ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 983 พ่อลูกดวลกัน วิธีขั้นเทพของคุณชายสามเย่ (2)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 983 พ่อลูกดวลกัน วิธีขั้นเทพของคุณชายสามเย่ (2)
“สู่ขออะไร?ไม่มี?คุณไม่ต้องฟังคนอื่นพูดเรื่อยเปื่อย ซือเฉินของผมยอดเยี่ยมมาตั้งแต่เด็ก คนอยากแต่งงานด้วยเบียดกันจนหัวแตกแล้ว ยังจำเป็นต้องให้ผมไปสู่ขออีกหรือ?ถึงแม้คุณหนูถังจะมากฝีมือ คนอย่างคุณหนูถังเผด็จการ เลือดเย็นที่สุด คนอย่างนี้แต่งงานด้วยไม่ได้เด็ดขาด ตระกูลเย่ของพวกเราจะแต่งผู้หญิงอย่างนี้เข้าบ้านได้อย่างไรครับ”
ท่านปู่ถังได้ยินประโยคนี้พลันโกรธจนความดันขึ้น คุณปู่เย่สามารถตีตัวออกห่างตระกูลถังได้ แสร้งทำเป็นไม่รู้จักท่านได้ ทว่าจะมานินทาฉิงฉิงไม่ได้
ตอนนั้นท่านปู่ถังเปิดประตูเดินออกมา เมื่อคุณปู่เย่เห็นท่านปู่ถังสีหน้าพลันเปลี่ยนไป ทว่าสุดท้ายคุณปู่เย่ก็ไม่ได้แยแสท่านปู่ถัง แค่หันไปยังเพื่อนอีกคน “สิ่งที่ผมพูดเมื่อกี้เป็นความจริง ต่อหน้าท่านปู่ถังผมก็พูดอย่างนี้แหละ”
เห็นได้ชัดว่าตอนนั้นคุณปู่เย่มั่นใจเหลือเกินว่าจะจัดการเรื่องถังหยุนเฉิงไม่ได้ ดังนั้นเขาไม่ได้เกรงใจท่านปู่ถังเฉกเช่นปกติแล้ว
“คุณว่าฉิ้นเอ๋อของผมไม่คู่ควรตระกูลเย่งั้นหรือ คุณจำคำนี้ไว้ดีๆนะ”ท่านปู่ถังเป็นคนมีสติควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าเป็นงานแต่งบ้านของเพื่อนเลย ท่านปู่ถังจึงไม่ได้โวยวายใหญ่โต ตอนนั้นแค่ทิ้งประโยคนั้นไว้ให้กับคุณปู่เย่
“ท่านปู่ถังโกรธอะไรกันครับ ผมแค่พูดไปตามความจริงไม่กี่ประโยค คุณไม่จำเป็นต้องเดือดร้อนเพียงนี้เลยครับ เรื่องของถังหยุนเฉิงใหญ่โต คุณควรจะเดือดร้อนเรื่องนั้นนะ”คุณปู่เย่ถูกตบหน้าแล้วยังเจอท่าทางเช่นนี้ของท่านปู่ถังอีก ทำให้รู้สึกอับอายจนโมโหขึ้นมา
อีกทั้งเขามั่นใจว่าครั้งนี้ตระกูลถังบรรลัยแน่ จึงไม่ได้เห็นท่านปู่ถังอยู่ในสายตา
ดังนั้นคุณปู่เย่จึงสบประมาทท่านปู่ถังต่อหน้าต่อตา
เรื่องถังหยุนเฉิงเอิกเกริกใหญ่โต รุนแรงมาก ถึงแม้เวินลั่วฉิงจะคอยบอกพวกท่านว่ามีวิธีแก้ไขปัญหา ทว่าเมื่อเรื่องมันดำเนินมาถึงขั้นนี้ จึงรู้สึกวิตกกังวลและเป็นห่วงอย่างยิ่ง
ได้ยินคำพูดของคุณปู่เย่ สีหน้าท่านปู่ถังอดเปลี่ยนไม่ได้“คุณปู่เย่ จำทุกคำที่คุณพูดในวันนี้ให้ดี อย่าเสียใจภายหลังละ”
ท่านปู่ถังเชื่อลูกชายของตัวเองและเชื่อมั่นในความสามารถของฉิงฉิง ท่านรู้ว่าความจริงเรื่องของถังหยุนเฉิงต้องปรากฏ ถึงเวลานั้นหวังว่าคุณปู่เย่จะไม่เสียใจกับคำพูดวันนี้
“ผมมีอะไรต้องเสียใจด้วย เดิมทีตระกูลเย่กับตระกูลถังก็ไม่ได้มีสัมพันธไมตรีอยู่แล้ว ถังหยุนเฉิงทำเรื่องไร้ยางอายอย่างนั้น คุณเป็นพ่อก็มีส่วนด้วยรับผิดชอบด้วย อันนี้ก็คือลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นยังไงละ”คุณปู่เย่รู้สึกว่าไหนๆก็ถูกหักหน้าแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องทนอะไรทั้งนั้น ตอนนี้ตระกูลถังไม่ใช่ตระกูลถังในวันวานแล้ว
ท่านปู่ถังในตอนนี้ก็ไม่ใช่ท่านปู่ถังในวันวานเช่นกัน
“ช่างเถอะ ช่างเถอะ ทำอะไรต้องคำนึกถึงอนาคตบ้าง”อีกคนหนึ่งรีบมาห้ามคุณปู่เย่ แน่นอนคนนี้ก็รู้ข่าวถังหยุเนเฉิงเช่นกัน ทว่าเขารู้สึกว่าตระกูลถังคงไม่ย่อยยับหรอก
“กลัวอะไร ผมพูดเรื่องจริง”คุณปู่เย่ไม่เห็นด้วย เดิมทีเขาก็คิดว่าตระกูลถังสามารถจัดการกับปัญหาได้ แต่เรื่องบานปลายถึงขั้นนี้ตระกูลถังกลับไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เห็นได้ชัดว่าจะสลัดถังหยุนเฉิงทิ้ง เพื่อรักษาตำแหน่งของถังหลินไว้
ทว่าถังหยุนเฉิงเกิดเรื่องแล้วคิดจะปกป้องถังหลินคงไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก อนาคตของถังหลินก็พังทลายแน่นอน ตระกูลถังก็ต้องพินาศตามไปด้วย ดังนั้นตอนนี้ตระกูลถังไม่มีอะไรน่ายำเกรง
และเมื่อกี้เขาเผยธาตุแท้กับท่านปู่ถังแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเสแสร้งว่าปรองดองอีก
ท่านปู่ถังมองคุณปู่เย่พลันหัวเราะกะทันหัน ท่านรู้มาโดยตลอดว่าคุณปู่เย่เป็นอันธพาลที่ไร้ยางอาย ไร้บรรทัดฐาน ทำได้ทุกอย่าง เหมือนกับเรื่องคุณแม่เย่ซือเฉินในอดีต
ท่านรู้ความจริงเรื่องนั้นในอดีต คุณแม่ของเย่ซือเฉินไม่ผิดอะไร ทว่าคุณปู่เย่ไม่เพียงแต่ไล่แม่ของเย่ซือเฉินออกจากบ้านเท่านั้น ยังบังคับไม่ให้มาเจอหน้าเย่ซือเฉินอีกด้วย
พูดหลักการและเหตุผลกับคนพันนี้มันเปลืองน้ำลาย ดังนั้นท่านปู่ถังไม่ได้สนใจคุณปู่เย่ เดินออกจากห้องน้ำทันที
ท่านปู่ถังก็รู้ว่าเป็นการกระทำของคุณปู่เย่ฝ่ายเดียว ซึ่งไม่เกี่ยวกับเย่ซือเฉินเลย ทว่าเมื่อนึกถึงเรื่องวันนั้น ท่านปู่ถังก็อารมณ์เสียขึ้นมา
อีกทั้งท่านยังเป็นห่วงฉิงฉิงมาก ฉิงฉิงแต่งงานกับเย่ซือเฉินก็คือแต่งเข้าบ้านตระกูลเย่ คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ก็กลายเป็นผู้ใหญ่ของฉิงฉิงถึงเวลา……
เวลานี้ท่านปู่ถังกังวลว่าฉิงฉิงแต่งงานกับเย่ซือเฉินแล้วจะต้องลำบาก เมื่อก่อนท่านไม่เคยขัดขวางความรักระหว่างฉิงฉิงกับเย่ซือเฉินแต่ตอนนี้ท่านรู้สึกว่าต้องพิจารณาแล้วละ
“ซือเฉินวันนี้หยุนเฉิงจะกลับมา ฉันมีเรื่องต้องทำมากมาย ไม่ส่งนายแล้วนะ”ท่านปู่ถังมองไปยังเย่ซือเฉิน พลางเอ่ยวาจาไล่แขกทันที
เวินลั่วฉิงชะงักมองท่านปู่ถังด้วยความสงสัย
ประโยคนี้ของท่านปู่ถังเกือบไล่เย่ซือเฉินตรงๆแล้ว ปกติท่านย่าถังจะเป็นคนขัดขวางเรื่องของเธอกับเย่ซือเฉิน และหลังจากรู้ว่ามีลูกด้วยกันแล้ว ท่านย่าถังก็ไม่ขัดขวางอีกต่อไป
ซึ่งท่านปู่ถังรู้สึกดีกับเย่ซือเฉินมาโดยตลอด สนับสนุนให้เธอกับเย่ซือเฉินอยู่ด้วยกัน
ทว่าตอนนี้ท่านปู่ถังกลับไล่คนซะงั้น?
เมื่อก่อนท่านย่าถังไล่เย่ซือเฉินอย่างรุนแรง แต่ความจริงก็ขายไปตามเนื้อผ้าเท่านั้น
แต่เมื่อท่านปู่ถังพูดเช่นนี้ ต้องเป็นจริงอย่างแน่นอน
“ท่านปู่ถังเกิดอะไรขึ้นหรือครับ?”เย่ซือเฉินเป็นคนฉลาด เดาออกว่าต้องมีเรื่องเกิดขึ้นแน่ๆทันที ไม่เช่นนั้นท่านปู่ถังคงไม่แสดงท่าทีเช่นนี้หรอก
“นายกลับไปถามปู่ของนายเลย”ท่านปู่ถังไม่ได้ปิดบัง ท่านไม่ใช่จงใจยุแยงความสัมพันธ์ของปู่หลานพวกเขา แต่หากเย่ซือเฉินอยากอยู่กับฉิงฉิง งั้นปัญหาเรื่องตาเฒ่าตระกูลเย่ก็ต้องสะสาง!!
ท่านจะฉิงฉิงโดนรังแกไม่ได้เด็ดขาดและให้ฉิงฉิงลำบากไม่ได้
อันที่จริงเย่ซือเฉินก็พอจะคาดเดาได้ว่าต้องเกี่ยวข้องกับคุณปู่เย่เป็นแน่ บัดนี้ได้รับคำตอบแล้ว สีหน้าของเขาก็เคร่งขรึมอย่างเด่นชัด
“ท่านปู่ถังวางใจได้ครับ ผมจะจัดการเรื่องนี้ให้ดีครับ”เย่ซือเฉินเป็นคนฉลาด เขารู้ว่าท่านปู่ถังกำลังกังวลสิ่งใดอยู่ ดังนั้นเรื่องนี้เขาต้องจัดการให้ดีอย่างแน่นอน
สถานการณ์เช่นนี้ถึงจะพูดดีขนาดไหนก็ไร้ประโยชน์ ประเด็นคือการกระทำ ดังนั้นเย่ซือเฉินไม่ได้พูดอะไรมาก
“ผมกลับก่อนนะ”เย่ซือเฉินยิ้มอย่างอ่อนโยนให้เวินลั่วฉิง ไม่เผยความผิดปกติใดๆ และไม่มีทีท่าโกรธแต่อันใด