ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 923 คุณชายสามเย่จับชู้คาห้อง (1)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 923 คุณชายสามเย่จับชู้คาห้อง (1)
เมื่อคุณชายสามเย่วางสายไป ก็ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง มาถึงHill Hotel
เขาจอดรถไว้ที่ลานจอดรถใต้ดิน จากนั้นเขาก็ตรงขึ้นไปยังชั้นที่ 29
ตอนนี้ ภายในห้อง 2908 เวินลั่วฉิงกำลังจ้องไปที่คอมพิวเตอร์ด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมเล็กน้อย
“ในที่สุดก็คืบหน้าบ้างแล้ว” คนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เวินลั่วฉิงถอดหูฟังออก ถอดแว่นตาออก แล้วถอนหายใจออกมาแรง ๆ : “แต่ว่า นี่ยังไม่เพียงพอ ยังต้องทำต่อไป”
“อืม” เวินลั่วฉิงตอบรับเสียงขรึม มีแค่พวกนี้ ยังไงก็ไม่เพียงพอแน่นอน
“นั่งเครื่องบินมาครึ่งวัน แล้วยังต้องมาหาข้อมูลในคอมพิวเตอร์อีกหลายชั่วโมง ฉันปวดเมื่อยเอวไปหมดแล้ว ฉันจะไปอาบน้ำก่อนนะ” คนนั้นลุกขึ้น แล้วบิดขี้เกียจ
“อืม ไปเถอะ” สายตาของเวินลั่วฉิงยังคงจับจ้องไปที่คอมพิวเตอร์ เพื่อหาข้อมูลสำคัญบางอย่าง
คนนั้นหยิบชุดนอนออกมา ขณะที่เดินผ่านเวินลั่วฉิง ก็หยุดเดิน แล้วมองไปทางเวินลั่วฉิง จากนั้นก็ยิ้มแล้วพูดว่า : “เธอก็ยุ่งมาทั้งวัน ไม่เหนื่อยเหรอ? จะอาบน้ำด้วยกันไหม?”
เวินลั่วฉิงแหงนหน้าขึ้น แล้วมองกลับไป จากนั้นเลิกคิ้วขึ้น : “ถ้าหากไม่อยากไป ก็มาทำงานต่อ”
“นายทุนหน้าเลือด” คนนั้นเบ้ปากเล็กน้อย จากนั้นก็เข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว
คนคนนั้นเข้าห้องน้ำไปได้ไม่นาน จู่ ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
เวินลั่วฉิงอ่านอย่างใจจดใจจ่อมากเกินไป ตั้งใจมากเกินไป เลยไม่ได้ยินเสียง หรืออาจจะได้ยินเสียงแล้ว แต่สมองไม่มีปฏิกิริยาตอบรับ
ฉะนั้น เวินลั่วฉิงจึงไม่กระดิกตัวแม้แต่น้อย
ด้านนอก คุณชายสามเย่เคาะประตูติดต่อกันหลายครั้ง แต่กลับไม่มีคนมาเปิดประตู แววตาเขาดูถมึงทึงอย่างเห็นได้ชัด
อะไรเนี่ย? แม้แต่ประตูก็ไม่มาเปิดเหรอ?
คุณชายสามเย่ออกแรงมากขึ้น แล้วเคาะประตูอีกสองสามครั้ง คุณชายสามเย่มั่นใจว่าเสียงดังอย่างนี้ ต่อให้คนด้านในนอนหลับไปแล้ว ก็คงถูกปลุกให้ตื่น
แต่ยังคงไม่มีใครมาเปิดประตู เสียงเคลื่อนไหวสักนิดก็ไม่มี
คุณสามชายเย่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ จากนั้นก็เคาะประตูต่อไปเรื่อย ๆ
ถ้ารู้อย่างนี้ ตอนเขาขึ้นมาน่าจะหยิบคีย์การ์ดห้องมาด้วยสักใบ จะได้เปิดเข้าไปเลย
เวินลั่วฉิงที่กำลังจดจ่ออยู่กับการหาข้อมูลในที่สุดก็หยุดหา เมื่อครู่เธอตั้งใจอ่านมากเกินไป และในห้องน้ำก็มีเสียงน้ำไหลดังออกมา ทำให้เธอไม่ได้ยินเสียงเคาะประตู
แต่ตอนนี้ประตูถูกเคาะดังขนาดนั้น ยังไงเวินลั่วฉิงก็ต้องได้ยิน
เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย เวลานี้แล้ว ใครมากันนะ?
ทั้งที่เธอแขวนป้ายห้ามรบกวนไว้ที่หน้าประตูห้องแล้ว ตามหลักแล้วไม่น่าจะมีคนมารบกวนเธอนี่นา
เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูดังไม่หยุด เวินลั่วฉิงก็ลุกขึ้น แล้วเดินไปที่ประตู
เธอไม่ได้เปิดประตูทันที แต่มองไปที่ตาแมว ตอนมองเห็นคนที่ยืนอยู่ด้านนอกนั้น เวินลั่วฉิงก็ตกตะลึงทันที
ทำไมถึงเป็นเขาล่ะ?
จู่ ๆ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?
เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?
เวินลั่วฉิงกำลังลังเล คุณชายสามเย่ที่อยู่ด้านนอกก็เริ่มเคาะประตูอีกครั้ง
เวินลั่วฉิงคิดว่าถ้าหากเธอไม่เปิดประตู เย่ซือเฉินจะพังประตูจนเป็นรูไหมเนี่ย?
เวินลั่วฉิงแอบถอนหายใจ แล้วเปิดประตู
แต่ว่า ก่อนหน้านี้ตอนที่เข้ามาในห้อง เธอได้ใส่โซ่ล็อกประตูเอาไว้ ถึงตอนนี้เปิดประตูแล้ว ก็เปิดแง้มเพียงนิดเดียวเท่านั้น
“นายมาได้ยังไง?” เวินลั่วฉิงไม่ได้คิดจะเปิดประตูออก เธอได้แต่มองคุณชายสามเย่อยู่อย่างนั้น
คุณชายสามเย่เห็นสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้า ก็ถอนหายใจฮึดฮัด ผู้หญิงคนนี้หมายความว่ายังไงเนี่ย?
ไม่อยากให้เขาเข้าไปงั้นเหรอ?
หรือว่าไม่กล้าให้เขาเข้าไป?
ตั้งนานกว่าเธอจะมาเปิดประตูให้เขา แถมไม่ยอมให้เขาเข้าไปด้วย? หรือว่าจะมีอะไรจริง ๆ?
“เปิดประตู” คุณชายสามเย่แอบถอนหายใจ พยายามให้ตัวเองสงบสติอารมณ์ลง แต่เสียงของเขายังคงพูดเสียงดังอยู่ มันแฝงไปด้วยอารมณ์โกรธที่ข่มไว้ไม่ได้
“ประตูก็เปิดแล้วนี่ มีธุระอะไร นายก็พูดมาสิ” เวินลั่วฉิงแหงนหน้ามองเขา แล้วเบะปาก
“เปิดประตู ให้ฉันเข้าไป” คุณชายสามเย่รู้สึกว่าตอนนี้อกตัวเองแทบจะลุกเป็นไฟแล้ว ผู้หญิงคนนี้เกิดมาเพื่อยั่วโมโหเขาจริง ๆ ตอนนี้เขาอยู่ด้านนอก เธอกลับไม่เปิดประตูให้เขา ไม่ยอมให้เขาเข้าไปด้านใน?
“ขอโทษนะ ตอนนี้ไม่สะดวก” เวินลั่วฉิงเลิกคิ้วขึ้น เธอยังคงไม่ยอมเปิดประตูให้เขา และได้ปฏิเสธที่จะให้เขาเข้าห้อง
ด้านในห้องยังมีคนอื่นอยู่นะ และกำลังอาบน้ำอยู่ด้วย เย่ซือเฉินเข้ามาเวลานี้มันไม่สะดวกจริง ๆ
อีกอย่าง ทำไมจู่ ๆ เย่ซือเฉินถึงได้มาโผล่ที่นี่ได้?
ดูท่าทางของเขา รู้สึกเหมือนไม่ได้มาดีเท่าไหร่!!
หมายความว่ายังไง?
เมื่อนึกถึงเรื่องก่อนหน้านี้ที่เขากับเลขาหลิวรวมหัวกันหลอกเธอ แววตาของเธอก็ดุขึ้นเล็กน้อย
โรคกระเพาะกำเริบแล้ว? และเป็นลมด้วย?
แต่ท่าทางของเขาตอนนี้ดูไม่เหมือนคนป่วยเลยสักนิด!!
ฉะนั้น ก่อนหน้านี้เขาแกล้งป่วยเพื่อหลอกเธอสินะ!
“ไม่สะดวก? มีอะไรไม่สะดวก?” คุณชายสามเย่หรี่ตาลงเล็กน้อย เขาหรี่ตาลงแล้วจ้องเธออยู่อย่างนั้น ตอนนี้ เหมือนมีรังสีอำมหิตแผ่ออกมาจากตัวเขาจนทำให้คนรู้สึกกลัวจนตัวสั่น
ไม่สะดวก? เธอถึงกับพูดว่าไม่สะดวกกับเขางั้นเหรอ?
ขอถามหน่อยว่าเธอมีอะไรที่ไม่สะดวก?
แต่ว่า ในตอนนี้ เวินลั่วฉิงใส่ชุดเป็นทางการอยู่ ไม่ได้ใส่ชุดนอน เสื้อผ้าก็ดูเรียบร้อยมาก คุณชายสามเย่จึงค่อย ๆ โล่งใจ
“ไม่สะดวกให้นายเข้ามาไง นายมีอะไรก็พูดมา ถ้าไม่มีธุระอะไรฉันจะปิดประตูแล้วนะ” เวินลั่วฉิงฟังน้ำเสียงแบบนี้ของเขา ก็กะพริบตาไปมา
คุณชายสามเย่มองเธอ ไม่ได้พูดอะไรออกมา เพียงแต่รังสีอำมหิตที่อยู่ในแววตาของเขากลับทำให้รู้สึกน่าตกใจมากขึ้น
แต่ว่า ตอนนี้เวินลั่วฉิงไม่กลัวเลยสักนิด ประตูมีโซ่ล็อกไว้อยู่ ถ้าเธอไม่เปิด เขาก็เข้ามาไม่ได้
“ในเมื่อนายไม่มีธุระอะไร งั้นฉันปิดประตูแล้วนะ” เวินลั่วฉิงมองเขาแวบหนึ่ง จากนั้นก็ทำท่าจะปิดประตู
แต่ว่าทันใดนั้น มือของเย่ซือเฉินได้ยื่นเข้ามากะทันหัน เขายื่นมือเข้ามาในช่องประตูที่แง้มอยู่ จากนั้นก็จับประตูเอาไว้……
ยังดีที่เวินลั่วฉิงไม่ได้ออกแรงมากเท่าไหร่ ไม่อย่างนั้นคงปิดประตูทับมือเขาจนบาดเจ็บไปแล้ว
“เย่ซือเฉิน นายทำอะไรน่ะ?” เวินลั่วฉิงโกรธแล้ว เขาคิดจะทำอะไรน่ะ?
ตอนกลางวันก็รวมหัวกับเลขาหลิวหลอกเธอ ตอนนี้เขาก็ยังมาที่โรงแรมอีก?
เวินลั่วฉิงไม่ได้ใสซื่อถึงกับคิดว่าเขามาโรงแรมเพราะความบังเอิญหรอกนะ
ท่าทางของเขาในตอนนี้เหมือนมาจับชู้ไม่มีผิด
ปกติเวินลั่วฉิงเป็นคนไม่ค่อยโมโหง่ายเท่าไหร่ แต่ไม่ได้หมายความว่าเธอจะโมโหไม่เป็น
เวินลั่วฉิงแหงนหน้าขึ้น มองเขา แล้วพูดเสียงขรึมว่า : “เอามือนายออกไป”
“ถ้าฉันไม่เอาออกล่ะ?” คุณชายสามเย่มองเธอ รังสีอำมหิตแผ่กระจายออกมาไม่หยุด……
เวินลั่วฉิงถอนหายใจออกมา เธอรู้ดีว่าบางครั้งเย่ซือเฉินไม่มีเหตุผลเอาซะเลย และเธอก็รู้ด้วยว่าการที่คุณชายสามเย่สามารถหาห้องพักของเธอเจอ คงต้องมีอำนาจควบคุมโรงแรมแห่งนี้แน่นอน
ไม่อย่างนั้น ทางโรงแรมไม่มีทางเอาข้อมูลการจองห้องของเธอบอกให้เย่ซือเฉินรู้ง่าย ๆ หรอก
ดังนั้น เวินลั่วฉิงรู้ดีว่าในสถานการณ์อย่างนี้ ต่อให้เธอโทรศัพท์ไปเรียกพนักงานหน้าฟร้อนของโรงแรมมาก็เปล่าประโยชน์อยู่ดี
แต่สถานการณ์ในตอนนี้……