ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่484 เขารู้เรื่องเด็กๆสองคนแล้ว (8)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่484 เขารู้เรื่องเด็กๆสองคนแล้ว (8)
บทที่484 เขารู้เรื่องเด็กๆสองคนแล้ว (8)
เพียงแต่หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้ว โจ๋วอันหนานก็ลังเลขึ้นมาอีกครั้ง เรื่องแบบนี้ เธอจะบอกกับเย่ซือเฉินได้อย่างไรกัน?
เย่ซือเฉินแต่งงานกับเวินลั่วฉิงได้เพียงแค่ไม่กี่เดือน ดังนั้นเด็กสองคนนั้นจะต้องไม่ใช่ของเย่ซือเฉินอย่างแน่นอน เห็นได้ชัดว่าเย่ซือเฉินยังไม่รู้เรื่องนี้…….
เพราะฉะนั้นเวินลั่วฉิงกำลังปิดบังเย่ซือเฉินอยู่!!
โจ๋วอันหนานแอบถอนหายใจออกมา หลังจากนั้นจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วเดินเข้าไปด้านในสุดภายในห้อง หลังจากนั้นก็กดโทรออกหาคุณชายสองโจ๋ว เธออยากจะรู้เรื่องราวให้ชัดเจนก่อนว่าเรื่องราวนั้นเป็นอย่างไร?
แต่คุณชายสองโจ๋วไม่รับสาย คงจะกำลังผ่าตัดอยู่
โจ๋วอันหนานคิดแล้ว จึงกดต่อสายถึงอีกสายหนึ่ง ครั้งนี้เป็นคุณชายห้าฉิง เธอรู้ว่าคุณชายห้าฉิงนั้นสามารถรับรู้ข่าวสารได้รวดเร็วที่สุด เรื่องของเย่ซือเฉินเขาคงจะรู้ดีที่สุดแล้ว
“พี่ใหญ่ มีธุระอะไรไหม?” คุณชายห้าฉิงได้รับโทรศัพท์จากโจ๋วอันหนานแล้วก็รู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง เนื่องจากว่านี่เป็นครั้งแรกที่โจ๋วอันหนานโทรมาหาเขา
นิสัยของโจ๋วอันหนานนั้นค่อนข้างจะเย็นชา ปกติแล้วก็จะโทรหาพี่สามมากกว่า
“ช่วงนี้เย่ซือเฉินเป็นยังไงบ้าง? เขากับเวินลั่วฉิงยังดีต่อกันอยู่ไหม?” โจ๋วอันหนานคิดแล้ว จึงตัดสินใจเอ่ยถามไปอย่างตรงไปตรงมา
“พี่สามกับเวินลั่วฉิง? พวกเขาหย่ากันแล้ว พี่ไม่รู้หรอกหรือ?”คุณชายห้าฉิงรู้ว่าพี่ใหญ่สนใจพี่สามมาโดยตลอด ดังนั้นจึงไม่ได้คิดอะไรมากเช่นกัน
“นายว่าพวกเขาอย่ากันแล้วอย่างนั้นหรือ?” โจ๋วอันหนานอึ้งไป หลังจากนั้นจึงรู้สึกโล่งใจ แล้วในใจก็รู้สึกดีใจขึ้นมาในทันที
แท้ที่จริงแล้วเย่ซือเฉินกับเวินลั่วฉิงก็หย่ากันเป็นที่เรียบร้อยแล้วนี่เอง ถ้าอย่างนั้นเรื่องนี้ก็คงจะไม่เป็นอะไรแล้ว เพราะถึงอย่างไรเวินลั่วฉิงกับเย่ซือเฉินก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์ต่อกันแล้ว
“ใช่ หย่ากันก่อนหน้านี้เป็นเดือนกว่าแล้ว เดิมทีพวกเขาแต่งงานกันเพราะมีข้อตกลง แล้วก็หย่ากันตามข้อตกลงด้วยเหมือนกัน” คุณชายห้าฉิงได้ยินน้ำเสียงของโจ๋วอันหนานที่ดูแปลกๆไปนั้นก็รู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรให้มากความ เขารู้ว่าถามไปแล้ว โจ๋วอันหนานก็คงจะไม่พูดอยู่ดี
“โอเค ฉันรู้แล้ว ฉันวางสายก่อนนะ” โจ๋วอันหนานวางสายไปแล้ว แต่ใบหน้ากลับแสดงความรู้สึกสงสัยออกมา
ในเมื่อพวกเขาแต่งงานกันเพราะข้อตกลง ถึงอย่างไรก็ต้องหย่ากันอยู่ดี ตอนนั้นทำไมซือเฉินยังต้องถามถึงอาการป่วยของเวินลั่วฉิงเป็นพิเศษด้วยกัน?
อีกทั้งตอนนั้นเธอเองก็สามารถรับรู้ได้ถึงความห่วงใยที่เย่ซือเฉินมีต่อเวินลั่วฉิง แม้กระทั่งความรู้สึกที่มากกว่านั้น…..
มือที่จับโทรศัพท์มือถือของโจ๋วอันหนานนั้นกระชับแน่นขึ้นโดยที่เธอไม่รู้ตัว เธอรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ได้ง่ายเหมือนอย่างที่คิด
“คุณปู่เย่ คุณปู่เย่ มากันแล้ว” และเวลานี้เอง เธอได้ยินเสียงผู้ช่วยของเธอดังขึ้นมาจากทางด้านนอก
และโจ๋วอันหนานก็สามารถเดาได้ว่าคนที่มานั้นคือใคร
เธอยืนตรงขึ้นมา อยากจะออกไป แต่จู่ๆมือของเธอก็ชนไปตรงมุมโต๊ะ โดนโทรศัพท์มือถือของเธอหล่น
โจ๋วอันหนานย่อตัวลงไปเก็บโทรศัพท์มือถือ หลังจากนั้นก็เห็นรูปถ่ายใบหนึ่งที่ไม่รู้ว่าหล่นมาได้อย่างไร
รูปถ่ายของเย่ซือเฉิน โจ๋วอันหนานนั่งยองๆ มองดูอย่างใจลอย และยังไม่ได้ลุกขึ้นมา
“หือ อันหนานไม่อยู่หรอกหรือ?” หลังจากนั้นโจ๋วอันหนานก็ได้ยินเสียงของคุณย่าเย่ดังขึ้น
มือที่กำโทรศัพท์มือถืออยู่ของโจ๋วอันหนานกระชับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เธอขยับตัวราวกับว่ากำลังจะลุกขึ้นมา แต่ก็นิ่งไปในที่สุด
เวลานี้ใบหน้าของเธอนั้นมีสีหน้าท่าทางที่ดูซับซ้อนอยู่บ้าง
“เมื่อครู่นี้คุณหมอโจ๋วยังอยู่ตรงนี้อยู่เลยนะคะ คงจะไปเข้าห้องน้ำ เชิญนั่งรอตรงนี้สักครู่ค่ะ” ผู้ช่วยที่ไม่เห็นโจ๋วอันหนานนั้นก็รู้สึกแปลกๆด้วยเช่นกัน
“ได้สิ เธอไปทำงานเถอะ พวกเราจะรออยู่ตรงนี้แหล่ะ”
“ค่ะ” หลังจากนั้นผู้ช่วยก็เดินออกไปและปิดประตูลง
โจ๋วอันหนานยังคงนั่งอยู่ที่พื้นไม่ขยับไปไหน
เวลานี้ คุณปู่เย่ก็เดินมาตรงด้านหน้าโต๊ะทำงานของโจ๋วอันหนานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เดิมทีเขาคิดจะนั่งลงตรงเก้าอี้ที่อยู่ข้างๆ แต่ตอนที่เขาเดินไปนั้น สายตาก็เหลือบไปเห็นข้อมูลฉบับหนึ่งที่อยู่บนโต๊ะทำงานของโจ๋วอันหนาน
เดิมทีคุณปู่เย่ก็ไม่ได้สนใจ แต่ตอนที่เขาเหลือบไปเห็นชื่อที่อยู่ทางด้านบนนั้น ก็อดที่จะชะงักไปไม่ได้ : “นี่คืออะไรกัน? ทำไมถึงได้มีชื่อของเวินลั่วฉิง?”
ภายในห้อง ร่างของโจ๋วอันหนานได้แข็งทื่อไปแล้ว และยังคงไม่ขยับเขยื้อนเช่นเคย
คุณย่าเย่ได้ยินคำพูดของคุณปู่เย่แล้ว จึงเดินเข้ามาใกล้แล้วมองที่ข้อมูลฉบับนั้น
“ดูแล้วเหมือนจะเป็นกรณีตัวอย่างโรค แต่ก็ไม่ค่อยเหมือนเลย เขียนอะไรไว้น่ะ?” คุณย่าเย่อายุมากแล้ว สายตาไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก เห็นตัวอักษรบนนั้นได้ไม่ชัดเจน
คุณปู่เย่หยิบแว่นตาออกมาใส่ หลังจากนั้นถึงได้อ่านข้อความด้านบนนั้นอย่างละเอียดอีกครั้ง
“ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ ไม่มีวิธีรักษา นี่ นี่มันหมายความว่าอะไรกัน? นี่เป็นของเวินลั่วฉิงอย่างนั้นหรือ?” หลังจากที่คุณปู่เย่อ่านข้อความด้านบนอย่างชัดเจนแล้วก็รู้สึกตกใจ
“นี่มันหมายความว่า เวินลั่วฉิงไม่สามารถมีลูกได้? อีกทั้งยังไม่มีวิธีรักษาด้วยอย่างนั้นหรือ?”
คุณปู่เย่เงยหน้าขึ้นมาแล้วมองไปยังคุณย่าเย่ น้ำเสียงดูเปลี่ยนไปอยู่บ้างแล้ว
“เป็นไปไม่ได้หรอก ฉันเห็นสุขภาพร่างกายของเธอก็ไม่เลวเลยนะ จะมีลูกไม่ได้ได้อย่างไรกัน?” ปฏิกิริยาแรกของคุณย่าเย่นั้นคือไม่เชื่อ
นี่นับว่าเป็นปฏิกิริยาตามสัญชาตญาณของเธอ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้รู้สึกพอใจในตัวเวินลั่วฉิงสักเท่าไหร่นัก และถึงแม้ว่าตอนนี้เย่ซือเฉินกับเวินลั่วฉิงจะหย่ากันแล้วก็ตาม
แต่เธอรู้ว่าช่วงนี้เย่ซือเฉินเพื่อจะติดตามเรื่องเหล่านั้นที่เวินลั่วฉิงทำ เธอเองก็เข้าใจเย่ซือเฉินเช่นกัน เธอรู้ว่าเย่ซือเฉินได้ยอมรับในตัวเวินลั่วฉิงอย่างแน่นอนแล้ว เธอรู้ว่าเรื่องที่เย่ซือเฉินตัดสินใจแล้วนั้นใครๆก็ไม่สามารถจะไปเปลี่ยนแปลงได้
ดังนั้นเมื่อได้ยินเรื่องนี้แล้ว ปฏิกิริยาแรกของคุณย่าเย่ก็คือการโต้แย้งนั่นเอง
“แต่ด้านบนเขียนเอาไว้อย่างชัดเจนเลยนะ อีกอย่างของแบบนี้อยู่บนโต๊ะของอันหนานด้วยแล้ว นั่นก็เท่ากับว่าอันหนานเป็นคนตรวจ ตัวอักษรนี่ดูแล้วก็เป็นตัวอักษรของอันหนานด้วย เป็นไปไม่ได้ที่ข้อมูลจะผิด” เห็นได้ชัดว่าคุณปู่เย่เชื่อความจริงตรงหน้านี้มากกว่า
ริมฝีปากของคุณย่าเย่ขยับ และไม่สามารถที่จะเอ่ยพูดโต้แย้งกลับได้อีก
“แม้แต่อันหนานที่วินิจฉัยแล้วว่าไม่มีวิธีรักษา นั่นก็เท่ากับว่ารักษาไม่ได้แน่นอนอยู่แล้ว” คุณปู่เย่แอบถอนหายใจออกมา ใบหน้าดูมีความจริงจังและหนักแน่นขึ้นมาอย่างชัดเจน
“ถึงแม้ว่าตอนนี้เวินลั่วฉิงกับเย่ซือเฉินจะหย่ากันแล้ว แต่เห็นได้ชัดว่าเย่ซือเฉินยังคงไม่ยอมเลิกล้มความตั้งใจกับเด็กคนนั้น เดิมทีผมคิดว่า ถึงแม้เด็กนั้นจะดูขี้เหร่ไปหน่อย แต่ซือเฉินเองชอบเธอ ผมเองก็ไม่อยากจะขวางอีก แต่ตอนนี้…….” คุณปู่ถือกระดาษในมือแกว่งไปมา ความหมายนั้นชัดเจนมากแล้ว
เนื่องจากเรื่องราวครั้งที่แล้ว ในใจของคุณปู่เย่ก็ยอมฝืนที่จะยอมรับเวินลั่วฉิงแล้ว ถึงอย่างไรเขาก็มองออกว่าเย่ซือเฉินนั้นให้ความสำคัญกับเวินลั่วฉิงมาก อีกทั้งเขาเองก็เข้าใจ สิ่งสำคัญที่เย่ซือเฉินจะจัดการต่อไปนั้นจะอยู่ที่เวินลั่วฉิงหรือเปล่า
แต่ตอนนี้สถานการณ์เช่นนี้ทำให้เขาอดที่จะพิจารณาใหม่อีกครั้งไม่ได้
“เรื่องนี้ฉันคิดว่าจะต้องลองถามอันหนานดูอีกครั้งก่อน ถามให้ชัดเจนแล้วเราค่อยว่ากันอีกที” ใบหน้าของคุณย่าเย่ปรากฏความซับซ้อนออกมาอย่างชัดเจน
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ถ้าหากเวินลั่วฉิงไม่สามารถมีลูกได้จริงๆ เช่นนั้นแล้วเย่ซือเฉินกับเวินลั่วฉิงก็ไม่มีอะไรที่จะต้องคุยกันอีกแล้ว
“ยังมีอะไรให้ต้องถามอีก? ความจริงก็ปรากฏออกมาอย่างชัดเจนแล้วไม่ใช่หรือ?” คุณปู่เย่กลับตัดสินชี้ขาดออกมาเลย
“ไม่รู้ว่าซือเฉินรู้เรื่องนี้แล้วหรือยัง” แต่คุณย่าเย่กลับคิดไปถึงอีกปัญหาหนึ่ง คุณย่าเย่รู้ว่าปัญหานี้ต่างหากที่สำคัญที่สุด