ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 969 เทพธิดาเวินออกโรง เปิดเผยความจริง (2)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 969 เทพธิดาเวินออกโรง เปิดเผยความจริง (2)
“เห็นหรือยัง ว่าลูกไม่ต้องการให้เธอเข้ามายุ่งวุ่นวาย และไม่ยินยอมให้คนที่เธอพามาช่วยเหลือ นักข่าวก็พูด หากลูกไม่ยินยอม พวกเขาจะเข้ามาก้าวก่ายไม่ได้ ดังนั้น เธอพาคนของเธอกลับไปซะ”ในตอนนี้หลี่หมิงก็ยิ่งมีความมั่นใจมากขึ้น เพราะนักข่าวก็‘ช่วย’เขายืนยันแล้ว
“หลี่หมิง คุณมีเหตุผลหน่อย ลูกยังเด็ก แต่คุณเป็นผู้ใหญ่แล้ว คุณเองก็น่าจะรู้ว่าเรื่องนี้มันจะเป็นผลดีกับลูก คุณจะทำให้ลูกเข้าใจผิดไม่ได้ ” คุณหลิวในตอนนี้ทั้งเป็นทุกข์และเป็นกังวล เธอคิดว่าที่ลูกทำแบบนี้เพราะหลี่หมิงอธิบายแต่เรื่องผิดๆ
“ฉันไม่ได้พูดอะไรกับลูก ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นของลูก ลูกไม่ใช่เด็กอายุสามขวบอีกต่อไปแล้ว เธอโตพอจนรู้เรื่องแล้ว”
“แม่ นี่เป็นความคิดของหนูเองจริงๆ ไม่ใช่พ่อสั่งสอนหนูมาทำให้แบบนี้ หนูไม่เชื่อพวกเขาเอง ไม่ต้องการให้พวกเขามาวุ่นวายกับเรื่องของหนู”เด็กหญิงยืนไปตรงข้างพ่อของเธอ พูดแทนพ่อ ด้วยท่าทีที่มุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว
“เสี่ยวยวี่ ลูกยังเด็ก ยังไม่รู้ความ เรื่องนี้เราจำเป็นต้องให้พวกเขามาช่วยเหลือเราจริงๆ”คุณหลิวยังคงพยายามเกลี้ยกล่อมลูกสาว
“หนูบอกแล้วว่าหนูไม่ต้องการความช่วยเหลือจากพวกเขา ทำไมต้องมาบังคับหนูด้วย ? คุณมีจุดประสงค์อะไรกันแน่ ? เป็นจริงอย่างที่พ่อพูดใช่ไหม แม่รับเงินของตระกูลถัง และช่วยตระกูลถังมาทำร้ายหนู ? ”แต่ว่า เด็กหญิงไม่เพียงไม่ได้ยินในสิ่งที่คุณหลิวอธิบาย แต่กลับมีอารมณ์โมโห คำพูดของเด็กหญิง สร้างความตกใจให้กับทุกคน
“ไม่ใช่นะ แม่ไม่ได้ทำอย่างนั้น เพราะแม่เห็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับลูก แล้วได้สอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น จากนั้นก็รู้ว่าพวกเขาสามารถช่วยลูกได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่แม่ติดต่อไปหาพวกเขา แม่ไม่เคยรับเงินของตระกูลถัง และแม่ก็ไม่มีทางรับเงินจากตระกูลถังแน่นอน”คำพูดนี้ หลี่หมิงเคยพูดเอาไว้ก่อนหน้า ตอนนั้นคุณหลิวเพียงรู้สึกโกรธ แต่ตอนนี้ลูกสาวเป็นคนพูดคำนี้ มันทำให้หัวใจของคุณหลิวแตกสลาย
ทำไมลูกถึงได้เข้าใจเธอผิดแบบนี้ ?
“เธออย่าพูดเหลวไหลอีกเลย ลูกพูดชัดเจนแล้ว ไม่ต้องการให้เธอมายุ่งกับเรื่องนี้ ดังนั้น เธอ และคนที่เธอพามาไม่มีสิทธิ์มายุ่งวุ่นวายกับเรื่องนี้ ไปให้หมดทุกคนเลย ”หลี่หมิงเอ่ยปากไล่คนอีกครั้ง แล้วลากคุณหลิวออกไปด้านนอกทันที
“หลี่หมิงปล่อยฉันนะ”คุณหลิวพยายามดิ้นขัดขืน แต่ด้วยแรงของหลี่หมิงที่มีมากกว่า คุณหลิวจึงทำไม่สำเร็จ
“ฉันบอกแล้ว ว่าเรื่องนี้เธอไม่มีสิทธิ์มายุ่ง ขืนพวกเธอยังอยู่ต่อ ฉันจะแจ้งตำรวจ” หลี่หมิงลากคุณหลิวมาถึงประตู จากนั้นก็หันไปหาเจ้าหน้าที่โจวเท่อ
แน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะลากตัวเจ้าหน้าที่โจวเท่อแต่คำพูดขู่ของเขานั้นมันชัดเจน
และเขายังบอกอีกว่าจะแจ้งตำรวจ !
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเด็กหญิงก็ผ่านมาตั้งหลายวันแล้วเขายังไม่คิดที่จะแจ้งตำรวจเลย แต่ตอนนี้กลับบอกว่าจะแจ้งความ ทุกคนที่ได้ยินคำพูดนี้ ต่างก็รู้สึกตลกไม่น้อย
ไม่เข้าใจว่าในหัวสมองของชายคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ ?
แต่ท่าทีของหลี่หมิงในตอนนี้มุ่งมั่นมาก และท่าทีของลูกสาวก็มุ่งมั่นด้วยเช่นกัน
“คุณหลิว ต้องขอโทษด้วยจริงๆ หากคุณหลี่และลูกสาวของคุณยังยืนกรานแบบนี้ เราไม่สามารถจะเข้าไปช่วยเหลือได้จริงๆ”
ในตอนนี้เจ้าหน้าที่โจวเท่อก็จนปัญญาแล้วจริงๆ
เขาเห็นใจเด็กหญิงจริงๆ แต่ผู้เสียหายไม่ต้องการความช่วยเหลือจากพวกเขา แล้วพวกเขาจะเข้าไปก้าวก่ายอะไรได้ ?
พวกเขาจะไปบังคับก็ไม่ได้ !!
“เจ้าหน้าที่โจวเท่อ คุณอย่าเพิ่งไป คุณต้องช่วยลูกของฉัน ช่วยเธอก่อน” คุณหลิวรั้งเจ้าหน้าที่โจวเท่อที่กำลังจะจากไป
“คุณหลิว ขอโทษจริงๆ ถึงเราจะเป็นมูลนิธิพิทักษ์สตรีและเด็กประชาชาติ แต่เราจะไม่สนใจผู้เสียหายแล้วไปบังคับเธอไม่ได้ ขอได้โปรดคุณหลิวเข้าใจเราด้วย ”เจ้าหน้าที่โจวเท่อ ถอนหายใจแล้วส่ายหัว
คุณหลิวยังคงขวางอยู่ที่ประตู เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า :“เจ้าหน้าที่โจวเท่อ ลูกสาวฉันไม่ยินยอมให้คุณช่วยเหลือ แต่ฉันต้องการความช่วยเหลือจากคุณ หลี่หมิงใช้ความรุนแรงในครอบครัว ใช้ความรุนแรงกับลูก ฉันจะฟ้องเขา พวกคุณเป็นมูลนิธิพิทักษ์สตรีและเด็ก เรื่องนี้พวกคุณเข้ามาดูแลได้ใช่ไหม ?”
เจ้าหน้าที่โจวเท่อตกตะลึงเล็กน้อย :“เรื่องแบบนี้ เราให้ความช่วยเหลือได้ แต่ตอนนี้พวกคุณแยกกันแล้ว และมันก็เป็นเรื่องในอดีตไปแล้ว หลักฐานบางอย่างคุณเองก็คงจะหามาไม่ได้แล้ว และเรื่องนี้กับเรื่องของลูกสาวคุณมันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง……”
เจ้าหน้าที่โจวเท่อพูดไปตามเนื้อผ้า เพราะเรื่องใช้ความรุนแรงในครอบครัวกับเรื่องเด็กหญิงนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
“คุณหลิว ผมรู้ว่าคุณอยากช่วยลูกสาว คุณทำแบบนี้ คงจะช่วยเรื่องลูกสาวของคุณไม่ได้ เพราะท่าทีของลูกสาวคุณ……”เจ้าหน้าที่โจวเท่อยังพูดไม่ทันจบ แต่ความหมายก็สื่อชัดเจน
ท่าทีของลูกสาวเมื่อครู่ทุกคนต่างก็เห็น ท่าทีของลูกสาวนั้นเอนเอียงไปยังผู้เป็นพ่ออย่างเห็นได้ชัด ต่อให้ที่คุณหลิวพูดจะเป็นเรื่องจริง และต่อให้หลี่หมิงจะทุบตีลูกสาวจริง
อาจเพราะเด็กหญิงอยากจะปกป้องคนเป็นพ่อ ก็ไม่แน่ว่าเธอจะยอมรับ หากเป็นแบบนั้นจริงๆ เรื่องที่คุณหลิวพูดก็ยิ่งจะดำเนินการยากเข้าไปใหญ่
อีกทั้งเรื่องทั้งหมดก็เป็นอดีตไปแล้ว ยากที่จะหาหลักฐานมาได้
“ไม่ ไม่ใช่เรื่องในอดีต เมื่อวันก่อนหลี่หมิงก็ยังไปทำร้ายฉันในที่พักของฉัน เมื่อวันที่ 20ที่ผ่านมานี้เอง ใช่ มันเป็นวันที่20 และลูกสาวของฉันก็เกิดเรื่องขึ้นในคืนวันนั้น และวันนั้นหลี่หมิงก็ยังบังคับฉัน และยังข่มขู่ฉันห้ามไม่ให้พูด ไม่อย่างนั้นเขาจะฆ่าลูกสาวของเรา ฉันจะฟ้องเขา และจะขอความช่วยเหลือจากพวกคุณ” คุณหลิวได้โพล่งคำพูดออกมาอีกครั้งจนทำให้ผู้คนต่างก็ตะลึงงัน
หากเป็นไปตามคำพูดของคุณหลิว ในวันที่เด็กหญิงประสบเหตุ หลี่หมิงยังมาหาคุณหลิวที่ห้องพัก บังคับเธอ และทำร้ายเธอ ?
ทันทีที่คุณหลิวพูดจบ เธอก็ถกแขนเสื้อขึ้น และทุกคนก็เห็นแผลที่แขนของเธอ แม้ว่าจะผ่านไปหลายวันแล้ว แต่แผลนั้นก็ยังชัดเจน
“เธอพูดเหลวไหลอะไร ? วันนั้นฉันไม่ได้ไปหาเธอ เธออย่ามาใส่ร้ายฉันนะ” สีหน้าของหลี่หมิงเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด และก็ร้อนรนขึ้นมาทันที
“เจ้าหน้าที่โจวเท่อ คุณต้องช่วยฉันนะ และวันนั้นกว่าหลี่หมิงจะกลับก็ดึกมากแล้ว ฉันมีเหตุที่จะสงสัยว่าเป็นเพราะเขาไม่ได้ดูแลลูกให้ดี เลยทำให้เกิดเรื่องขึ้นกับลูก เพราะฉะนั้นคุณต้องช่วยฉันนะ ตอนนี้ไม่ว่าคนอื่นจะยังไง ฉันวิงวอนขอพวกคุณช่วยฉันด้วย”คุณหลิวไม่ได้สนใจหลี่หมิง แต่กลับอ้อนวอนขอร้องเจ้าหน้าที่โจวเท่อ
“หากเป็นอย่างที่คุณพูด เรื่องนี้เราจำต้องให้ความช่วยเหลืออย่างแน่นอน แต่เรื่องนี้เราจำเป็นต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน หากมีความจำเป็นเราอาจจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย” เมื่อเจ้าหน้าที่โจวเท่อได้ยินสิ่งที่คุณหลิวพูด ก็ไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน จากนั้นก็พยักหน้ารับ
คำพูดของเจ้าหน้าที่โจวเท่อมีเหตุมีผล ไร้ข้อกังขาใดๆ