ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 917 เทพธิดาเวินมีความสามารถสูง เจ้าหญิงน้อยมีความสามารถทำให้คุณพ่อลำบากใจ (5)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 917 เทพธิดาเวินมีความสามารถสูง เจ้าหญิงน้อยมีความสามารถทำให้คุณพ่อลำบากใจ (5)
“คุณพ่อ พ่อหาวิธีเองเถอะ หนูช่วยพ่อไม่ได้แล้ว คุณแม่ปฏิเสธที่จะมาหนูไปด้วยตั้งแต่แรกแล้ว ดังนั้น หนูก็เหมือนกับพ่อที่ถูกทอดทิ้ง” อีกทางหนึ่งของโทรศัพท์ เจ้าหญิงน้อยถังจื่อซีถอนหายใจแล้วพูดด้วยความทำอะไรไม่ได้อีกครั้ง
เลขาหลิว “……”
ต่างก็? ต่างก็ถูกทอดทิ้ง?
เจ้าหญิงน้อยถูกคุณหญิงทอดทิ้ง?
ท่านประธานก็ถูกคุณหญิงทอดทิ้ง?
คุณหญิงทอดทิ้งเจ้าหญิงน้อยและท่านประธาน จากนั้นก็ไปเดทกับผู้ชายคนอื่น?
นี่ช่างน่าตกใจจริงๆ ใช่ไหม?
เจ้าหญิงน้อย เวลานี้ เราสามารถไม่พูดได้ไหม? ไม่เพิ่มน้ำมันบนเปลวไฟได้ไหม?
เวลานี้ท่านประธานไม่สามารถได้รับการกระตุ้นอีกแล้ว
คำว่าต่างก็ถูกทอดทิ้ง ช่างแทงเข้าไปในใจคนจริงๆ
ท่านประธานบริษัทเขาได้ยินประโยคนี้แล้ว ไม่รู้ว่าจะคิดยังไง?
เลขาหลิวมองไปทางท่านประธานของบริษัทตัวเอง เป็นอย่างที่คิดไว้เลยจริงๆ ว่าสีหน้าดูแน่ลงกว่าเดิม
“ท่านประธาน หรือว่าให้ผมไปตามคุณหญิงกลับมาไหมคะ” เลขาหลิวมองดูท่านประธานของตัวเองวางสาย แล้วหน้าด้านพูดความเห็นออกมา
คุณหญิงเดทกับผู้ชายคนอื่นแล้ว แน่นอนว่าท่านประธานต้องรีบหาคนกลับมา
คุณชายสามเย่เงยหน้าขึ้น มองไปทางเลขาหลิวด้วยความเย็นชา แววตานั้นแข็งทื่อราวกับน้ำแข็ง เย็นชาจนไม่สามารถหลบหนีได้
เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า สำหรับความเห็นของเลขาหลิว คุณชายสามเย่ไม่ได้พอใจ
ให้คนไปตามหาเธอ?!
งั้นก็เท่ากับว่าเขาให้คนไปจับเธอหรอ?
บังคับจับคนให้กลับมา ไม่ใช่ผลที่เขาต้องการ สิ่งที่เขาต้องการคือเธอกลับมาด้วยความเต็มใจ…..
เลขาหลิวสบตากับแววตาของท่านประธานบริษัทตัวเอง ร่างกายแข็งทื่อเลย จากนั้นก็สูดหายใจลึก ไม่ว่ายังไงแล้วก็เป็นคนที่อยู่ข้างกายคุณชายสามเย่มานานขนาดนี้แล้ว
เลขาหลิวเข้าใจความหมายของท่านประธานบริษัทตัวเองทันที
“ท่านประธาน หรือว่าให้ผมโทรหาคุณหญิง บอกว่าท่านประธานป่วย คุณหญิงนั้นเป็นห่วงท่านประธาน ได้ยินว่าท่านประธานป่วยแล้ว คุณหญิงต้องรีบมาเยี่ยมท่านประธานแน่นอน” สมองของเลขาหลิวหมุนขึ้นด้วยความเร็ว พยายามหาวิธีสุดชีวิต
เขาไม่เพียงแต่ช่วยท่านประธานคิดหาวิธี ยังช่วยเหลือตัวเองอีกด้วย เพราะว่าหากท่านประธานโมโห คนที่ซวยที่สุดก็คือเขา
นี่เขาคิดเผื่อชีวิตของตัวเขาทั้งชีวิตเลย
คุณชายสามเย่ได้ยินคำพูดของเลขาหลิวแล้วดวงตาก็เปล่งประกายขึ้น ให้เขาแกล้งป่วย?
เขาป่วยแล้ว? เธอจะเป็นห่วง? จะมาเยี่ยมเขา?
เขาป่วยแล้ว เธอจะทิ้งถังไป๋เชียนมาเยี่ยมเขา?
พูดตามความจริง คุณชายสามเย่ก็อยากรู้ว่าเธอจะมาไหม?
แต่ว่า หากเขาแกล้งป่วยโกหกเธอ คุณชายสามเย่ก็รู้สึกว่าไม่ค่อยเหมาะสม
“ท่านประธาน เรื่องนี้มอบให้ผมได้ ผมจะจัดการให้ดีแน่นอน” เลขาหลิวเห็นสีหน้าที่ลังเลของท่านประธานบริษัทตัวเอง ก็รีบเปิดปากพูด
ขณะนี้เลขาหลิวมีความสามารถในการใช้ชีวิตหรอก สิ่งแรก ต้องรีบออกจากห้องทำงาน สิ่งที่สอง ต้องรีบจัดการเรื่องนี้จนกระทั่งท่านประธานจะพอใจ
ไม่เช่นนั้น ชีวิตน้อยๆ ของเขาเอาไม่อยู่แน่
คุณชายสามเย่เงยหน้าขึ้น มองไปทางเลขาหลิว เขาขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
เลขาหลิวเห็นท่านประธานของบริษัทตัวเองไม่พูดอะไร คิดว่าท่านประธานของบริษัทตัวเองเห็นด้วยแล้ว
“ท่านประธาน ผมไปจัดการเดี๋ยวนี้เลย” เลขาหลิวพูดจบ ไม่รอให้คุณชายสามเย่เปิดปากพูด ก็รีบหนีออกจากห้องทำงาน
ใช่ ใช้การหนีจริงๆ !!
ออกจากห้องทำงานแล้ว เลขาหลิวสูดหายใจลึก มือลูบไปที่หน้าอกทันที
เมื่อกี้จะทำเขาตกใจตายแล้วจริงๆ จะตกใจตายแล้วจริงๆ เขารู้สึกว่าหากอยู่ในห้องทำงานต่ออีกสักพัก ชีวิตน้อยๆ ขอเขาคงจะเอาไม่อยู่แล้ว
เลขาหลิวค่อยๆ สงบสติอารมณ์ จากนั้นก็กลับไปที่ห้องทำงานของเลขาตัวเอง หยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วโทรหาเวินลั่วฉิง
โทรศัพท์ดังไปหลายรอยมาก เวินลั่วฉิงจึงจะรับ
“คุณหญิง แย่แล้วครับ แย่แล้ว โรคกระเพาะของท่านประธานกำเริบอีกแล้ว ท่านประธานสลบไปแล้วครับ” พอโทรติดแล้ว เลขาหลิวก็พูดด้วยความเร่งรีบ แน่นอนว่าในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความเร่งรีบและความกระวนกระวาย
ถึงแม้ว่าจะเป็นการเสแสร้ง แต่ว่าเลขาหลิวปลอมได้เหมือนจริงมาก ไม่ว่ายังไงแล้วก็เป็นคนที่อยู่ข้างกายคุณชายสามเย่มาหลายปีขนาดนี้!
“อะไรนะ? โรคกระเพาะของเขากำเริบ? สลบไปแล้ว?” อีกทางหนึ่งของโทรศัพท์ เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าน้ำเสียงของเวินลั่วฉิงสูงขึ้น ขณะนี้ ไม่อยากเลยที่จะได้ยินเสียงความเป็นห่วงจากน้ำเสียงของเธอ
“ครับ ใช่ครับ คุณหญิงรีบมาเถอะครับ” เลขาหลิวได้ยินเสียงความเป็นห่วงจากน้ำเสียงของเวินลั่วฉิงแล้ว ก็แอบถอนหายใจ
คุณหญิงเป็นห่วงท่านประธานจริงๆ ด้วย ขอแค่คุณหญิงเป็นห่วงท่านประธาน ได้ยินว่าท่านประธานป่วย ก็จะรีบมาแน่นอน
ขอแค่คุณหญิงรีบมาเยี่ยมท่านประธาน ไม่ไปเดทกับผู้ชายคนอื่น เรื่องนี้ก็จบแล้ว
“ไม่ได้ส่งไปโรงพยาบาลหรอ? รีบส่งไปโรงพยาบาลสิ” เสียงทางเวินลั่วฉิงกระวนกระวายมาก คุณชายสามเย่สลบแล้ว ทำไมไม่รีบส่งโรงพยาบาลล่ะ?
“คุณหญิง ท่านประธานบอกว่าไม่ไปโรงพยาบาลครับ” เลขาหลิวอึ้งไปเลย ถือว่าสมองหมุนเร็วมาก
“เขาสลบแล้วไม่ใช่หรอ?” อีกทางหนึ่งของโทรศัพท์ เสียงที่ดังผ่านมาของเวินลั่วฉิง ฟังแล้วเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่ามีความสงสัยแฝงความเป็นห่วง
เลขาหลิว “……”
การโหหกนี้พูดยากจริงๆ พูดยากมาก
“คุณหญิง ตอนที่ท่านประธานยังไม่สลบบอกว่าไม่ไปโรงพยาบาลครับ อีกอย่างก่อนหน้านี้ที่อาการของท่านประธานกำเริบท่านก็ปฏิเสธที่จะไปโรงพยาบาลครับ คุณหญิงรีบมาดูเถอะครับ ท่านประธานเชื่อฟังคุณหญิงที่สุดแล้ว” เลขาหลิวสูดหายใจลึก โชคดีที่สมองเขาหมุนไว
ไม่ว่ายังไง ให้คุณหญิงมาถึงก่อนค่อยว่ากัน ขอแค่คุณหญิงมาแล้ว ท่านประธานก็จะดีใจ
เรื่องที่เหลือก็ไม่ใช่เขาแล้วที่ต้องมาสนใจ นั่นเป็นเรื่องของท่านประธานแล้ว
“ได้ ฉันรีบไป” เวินลั่วฉิงที่อยู่อีกทางหนึ่งของโทรศัพท์ลังเลไปสองวินาที จากนั้นก็รีบตอบตกลง
ถึงแม้ว่าตอนนี้เธอรีบจะไปพบคน แต่ว่าได้ยินว่าเย่ซือเฉินสลบ เธอที่เงียบสงบมาโดยตลอดก็เริ่มกระวนกระวายแล้ว
เพราะว่าเป็นห่วงมาก และเร่งรีบมาก เวินลั่วฉิงจึงไม่ได้คิดมาก
“อื้ม อื้ม งั้นคุณหญิงรีบมานะครับ” หลังจากที่เลขาหลิววางสายแล้ว เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าเหมือนยกภูเขาออกจากอก
ดีมากเลย คุณหญิงตอบตกลงจะมาแล้ว อีกอ่างยังบอกอีกด้วยว่าจะรีบมา ดีมากจริงๆ
“ท่านประธาน คุณหญิงบอกจะรีบมาครับ” เลขาหลิวมีผลที่พอใจแล้ว จึงรีบไปแจ้งท่านประธาน
“นายบอกเธอไปว่าอะไร?” แววตาของท่านประธานเปล่งประกายขึ้น เมื่อกี้เขาถามว่าเธออยู่ไหน เธอไม่บอกเลย เลขาหลิวบอกอะไรเธอไป เธอถึงรีบมาขนาดนี้?
“ก็ไม่ได้บอกอะไรครับ แค่บอกว่าโรคกระเพาะท่านประธานกำเริบ ไม่ค่อยสบาย คุณหญิงเป็นห่วงท่านประธาน บอกว่าจะรีบมาเยี่ยมท่านประธาน” เลขาหลิวในขณะนี้ค่อยๆ อธิบาย ไม่ได้พูดถึงเรื่องที่เขาบอกเวินลั่วฉิงว่าคุณชายสามเย่สลบ
เขารู้สึกว่าพอเป็นแบบนี้ ยิ่งสามารถแสดงออกถึงความเป็นห่วงที่คุณหญิงมีต่อท่านประธาน
ไม่ว่ายังไงแล้ว ขอแค่คุณหญิงมาก็พอแล้ว ขอแค่คุณหญิงมาก็พอแล้ว ตามความสามารถของท่านประธานพวกเขาแล้วยังกลัวว่าจะปลอบใจคุณหญิงไม่ได้อีกหรอ?
มากสุดพอถึงเวลาก็แค่ให้ท่านประธานแกล้งปลอมสักพัก
อื้ม แบบนี้ละกัน
“แบบนี้?” คุณชายสามเย่ขมวดคิ้ว ราวกับว่าไม่อยากจะเชื่อ แต่ว่าสีหน้าในขณะนี้ของเขากลับมีความดีใจ เธอได้ยินว่าเขาไม่สบาย ก็รีบมาเลย?