณย่าเย่พูดอะไรไม่ออก จึงรีบพูดต่อ อยากจะดึงอำนาจการควบคุมสถานการณ์กลับมา อยากจะควบคุมสถานการณ์นี้ไว้
เวินลั่วฉิงหันไปมองทางคุณปู่เย่ สีหน้ายังคงเงียบสงบ “เย่ซือเฉินเป็นคนแบบไหน คุณย่าเย่และคุณปู่เย่รู้ดีที่สุด คนที่อารมณ์ร้ายไม่มีเหตุผลอย่างเย่ซือเฉิน คือใครที่อยากจะตอแยก็สามารถตอแยได้หรอ? ใครอยากจะอยู่ด้วยก็สามารถอยู่ด้วยได้หรอ?”
คำพูดนี้ของเวินลั่วฉิงทำให้คุณปู่เย่ไม่รู้จะตอบกลับยังไง หากเขายอมรับว่าเย่ซือเฉินถูกเวินลั่วฉิงตอแย งั้นก็แสดงว่าเขายอมรับแล้วว่าเย่ซือเฉินคือคนที่อารมณ์ร้ายไม่มีเหตุผล
คุณย่าเย่ถูกเวินลั่วฉิงดูดจนอัดแน่นไปหมด เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเวินลั่วฉิงจะพูดเก่งเถียงเก่งแบบนี้ อีกอย่างแต่ละคำของเธอต่างก็แทงใจดำมาก
“ใครจะไปรู้ว่าเธอใช้วีอะไรไป เธอกล้าสาบาน ว่าเธอจะตัดขาดกับซือเฉินอย่างถี่ถ้วน จะไม่ไปมาหาสู่กันอีก?” คุณปู่เย่คือสุนัขจิ้งจอกชราตัวหนึ่ง แน่นอนว่าไม่มีทางถูกเวินลั่วฉิงเก็บไปได้ง่ายๆ หรอก
ขณะนี้คุณปู่เย่ยืมใช้คำพูดของเวินลั่วฉิงมาร้องขอ ขอแค่เวินลั่วฉิงสาบานว่าจะตัดขาดกับซือเฉิน ทางตระกูลถังก็จะไม่มีความเห็นอะไรอย่างแน่นอน
งั้นเป้าหมายของพวกเขาก็สำเร็จแล้ว
หากเป็นเมื่อก่อน เวินลั่วฉิงไม่อยากจะมีความสัมพันธ์ใดกับเย่ซือเฉินจริงๆ แต่ว่าตอนนี้ไม่เหมือนกันแล้ว ตอนนี้เธอรู้ว่าเย่ซือเฉินรักเธอจริงๆ เธอก็หวั่นไหวกับเย่ซือเฉินแล้ว อีกอย่างเธอยังมีลูกไปเย่ซือเฉินแล้วสองคน
ตัดขาดความสัมพันธ์? นั่นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
ดังนั้น การสาบานแบบนั้น เธอไม่มีทางสาบานแน่นอน
คำพูดบางอย่าง ไม่สามารถพูดได้จริงๆ หากเธอพูดออกไป เกรงว่าเย่ซือเฉินจะไม่ปล่อยตัวเธอไป
ผู้ชายคนนั้น เธอรู้จักดีมากจริงๆ
ความคิดของเวินลั่วฉิงในตอนนี้มีความเหม่อลอยเล็กน้อย ดังนั้นมีช่วงเวลาหนึ่งที่เธอไม่พูดอะไร
“ทำไม? รู้สึกผิดแล้ว? เธอยังอยากจะตอแยซือเฉินของเราอย่างไร้ยางอายใช่ไหม” คุณปู่เย่เห็นเธอไม่ได้พูดอะไร ก็ยิ้มอย่างเย็นชาที่ริมฝีปากด้วยความประชด แล้วใช้โอกาสนี้พูดออกมา
เวินลั่วฉิงดึงสติกลับมา มองไปทางคุณปู่เย่อีกครั้ง เมื่อก่อนสำหรับเรื่องแบบนี้ เวินลั่วฉิงจะไม่สนใจเลยจริงๆ เธอไม่มีทางเสียเวลากับเรื่องไร้สาระแบบนี้
คุณปู่เย่และคุณย่าเย่พูดอะไร วุ่นวายอะไร เธอสามารถไม่สนใจได้เลย
แต่ว่าไม่ว่ายังไงตอนนี้ก็ไม่เหมือนกันแล้ว เพราะว่าตอนนี้เธอมีคนที่จะใส่ใจแล้ว เธอใส่ใจเย่ซือเฉิน
เธอมีเรื่องที่ต้องใส่ใจ สุดท้ายแล้วเธอจะจะอยู่กับเย่ซือเฉิน
ดังนั้นเรื่องบางเรื่องก็จำเป็นต้องพูดให้ชัดเจน
ไม่สามารถให้คุณปู่เย่และคุณย่าเย่วุ่นวายแบบนี้ต่อไปได้แล้ว
“ครั้งที่แล้วอยู่ที่โรงพยาบาล คุณปู่เย่และคุณย่าเย่เคยมาหาหนู ตอนนั้นพวกท่านทั้งสองก็อยากให้หนูออกห่างจากเย่ซือเฉิน ตอนนั้นคุณปู่เย่บังคับขึ้นสุด หนูตอบตกลงพวกคุณแล้ว ไม่เข้าบ้านของตระกูลเย่ จะไม่เข้าบ้านของตระกูลเย่แม้แต่ก้าวเดียว” เวินลั่วฉิงไม่ได้ตอบคำพูดของคุณปู่เย่ แต่ว่าเปลี่ยนหัวข้อการสนทนาไป
ในเมื่อจะพูดให้ชัดเจน งั้นก็พูดเรื่องทั้งหมดให้ชัดเจนไปเลย เรื่องครั้งที่แล้วใหญ่ขนาดนั้น สุดท้ายถึงแม้จะเปิดเผยความจริงที่คุณปู่เย่แกล้งป่วยที่โรงพยาบาลแล้ว แต่ว่าคุณปู่เย่และคุณย่าเย่ก็ไม่มีความรู้สึกผิดใดๆ ยังคงรังแกคนอื่นแบบนี้อีก
พูดขึ้มาแล้ว คุณปู่เย่ยังติดค้างคำขอโทษกับเธออยู่เลย
อีกอย่างวิดีโอในครั้งที่แล้วก็ลบไปแล้ว คนส่วนมากต่างก็ยังไม่รู้ความจริง
ดังนั้น วันนี้ก็ใช้โอกาสนี้พูดให้ชัดเจนเถอะ นำเรื่องทั้งหมดมาวางไว้ข้างหน้า ต่อจากนี้คุณปู่เย่และคุณย่าเย่ก็วุ่นวายไม่ได้แล้ว
จู่ๆ คุณปู่เย่ก็ได้ยินเธอพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา อารมณ์และสีหน้าค่อยๆ เปลี่ยนไป อยากจะตัดแทรกคำพูดของเวินลั่วฉิงไปตามสัญชาตญาณ ไม่ว่ายังไงแล้วเรื่องในครั้งนั้นก็มีความเสียเปรียบเล็กน้อย
แต่ว่า แววตาที่เงียบสงบของเวินลั่วฉิงมองมา เป็นแววตาที่เงียบสงบแท้ๆ แต่กลับทำให้ในใจของคุณปู่เย่ตกใจเลย คำพูดที่มาถึงตรงปากก็ถูกกลืนลงไป
“ผ่านไปไม่นาน บนอินเทอร์เน็ตก็มีคลิปวิดีโอเผยแพร่ขึ้นมา ภายในวิดีโอ มีสถานการณ์ที่คุณปู่เย่จะกระโดดตึกเพื่อเป็นการบีบบังคับ แต่กลับลบท่อนที่เป็นคำพูดของหนูที่ตอบตกลงคุณทั้งสองไป ต่อมาคุณปู่เย่ก็แกล้งป่วยเข้าโรงพยาบาล เหตุผลในนี้คุณปู่เย่ควรจะอธิบายหน่อยหรือเปล่า”
วิดีโอถูกตัดลบ ดังนั้นตอนนั้นไม่มีคนรู้ว่าที่จริงแล้วเวินลั่วฉิงได้ตอบตกลงคุณปู่เย่และคุณย่าเย่แล้ว พอวันนี้ได้ยินคำพูดของเวินลั่วฉิงแล้ว ก็แปลกใจมาก
ทำไมถึงต้องตัดลบวิดีโอล่ะ? ทำไมถึงต้องไปลบตอนที่เวินลั่วฉิงพูดตอบตกลงท่านทั้งสองล่ะ?
ขณะนี้ในสมองของผู้คนต่างก็มีความคิดเพิ่มขึ้นมาต่างๆ มากมาย
“ในเมื่อคุณเวินตอบตกลงแล้ว ทำไมคุณปู่เย่ยังทำแบบนั้นอีก? อีกอย่างคุณปู่เย่ยังแก้ลงบาดเจ็บเข้าโรงพยาบาลอีก นี่ก็เกินไปแล้ว”
“ใช่แล้ว คลิปที่คุณปู่เย่ตัดลบไปพวกนั้นเกรงว่าน่าจะมีความคิดอื่น”
“พวกเขาอยากจะบีบบังคำคุณเวินหรอ? ตอนนั้นหากไม่ใช่ตระกูลถังมาเปิดโปงเรื่องที่คุณปู่เย่แกล้งบาดเจ็บ เกรงว่าทุกคนคงจะด่าคุณเวินจนตาย”
“เราไม่ได้เป็นคนเผยแพร่คลิป ฉิงฉิงเธออย่าเข้าใจพวกเราผิด” คุณย่าเย่ได้ยินผู้คนกล่าวโทษแล้วสีหน้าก็เริ่มแย่ แต่ว่าคุณย่าเย่พบเจอกับเรื่องแบบนี้มามากแล้ว คุณย่าเย่ไม่ได้คัดค้านเสียงดัง แต่ว่าแกล้งทำอ่อนแอต่อ แกล้งทำเป็นน่าสงสาร
“ไม่ใช่พวกคุณเผยแพร่จะเป็นใครไปได้อีก? หากไม่ใช่พวกคุณเผยแพร่คุณปู่ยังต้องแกล้งบาดเจ็บเข้าโรงพยาบาลอีกหรอ?” เห่อถงถงที่พึ่งรีบมาได้ยินคำพูดของคุณย่าเย่แล้ว ก็เดินไปยังข้างกายของเวินลั่วฉิง เถียงคุณย่าเย่กลับไปประโยคหนึ่งด้วยความโกรธ
คุณย่าเย่คือคุณย่าของเย่ซือเฉิน มีคำพูดบางอย่างที่ฉิงฉิงไม่สะดวกจะพูด เธอนั้นไม่มีอะไรให้คำนึงถึงเลย คิดอยากจะมารังแกฉิงฉิงบ้านเธอหรอ
เฮอะ ฝันไปเถอะ ส่ายหัวไปให้หมดเลย