ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่377 คุณชายสามเย่ ภรรยาของคุณกำลังจะไปแล้ว (5)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่377 คุณชายสามเย่ ภรรยาของคุณกำลังจะไปแล้ว (5)
บทที่377 คุณชายสามเย่ ภรรยาของคุณกำลังจะไปแล้ว (5)
“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ฉันกับท่านประธานของพวกคุณตกลงกันแล้ว ไม่มีทางมีปัญหา ถ้าหากคุณไม่วางใจ คุณจะโทรไปถามท่านประธานของคุณก็ได้” เวินลั่วฉิงรีบพูดเสริมขึ้น
เวินลั่วฉิงรู้ว่าเขาเป็นกังวลเรื่องอะไร ในเมื่อเลขาหลิวเป็นกังวลก็สามารถโทรไปถามเย่ซือเฉินเพื่อความกระจ่างได้
เวินลั่วฉิงคิดว่าเดิมทีเย่ซือเฉินแต่งงานกับเธอก็เพื่อบริษัทตระกูลเย่กรุ้ป ตอนนี้คุณปู่เย่เซ็นชื่อแล้ว ขอเพียงเย่ซือเฉินเซ็นชื่อ บริษัทตระกูลเย่กรุ้ปก็จะเป็นของเย่ซือเฉินแล้ว ถ้าอย่างนั้นภารกิจของเธอก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว
ดังนั้นเย่ซือเฉินก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ยอมหย่า
แล้วยิ่งยังมีเรื่องของคุณเมิ่งอีก
บริษัทตระกูลเย่กรุ้ปอยู่ในมือแล้ว เย่ซือเฉินก็ไม่ต้องกังวลเรื่องคุณปู่แล้ว ไม่แน่ว่าอาจจะได้ตกล่องปล่องชิ้นกับคุณเมิ่งก็ได้
ดังนั้นเวินลั่วฉิงมั่นใจมากในตอนนี้ ถ้าหากเลขาหลิวโทรไปถามเย่ซือเฉินในตอนนี้ เย่ซือเฉินจะต้องเห็นด้วยแน่ ดังนั้นเธอจึงไม่เป็นกังวลแม้แต่น้อย
“อึ้งทำไมล่ะ? ถ้าคุณเป็นกังวลก็โทรไปถามท่านประธานของพวกคุณเลยสิ” เวินลั่วฉิงเร่งอีก นาทีนี้เธอมีสีหน้าสงบนิ่งมากเพราะเธอไม่กังวลใจเลยจริง ๆ
เลขาหลิวเห็นเวินลั่วฉิงแบบนี้ก็ตกตะลึงเล็กน้อย คุณนายท่านประธานมั่นใจขนาดนี้ ไม่เป็นกังวลเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งยังให้เขาโทรไปถามเพื่อให้กระจ่างด้วย?
ดูแล้วไม่ใช่เรื่องโกหก หรือว่า?
“อ้อ” เลขาหลิวที่อยู่ภายใต้สายตาของเวินลั่วฉิงจึงทำได้เพียงกัดฟันรับปากไป แม้ว่าเขาจะดูประหลาดใจอย่างไม่น่าเชื่อ แต่เขาก็ยังคงหยิบโทรศัพท์ออกมาและโทรออก
เสียงโทรศัพท์ดังหลายครั้งจนปลายสายรับโทรศัพท์ เห็นได้ชัดว่าเย่ซือเฉินกำลังยุ่ง
“ท่านประธานครับ คุณนายเธออยาก…” ทันทีที่มีคนรับสาย เลขาหลิวก็พูดไม่หยุดด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างเร่งรีบ
เลขาหลิวคิดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ อีกทั้งยังเป็นเรื่องใหญ่ที่เร่งด่วน
แต่ว่าสถานการณ์ของเย่ซือเฉินในตอนนี้นั้นถือว่าไม่ปกติ และไม่สะดวกจะรับโทรศัพท์
เขาคิดว่าเลขาหลิวจะพูดกับเรื่องที่เวินลั่วฉิงต้องการโมเดลรถก่อนหน้านี้ เพราะเลขาหลิวรู้ถึงความพิเศษของโมเดลรถคนนั้นที่มีต่อเขา เลขาหลิวรู้ว่าเขาไม่อนุญาตให้ใครก็แล้วแต่มายุ่งกับโมเดลรถคันนี้ ครั้งก่อน จี้หซีเข้ามายุ่งกับโมเดลรถของเขา เขายังโกรธจี้หซีเป็นฟืนเป็นไฟ เรื่องนั้นเลขาหลิวเองก็รู้
ดังนั้นถ้าเลขาหลิวจะโทรหาเขาด้วยเรื่องนี้ก็ถือว่าปกติ
ทางด้านเย่ซือเฉินในตอนนี้เรียกได้ว่าไม่ปกติมาก ๆ เขาจึงไม่ได้คิดอะไรหรือถามอะไรมากแล้วพูดออกมา “อือ เรื่องนี้ฉันรู้แล้ว เธออยากได้ก็ให้เธอ แล้วแต่เธอเลย”
เย่ซือเฉินคิดอย่าว่าแต่โมเดลรถเลย ต่อให้เธอต้องการทุกอย่างของเขา เขาก็ให้เธอได้
เมื่อเย่ซือเฉินพูดจบก็รีบวางสายไปทันที
ทำไมเย่ซือเฉินจะต้องรีบวางสายด้วย?
เพราะทางด้านเย่ซือเฉินนั้นจู่ ๆ ก็มีคนยิงปืน เขารู้ว่าตอนนี้เวินลั่วฉิงคงจะยังอยู่ในห้องทำงาน ถึงแม้ว่าเวินลั่วฉิงอาจจะไม่ได้ยินโทรศัพท์ของเลขาหลิว แต่เย่ซือเฉินก็ยังเป็นกังวล กังวลว่าเธอจะได้ยินเข้า
อย่างไรก็ตามความระมัดระวังของเธอสูงเกินไป เขาไม่ต้องการให้เธอได้ยินและไม่ต้องการให้เธอกังวล
ดังนั้น เย่ซือเฉินจึงรีบวางสายให้เร็วที่สุด เลขาหลิวในตอนนี้ด้วยความที่ตกตะลึง ยิ่งกว่านั้นความคิดของเลขาหลิวก็อยู่กับเรื่องการหย่าของคุณนายกับท่านประธาน ดังนั้น จึงไม่ได้สนใจเรื่องอื่นมากนักและไม่ได้สนใจฟังเสียงปืนจากปลายสายเลย
ในตอนที่เลขาหลิวโทรศัพท์อยู่นั้น เขาตั้งใจเดินห่างออกมาเล็กน้อย ในตอนนี้เวินลั่วฉิงอยู่ห่างจากขาประมาณหนึ่ง ดังนั้นจึงไม่ได้ยินอะไรเลย
เลขาหลิวยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นอยู่นานและยังไม่ได้สติ อันที่จริง อันที่จริงท่านประธานเห็นด้วยจริง ๆ…
ท่านประธานบอกว่าเขารู้เรื่องนี้ พูดชัดว่าเป็นจริงอย่างที่คุณนายพูดแบบนั้น ท่านประธานกับคุณนายได้ตกลงกันไว้ก่อนแล้ว
เขาเข้าใจว่าท่านประธานชอบคุณนาย คิดไม่ถึงว่า…
ในเมื่อท่านประธานเห็นด้วย ถ้าอย่างนั้นเขายังจะพูดอะไรได้อีก
แต่ว่า ท่านประธานบอกว่าคุณนายอยากได้ก็ให้คุณนาย แล้วแต่เธอ ท่านประธานคงจะหมายถึงในตอนหย่าหากคุณนายต้องการอะไรก็ให้คุณนายอย่างนั้นสินะ?
แต่ว่า เขาก็ยังรู้ว่าท่านประธานไร้เยื่อใยเกินไปหน่อย คุณนายนำหุ้นของบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปมาก็เพื่อท่านประธาน ท่านประธานจะหย่ากับคุณนายโดยไม่มีแม้แต่ความลังเลแบบนี้
ท่านประธานต่างอะไรกับพวกที่ทอดทิ้งลูกเมีย? แน่นอนว่าท่านประธานยังไม่มีลูกให้ทอดทิ้ง
เขารู้สึกว่าคุณนายไม่ใช่พวกที่สนใจเรื่องของทรัพย์สินเงินทอง ท่านประธานให้สิ่งเหล่านั้นกับคุณนาย คุณนายคงจะไม่ได้ยินดี
เลขาหลิวคิดอีกเรื่องหนึ่งขึ้นได้ เมื่อครู่ท่านประธานวางสายไปด้วยท่าทางเร่งรีบมาก เขายังไม่ทันจะได้บอกเรื่องหุ้นของบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปให้ท่านประธานรับรู้
แต่ว่า ในตอนนี้เขาไม่อยากจะโทรไปเพื่อรายงานเรื่องน่ายินดีนี้แล้ว จู่ ๆ ก็ไม่มีอารมณ์จะทำ
อาจจะเป็นเพราะเรื่องนี้เดิมทีเขาไม่ต้องบอกท่านประธานก็ได้ ท่านประธานคงจะรู้อยู่แล้ว ถ้าไม่อย่างนั้นท่านประธานก็คงไม่หย่ากับคุณนายหรอก
ถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ข้างกายท่านประธานมาหลายปีด้วยความเคารพและเลื่อมใสตลอดมา แต่ด้วยเรื่องในวันนี้ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจท่านประธานอยู่ไม่น้อย
ดังนั้น เลขาหลิวจึงรู้สึกน้อยใจเล็กน้อย
เวลาที่เลขาหลิวมองดูเวินลั่วฉิงนั้น มีอารมณ์ที่ช่างสับสน สุดท้ายจึงพยักหน้า: “อืม ท่านประธานเห็นด้วย”
“ฉันบอกแล้วว่าไม่มีปัญหา นี่เป็นข้อตกลงที่พวกเราทำไว้ก่อนแล้ว เขาจะต้องเห็นด้วยแน่” เวินลั่วฉิงยิ้ม นี่เป็นเรื่องที่เธอตกลงไว้กับเย่ซือเฉินไว้ก่อนแล้วจะต้องไม่มีปัญหาแน่ เย่ซือเฉินจะต้องเห็นด้วยอยู่แล้ว
เพียงแต่ปฏิกิริยาของเลขาหลิวนั้นทำให้เธออยากจะหัวเราะออกมา
เลขาหลิวทำหน้าเหมือน “ไม่อยากจะทำ” แบบนั้น ถ้าไม่รู้ยังจะคิดว่าเลขาหลิวจะเป็นคนหย่าเองเสียอีก
“ท่านประธานบอกว่าคุณนายต้องการอะไรก็จะให้คุณนาย ดังนั้นคุณนายได้โปรดบอก ไม่ต้องเกรงใจ” เลขาหลิวรู้สึกว่าในเมื่อท่านประธานพูดขนาดนี้แล้ว เขาก็ไม่จำเป็นต้องปวดใจแทนท่านประธานแล้ว เขากลับหวังว่าคุณนายจะมีความต้องการเยอะ ๆ หน่อย
ในเมื่อท่านประธานรวยจะตาย
เขารู้สึกว่าท่านประธานเหลือเพียงแค่เงินทองเท่านั้น หลังจากหย่ากับคุณนายไปเขาก็คงต้องใช้ชีวิตอยู่กับเงินที่มีแล้ว
เวินลั่วฉิงนิ่งไป เย่ซือเฉินกลับเป็นคนใจกว้าง ให้เขาเป็นฝ่ายเสนอว่าอยากได้อะไร?
เขาไม่กลัวว่าเธอจะโลภมาก ไม่รู้จักพอหรอ?
เธอรู้ว่าทรัพย์สินทั้งหมดของเย่ซือเฉินมีอะไรบ้าง เขาไม่กลัวว่าเธอจะขอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งเหรอ?
ตามหลักการแล้ว สามีภรรยาเมื่อทำการหย่าร้างสามารถจะขอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของคู่สมรสได้ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะแต่งงานกันโดยมีเงื่อนไข แต่ทะเบียนสมรสก็เป็นของจริงและได้รับผ่านกฎหมายรับรอง ยิ่งไปกว่านั้นเย่ซือเฉินยังไม่ได้ทำการรับรองทรัพย์สินใด ๆ ก่อนแต่งงานด้วยว
แต่ว่าสิ่งเหล่านั้นไม่ใช่สิ่งที่เวินลั่วฉิงต้องการ เธอไม่ใช่พวกสิงโตปากกว้าง
แท้จริงแล้ว เดิมทีเธอไม่ได้คิดว่าเธอต้องการอะไรจากเย่ซือเฉินเลย
เวินลั่วฉิงก้มหน้ามองไปที่โมเดลรถที่วางอยู่บนโต๊ะก่อนหน้านี้ จากนั้นก็ยิ้มขึ้นอีก: “อันนี้ค่ะ ฉันอยากได้อันนี้”
นี่คือสิ่งที่ลูกชายอยากได้มากที่สุด เธออยากจะช่วยให้ลูกชายเธอได้มันมาก็พอแล้ว อย่างอื่นเธอไม่ได้สนใจเลยจริง ๆ
“…” เลขาหลิวต้องตกใจมากอีกครั้ง ในตอนที่ดวงตาทั้งสองมองดูเวินลั่วฉิงนั้นก็เต็มไปด้วยความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ คุณนายว่าไงนะ? เขาต้องการเพียงแค่โมเดลรถคนนี้งั้นเหรอ?
แต่ว่า โมเดลรถคันนี้ดูแล้วคุ้นตา ใช่แล้ว มันเป็นของขวัญวันเกิดที่แม่ของท่านประธานให้ท่านประธานอันนั้นเอง
โมเดลรถคันนี้มีราคาสูงมากแต่ว่าสำหรับท่านประทานแล้วต่อให้เป็นขนเส้นเดียวของวัวเก้าตัวตอนนี้ก็เทียบไม่ติด
แต่ว่าโมเดลรถนี้แม่ของท่านประธานให้ไว้ ดังนั้นสำหรับท่านประธานแล้วมันจึงสำคัญมาก
เขาจำได้ว่าครั้งก่อนประธานจี้เข้ามายุ่งกับโมเดลรถ ท่านประธานยังโกรธแทบตาย จึงพอที่จะบอกได้ว่าโมเดลรถคนนี้มีคุณค่าทางจิตใจกับท่านประธาน ตอนนี้คุณนายต้องการโมเดลรถคันนี้ เขาจะต้องยืนยันกับท่านประธานอีกทีรึเปล่า?