ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 992 ถูกลูกชายจัดการซะแล้ว คุณชายสามเย่งัดกลยุทธ์เด็ด นี่สิถึงจะสนุก! (1)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 992 ถูกลูกชายจัดการซะแล้ว คุณชายสามเย่งัดกลยุทธ์เด็ด นี่สิถึงจะสนุก! (1)
ที่จริงกู้หวูตั้งใจทำ เขาจงใจให้คนที่อยู่ห้องข้าง ๆ ได้ยิน จากนั้น เขาก็รอคอย รอให้เสียงกระดิ่งของห้องหมายเลข 10 ดังขึ้นตามติด ๆ เหมือนรอบก่อน……
ในเมื่อคนในห้องหมายเลข 10 ต้องการต่อกรกับลูกพี่ของเขา ก็คงไม่ปล่อยโอกาสนี้หลุดมือแน่นอน
แต่ว่าเสียงกระดิ่งจากห้องหมายเลข 10 ไม่ได้ดังขึ้นตามมาติด ๆ เหมือนอย่างรอบก่อน
ทว่า เงียบอยู่เพียงเสี้ยววินาทีเดียว เสียงกระดิ่งก็ดังขึ้น
กู้หวูกำลังคิดจะกดกระดิ่งซ้ำอีกรอบอยู่พอดี
“ไม่ใช่คนที่อยู่ในห้องหมายเลข 10” คุณชายสามเย่จู่ ๆ ก็เอ่ยพูดขึ้นมา คิ้วของเขาขมวดเป็นปมเล็กน้อย รู้สึกคาดไม่ถึงอย่างชัดเจน เขาคิดว่าการคาดคะเนของเขาไม่มีทางผิดพลาดแน่ ตามที่เขาคาดคะเนคนที่อยู่ในห้องหมายเลข 10 น่าจะกดกระดิ่งตามทันที แต่ตอนนี้……
“เป็นห้องหมายเลข 11 ครับ” กู้หวูมีทักษะการฟังที่เยี่ยมมาก ถึงแม้พิธีกรจะยังไม่ประกาศ แต่เขาก็ฟังออกทันที เพียงแค่เมื่อครู่นี้ยังไม่ทันตั้งตัว
“ลูกพี่ นี่มันอะไรกัน? มีคนโผล่มาแย่งเราอีกคนแล้วเหรอ?” กู้หวูในตอนนี้น่าจะรู้สึกช็อกจริง ๆ ช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ ไม่มีใครกล้าต่อกรกับคุณชายสามเย่แบบนี้มาก่อนเลย แต่วันนี้กลับโผล่มาตั้งสองคน?
เย่ซือเฉินเม้มปากเล็กน้อย แล้วเงียบไปครู่หนึ่ง พูดตามตรงสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ เขาเองก็รู้สึกคาดไม่ถึงเหมือนกัน
เมื่อครู่เขาเดาว่าคนที่อยู่ในห้องหมายเลข 10 น่าจะเป็นคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ แต่การกระทำของคนในห้องหมายเลข 10 ทำให้เขารู้สึกไม่มั่นใจแล้ว ตามหลักแล้วคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ไม่น่าจะเอาแต่ใจและปัญญาอ่อนแบบนี้
ตอนนี้มีห้องหมายเลข 11 โผล่มาอีกคนงั้นเหรอ? เขาเดาไม่ออกจริง ๆ ว่าอีกฝ่ายเป็นใครมาจากไหน
“ท่านประธาน พวกเขาจะเป็นพวกเดียวกันหรือเปล่า? ถ้าหากพวกเขาเป็นพวกเดียวกัน การที่พวกเขาทำแบบนี้เพราะต้องการให้พวกเราเสียสมาธิหรือเปล่า?” เลขาหลิวกังวลใจมากตลอดเวลา เป็นห่วงว่าวันนี้ท่านประธานจะเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์
เย่ซือเฉินเงยหน้าขึ้น แล้วมองเลขาหลิว แต่ไม่ได้พูดอะไร คนจากห้องหมายเลข 11 เพิ่งเคาะราคาแค่หนึ่งครั้ง เขาจึงยังไม่แน่ใจสถานการณ์ตอนนี้
ส่วนเรื่องที่คนในห้องหมายเลข 11 จะเป็นพวกเดียวกับห้องหมายเลข 10 ไหม? คำถามนี้เขาเองก็ยังตอบไม่ได้ เขาต้องสังเกตต่อไปอีกหน่อย
ในห้องหมายเลข 10 หัวหน้าน้อยมองไปทางอะเฉียงที่เป็นบอดี้การ์ด : “แกนี่ใจกล้าเข้าเรื่อยแล้วนะ”
เมื่อครู่นี้หัวหน้าน้อยกำลังคอยดูสถานการณ์ทางฝั่งเย่ซือเฉินอยู่ ดังนั้นตอนที่กู้หวูกดกระดิ่ง หัวหน้าน้อยก็จะกดกระดิ่งด้วยเช่นกัน แต่กลับถูกอะเฉียงรั้งเอาไว้
เพราะถูกอะเฉียงรั้งเอาไว้ จึงถูกคนจากห้องหมายเลข 11 แย่งไป
“หัวหน้าน้อย คุณดูสิครับมีคนแข่งกับคุณชายสามเย่แล้ว พวกเราไม่ต้องไปแย่งแล้ว” เมื่อครู่อะเฉียงหุนหันพลันแล่นไปหน่อย ตอนนี้เมื่อสบตากับหัวหน้าน้อยของตัวเองก็รู้สึกกลัวขึ้นมาเล็กน้อย แม้ว่าปกติหัวหน้าน้อยจะใจดีกับพวกเขามาก แต่ถ้าหากทำให้หัวหน้าน้อยโกรธขึ้นมา ผลที่ตามมานั้นน่ากลัวจนคิดไม่ถึงเลยล่ะ
“เมื่อกี้นี้เป็นคนที่อยู่ในห้องข้าง ๆ เราใช่ไหม? เป็นใคร?” หัวหน้าน้อยหันไปดูทางห้องหมายเลข 11 แต่มองไม่เห็นด้านใน จึงมองไม่ออกว่าในนั้นเป็นใคร
ครั้งนี้พิธีกรก็ไม่ได้เอ่ยชื่อออกมา ที่จริงปกติแล้วพิธีกรก็จะไม่เอ่ยชื่อออกมา แต่ก่อนหน้านี้ที่เอ่ยชื่อคุณชายสามเย่ออกมาเป็นเพราะต้องการให้ทุกคนรู้ว่าคุณชายสามเย่ต้องการของชิ้นนี้ เพื่อให้ทุกคนไม่ต้องแย่งกันอีก
แต่ตอนนั้นจู่ ๆ ห้องหมายเลข 10 ก็โผล่มาแย่งประมูลกับคุณชายสามเย่ พิธีกรจึงอยากให้คุณชายสามเย่รู้ว่าใครเป็นคนที่มาประมูลแย่งกับเขา ถือว่าเป็นการแสดงน้ำใจต่อคุณชายสามเย่ ดังนั้นพิธีกรจึงเอ่ยชื่อคุณมู่ที่อยู่ในห้องหมายเลข 10 ออกมา
แน่นอนว่าพิธีกรไม่รู้ฐานะที่แท้จริงของคุณมู่คนนี้ แม้แต่เจ้าของตึกสมาคมประมูลหงเยว่ก็ยังไม่แน่ใจ ดังนั้นคนที่อยู่ในงานจึงไม่มีใครรู้เลยสักคน
ถ้าไม่ใช่เพราะจู่ ๆ คุณมู่คนนี้มาแย่งประมูลของกับคุณชายสามเย่ ก็คงไม่มีใครสนใจเขาเป็นพิเศษหรอก
“ไม่รู้สิครับ” อะเฉียงส่ายหน้า ครั้งนี้หัวหน้าน้อยมาเพื่อคุณชายสามเย่เท่านั้น ดังนั้นเขาจึงแค่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับคุณชายสามเย่ ส่วนเรื่องอื่น ๆ เขาไม่ได้ไปสนใจ
“เป็นศัตรูของเย่ซือเฉินเหมือนกันเหรอ?” หัวหน้าน้อยกะพริบตา ไม่อยากจะเชื่อว่าจะได้พบพวกเดียวกันที่นี่?
ถ้าหากเป็นอย่างนี้ วันนี้ก็คงยิ่งสนุกไปกันใหญ่
“อาจจะใช่มั้งครับ ถ้าเป็นอย่างนี้จริง ๆ พวกเราก็ไม่ต้องไปแข่งกับคุณชายสามเย่เองแล้ว ปล่อยให้พวกเขาต่อกรกันไป พวกเราคอยดูให้สนุกก็พอ” อะเฉียงถอนหายใจออกมาเล็กน้อย เขาหวังจะให้มันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ
“อืม ความคิดนี้ไม่เลว งั้นพวกเราคอยดูไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน” หัวหน้าน้อยรู้สึกสนุกขึ้นมาทันที ได้ดูอะไรสนุก ๆ แบบนี้เป็นสิ่งที่เขาชอบที่สุดแล้ว
ฉู่หลิงเอ๋อที่อยู่ในห้องหมายเลข 11 ตอนนี้กดกระดิ่งด้วยความตกตะลึงเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่ายังตั้งสติไว้ไม่ได้ เธอไม่ได้คิดอยากจะกดกระดิ่งเลยจริง ๆ
ก็เพราะคุณมู่จากห้องหมายเลข 10 คนนั้นกดกระดิ่งช้ากว่ารอบก่อน เธอจึงรู้สึกคาดไม่ถึงอยู่บ้าง และรู้สึกร้อนใจ ที่จริงเธออยากเร่งให้คุณมู่ห้องหมายเลข 10 รีบกดกระดิ่ง แต่ไม่รู้ทำไม ตอนนั้นในหัวของเธอถึงได้รู้สึกวู่วาม แล้วตัวเธอก็กดกระดิ่งออกไป
ถังจื่อโม่มองเธอ แล้วกะพริบตาปริบ ๆ ท่าทางสับสนอย่างน่าเอ็นดู เห็นได้ชัดว่าเขาก็คิดไม่ถึงว่าฉู่หลิงเอ๋อจะกดกระดิ่งขึ้นมากะทันหัน
“จื่อโม่จ๊ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ น้า” ฉู่หลิงเอ๋อนึกขึ้นได้ก็รีบดึงมือกลับมา แต่เมื่อครู่เสียงกระดิ่งดังขึ้นแล้ว เธอดึงมือกลับมาก็ไม่มีประโยชน์แล้ว
ถังจื่อโม่ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ไม่ได้พูดอะไร เหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่ เดิมทีเขาตั้งใจจะคอยดูสถานการณ์ก่อน เขาอยากดูว่าคนในห้องหมายเลข 10 นั้นคิดจะทำอะไรกันแน่ ฉะนั้นในสถานการณ์เช่นนี้ เขาจะเข้าไปยุ่งไม่ได้
เขาต้องการทดสอบเย่ซือเฉิน แต่ยังไงเย่ซือเฉินก็เป็นพ่อแท้ ๆ ของเขา ในช่วงเวลาสำคัญควรจะร่วมแรงร่วมใจกันมากกว่า
“ตอนนี้เพิ่งเสนอราคาประมูลมาสี่ครั้ง ราคาเพิ่งอยู่ที่หนึ่งร้อยล้าน ภาพวาดมีชื่อเสียงนี้เป็นผลงานของปรมาจารย์จากสมัยราชวงศ์ซ่ง คุ้มค่าที่จะเก็บสะสมไว้มาก และราคาคงไม่หยุดอยู่แค่หนึ่งร้อยล้านแน่ ดังนั้นยังต้องมีคนเสนอราคามาอีกแน่นอน ไม่มีทางหยุดอยู่ที่พวกเราหรอก” หลังจากที่ถังจื่อโม่ดึงสติกลับมาได้ก็วิเคราะห์ด้วยความใจเย็น ที่จริงสิ่งที่ถังจื่อโม่วิเคราะห์มานั้นถูกต้องมาก
“ใช่ ใช่จ๊ะ จื่อโม่สุดที่รักพูดถูกที่สุดเลย ราคาของภาพวาดที่มีชื่อเสียงภาพนั้นต้องเกินหนึ่งร้อยล้านแน่นอน คนในงานมีตั้งมากมาย ต่างก็เป็นคนที่รู้จักสิ่งของพวกนี้ดีอยู่แล้ว ไม่มีทางปล่อยให้พวกเราได้ไปในราคาถูกอย่างนี้หรอก ยังไงซะพวกเราก็ไม่ใช่คุณชายสามเย่” ฉู่หลิงเอ๋อรู้สึกโล่งใจ ถ้าหากคุณชายสามเย่ออกหน้า และไม่มีห้องหมายเลข 10 ก่อกวน คนในงานคนอื่น ๆ คงไม่มีใครกล้าแย่งกับคุณชายสามเย่หรอก
แต่เธอไม่ใช่คุณชายสามเย่ เมื่อครู่นี้ที่เธอประมูลไป ต้องมีคนไม่น้อยเลยที่จะแย่งประมูลกันต่อ
ฉู่หลิงเอ๋อรู้สึกโล่งใจทันที แล้วรอให้คนอื่นประมูลกันต่อ
แต่ฉู่หลิงเอ๋อรออยู่ครู่หนึ่ง กลับไม่มีใครเสนอราคาอีกแล้ว
ฉู่หลิงเอ๋อตกตะลึง อึ้งไปเล็กน้อย ไม่ใช่มั้ง ไม่มีใครประมูลแล้วเหรอ?
วันนี้เธอไม่ได้อยากมาประมูลสิ่งของ ดังนั้นจึงพกเงินมาไม่เท่าไหร่ ถ้าหากประมูลได้ภาพวาดนี้ขึ้นมาจริง ๆ คงต้องให้คนโอนเงินมาให้เธอแล้วล่ะ
ที่สำคัญคือ คุณชายสามเย่กับคุณมู่จากห้องหมายเลข 10 กำลังแข่งกันอยู่เห็น ๆ ทำไมถึงได้ถูกเธอทำลายเสียล่ะ?
ไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด
“คือว่าเมื่อครู่นี้ฉันไม่ทันระวังเลยมือลื่นไปกดกระดิ่ง พวกคุณประมูลกันต่อได้เลย พวกคุณต่อกันเลย……” ฉู่หลิงเอ๋อคิดว่าที่ทุกคนนิ่งเฉย อาจเป็นเพราะเข้าใจผิดอะไรไป อาจจะเข้าใจผิดว่าเธอจงใจแย่งประมูลกับคุณชายสามเย่ ดังนั้น ฉู่หลิงเอ๋อจึงได้อธิบายออกมา
ฉู่หลิงเอ๋อคิดว่าเธออธิบายชัดเจนแล้ว ทุกคนต้องประมูลกันต่อแน่นอน