ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 977 คุณชายสามเย่ถูกเปิดโปงเสียแล้ว
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 977 คุณชายสามเย่ถูกเปิดโปงเสียแล้ว
เธอไม่ใช่คนประเภทร้องไห้ฟูมฟาย จากนั้นก็โวยวาย สุดท้ายก็ไปผูกคอตาย ซึ่งเธอเองก็ดูถูกคนประเภทนี้มาก ดังนั้นเธอไม่มีทางทำแบบนี้เด็ดขาด
เธอรู้สึกว่าทุกเรื่องราว วิธีที่ดีที่สุดก็คือแก้ไขปัญหาดีๆ จากกันด้วยดี
ใช่แล้ว แบบนี้แหละ!
เวินลั่วฉิงพูดจบก็หลุบสายตา ไม่มองเย่ซือเฉินอีก
ใช่ เธอรู้สึกว่าควรเป็นแบบนี้ แต่หลังจากที่เธอพูดออกมาอย่างจริงจังแล้ว กลับพบว่าตัวเองไม่ได้ชิวอย่างที่ตัวเองคิดไว้
อารมณ์ของเธอก็ไม่ได้ผ่อนคลายอย่างที่เธอคิด บัดนี้เธอรู้สึกว่าหัวใจช่างทรมาน ช่างเจ็บปวดเหลือเกิน
เธอมีหัวใจ เมื่อเธอใช้หัวใจกับรักครั้งนี้แล้ว ดังนั้นจึงรู้สึกเจ็บปวดจริงๆ!
คบกันด้วยกัน แล้วก็จากกันด้วยดี มันไม่ได้ง่ายอย่างนั้นเลย
ทว่าคุณชายสามเย่มีสุดที่รักแล้ว เธอคงตามตอแยเย่ซือเฉินไม่ได้มั้ง?!
เธอทำอย่างนั้นไม่ลง
“เวินลั่วฉิง ทำไมผมถึงอยากกัดคุณให้ตายขนาดนั้นนะ”เย่ซือเฉินมองเธอพร้อมกับขบฟันกล่าว ผู้หญิงคนนี้จงใจมาทำให้เขาโกรธ
ไม่ให้เธอพูด แต่เธอดันพูดออกมา และเขาก็จนปัญญากับเธอจริงๆ
คำข่มขู่ พูดแรงแล้วจะมีประโยชน์อะไร?เขาทำกับเธอไม่ลง
ทำร้ายเธอไม่ลงเลยสักนิด
เวินลั่วฉิงมองเขาแล้วเห็นความโกรธในแววตา เขาอยากกัดเธอให้ตาย?มีสิทธิ์อะไร?
เธอก็อยากกัดเขาเหมือนกัน มันเป็นความผิดของเขานะ
“คุณหึงผม ผมดีใจ แต่คุณก็ต้องแยกแยะหน่อยไหม ไม่ใช่จะหึงไปทั่วทุกคน”
คุณชายสามเย่โทรติดต่อกันหลายครั้ง แต่จื่อซีสุดที่รักก็ยังไม่รับสาย คาดว่าคงหลับแล้วมั้ง วันนี้คงไม่รับสายแล้ว
เวินลั่วฉิงมองเขาแวบหนึ่ง แต่ไม่ได้พูดอะไร
“ฉิงฉิง คุณหึงใครก็ได้ ยกเว้นคนนี้ คุณไม่ควรหึงจริงๆ”คุณชายสามเย่รู้ว่าเมื่อจื่อซีสุดที่รักไม่รับสาย งั้นเขาก็ต้องอธิบายเรื่องนี้แล้วละ
จื่อซีสุดที่รักบอกเขาว่าไม่ต้องให้คุณแม่รู้ แต่ตอนนี้คงปิดไม่มิดแล้ว เขาก็ไม่อยากปิดด้วย วันนั้นจื่อซีสุดที่รักโทรหาเขาต่อหน้าคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา เขาก็เริ่มทำกรรมสิทธิ์โอนย้ายบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปเป็นชื่อของจื่อซี ไม่กี่วันก็จะได้เซ็นชื่อกันแล้ว ตอนนั้นเวินลั่วฉิงต้องรู้แน่ๆ
เวินลั่วฉิงเลิกคิ้ว ไม่เข้าใจความหมายของเขา แต่บัดนี้คุณชายสามเย่คิดจะอธิบาย เธอจึงตั้งใจฟัง
อันที่จริงในใจเธอยังเชื่อมั่นใจตัวเย่ซือเฉิน เธอรู้ความรู้สึกที่เย่ซือเฉินมีต่อเธอดี
เย่ซือเฉินพูดถูก เมื่อกี้เธอหึง และเป็นเพราะหึงเธอจึงโกรธ วู่วาม ดังนั้นเมื่อกี้เธอเหมือนจะโวยวายโดยไร้เหตุผลจริงๆ
แน่นอน เธอก็แค่อยากให้เขาอธิบายเท่านั้น
“ฉิงฉิง เธอเป็นสุดที่รักของผม”เย่ซือเฉินยื่นมือถือไปยังด้านหน้าเวินลั่วฉิง“เธอก็เป็นสุดที่รักของคุณด้วย”
คุณชายสามเย่รู้ว่าหากหดตัวก็เจอมีด ยื่นหัวออกมาก็เจอมีดเช่นกัน สถานการณ์ตอนนี้ไม่มีทางให้ถอยหลังเลย
เดิมทีเธอปิดบังเรื่องลูกกับเขา ถือเป็นความผิดเธอ ทว่าตอนนี้เพราะเขาปิดบังเรื่องเขากับจื่อซีสุดที่รักนับพ่อนับลูกกันแล้ว เขาจึงกลายเป็นคนพูดเหตุผลได้ไม่เต็มปาก
ทันใดนั้นคุณชายสามเย่รู้สึกว่าลูกสาวผู้เข้าอกเข้าใจตนได้ขุดหลุมให้เขาอีกครั้ง
ลูกสาวผู้ที่เป็นห่วงเขาชอบขุดหลุมให้เขาเป็นประจำ
คุณชายสามเย่แอบถอนหายใจ จากนั้นก็รายชื่อ สุดที่รัก เจอ จากนั้นก็กดเข้าไป “คุณดูเบอร์นี้สิ คุ้นไหม?”
เวินลั่วฉิงมองตามที่เขาบอก ตอนสายเข้าเมื่อกี้ปรากฏแค่ชื่อ สุดที่รัก ไม่ได้แสดงเบอร์โทรศัพท์ ตอนนี้เวินลั่วฉิงเห็นเบอร์ก็ต้องเบิกตากว้าง
เธอต้องคุ้นกับเบอร์นี้อยู่แล้ว ไม่ใช่เบอร์ของจื่อซีสุดที่รักหรอกหรือ?
เย่ซือเฉินมีเบอร์โทรของจื่อซีสุดที่รักได้อย่างไร?
คุณชายสามเย่ยังบันทึกเบอร์ของจื่อซีว่าสุดที่รักอีก?
ดังนั้น……
เวินลั่วฉิงเป็นคนฉลาด เมื่อกี้เธอใจร้อนไม่ได้คิดให้ละเอียด ตอนนี้เข้าใจหมดแล้ว เพียงแต่เย่ซือเฉินรู้เรื่องจื่อซีตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
เย่ซือเฉินรู้เรื่องจื่อซี แล้วจื่อโม่ล่ะ?
เย่ซือเฉินรู้เรื่องจื่อโม่หรือยัง?
เวินลั่วฉิงจ้องเบอร์มือถือ พลางกะพริบตาปริบๆ
“ฉิงฉิง คุณควรอธิบายอะไรไหมใช่หรือไม่?”ถึงแม้เวลานี้คุณชายสามเย่จะรู้สึกไม่ใช่ฝั่งที่มีเหตุผลมากพอจนได้เปรียบ ถึงจะรู้สึกผิดที่ปิดบัง แต่เขาก็พูดไว้ก่อน
“ไม่ใช่คุณอธิบายให้ฉันหรอกหรือ?”ทว่าบัดนี้เวินลั่วฉิงได้สติปัญญากลับคืนมาแล้ว เธอเงยหน้าจ้องมองเขาอย่างไม่ละสายตา
คุณชายสามเย่ชะงัก ดังคาด หลอกเธอไม่ได้เลยจริงๆ
ถูกลูกสาวเขาขุดหลุมอีกแล้วจริงๆ
“จื่อซีสุดที่รักเป็นคนไปหาผมเอง บอกว่ายังไม่ต้องบอกคุณ ถึงเวลาจะเซอร์ไพรส์ให้คุณเอง”เวลานี้คุณชายสามเย่ก็ไม่กล้าโต้เถียงอะไรมากนัก ถึงแม้เดิมทีเขาเป็นฝ่ายได้เปรียบในเรื่องเหตุผลก็ตาม
หลังจากถูกลูกสาวขุดหลุมฝังติดต่อกันหลายครั้ง คุณชายสามเย่ก็หักหลังจื่อซีสุดที่รักอย่างไม่ลังเล
ในใจคุณชายสามเย่รู้ดี ไม่ว่าจื่อซีสุดที่รักจะทำอะไรแต่ก็ยังเป็นลูกสาวแท้ๆของเธอ
แต่เขาไม่ใช่ เธอไม่มีวันโกรธจื่อซีสุดที่รัก แต่มีความเป็นไปได้ที่จะโกรธเขา
เวินลั่วฉิงมองเขาโดยไม่พูดจา เหมือนกำลังรอให้เขาพูดต่อ
อันที่จริงเวินลั่วฉิงกำลังรอเขาพูดต่อจริงๆ เธออยากรู้ว่าเขารู้เรื่องจื่อโม่หรือยัง
แต่แววตาของเวินลั่วฉิงในขณะนี้กลับทำให้คุณชายสามเย่เข้าใจไปอีกทาง
“ฉิงฉิง ผมรู้ว่าไม่ควรปิดบังคุณ”คุณชายสามเย่แอบถอนหายใจ ตัดสินใจยอมรับผิดในการจ้องมองของเธอ:“ฉิงฉิง เป็นความผิดของผม เป็นความผิดของผมทั้งหมด ผมไม่ควรปิดบังคุณ”
“ตอนที่จื่อซีสุดที่รักมาหาผม ผมดีใจมากเกินไป ตื่นเต้นมากเกินไป ผมไม่เคยคิดไม่เคยฝันเลยว่าผมจะมีลูกสาวหนึ่งคน ผมคิดไม่ถึงว่า……”คุณชายสามเย่นึกถึงภาพตอนนั้นก็อดตื่นเต้นไม่ได้
“ออ”เวินลั่วฉิงกลับตอบรับเบาๆหนึ่งคำ จากคำพูดของเขา เวินลั่วฉิงเข้าใจแล้วว่า เขารู้เพียงจื่อซี ยังไม่รู้เรื่องจื่อโม่
ดังนั้นตอนนั้นมีเพียงจื่อซีไปหาเขา ส่วนจื่อโม่ก็น่าจะหลบเขาอยู่
เวินลั่วฉิงรู้ว่าต้องเป็นความคิดจื่อโม่แน่ๆ ซึ่งแสดงว่าจื่อโม่ยังไม่ได้นับพ่อนับญาติกับเขา หรืออาจเรียกได้ว่าจื่อโม่ยังไม่อยากนับพ่อกับเขา
บัดนี้เวินลั่วฉิงคิดแต่เรื่องจื่อโม่ จึงไม่ได้นึกถึงเรื่องอื่น
“ฉิงฉิง ขอบคุณคุณนะ”คุณชายสามเย่เห็นการตอบสนองของเธอที่มีเพียงเล็กน้อย จึงรู้สึกอึ้ง เขาคิดว่าเธอจะโกรธ แต่ที่ไหนเธอแค่ตอบสนองอย่างเรียบเฉยเท่านั้น
“ไม่ต้องขอบคุณ”เวินลั่วฉิงหัวเราะกะทันหัน เธอนึกถึงเรื่องจื่อโม่ให้จื่อซีไปนับพ่อกับเย่ซือเฉินคนเดียว คาดว่าจื่อโม่น่าจะมีแผนการอื่น
เวินลั่วฉิงไม่ก้าวก่ายความคิดของลูกชายอยู่แล้ว อีกอย่างเวินลั่วฉิงรู้ว่าตอนนี้จื่อโม่รู้สึกสับสนในความรู้สึกที่มีต่อเย่ซือเฉินเล็กน้อยดังนั้นเธอคิดว่าปล่อยให้จื่อโม่ใช้วิธีการของตัวเองไปนับพ่อกับเย่ซือเฉิน เช่นนี้ถึงจะยอมรับเย่ซือเฉินอย่างสนิทใจ
เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าเป็นเรื่องระหว่างพ่อลูก เธอไม่ควรแทรกแซง
ต่อจากนี้ หวังว่าเย่ซือเฉินจะผ่านบททดสอบของจื่อโม่อย่างราบรื่น
ทว่าเธอรู้จักลูกชายตัวเองดี เรื่องที่จื่อโม่จะทำ ไม่มีทางเป็นเรื่องเล็กๆที่มีหรือไม่มีก็ได้อย่างแน่นอน ดังนั้นการนับลูกของเย่ซือเฉินคงต้องลำบากแล้วละ
จู่ๆเวินลั่วฉิงก็รู้สึกสงสารคุณชายสามเย่ขึ้นมา ไม่รู้ว่าจื่อโม่จัดกระบวนท่าไหนให้คุณชายสามเย่ไว้
“ฉิงฉิง ผมไม่ตั้งใจปิดบังคุณจริงๆ ผมกำลังโอนกรรมสิทธิ์บริษัทตระกูลเย่กรุ้ปให้จื่อซี ตอนนี้กำลังดำเนินการอยู่ ไม่นานคุณก็ต้องรู้แน่นอน ดังนั้นผมไม่ได้คิดจะปิดบังคุณเลย”เวินลั่วฉิงยิ่งตอบสนองอย่างใจเย็นเท่าไหร่ คุณชายสามเย่ก็ยิ่งรู้สึกผิดในใจมากเท่านั้น
เวลานี้คุณชายสามเย่มองรอยยิ้มบนใบหน้าเวินลั่วฉิงพลันรู้สึกขนลุก คุณชายสามเย่รู้สึกมีลางสังหรณ์ไม่ดียังไงไม่รู้
เวินลั่วฉิงได้ยินคุณชายสามเย่บอกว่าจะมอบบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปให้จื่อซีก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่นั่นก็เป็นเรื่องของพ่อกับลูกสาว เวินลั่วฉิงจึงไม่ได้ถามอะไรมาก
“อืม”เวินลั่วฉิงตอบเสียงเบาหนึ่งคำ
“โกรธแล้วเหรอ?”หัวใจคุณชายสามเย่ยิ่งขนลุกกว่าเดิม การตอบสนองของเธอถือว่าปกติหรือ?
ปกติหรือ?
เธอโกรธแล้วใช่ไหม?
“ไม่ได้โกรธ”เวินลั่วฉิงยิ้มอย่างสดใส เธอไม่ได้โกรธจริงๆ เธอแค่กังวลแทนคุณชายสามเย่เท่านั้นเอง กังวลว่าคุณชายสามเย่จะรับบททดสอบอันยิ่งใหญ่ของจื่อโม่ไม่ไหว
คุณชายสามเย่มองใบหน้าที่ประดับรอยยิ้มของเธอ อยากสังเกตเห็นถึงความผิดปกติ แต่เธอยิ้มได้สดใสมาก ไม่เหมือนโกรธเลยสักนิด คุณชายสามเย่จึงรู้สึกสงสัยในใจ รู้สึกไม่ชอบมาพากล แต่ก็บอกไม่ถูกว่ารู้สึกมีลับลมคมในตรงไหน
ซึ่งเวลานี้นี่เอง ด้านนอกก็ส่งเสียงวุ่นวายเข้ามากะทันหัน