ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่378 คุณชายสามเย่ ภรรยาของคุณกำลังจะไปแล้ว (6)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่378 คุณชายสามเย่ ภรรยาของคุณกำลังจะไปแล้ว (6)
บทที่378 คุณชายสามเย่ ภรรยาของคุณกำลังจะไปแล้ว (6)
เขาจำได้ว่าครั้งก่อนประธานจี้เข้ามายุ่งกับโมเดลรถ ท่านประธานยังโกรธแทบตาย จึงพอที่จะบอกได้ว่าโมเดลรถคนนี้มีคุณค่าทางจิตใจกับท่านประธาน ตอนนี้คุณนายต้องการโมเดลรถคันนี้ เขาจะต้องยืนยันกับท่านประธานอีกทีรึเปล่า?
แต่ท่านประธานได้พูดก่อนหน้านี้แล้วว่าคุณนายต้องการอะไรก็จะให้ ดังนั้นเลขาหลิวไตร่ตรองแล้วและคิดว่าไม่โทรหาแล้ว
“คุณนายครับ ท่านประธานบอกว่า คุณอยากได้อะไรก็จะให้ คุณสามารถพูดออกมาได้อย่างสบายใจ ถ้าหากคุณคิดว่าทรัพย์สิน บ้าน รถมันยุ่งยากเกินไป คุณสามารถรับเงิน ขอเพียงคุณต้องการจะมากน้อยแค่ไหนก็ได้” เลขาหลิวคิดว่าคุณนายต้องการน้อยไป น้อยไปมาก
ปกติแล้วในสถานการณ์เช่นนี้น่าจะต้องช่วยเจ้านายของตนเองประหยัดให้ได้ทุกทาง แต่เลขาหลิวในตอนนี้ไม่ต้องการจะช่วยท่านประธานของตัวเองประหยัดอะไรทั้งนั้น
เขาอยากให้เวินลั่วฉิงต้องการมากกว่านี้หน่อย
“แค่นี้ก็พอแล้วค่ะ ฉันไม่ได้ขาดเงิน รบกวนคุณเลขาหลิวช่วยรีบจัดการด้วย ฉันต้องรีบไป”
เวินลั่วฉิงได้ยินคำพูดของเลขาหลิวและอดไม่ได้ที่จะอยากจะหัวเราะออกมา เลขาหลิวคนนี้ช่างเป็นคนที่น่ารักจริง ๆ
แน่นอนว่าเย่ซือเฉินมีเงิน เธอสามารถเอ่ยปาก เย่ซือเฉินก็สามารถจะให้เธอได้
แต่เธอไม่ได้ต้องการเงินหรือสิ่งของอะไรจริง ๆ เธอก็ไม่ได้ขาดเงิน
“คุณนายครับ คุณลองคิดดูอีกที ตอนนี้คุณไม่ได้ขาดเงิน แต่ว่าเรื่องเงินใครจะหาได้มากยังไงสักวันก็ต้องได้ใช้ อาศัยโอกาสนี้…” เลขาหลิวยังคงไม่ยอมแพ้ชักชวนเวินลั่วฉิงอีกครั้ง
ถ้าไม่รู้ก็คงจะเข้าใจว่าเป็นคนของเวินลั่วฉิงเสียอีก
“ขอบคุณนะคะ แต่ไม่ต้องจริง ๆ” เวินลั่วฉิงยิ้มและตัดบทของเลขาหลิวทันที
ในตอนที่เธอแต่งงานกับเย่ซือเฉินนั้น ไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย เพราะเธอก็ไม่เคยคิดอยากได้อะไรจากเย่ซือเฉินมาก่อนเช่นกัน
ถ้าไม่ใช่เพราะความชอบของลูกชาย โมเดลรถนี้เธอก็คงไม่ต้องการ
“ไม่คิดดูก่อนจริง ๆ เหรอครับ?” เลขาหลิวยังคงพยายามโน้มน้าวให้เธอคิดดูอีกครั้งเป็นครั้งสุดท้าย เพราะเขารู้สึกว่าการหย่าของคุณนายในครั้งนี้นั้นไม่ยุติธรรมเลยจริง ๆ
ต่อให้คุณนายแต่งงานกับท่านประธานแบบมีเงื่อนไข แต่นี่ก็แต่งงานจนเกือบจะครบสามเดือนแล้ว ในการเป็นสามีภรรยากันมาถึงสามเดือน ยิ่งกว่านั้นคุณนายยังช่วยท่านประธานให้ได้มาซึ่งหุ้นของบริษัทตระกูลเย่กรุ้ป
ตามหลักการแล้ว คุณนายน่าจะต้องได้รางวัลตอบแทนบ้าง
“รบกวนคุณเลขาช่วยรีบหน่อย” เวินลั่วฉิงพูดขึ้นอีกครั้ง และหยิบข้อตกลงออกมาแล้วยื่นให้เลขาหลิว
เวินลั่วฉิงไม่ต้องการสิ่งเหล่านั้นเลยและเวินลั่วฉิงก็เข้าใจเช่นกันว่าสิ่งที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินจะกลายเป็นปัญหามากขึ้น ตอนนี้เหลือเวลาอีกไม่มากที่เครื่องบินจะออกและเธอไม่ต้องการที่จะเลื่อนเวลาเพราะเรื่องอื่นแล้ว
เลขาหลิวตกตะลึงและแอบถอนหายใจเบา ๆ ในที่สุดก็ยอมแพ้กับความคิดที่จะโน้มน้าวเวินลั่วฉิง
“ท่านประธานอยู่ในตู้เซฟ รบกวนคุณนายช่วยหยิบให้ด้วยครับ” เลขาหลิวคิดว่าท่านประธานไม่อยู่ ดำเนินเรื่องหย่าคงต้องใช้ตราประทับส่วนตัวของท่านประธาน ตอนนี้เวินลั่วฉิงยืนอยู่ข้างตู้เซฟ เลขาหลิวจึงเอ่ยปากขอให้เวินลั่วฉิงหยิบให้
ในตอนที่เลขาหลิวพูดนั้นดวงตาก็กะพริบครู่หนึ่ง
“อ้อ ได้” เวินลั่วฉิงนิ่งไปในใจแอบขำเล็กน้อย ถึงแม้ว่าเมื่อครู่เลขาหลิวจะพยายามแทบตายให้เธอเอาเงินของเย่ซือเฉินมาเยอะ ๆ แต่ในช่วงเวลาสำคัญกลับรักษาผลประโยชน์ให้เย่ซือเฉินจนถึงที่สุด
ตอนนี้เธอยืนอยู่ตรงนี้ เลขาหลิวไม่สามารถจะไล่เธอไปได้ แต่เลขาหลิวจะไปเปิดตู้เซฟด้วยตัวเอง เธอยืนอยู่ตรงนี้ก็จะเห็นพาสเวิร์ด
ดังนั้นการที่เลขาหลิวขอให้เธอเป็นคนเปิดก็เพื่อจะตรวจสอบและในขณะเดียวกันก็เพื่อป้องกันด้วย
เย่ซือเฉินมีคนที่จงรักภักดีแบบนี้อยู่ข้างกายถือเป็นโชคดีของเย่ซือเฉินแล้ว
เวินลั่วฉิงรับปากแล้วก้มล้มและเปิดตู้เซฟอีกครั้ง
เลขาหลิวเห็นการกระทำของเวินลั่วฉิงแล้วถอนหายใจ ดูแล้วคุณนายคงรู้รหัสจริง ๆ
ถ้าเป็นอย่างนี้ เขาคงไม่ต้องเป็นกังวลอะไรแล้ว
ตราประทับส่วนตัวของเย่ซือเฉินวางอยู่ด้านใน ในตอนที่เวินลั่วฉิงยื่นมือไปเพื่อหยิบมัน มือของเธอไปโดนเอกสารฉบับหนึ่งทำให้เอกสารเขยิบไปอยู่ด้านข้าง
จากนั้นเวินลั่วฉิงก็เห็นเอกสารที่อยู่ด้านล่าง
เอกสารนั้นไม่มีซอง เวินลั่วฉิงจึงเห็นชื่อของเธอ
เย็นวันนั้น เย่ซือเฉินยอมรับว่าตรวจสอบเรื่องของรุ่นพี่กับเธอ ดังนั้นตอนนี้จะเห็นเอกสารที่มีชื่อเธออยู่ เธอจึงไม่ได้รู้สึกเกินคาดอะไร เพียงแค่เธอรู้สึกอยากรู้ว่าเย่ซือเฉินตรวจสอบเรื่องของเธอแล้วเจออะไรบ้าง?
เวินลั่วฉิงอยากจะหยิบออกมาดู แต่เมื่อคิดว่าเลขาหลิวยังยืนอยู่ข้างหลังในตอนนี้ เธอคิดแล้วก็คิดว่าช่างมัน ไม่ว่าเย่ซือเฉินจะตรวจเจอเรื่องอะไร เธอก็หย่ากับเย่ซือเฉินแล้ว ต่อไปพวกเขาสองคนจะต่างคนต่างเดิน และไม่มีความเกี่ยวข้องกันอีก
ดังนั้นเย่ซือเฉินรู้อะไร หรือไม่รู้เรื่องอะไร ก็ไม่มีความเกี่ยวข้องกันอีกแล้ว
เวินลั่วฉิงยื่นมือเข้าไปและหยิบตราประทับของเย่ซือเฉินออกมา จากนั้นก็รีบลุกขึ้นแล้วส่งให้เลขาหลิว
“คุณนายรออยู่ที่นี่ก่อน ผมจะรีบไปจัดการ” เลขาหลิวรับตราประทับแล้วคิดถึงคำพูดของเวินลั่วฉิงก่อนหน้านี้ว่าเธอต้องรีบไป
ตอนนี้ในเมื่อท่านประธานเห็นด้วยแล้ว ก็ไม่มีความเห็นอื่น คุณนายเองก็ยินยอม แถมคุณนายยังไม่ต้องการอะไรเลย เขาเองก็ต้องพยายามที่จะเติมเต็มความต้องการอื่นของคุณนาย
อันที่จริงการดำเนินการเรื่องหย่าไม่ได้ยากเลย พวกเรามีทนายความเฉพาะด้าน ยิ่งกว่านั้นยังมีช่องทางพิเศษ คุณนายเองก็ไม่ได้ต้องการทรัพย์สินอะไร เมื่อไม่มีปัญหาเกี่ยวกับทรัพย์สิน เรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ง่ายมาก
เขาเชื่อว่าจะไม่ต้องเสียเวลานานเลย
“ค่ะ” เวินลั่วฉิงไม่ได้พูดอะไรอีกได้แต่ยิ้มเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อคิดว่าเธอกับเย่ซือเฉินแต่งงานกับเกืบจะสามเดือนแล้ว ไม่คิดว่ามันจะจบลงแบบนี้
ถึงมันจะเร็วมาก แต่ว่าช้าเร็วมันก็คงต้องจบ จะเร็วหน่อยหรือช้าหน่อยก็ไม่ต่างอะไร
เลขาหลิวหยิบเอกสารทั้งหมดแล้วออกจากห้องทำงานไป เวินลั่วฉิงนั่งรออยู่ในห้องทำงาน คิดว่าเธอจะได้กลับไปหาเด็ก ๆ ทั้งสองแล้ว เวินลั่วฉิงก็อดไม่ได้ที่จะยกมุมปากขึ้นโดยไม่รู้ตัว
หลังจากเลขาหลิวออกจากห้องทำงานแล้ว ก็ถอนหายใจแรง จากนั้นก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าไปมา เมื่อก่อนเขารู้สึกว่าท่านประธานปฏิบัติกับคุณนายอย่างพิเศษ ยิ่งกว่านั้นครั้งก่อนท่านประธานเดินทางไปทำงานก็พาคุณนายไปด้วยกัน
เขาเข้าใจว่าท่านประธานจะชอบคุณนายอยู่บ้าง คิดไม่ถึงว่าทั้งหมดจะไม่ใช่เรื่องจริง มันไม่ใช่เรื่องจริงเลย
แท้จริงแล้วท่านประธานกับคุณนายแต่งงานกันก็เพื่อให้ได้มาซึ่งบริษัทตระกูลเย่กรุ้ป พอได้บริษัทตระกูลเย่กรุ้ปมาแล้วก็หย่ากัน ถึงแม้เรื่องนี้ท่านประธานจะไม่ปิดบังคุณนายแถมยังเขียนเป็นสัญญาไว้ด้วย
แต่เขาก็ยังรู้สึกน้อยใจแทนคุณนาย คุณนายนั้นเป็นกุลสตรีที่ดี ต้องถูกท่านประธานของเขา “ย่ำยี” อยู่ถึงสามเดือน
พอถึงสุดท้ายก็หย่า แถมคุณนายยังไม่ต้องการอะไรเลย คุณนายช่างเป็นคนดีเสียขนาดนี้ ท่านประธานยังไม่รู้จักรักษาไว้ ท่านประธานเกินไปจริง ๆ
เขารู้สึกว่าท่านประธานสมควรจะเป็นโสดไปตลอดชีวิต หาภรรยาไม่ได้อีกเลย