ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่422 คุณชายสามเย่โมโหแล้ว(5)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่422 คุณชายสามเย่โมโหแล้ว(5)
บทที่422 คุณชายสามเย่โมโหแล้ว(5)
ถังไป๋เชียนเดินเข้ามา ยืนใกล้ๆกับเวินลั่วฉิง เขาเอามือคล้องเอวเวินลั่วฉิงอย่างดูธรรมชาติ จากนั้น ก็หันไปมองเย่ซือเฉิน :”คุณเย่ ยินดีที่ได้รู้จักคุณครับ”
กิริยาท่าทีของถังไป๋เชียนดูสุภาพบุรุษมาก ดูไม่เสียมารยาทเลยสักนิด และวันนี้เธอกับถังไป๋เชียนก็ปลอมตัวเป็นสามีภรรยากัน กิริยาท่าทีแบบนี้จึงดูธรรมชาติมาก
เพราะฉะนั้นเวินลั่วฉิงก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องดิ้นรน เพียงแต่ไม่รู้ว่าทำไม ต่อหน้าเย่ซือเฉิน จู่ๆเธอก็รู้สึกตื่นเต้นเพราะความกังวลเล็กน้อย
เธอกลัวจริงๆว่าเย่ซือเฉินจะก่อเรื่องอะไรขึ้นมาอีก คนอย่างเขาพวกคิดอะไรก็จะทำออกมาทันทีเลย
แววตาเย่ซือเฉินจมลง สายตาจ้องมองไปที่มือของถังไป๋เชียนที่กำลังคล้องเอวเธออยู่ เวลานี้เธอชักอยากจะเอามีดหั่นมือของถังไป๋เชียนเป็นชิ้นๆ
แต่ที่เขาเกลียดยิ่งกว่าก็คือ เธอยอมให้ถังไป๋เชียนคล้องเอวอยู่อย่างนั้น ไม่ขยับเลยสักนิด เชื่อฟังแบบนั้น ยินยอมขนาดนั้น
และกิริยาท่าทีตอนที่เขาจับมือเธอเมื่อกี้ เธอยังทำท่าจะเป็นจะตาย
แต่ว่า คุณชายสามเย่ลืมไปแล้วชัดๆว่า เมื่อกี้นี้เขาไม่ได้เพียงแค่จับมือของคนอื่นสักหน่อย
“คุณเย่ ต้องขอโทษด้วย ผมต้องพาภรรยาของผมขอตัวก่อนนะครับ” แน่นอนว่าถังไป๋เชียนก็เห็นมือที่เย่ซือเฉินกำลังจับมือเวินลั่วฉิงอยู่
ที่จริงแล้ว ตอนที่เขาเพิ่งจะเข้ามา ก็เห็นแล้วล่ะ ขนาดตอนที่เย่ซือเฉินจูบเวินลั่วฉิงเขายังเห็นเลย
เขายังสงสัยด้วยซ้ำว่าที่เย่ซือเฉินจูบเวินลั่วฉิง เพราะรู้แล้วว่าเขาเข้ามาก็เลยแกล้งทำแบบนั้น
แปลว่า จุดนี้ ถังไป๋เชียนคิดมากไปแล้วจริงๆ เพราะความจริงแล้วเย่ซือเฉินไม่รู้ว่าถังไป๋เชียนเข้ามาจริงๆ เช่นกันกับเวินลั่วฉิง
เย่ซือเฉินรู้ก็ตอนที่ได้ยืนเสียงถังไป๋เชียนพูดนั่นแหละ ก่อนหน้านี้ ในสายตาของคุณชายสามเย่มีแต่ภรรยาของเขา นอกจากภรรยาเขาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสิ่งของ ก็ล้วนไม่อยู่ในสายตาเขาเลยสักนิด
คุณชายสามเย่กำลังจีบภรรยาบ้านเขาอย่างใจจดใจจ่อ ไม่มีเวลาไปสนใจเรื่องอื่นเลยสักนิด
เพราะฉะนั้น ในขณะที่คุณชายสามเย่เห็นถังไป๋เชียนนั้น ก็มีความงงๆอยู่บ้าง ถ้าไม่งั้น เขาคงจะกอดภรรยาของเขาไว้ในอ้อมแขนซะแล้ว จะให้ถังไป๋เชียนมีโอกาสคล้องเอวเธอได้ยังไงกัน
แปลว่า ตอนที่คุณชายสามเย่ดึงสติกลับมาได้ ถังไป๋เชียนก็ได้โอบเอวเวินลั่วฉิงแล้ว แววตาของคุณชายสามเย่จมลง อารมณ์ในตอนนี้ไม่ดีเลย
เย่ซือเฉินไม่ได้สนใจถังไป๋เชียน ดวงตาคู่นั้น จ้องมองเวินลั่วฉิงอยู่อย่างนั้น เขาให้เธอเลือก
เขาอยากรู้ว่าเธอจะเลือกเขา? หรือว่าเลือกถังไป๋เชียนกันแน่
แน่นอนว่า มือที่เย่ซือเฉินกำลังจับเธออยู่ยังคงไม่คลายออก และยังจับมือแน่นขึ้นอีกอย่างเห็นได้ชัด
แปลว่า ตอนนี้ยังมีอีกเรื่องนึง ก็คือเวินลั่วฉิงมาปฏิบัติภารกิจพร้อมกับถังไป๋เชียน เพราะฉะนั้น การตัดสินใจของคุณชายสามเย่ในตอนนี้ มันดู…..
“คุณเย่ กรุณาปล่อยมือฉันได้ไหมคะ?” จากนั้น เวินลั่วฉิงมองเย่ซือเฉิน แล้วยิ้มเบาๆ ไอ้บ้าพูดยังมีมารยาท
เวลานี้ เวินลั่วฉิงกลับมานิ่งเหมือนเวลาปกติทั่วไป เมื่อกี้นี้เธอเสียท่าไปหน่อย ยังดีที่ไม่เกิดอะไรขึ้น ไม่มีผลต่อภารกิจหลัก แต่เธอรู้ดีว่า สถานการณ์แบบนี้ เธอไม่ควรมีความผิดปกติอะไรเกิดขึ้นอีก
เพราะเธอพบว่า คนที่พวกเขากำลังตามหาได้ปรากฏตัวแล้ว เวลานี้คนคนนั้นเข้ามาทางประตูพอดี เพิ่งเข้ามาเอง ยังดีที่คนคนนั้นเพิ่งจะมา ก่อนหน้านี้ก็เลยไม่เกิดอะไรขึ้น
เวลานี้ในใจของเวินลั่วฉิงรู้สึกผิดเล็กน้อย เพราะฉะนั้น เธอขอให้ตนเองตั้งใจปฏิบัติภารกิจ ถ้ามีข้อผิดพลาดอะไรเด็ดขาด
เพราะฉะนั้น การตัดสินใจเลือกของเวินลั่วฉิงในเวลานี้มันแน่นอนอยู่แล้วล่ะ
กับท่าทีที่เหมือนอันธพาล นักเลงที่ไปนัวเนียคนอื่นแบบนั้นของคุณชายสามเย่เมื่อกี้นี้ เวินลั่วฉิงไม่ได้ต่อยเธอสักยก ก็ถือว่าดีแค่ไหนแล้ว เวลานี้เขายังอยากจะให้เธอเลือกเขา คาดว่าเวลานี้สมองคุณชายคงจะถูกกระทบกระเทือนอย่างแรงจนมีปัญหาแล้วล่ะ
เมื่อเห็นผลการตัดสินใจเลือกของเวินลั่วฉิง มีอยู่ชั่ววูบหนึ่งที่ แววตาของเย่ซือเฉินจมลงสุดๆ เยือกเย็นสุดๆ
ความหมายของเธอคือเลือกถังไป๋เชียนไม่เลือกเขา?
“คุณแน่ใจนะ?”นี่เป็นคำพูดที่เย่ซือเฉินพูดให้กับเวินลั่วฉิงเวลานี้แววตาของเขากำลังจ้องมองเวินลั่วฉิงอย่างใจจดใจจ่อ รอคอยคำตอบของเวินลั่วฉิง
“ขอบคุณค่ะคุณเย่”ท่าทีของเวินลั่วฉิงยิ่งสุภาพมากขึ้น เธอยังยิ้มให้กับเย่ซือเฉิน ซึ่งความหมายของเวินลั่วฉิงเห็นได้ชัดเจนมาก ช่วยปล่อยเธอ ขอบคุณ!
“คุณแน่ใจ?”เย่ซือเฉินเรื่องคงไม่เชื่อ จึงตามถามอีกครั้งนึง ข้อคิดว่าเธออาจจะเปลี่ยนการตัดสินใจก็ได้
ครั้งนี้ เวินลั่วฉิงไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่มองหน้าเขา มือของเธอไม่ออกแรงดึงกลับมาอีก ในความหมายของเธอนั้นเห็นได้ชัดเจนมาก
เย่ซือเฉินมองเธอ เห็นได้ชัดว่าแววตามีความโกรธมากขึ้น เล่นฟรีปากของเขาขยับเล็กน้อย ในขณะที่กำลังจะพูดอะไรนั้น จู๋แมวตาก็สังเกตได้ถึงคนที่เดินเข้ามา ดวงตาของเขาหรี่ตาลงอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็ปล่อยมือเวินลั่วฉิง กล่าวด้วยความรู้สึกผิดว่า:”ขอโทษที่รบกวนด้วยนะครับ”
เวินลั่วฉิงตะลึงเล็กน้อย เย่ซือเฉินกล่าวขอโทษเธอด้วย มันให้ความรู้สึกที่น่าตะลึงมาก
อีกอย่าง กิริยาท่าทางที่เปลี่ยนไปนี้มันรวดเร็วมาก ทำให้เวินลั่วฉิงไม่ค่อยชินเลย
เขาคลายมือออก เวินลั่วฉิงรีบหดมือของตนกลับ ขอพบบ้านหลังมือของเธอมีรอยแดงอย่างเห็นได้ชัด เขารีบซ่อนมือของเธอในแขนเสื้ออย่างไร้ร่องรอย
มีเรื่องบางเรื่อง แค่รายละเอียดเล็กๆน้อยๆก็สามารถทำให้มีผลกระทบต่อเรื่องๆนั้นได้ เพราะฉะนั้น เรื่องที่ไม่คาดคิดบางอย่าง เธอจำเป็นต้องปิดบังเอาไว้
หลังจากที่เวินลั่วฉิงเก็บมือแล้ว ก็พบว่ามีคนกวาดตามองเธอ เวินลั่วฉิงพบว่า สายตาของคนคนนั้นเหมือนกำลังมองทิศทางของมือเธอทีนึง จากนั้นสายตาของคนคนนั้นก็หันไปทางอื่นแล้ว ไม่มองนานนัก ดูๆแล้วก็ธรรมชาติมาก ไม่มีอะไรผิดปกติ
แต่ว่าเวินลั่วฉิงกลับรู้สึกว่าสายตาที่มองมาทางเธอนั้นดูไม่ธรรมดาเลย เธอรู้สึกว่า คนๆนั้นต้องพบอะไรบางอย่าง พบร่องรอยบนมือของเธอเมื่อกี้นี้หรือเปล่านะ?
เวินลั่วฉิงชัดเจนดีว่า ในสถานการณ์แบบนี้ การจับมือทั่วไป จะไม่มีร่องรอยอะไรทั้งสิ้น และเย่ซือเฉินจับมือถือเมื่อกี้นี้ออกแรงมากเกินไป นานเกินไป เลยทำให้เกิดร่องรอยที่ชัดเจนมาก
เพราะฉะนั้น หากใครมีความสงสัยจริงๆ แค่เห็นรอยแดงจากมือถือเธอก็สามารถคาดเดาได้ว่าเธอต้องมีความสัมพันธ์อะไรกับเย่ซือเฉินแน่
เพียงแต่ว่า คนที่มองเธอเมื่อกี้นี้ ไม่ใช่คนที่พ่อเขาตามหา ก็เลยทำให้ เวินลั่วฉิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
แน่นอนว่า ในสถานการณ์แบบนี้ เวินลั่วฉิงจะไม่แสดงท่าทีที่ดูผิดปกติใดๆ เธอยิ้มให้กับเย่ซือเฉินอย่างสุภาพ
เย่ซือเฉินไม่พูดอะไรอีก และไม่ทำอะไรอีก ถังไป๋เชียนควงเวินลั่วฉิงจากไป
ในขณะที่เย่ซือเฉินหันหน้าไป ดูๆแล้วก็เหมือนมองแบบไม่จงใจ เพียงแต่ว่าช่วงที่แววตามองต่ำลงเล็กน้อย ภายในแววตาที่ลึกซึ้งนั้นประกายความเยือกเย็นแล้วถูกปกปิดย่างรวดเร็ว
เย่ซือเฉินไม่คิดเลยว่า ในงานเลี้ยงในวันนี้ จะได้พบกับ’คนรู้จัก’
คนอย่างเย่ซือเฉิน แน่นอนว่าต้องมีศัตรู
แล้วคนที่นับได้ว่าเป็นศัตรูของเย่ซือเฉิน ต้องเป็นคนที่ไม่ธรรมดาแน่