ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 943 ผลตรวจดีเอ็นเอที่คาดไม่ถึง หัวหน้าเอาแต่ใจไปหน่อย (3)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 943 ผลตรวจดีเอ็นเอที่คาดไม่ถึง หัวหน้าเอาแต่ใจไปหน่อย (3)
แววตาของผู้ดูแลจ้งดูขรึมลงเล็กน้อย เขาได้แต่แอบถอนหายใจอยู่ในใจ ผิดที่เขาเองแหละ เขาไม่น่าบอกเรื่องนี้กับหัวหน้าก่อนที่จะรู้ผลลัพธ์เลย
เป็นความเป็นของเขาทั้งหมด!!
ตอนนั้นเป็นเพราะเขาเห็นคุณหนูใหญ่ตระกูลถังแล้วตื่นเต้นมากเกินไป เลยอดใจไม่ไหวบอกหัวหน้าไปก่อน
บอกข้อมูลที่ผิดพลาดกับหน้า ให้ความหวังหัวหน้าอย่างผิด ๆ
คุณหนูใหญ่ตระกูลถังเพียบพร้อมมากเหลือเกิน ผู้หญิงที่จะเทียบกับคุณหนูใหญ่ตระกูลถังได้นั้นมีไม่มากนัก เขากับอะเหลียงก็รู้สึกผิดหวังเช่นกัน หัวหน้าเองก็คงจะ……
“หัวหน้า มีเบาะแสใหม่ครับ เจ้าเก้าเจอกับเด็กสาวคนหนึ่งที่หน้าตาคล้ายกับภาพเหมือนของหัวหน้ามาก เลยเอาเส้นผมของเด็กสาวคนนั้นกลับมาตรวจดีเอ็นเอ นี่คือผลตรวจดีเอ็นเอครับ” อะเหลียงฝืนเดินเข้าไป แล้วเอาผลตรวจดีเอ็นเอที่อยู่ในมือยื่นให้ซ่างกวนหง
ซ่างกวนหงขมวดคิ้วเล็กน้อย แววตาที่เปล่งประกายดูนิ่งเฉยขึ้นมาทันที เขาไม่ได้ยื่นมือไปรับผลตรวจดีเอ็นเอมาดู : “นายบอกผลมาเลย”
ตอนนี้ถ้าหากตั้งใจฟัง ก็จะรู้ว่า น้ำเสียงที่สั่นเครือของเขาเมื่อครู่นี้หายไปแล้ว น้ำเสียงของเขาในตอนนี้กลับเป็นปกติและเย็นชา
ถึงแม้ซ่างกวนหงบอกให้อะเหลียงบอกผลมาเลย แต่ที่จริงไม่ต้องพูด เขาก็รู้ผลลัพธ์อยู่แล้ว
ไม่อย่างนั้นอะเหลียงคงไม่เอาผลตรวจมาให้เขาดูหรอก!
“ผลตรวจดีเอ็นเอที่ได้ คือดีเอ็นเอของเธอตรงกับของหัวหน้า 99.98% ยืนยันได้ว่าเป็นพ่อลูกกันครับ” หัวหน้าไม่รับผลตรวจมาดู อะเหลียงจึงได้แต่บอกผลตรวจให้ฟัง ผลลัพธ์แบบนี้ไม่มีอะไรต้องสงสัยอีกแล้ว
ซ่างกวนหงได้ยินผลลัพธ์แบบนี้ ก็สงบนิ่งมากเหลือเกิน ไม่เหลือความตื่นเต้นตอนที่ได้เห็นอะเหลียงเมื่อครู่นี้เลย สายตาเขาหลุบต่ำลงเล็กน้อย แต่ไม่ได้หันไปดูผลดีเอ็นเอ ไม่รู้กำลังมองอะไรอยู่ และไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังคิดอะไร
ผู้ดูแลจ้งเห็นหัวหน้าของตัวเองเป็นแบบนี้ ก็รู้สึกหดหู่ใจ หัวหน้าผิดหวังอย่างที่คิดไว้จริง ๆ!
ไม่รู้ว่าตอนนี้หัวหน้ารู้สึกยังไง? ในใจเขาคงรู้สึกแย่มาก
“หัวหน้าครับ คุณต้องการพบกับเด็กคนนี้ไหมครับ?” อะเหลียงรู้สึกกดดัน เป็นความรู้สึกอึดอัดเหมือนหายใจไม่ออก แต่ในเมื่อผลตรวจเป็นอย่างนี้ บางเรื่องก็……
“ไปเจอเด็กสาวคนนี้ที่ไหน?” ซ่างกวนหงจู่ ๆ ก็เงยหน้าขึ้น แล้วมองไปที่อะเหลียง ดวงตาคู่นั้นดูสงบนิ่งมาก จนไม่พบสิ่งผิดปกติใด ๆ ทั้งสิ้น
“เจ้าเก้าเจอโดยบังเอิญตอนไปทานข้าวน่ะครับ” ขณะที่อะเหลียงสบสายตากับดวงตาที่สงบนิ่งคู่นั้นก็รู้สึกใจสั่นเล็กน้อย : “เรื่องมันดูบังเอิญเกินไปหน่อยครับ แต่เจ้าเก้าเป็นคนเอาเส้นผมกลับมาเอง ด้วยความสามารถของเจ้าเก้าแล้วไม่น่าจะถูกหลอกได้ง่าย ๆ สามารถแน่ใจได้ว่าเส้นผมน่าจะถูกดึงมาจากหัวของผู้หญิงในตอนนั้นเลย”
ลุงเหลียงมั่นใจในความสามารถของเจ้าเก้ามาก เพราะเจ้าเก้าเป็นคนที่เขาสอนมาเองกับมือ
“แต่ว่าตอนนั้นผมก็สงสัยอยู่บ้างครับ ดังนั้นจึงให้ยู่หานไปจับตาดูตอนตรวจดีเอ็นเอ จนกระทั่งผลออกมา ระหว่างกรตรวจดีเอ็นเอ ยู่หานคอยเฝ้าดูอยู่ตลอด และมั่นใจว่าเส้นผมที่เจ้าเก้าเอากลับมาไม่ได้ถูกสับเปลี่ยน”
อะเหลียงอธิบายอย่างละเอียด เขาเชื่อใจคนของเขา และเพราะสาเหตุนี้เอง ที่ทำให้ตอนแรกเขารู้สึกสับสน
เมื่อผลออกมาแล้ว สิ่งที่เขาต้องทำคือเอาผลตรวจมาให้หัวหน้า ส่วนหัวหน้าจะตัดสินใจอย่างไร ก็เป็นเรื่องของหัวหน้าแล้วล่ะ
เมื่อครู่เขาถามหัวหน้าว่าต้องการพบกับเด็กสาวคนนั้นหรือไม่ เพราะเขารู้ดีว่าสัญชาตญาณของหัวหน้านั้นแม่นยำมาก ถ้าหากเด็กสาวคนนั้นมีปัญหาจริง ๆ ก็คงปิดบังหัวหน้าไว้ไม่ได้แน่นอน
“อะเหลียง นายไปพาเธอมายังที่ของนาย แล้วช่วยพวกเราจัดการเรื่องตรวจดีเอ็นเออีกครั้ง ตรวจด้วยเลือด ครั้งนี้ฉันจะไปด้วย ตรวจกันที่นั่นเลย ฉันจะคอยดูจนกว่าผลตรวจจะออกมา” แววตาของซ่างกวนหงยังคงสงบนิ่ง น้ำเสียงก็เรียบเฉยมาก แต่เมื่อเขาพูดออกมา กลับทำให้อะเหลียงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
อะเหลียงคิดว่าหัวหน้าเห็นผลตรวจดีเอ็นเอแล้ว อย่างน้อยก็น่าจะไปเจอกับเด็กสาวคนนั้นก่อน เพราะยังไงผลตรวจดีเอ็นเอก็ชัดเจนขนาดนี้แล้ว
แต่ว่า การตัดสินใจแบบนี้ของหัวหน้าถือว่าฉลาดที่สุดแล้ว จะใช่หรือไม่ใช่? ไว้รอตรวจดีเอ็นเอกันอีกครั้ง หัวหน้าจะไปดูด้วยตัวเอง อีกทั้งตรวจด้วยเลือด และหัวหน้าจับตาดูด้วยตัวเองอีกด้วย
ในสถานการณ์แบบนี้ไม่ว่าใครก็หลอกไม่ได้หรอก
จับตาดูอยู่ต่อหน้า ไม่มีใครสามารถตบตาหัวหน้าของพวกเขาได้หรอก
“ครับ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้ ถ้าเด็กสาวคนนั้นมาถึง ผมจะมาบอกหัวหน้าทันที” ตอนนี้จู่ ๆ อะเหลียงก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมา เขารู้สึกว่าความสับสนของเขาก่อนหน้านี้ช่างน่าตลกสิ้นดี : “หัวหน้าเด็ดขาดและฉลาดมาก”
จะใช่หรือไม่ใช่? ไว้ตรวจดีเอ็นเอต่อหน้าทุกคนอีกครั้งทุกอย่างก็จะกระจ่างเอง?
เรื่องง่าย ๆ แค่นี้ ก่อนหน้านี้ทำไมเขาถึงคิดไม่ได้นะ?
ผู้ดูแลจ้งเบะปากเล็กน้อย เขาจำได้ว่าตอนนั้นที่บอกหัวหน้าว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังอาจจะเป็นเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ของพวกเขา หัวหน้าไม่ได้เด็ดขาดและฉลาดแบบนี้นี่นา
ตอนนั้นยังไม่มีผลตรวจดีเอ็นเอยืนยันด้วยซ้ำ ทุกอย่างยังไม่ได้รับการยืนยัน เป็นเพียงแค่ข้อสงสัยของอะเหลียง แต่เมื่อหัวหน้าเห็นรูปของคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง ก็ยืนกรานที่จะพบกับคุณหนูใหญ่ตระกูลถังให้ได้
เลือกปฏิบัติอย่างเห็นได้ชัดเกินไปแล้ว
จู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่าหัวหน้าของพวกเขาเหมือนจะเอาแต่ใจไปหน่อยนะ!!
เขารู้สึกว่าหลายปีมานี้หัวหน้าตามหาคุณนายใช้แต่อารมณ์ความรู้สึกในการตามหาเท่านั้น
แต่ว่า วิธีการของหัวหน้าในตอนนี้กลับเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ตรงไปตรงมาที่สุด และชาญฉลาดมากที่สุด
จากที่อะเหลียงเล่ามา เรื่องนี้บังเอิญมากเกินไปจริง ๆ ไม่แปลกที่จะทำให้เกิดความระแวงสงสัย
ก่อนหน้านี้อะเหลียงก็น่าจะสงสัยด้วยเหมือนกัน
ผู้ดูแลจ้งมองไปที่หัวหน้าของตัวเอง ทันใดนั้นก็รู้สึกวุ่นวายใจ ไม่รู้ว่าผลตรวจดีเอ็นเอครั้งนี้จะเป็นยังไง?
ผู้ดูแลจ้งไม่แน่ใจว่าตัวเองคาดหวังให้ผลตรวจดีเอ็นเอครั้งนี้ออกมาแบบไหน ไม่รู้ว่าอยากให้ผลตรวจดีเอ็นเอต่างกับครั้งแรกหรือเปล่า?
ถ้าหากผลตรวจดีเอ็นเอครั้งนี้ต่างกับครั้งแรก นั่นแสดงว่าเด็กสาวคนนี้ไม่ใช่ลูกสาวของหัวหน้า งั้นคุณหนูใหญ่ตระกูลถังก็อาจจะเป็นเจ้าหญิงตัวจริงของพวกเขา
แต่ว่า ถ้าหากเป็นอย่างนี้จริง ๆ แสดงว่าเรื่องนี้ร้ายแรงแล้ว เพราะมีคนกล้าทำเรื่องชั่วแบบนี้ได้ และยังทำในที่ของอะเหลียงด้วย สามารถตบตาเจ้าเก้ากับยู่หานได้ เกรงว่าจะไม่ใช่คนทั่วไปที่ทำเรื่องแบบนี้?
แววตาของผู้ดูแลจ้งดูวุ่นวายสับสนเป็นอย่างมาก
หลังจากที่อะเหลียงกลับไป ซ่างกวนหงก็มองไปที่ผู้ดูแลจ้งแวบหนึ่ง จากนั้นก็วาดภาพเหมือนของเขาต่อไป
เพราะเมื่อครู่เขาเสียสมาธิ ทำให้บนภาพวาดมีรอยเปื้อน ตอนนี้ซ่างกวนหงได้แต่มองภาพวาดอยู่อย่างนั้น โดยไม่ลงมือวาดสักที
“หัวหน้าครับ?” ผู้ดูแลจ้งตะลึงเล็กน้อย ก่อนหน้านี้เวลาหัวหน้าวาดภาพเหมือน ไม่มีทางยอมให้เกิดข้อผิดพลาดแม้แต่น้อย ก่อนหน้านี้ถ้าหากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น หัวหน้าคงทำลายภาพเหมือนที่มีรอยเปื้อนนี้ทิ้งไปโดยไม่ลังเลแล้ว
แต่ตอนนี้หัวหน้ากลับลังเล หัวหน้ากำลังลังเลอะไรอยู่เหรอ?
หรือว่าตอนนี้หัวหน้ากำลังคิดอะไรอยู่?
“นายคิดอะไรเหรอ?” ซ่างกวนหงยังคงมองภาพเหมือนอยู่ แต่จู่ ๆ ก็เอ่ยถามผู้ดูแลจ้งขึ้นมาประโยคหนึ่ง