ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 887 โอกาสที่ดีที่สุดของเธอ
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 887 โอกาสที่ดีที่สุดของเธอ
ดังนั้น ถ้าหากไม่จำเป็นจริง ๆ ล่ะก็ เยว่หงหลิงไม่มีทางโทรศัพท์มาหาแน่นอน
“อืม” อีกฝ่ายเงียบไปสองวินาที จากนั้นก็ตอบกลับมาคำหนึ่ง เยว่หงหลิงไม่ได้พูดอะไรต่อ เท่ากับยอมรับว่าเกิดเรื่องขึ้นจริง ๆ
“ตกลง ฉันจะไปเดี๋ยวนี้” เวินลั่วฉิงรู้จักเยว่หงหลิงเป็นอย่างดี แต่ไหนแต่ไรมาเยว่หงหลิงจะบอกกล่าวแต่เรื่องดี ๆ ไม่บอกเรื่องอะไรที่เป็นทุกข์ ต่อให้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น เยว่หงหลิงก็จะไม่ยอมให้เธอต้องเป็นห่วง จะพยายามหาทางปิดบังไว้
ตอนนี้เยว่หงหลิงกลับไม่ปิดบังเลยแม้แต่น้อย นั่นแสดงว่าเรื่องนี้ร้ายแรงมาก ๆ
เธอเพิ่งรู้สึกได้ว่าน้ำเสียงของเยว่หงหลิงไม่เพียงแต่ตื่นตระหนกเท่านั้น แต่ฟังดูเหมือนอ่อนแออีกด้วย
เวินลั่วฉิงไม่กล้ารีรออีกต่อไป เด็กทั้งสองคนยังไม่ตื่นนอน เธอไม่ได้ทำให้เด็กทั้งสองคนตื่น
ตอนนี้ยังเช้ามาก คนอื่น ๆ ของตระกูลถังก็ยังไม่ตื่นนอน รวมถึงท่านปู่ถังและท่านย่าถังที่ปกติจะตื่นเช้าก็ยังไม่ตื่นนอน เวินลั่วฉิงจึงไม่สามารถบอกกล่าวได้ เพราะไม่อยากปลุกพวกเขา
ดังนั้นเวินลั่วฉิงจึงรีบพิมพ์ข้อความส่งไปให้เฟิ่งเหมียวเหมียว ไว้รอให้เฟิ่งเหมียวเหมียวตื่นก็จะรู้ว่าเธอไปประเทศ M จะได้ไม่ต้องเป็นห่วงเธอ
เวินลั่วฉิงส่งข้อความพลางเดินลงไปชั้นล่างด้วย เธอจำได้ว่าตอนเช้ามีเที่ยวบินจากเมือง A ไปประเทศ M อยู่เที่ยวหนึ่งพอดี
แต่ว่า ใกล้ถึงเวลาเครื่องออกแล้ว เวลานี้ถ้าซื้อตั๋วออนไลน์คงซื้อไม่ทันแล้ว เธอจึงต้องรีบไปที่สนามบินให้เร็วที่สุดเท่านั้น หวังว่าจะไปทันนะ
คนขับรถของตระกูลถังก็ยังไม่ตื่นนอนกันเลย เวินลั่วฉิงจึงขับรถออกไปเอง
เพราะเช้ามาก รถบนท้องถนนจึงน้อยมาก ดังนั้นเวินลั่วฉิงจึงขับรถค่อนข้างเร็ว เพราะเธอต้องรีบไปจริง ๆ
โชคดีที่ตอนเธอมาถึงสนามบิน ยังพอมีเวลาอยู่บ้าง เธอจึงซื้อตั๋วเครื่องบินได้ทันเวลา จากนั้นก็ไปขึ้นเครื่อง
หลังจากขึ้นเครื่องแล้ว เวินลั่วฉิงก็แอบถอนหายใจออกมา เรื่องนี้เกิดขึ้นกะทันหันเกินไป ก่อนหน้านี้เธอเลยไม่ทันได้คิดอะไรมาก ตอนนี้เมื่อได้ขึ้นเครื่องบินแล้ว ในหัวของเธอจึงเริ่มหมุนติ้ว ๆ
ตกลงที่ประเทศ M เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?
ครั้งก่อนที่เยว่หงหลิงโทรศัพท์มาหาเธอ เคยบอกว่าช่วงนี้พวกเขาไม่ค่อยได้รับงานมากนัก และงานที่รับทำก็เป็นงานเล็ก ๆ ที่ไม่ค่อยยากเท่าไหร่
เพราะมีคนคอยกดขี่ถังไป๋เชียนอยู่ตลอด ทำให้พวกเขาไม่ได้รับมอบหมายงานที่ดีเลย
เยว่หงหลิงยังบ่นอีกว่าไม่สนุกเลยสักนิด
พวกเขาแต่ละคนความสามารถยอดเยี่ยมทั้งนั้น แต่ละคนล้วนมีฝีมือ และโดดเด่นมากด้วย พวกงานที่ไม่ยากเหล่านั้น สำหรับพวกเขาแล้วไม่มีความท้าทายอะไรเลย
ตอนนั้นเวินลั่วฉิงเดาว่าเป็นเพราะเย่ซือเฉินกดขี่ถังไป๋เชียนอยู่หรือเปล่า
แต่ว่า เธอไม่ได้ไปถามเย่ซือเฉิน เธอคิดว่าเรื่องระหว่างผู้ชาย เธอไม่ควรเข้าไปก้าวก่าย
ยังไงซะก็เป็นเพราะตอนแรกถังไป๋เชียนไปยั่วโมโหเย่ซือเฉินก่อน เธอไม่สามารถออกปากแทนถังไป๋เชียนต่อหน้าเย่ซือเฉินได้
ถ้าหากเธอทำแบบนั้น ผู้ชายที่ใจแคบอย่างเย่ซือเฉินต้องกัดเธอจนตายแน่ ๆ
เมื่อคิดถึงภาพแบบนั้น เวินลั่วฉิงก็เผลอยิ้มออกมา
แต่ว่า เธอหุบยิ้มลงอย่างรวดเร็ว ในเมื่อมีคนต้องการกดขี่ถังไป๋เชียน ในเมื่อตอนนี้ถังไป๋เชียนไม่ได้รับมอบหมายงานใหญ่เลย แล้วทำไมถึงได้เกิดเรื่องได้ล่ะ?
และเป็นเรื่องร้ายแรงขนาดนี้ด้วย!
แววตาของเวินลั่วฉิงดูเย็นชาขึ้น เรื่องนี้เป็นเหตุสุดวิสัยเหรอ? หรือมีคอยวางแผนไว้?
มีคนจงใจหลอกล่อให้เธอไปที่นั่นหรือเปล่า?
จะใช่ถังไป๋เชียนหรือเปล่า?
เมื่อก่อนเธอเชื่อใจถังไป๋เชียนมาก ๆ ถึงขั้นเห็นถังไป๋เชียนเป็นเหมือนญาติคนหนึ่ง
แต่ตั้งแต่คราวก่อนที่ได้รู้ว่าถังไป๋เชียนทำเรื่องพวกนั้นกับเธอ ถึงแม้เธอไม่เคยพูดอะไร แต่ความไว้ใจที่เคยมีต่อถังไป๋เชียนลดน้อยลง และระมัดระวังมากขึ้น
ครั้งนี้ถ้าหากเป็นเพราะถังไป๋เชียนวางแผนหลอกล่อให้เธอไปที่นั่นจริง ๆ งั้นเธอก็ไม่ควรจะไปที่ประเทศ M
แต่ว่าถ้าหากไม่ใช่แผนของถังไป๋เชียนล่ะ? ถ้าไม่ใช่ถังไป๋เชียนวางแผน งั้นพวกเยว่หงหลิงก็คงตกอยู่ในอันตรายจริง ๆ ล่ะ
ที่ผ่านมาเยว่หงหลิงเป็นคนรับรู้อะไรได้ไวมาก ถ้าหากถังไป๋เชียนวางแผนจริง ๆ เยว่หงหลิงน่าจะรับรู้ได้บ้างนะ?
ถ้าหากเยว่หงหลิงรับรู้ได้ว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับถังไป๋เชียน คงไม่มีทางโทรศัพท์เรียกให้เธอไปหาหรอก
ไม่ว่ายังไงก็ตาม เธอจะเพิกเฉยเยว่หงหลิง จะเมินเฉยต่อคนเหล่านั้นที่ทำงานร่วมกับเธอมาหลายปีไม่ได้
คนเหล่านั้นเหมือนคนในครอบครัวของเธอ มู่หรงดังหยางกับเยว่หงหลิงคงไม่ต้องพูดถึงแล้ว ส่วนฉู่หลิงเอ๋อกับซ่งหยุนปกติก็สนิทกับเธอมาก พวกเขาคอยดูแลเธอกับลูกทั้งสองคนเป็นอย่างดีมาโดยตลอด
เวินลั่วฉิงคิดทบทวนไปมา จากนั้นก็พิมพ์ข้อความส่งไปหาเย่ซือเฉิน
ระหว่างเธอกับเย่ซือเฉินไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ดังนั้นเธอคิดว่าการที่เธอไปประเทศ M กะทันหันอย่างนี้จำเป็นต้องบอกให้เย่ซือเฉินรู้สักหน่อย แน่นอนว่าเธอได้อธิบายไปเล็กน้อย เพื่อไม่ให้ชายหนุ่มใจแคบคนนั้นเข้าใจอะไรผิดไป
เมื่อคืนเย่ซือเฉินนอนไม่หลับจนถึงดึกดื่น เพิ่งนอนหลับไปได้ไม่นานนี้เอง ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ยินเสียงข้อความ
คุณชายสามเย่จึงไม่ทันเห็นข้อความที่เวินลั่วฉิงส่งมาให้เขา ถ้าหากคุณชายสามเย่เห็นข้อความที่เวินลั่วฉิงส่งมาได้ทันเวลา คงรีบตามเธอไปที่สนามบินทันที
ต่อให้ไม่สามารถรั้งเธอเอาไว้ได้ เขาก็คงตามเธอไปด้วย
ปล่อยให้ภรรยาของเขาไปเจอกับถังไป๋เชียนตัวคนเดียว ต้องข้ามศพเขาไปก่อน!!
หลังจากที่เวินลั่วฉิงส่งข้อความเสร็จแล้ว เครื่องบินก็กำลังจะขึ้นบินพอดี เวินลั่วฉิงจึงได้ปิดโทรศัพท์มือถือ
หลังจากเครื่องขึ้นแล้ว สีหน้าของเวินลั่วฉิงก็ดูขรึมลงเล็กน้อย
สาขาย่อยขององค์กรโกสต์ซิตี้ ณ เมือง A
ไป๋หยิงที่มีรอยแผลเป็นเต็มตัวนอนเหยียดตรง สายตามองออกไปตรง ๆ สีหน้าของเธอดูซีดเล็กน้อย รอบดวงตามีรอยเขียวช้ำอยู่บ้าง รอยดำใต้ตาก็เห็นชัดมาก
ผิวที่เดิมทีขาวผุดผ่องราวกับหิมะตอนนี้เต็มไปด้วยรอยแผล แทบจะหาจุดที่ผิวยังดูดีไม่ได้เลย ดูแล้วค่อนข้างน่ากลัวทีเดียว
เจิ้งฉงกลับไปแล้ว เธอกลับยังไม่ขยับตัว ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากขยับตัว แต่ตอนนี้เธอขยับตัวไม่ไหว เพราะไม่มีเรี่ยวแรง เพียงแค่ขยับตัวสักนิดก็เจ็บปวดไปถึงหัวใจ
ไป๋หยิงกัดฟันด้วยความเกลียดแค้น เธอนึกถึงเรื่องที่เจิ้งฉงพูดเมื่อวานนี้ เธอจำเป็นต้องทำอะไรสักอย่าง จะปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว
เจิ้งฉงแต่ไหนแต่ไรมาจะลงมือเมื่อมีโอกาสที่แน่นอนเท่านั้น หลายปีมานี้เธอทำอะไรเพื่อเจิ้งฉงมากมาย ถึงทำให้เจิ้งฉงยอมรับปากว่าจะจัดการถังหลินกับเย่ซือเฉินให้เธอ นั่นก็คือเรื่องที่โรงแรมคราวก่อน
แต่เธอคิดไม่ถึงเลยว่าแผนการที่เธอวางไว้อย่างดีจะล้มเหลวลงได้ เพราะถูกเวินลั่วฉิงทำลาย
เธอทนไม่ไหวแล้ว!!
เธอรู้ว่าการให้เจิ้งฉงรับปากเพื่อช่วยเธออีกครั้งคงไม่ง่ายขนาดนั้นแล้ว ดังนั้น ต่อไปนี้เธอจำเป็นต้องวางแผนให้รอบคอบ
เธอเข้าใจแผนการของเจิ้งฉงดี เจิ้งฉงต้องการวางอุบายเรื่องที่หัวหน้าตามหาลูกสาว
ไม่มีใครรู้ว่าลูกสาวของหัวหน้าเป็นใคร? ไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้ลูกสาวของหัวหน้าอยู่ที่ไหน?
แม้แต่หัวหน้าเองก็ยังไม่รู้ และนี่คือโอกาสที่ดีที่สุดของเธอ