ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 941 ผลตรวจดีเอ็นเอที่คาดไม่ถึง หัวหน้าเอาแต่ใจไปหน่อย (1)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 941 ผลตรวจดีเอ็นเอที่คาดไม่ถึง หัวหน้าเอาแต่ใจไปหน่อย (1)
ในขณะเดียวกันคุณชายหานได้หยิบเอาผลดีเอ็นเอที่เพิ่งตรวจเสร็จเดินเข้าไปในห้องของลุงเหลียง ยื่นผลตรวจดีเอ็นเอไปตรงหน้าลุงเหลียง : “ผลออกมาแล้ว ลุงดูเอาเองแล้วกัน”
ลุงเหลียงอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยื่นมือไปหยิบผลตรวจมา ถึงแม้บางครั้งยู่หานจะทำอะไรเป็นเล่นดูไม่จริงจัง แต่ถ้าเป็นเรื่องสำคัญก็ไม่มีทางประมาทเด็ดขาด ในเมื่อยู่หานเอาผลตรวจดีเอ็นเอมาให้เขาดู แสดงว่าต้องมีอะไรแน่นอน
ลุงเหลียงมองไปที่ข้อมูลในผลตรวจด้วยความรวดเร็ว ในเสี้ยววินาทีนั้น สีหน้าของลุงเหลียงดูเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด
เขาจ้องมองผลตรวจดีเอ็นเอแล้วเงียบไปครู่หนึ่ง
“เป็นอะไร ลุงจ้องอยู่นานแล้วนะ จะจ้องจนดอกไม้ผุดออกมาเลยหรือไง?”คุณชายหานเห็นปฏิกิริยาของลุงเหลียง ก็เบะปาก นี่ลุงยังไม่ยอมรับอีกเหรอ?
“วางใจเถอะน่า ลุงไม่ได้ตาลายหรอก ที่ลุงเห็นน่ะเป็นเรื่องจริง”คุณชายหานพูดเตือนลุงเหลียงด้วยความหวังดี ผลตรวจชัดเจนขนาดนั้นไม่มีทางดูผิดไปได้หรอก
ลุงเหลียงเงยหน้ามองเขา และยังคงไม่พูดอะไรออกมา เพียงแต่สีหน้าดูเหมือนมีอะไรในใจ
“ทำไม รู้สึกคับข้องใจเพราะไม่เป็นอย่างที่หวังไว้เหรอ ลุงรับไม่ได้งั้นเหรอ?”คุณชายหานรู้สึกว่าที่ลุงเหลียงมองเขาเมื่อครู่นี้ดูคลุมเครือเกินไปแล้ว ลุงเหลียงที่เขารู้จักไม่เคยมีแววตาแบบนั้นมาก่อน
“พอได้แล้ว เรื่องนี้ก็เห็นชัดกันอยู่แล้ว ลุงหยุดได้แล้วน่า ทุกคนเคยผิดพลาดกันทั้งนั้นแหละ ยิ่งเรื่องนี้เดิมทีก็ซับซ้อนอยู่แล้ว ลุงแค่มองคนผิดไป แต่ไม่ใช่เห็นว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังหน้าตาดี ฉลาด ความสามารถโดดเด่น แล้วลุงจะฟันธงว่าเธอเป็นลูกสาวของหัวหน้าไม่ได้นะ แบบนี้มันไม่ถูกต้อง”คุณชายหานปลอบคนอื่นเป็นครั้งแรก เห็นได้ชัดว่าไม่มีประสบการณ์เรื่องนี้เลย
ก่อนที่ผลตรวจดีเอ็นเอจะออกมา เขาเชื่อในการตัดสินของลุงเหลียงมาก แต่ตอนนี้ผลตรวจอยู่ตรงหน้าแล้ว เรื่องนี้ยืนยันแล้วว่าลุงเหลียงมองคนผิดไป
ในเมื่อผิดไปแล้ว ก็ต้องแก้ไข จะผิดอย่างนี้ต่อไปไม่ได้
“ฉันให้แกคอยจับตาดูตลอดเวลา แกแน่ใจนะว่าจับตาดูอยู่ตลอด ไม่ได้ละสายตาไปไหน?” ลุงเหลียงหรี่ตาลงเล็กน้อย ถึงแม้รู้ว่าเรื่องใหญ่อย่างนี้เขาคงไม่กล้าสะเพร่า แต่ผลลัพธ์แบบนี้ ทำให้เขารู้สึกสงสัยมาก
ก็ไม่ได้บอกว่าลูกสาวของหัวหน้าจะต้องเป็นคนที่เขากำหนดไว้ แต่เขารู้สึกว่าเรื่องนี้มีอะไรไม่ชอบมาพากล
ทำไมเจ้าเก้าออกไปทานข้าวก็บังเอิญได้พบกับผู้หญิงที่อยู่เหมือนภาพวาดของหัวหน้า? และผู้หญิงคนนี้ก็บังเอิญเป็นลูกสาวของหัวหน้าขึ้นมาจริง ๆ?
“ผมรับรองได้เลยว่าผมจับตาดูอยู่ตลอด เพื่อเฝ้าดูผลตรวจ ผมถึงกับอดหลับอดนอน กินข้าวในห้องตรวจดีเอ็นเอ แม้แต่ตอนเข้าห้องน้ำ ผมก็สั่งให้ลูกน้องจับตาดูเอาไว้ อีกอย่างผมติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ในโทรศัพท์มือถือด้วย ตอนที่เข้าห้องน้ำก็ดูกล้องวงจรปิดตลอด”คุณชายหานเวลาจัดการเรื่องอะไรถือว่าตั้งใจมาก เขารู้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่และสำคัญมาก ดังนั้นจึงไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อย
“ผมตรวจดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วด้วย หลังจากที่เจ้าเก้าเอาเส้นผมมา ก็ไม่มีใครมาเปลี่ยนอะไรเลย”คุณชายหานพูดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว สำหรับเรื่องนี้ เขาแน่ใจมาก ดังนั้นจึงพูดด้วยความมั่นใจเป็นอย่างมาก
“ฉะนั้น ตั้งแต่เจ้าเก้าเอาเส้นผมกลับมา จนถึงผลตรวจดีเอ็นเอออกมา ระหว่างนั้นไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นแน่นอน”คุณชายหานรับประกันอย่างหนักแน่น
ลุงเหลียงมองผลตรวจดีเอ็นเออีกครั้ง จากนั้นก็กะพริบตา สีหน้าและแววตายากที่จะคาดเดา
“ผมรู้ว่าก่อนหน้านี้ลุงสงสัยว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังเป็นเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ของพวกเรา เป็นคนที่เข้าตาลุง ลุงเลยฝังใจ ตอนนี้ผลออกมาแบบนี้ ลุงเลยรู้สึกผิดหวัง แต่ความจริงก็คือความจริง พวกเราจะเอาเหตุผลอื่นมามองข้ามความจริงไม่ได้นะครับ” ครั้งนี้คำพูดโน้มน้าวของคุณชายหานฟังดูเหมือนมีเหตุผลขึ้นมาหน่อย
“ยังไงซะไม่ว่าใครจะเป็นลูกสาวของหัวหน้า ก็ไม่ใช่พวกเราเป็นคนตัดสินใจ หัวหน้าต่างหากที่ต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง หัวหน้าไม่สามารถมีลูกสาวที่ยอดเยี่ยมเหมือนอย่างคุณหนูใหญ่ตระกูลถังได้ ก็ไม่ใช่ความผิดของลุงสักหน่อย” เพียงแต่ประโยคถัดไปของคุณชายหานฟังดูเป็นเล่นขึ้นมาอีกแล้ว
ลุงเหลียงเลยจ้องเขม็งใส่เขา แต่สีหน้าไม่ได้ดูเคร่งเครียดขนาดนั้นแล้ว คงเป็นเพราะทฤษฎีมั่ว ๆ ของเขาทำให้ลุงเหลียงสับสน
“ผมพูดผิดไปเหรอ?”คุณชายหานที่ถูกจ้องเขม็งใส่รู้สึกยอมไม่ได้เลยสวนกลับว่า : “ที่ผมพูดน่ะเป็นเรื่องจริง”
คุณชายหานเชื่อในผลตรวจนี้มาก ตัวอย่างที่เจ้าเก้าเอากลับมา ผลลัพธ์ที่เขาจับตาดูด้วยตัวเอง ถ้าหากเกิดข้อผิดพลาด แสดงว่า……
แสดงว่าเรื่องนี้คงร้ายแรงมาก!!
คุณชายหานไม่คิดว่าในการจับตาดูของเขาจะมีคนสามารถตบตาเขาไปได้
ลุงเหลียงมองเขา แล้วส่ายหน้าอย่างจนใจ ลุงเหลียงเข้าใจความคิดของเขาดี
วัยเยาว์ อายุยังน้อย ดีก็ดีจริง ๆ ถ้าบ้าก็บ้าจริง ๆ นี่ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร แต่จำเป็นขัดเกลา
“เจ้าเก้าต้องรู้เบาะแสของเด็กผู้หญิงคนนี้แน่นอน แกไปบอกให้เจ้าเก้าตามตัวเด็กผู้หญิงคนนี้มา” ลุงเหลียงรู้ว่าเจ้าเก้าทำอะไรรอบคอบมาตลอด ในเมื่อเจ้าเก้าสงสัยฐานะของเด็กสาวคนนี้ ถึงกับเอาเส้นผมของเด็กสาวคนนี้กลับมาตรวจดีเอ็นเอ นั่นแสดงว่าต้องรู้เบาะแสของเด็กสาวคนนี้แน่นอน
“ครับ”คุณชายหานคราวนี้ตอบรับด้วยความยินดีมาก แต่เขาคิดไปคิดมา ก็เอ่ยพูดขึ้นอีกว่า : “ลุงเหลียง ลุงยอมรับความจริงได้ก็ดีแล้วครับ”
“แกไสหัวไปได้แล้ว” ต่อให้ลุงเหลียงใจเย็นแค่ไหน ก็ถูกคุณชายหานแหย่จนโมโหขึ้นมา
“ครับ ผมจะไสหัวไปเดี๋ยวนี้เลย”คุณชายหานไม่โกรธเลยสักนิด แถมยังยิ้มอย่างสดใสมากอีกด้วย : “ลุงเหลียงต้องไปพบกับหัวหน้าอยู่แล้ว เพื่อเอาข่าวดีไปบอกหัวหน้า คิดถึงตอนที่องค์กรโกสต์ซิตี้ของพวกเราจะมีเจ้าหญิงขึ้นมา ก็รู้สึกตื่นเต้นจังเลยแฮะ ถึงแม้ว่า ที่จริงจะไม่เกี่ยวข้องอะไรกับผมเลยสักนิดก็ตาม”
คุณชายหานพูดจบ ก็รีบออกไปทันที
ลุงเหลียงหยิบผลตรวจดีเอ็นเอที่อยู่ในมือขึ้นมา สีหน้าดูเคร่งเครียดขึ้นอีกครั้ง ที่เขาสงสัยว่าจะเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลถังไม่ใช่เพียงเพราะเธออยู่หน้าตาดี ฉลาดและมีความสามารถเท่านั้น แต่เพราะเขาสืบเรื่องของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังมาแล้วเหมือนกัน
ถึงแม้เป็นเพราะเกี่ยวข้องกับตระกูลถัง จึงทำให้สืบได้ไม่มากเท่าไหร่ แต่เขาก็รู้สึกว่ามีเรื่องหนึ่งที่สำคัญมาก นั่นก็คือแม่ของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังคนนี้เป็นลูกสาวที่หายตัวไปตั้งแต่เด็กของตระกูลถัง
หลังจากที่คุณหนูใหญ่ตระกูลถังได้รับการยอมรับจากตระกูลถัง ครอบครัวเดิมของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังกลับไม่ปรากฏตัวเลยสักคน แม่ของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังก็ไม่เคยปรากฏตัวเช่นกัน
สถานการณ์อย่างนี้เขาเดาว่าแม่ของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังน่าจะไม่อยู่บนโลกใบนี้แล้ว
และทางฝ่ายพ่อของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังก็ไม่มีญาติคนใดปรากฏตัวขึ้นเลย อาจเป็นไปได้สูงว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังไม่มีพ่อ
สำหรับเรื่องนี้ เขาเคยให้คนไปสืบมา แต่ไม่ว่าสืบยังไงก็สืบไม่ได้ ตระกูลถังรักษาความลับเป็นอย่างดี
ตอนนี้ผลลัพธ์ออกมาเป็นอย่างนี้ เขาต้องรายงานให้หัวหน้าทราบแน่นอน ส่วนหัวหน้าจะทำยังไงต่อไป ก็เป็นเรื่องของหัวหน้าแล้วล่ะ
ลุงเหลียงหยิบเอาผลตรวจดีเอ็นเอมาแล้วรีบไปยังที่พักตอนนี้ของหัวหน้าแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้
“อะเหลียง คุณมาแล้วเหรอ” ผู้ดูแลจ้งเห็นเขาก็เอ่ยทักทายอย่างเรียบง่าย สีหน้าท่าทางของผู้ดูแลจ้งในตอนนี้ดูเหนื่อยล้า ไม่ค่อยมีชีวิตชีวานัก
ดูผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด!!