ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่640 เทพธิดาเวินสวนกลับ ต้องสะเทือนฟ้าดินแน่(7)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่640 เทพธิดาเวินสวนกลับ ต้องสะเทือนฟ้าดินแน่(7)
บทที่640 เทพธิดาเวินสวนกลับ ต้องสะเทือนฟ้าดินแน่(7)
ต่อให้เธอใจกล้าเพียงใด เธอก็ไม่กล้าเป็นปริปักษ์กับมู่หรงซือถูเด็ดขาด
พนักงานที่จะค้นตัวเวินลั่วฉิงเมื่อสักครู่ยิ่งมีสีหน้าย่ำแย่มาก
พวกเธอคาดไม่ถึงว่า คนที่พวกเธอคิดว่าเป็นขโมยจะเป็นเจ้านายของพวกเธอ
ต่อจากนี้ ไม่รู้ว่าเจ้านายใหม่จะคิดบัญชีกับพวกเธออย่างไร?
“ในเมื่อไม่มีอะไรแล้ว ถ้าเช่นนั้นพวกเราขอตัวก่อนนะครับ”ตำรวจเห็นเหตุการณ์ นึกว่าเรื่องคลี่คลายแล้ว ซึ่งคิดว่าไม่มีหน้าที่ของพวกเขาอีกต่อไป จึงคิดจะกลับไป
ทว่า……
“คุณตำรวจ รอเดี๋ยวค่ะ”เวินลั่วฉิงที่ไม่เอ่ยปากพูดมาโดยตลอด จู่ๆก็เรียกตำรวจที่เตรียมจะจากไป
“คุณเวินยังมีเรื่องอะไรอีกครับ?”ตำรวจอายุประมาณสี่สิบปีเป็นคนมีแววตา เขารู้ว่าคุณเวินเป็นคนไม่ธรรมดา ไม่เช่นนั้นคงไม่อาจนำร้านนี้มาครอบครองในชั่วพริบตาหรอก
อีกทั้งมู่หรงซือถูยังมาด้วยตัวเองอีก
มู่หรงซือถูเป็นบุคคลตัวท๊อปที่น่ายำเกรงในเมือง A สามารถเชิญระดับมู่หรงซือถูมาได้นั่นมีไม่กี่คน
และเห็นได้ชัดว่าวันนี้มู่หรงซือถูมาเพื่อคุณเวิน
ดังนั้นจะขัดใจคุณเวินไม่ได้
สายตาทุกคนจับอยู่ที่เวินลั่วฉิง และรู้ว่าเวลานี้เธอเรียกตำรวจให้หยุดทำไม?
มุมปากมู่หรงซือถูยกขึ้นเล็กน้อย เรื่องนี้ไม่จบง่ายๆอย่างนี้หรอก
ใครบาดหมางกับผู้หญิงคนนี้ คนผู้นั้นต้องชดใช้คืน
ผู้หญิงคนนี้เป็นหัวแก้วหัวแหวนของคุณชายสามเย่ เป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลเวิน แน่นอนเธอไม่พึงคุณชายสามเย่ ไม่พึงตระกูลถัง ลำพังความสามารถของเธอ คนทั่วไปก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้เธอแล้ว
ดูจุดจบของตระกูลกู้ก็เข้าใจได้แล้ว บาดหมางผู้หญิงคนนี้ ไม่มีทางได้รับจุดจบที่ดีงามแน่
บอกตามตรง แม้แต่เขาก็ไม่กล้าบาดหมางกับเธอ ไม่ชมไม่ได้แล้วว่าคุณหนูตระกูลกู่ทั้งสองท่านนี้ใจกล้ามาก
ดังนั้น ตอนนี้คุณหนูบ้านตระกูลกู่ทั้งสองคนจำเป็นต้องแบกรับผลจาก‘ความกล้าหาญ’ของตน
เวลานี้มู่หรงซือถูรู้สึกรอคอย ไม่รู้ว่าเวินลั่วฉิงจะทำอย่างไรต่อ ?
การกระทำของเธอเหนือความคาดหมาย ทำให้ช็อก มู่หรงซือถูจึงยืนดูความสนุกอยู่ด้านข้างอย่างเงียบๆ
“ร้านของเรามีกำไรหยกหายไป อยากรบกวนคุณตำรวจช่วยพวกเราหาหน่อยค่ะ”เวินลั่วฉิงพูดอย่างสุภาพ น้ำเสียงเบาช้า แต่ประโยคนี้ของเธอกลับทำให้สีหน้าของกู่หยิงหยิงเปลี่ยนไป
กู่หยิงหยิงมองหน้าเวินลั่วฉิง เริ่มเครียดขึ้นมา เวินลั่วฉิงอยากทำอะไรกันนะ?
แต่กำไรหยกอยู่ในกระเป๋าของเวินลั่วฉิง กล้องวงจรปิดในร้านก็เสียพอดี เรื่องนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ซัดทอดไม่ถึงตัวเธอหรอก
“เวินลั่วฉิง เป็นโจรแจ้งจับขโมยเหรอ?คุณเป็นคนขโมยกำไรหยกแท้ๆ”กู่หลิงหลิงเป็นคนใจร้อน สมองทึ่ม ตะคอกเสียงออกมา
เวลานี้เธอรู้สึกผิดในใจเล็กน้อย
เพราะเธอเป็นคนแอบวางกำไรหยกเข้ากระเป๋าของเวินลั่วฉิงเอง
“คุณกู่ ต้องให้ฉันเตือนไหมว่านี่คือร้านของฉัน”เวินลั่วฉิงมองกู่หลิงหลิง มุมปากยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย
“ก่อนหน้านี้ร้านนี้ไม่ใช่ของคุณ”กู่หลิงหลิงสบตากับรอยยิ้มบนใบหน้าเวินลั่วฉิง จู่ๆก็รู้สึกขนลุกขึ้นมากะทันหัน แต่ก็ยังคงโต้กลับหนึ่งประโยค
“ความหมายของคุณกู่ก็คือ ก่อนฉันจะทำให้ร้านนี้กลายเป็นของฉัน ฉันขโมยกำไรหยกหนึ่งชิ้นก่อน?”มุมปากเวินลั่วฉิงยกขึ้นโต้กลับได้เจ็บแสบมาก
ถึงแม้ก่อนหน้านี้ร้านนี้ยังไม่ใช่ของเวินลั่วฉิง แต่ในเมื่อเวินลั่วฉิงสามารถใช้เวลาสั้นให้กลายเป็นของเธอได้ ถ้าเช่นนั้นเธอก็ไม่มีเหตุผลขโมยกำไรหยกยี่สิบกว่าล้านเลย
เป็นใครก็เข้าใจหลักการนี้ดี
“แต่ไม่ใช่พวกเราขโมยแน่นอน”กู่หลิงหลิงถูกเธอสวนกลับจนไร้วลีโต้เถียง แต่ยังไงเสียกำไรหยกก็ไม่ได้อยู่บนตัวเธอ ดังนั้นกู่หลิงหลิงยังมีความมั่นใจอยู่บ้าง!!
“ฉันก็ไม่ได้ว่าพวกคุณขโมยสักหน่อย”เวินลั่วฉิงกวาดสายตามองเธอแวบหนึ่ง หยุดพูดชั่วคราว จากนั้นค่อยๆพูดอีกครั้งว่า “แต่ร้านเป็นของฉัน พนักงานก็เป็นคนของร้าน เหมือนมีเพียงคุณหนูกู่ทั้งสองคนเท่านั้นที่เป็นคนนอก ดังนั้นคุณทั้งสองน่าสงสัยมากที่สุด”
“เวินลั่วฉิง คุณอย่าใส่ร้ายคนดีนะ”กู่หลิงหลิงอดตะคอกอีกครั้งไม่ได้
กู่หลิงหลิงมีหน้ามาบอกว่าตนเป็นคนดีอย่างไม่กระดากปากเชียวหรือ?หน้าหนาเสียจริงๆ
“คุณเวินค่ะ เรื่องอย่างนี้พูดมั่วๆไม่ได้นะคะ ต้องมีหลักฐานค่ะ หากคุณเวินไม่มีหลักฐาน แล้วมาใส่ร้ายพวกฉัน พวกฉันสามารถฟ้องร้องคุณเวินได้นะ”กู่หยิงหยิงนับว่าเป็นคนฉลาด เวลานี้ยังสามารถเผชิญหน้ากับเรื่องนี้อย่างสงบได้
“อืม คุณกู่พูดมีเหตุผล ดังนั้นฉันจึงเชิญคุณตำรวจให้อยู่ต่อ เพื่อจะได้ช่วยตรวจสอบยังไงล่ะ”เวินลั่วฉิงมองหน้ากู่หยิงหยิงแวบหนึ่ง
พยักหน้าอย่างตั้งใจ
“คุณจะตรวจสอบยังไง?”กู่หยิงหยิงหรี่ตาขึ้น น้ำเสียงเคร่งขรึมอย่างเห็นได้ชัด
“ง่ายมาก อย่างที่คุณกู่ว่าเมื่อสักครู่นี้เลย ตรวจค้น แค่ค้นดูก็รู้เรื่องแล้ว ตำรวจอยู่ตรงนี้ ดังนั้นทุกอย่างก็ง่าย”ยามที่เวินลั่วฉิงพูดคำนี้ สีหน้าเป็นธรรมชาติมาก ไม่มีความผิดปกติใดๆ
กู่หยิงหยิงได้ยินคำพูด กลับรู้สึกโล่งอก ของไม่ได้อยู่ที่ตัวเธอ ดังนั้นเธอไม่จำเป็นต้องกลัวการค้นตัว
ตอนนี้กำไรหยกชิ้นนั้นยังมีในกระเป๋าของเวินลั่วฉิง กู่หยิงหยิงกำลังคิดหาวิธีทำให้เวินลั่วฉิงเสื่อมเสีย?
“ค้นก็ค้น ฉันบริสุทธิ์ ไม่กลัวพวกคุณค้นหรอก”กู่หลิงหลิงกล่าวหนึ่งประโยค พร้อมกับเงยหน้าขึ้นอย่างโอหัง
“เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของพวกเรา พวกเรายินดีให้ความร่วมมืกับตำรวจค่ะ”กู่หยิงหยิงก้าวไปด้านหน้าด้วยใบหน้าของผู้มีศีลธรรม ความหมายนั้นชัดเจนมาก คือตกลงให้ตำรวจค้นตัว
“เป็นเรื่องยากที่คุณกู่จะมีเหตุผลจริงๆ”ดวงตาเวินลั่วฉิงหันไปมองกู่หยิงหยิง เมื่อสบตาของกู่หยิงหยิงได้แล้ว เวินลั่วฉิงจงใจย้ายสายตาไปที่กระเป๋ากู่หยิงหยิง ก่อนจะเผยรอยยิ้มจางๆออกมา
รอยยิ้มนั้น ลึกล้ำยากจะหยั่งถึงมาก……
จากนั้นเวินลั่วฉิงเงยหน้าไปมองกู่หยิงหยิง ยกหางคิ้วขึ้น จงใจแต้มความได้ใจบนใบหน้า
กู่หยิงหยิงเป็นคนฉลาด ท่าทางเวินลั่วฉิงเมื่อครู่ชัดเจนมาก เธอเห็นทุกการเคลื่อนไหวหมดแล้ว
กู่หยิงหยิงใจหล่นวูบกะทันหัน ดวงตาเธอรีบย้ายไปอยู่ที่เวินลั่วฉิง ก่อนหน้านี้เธอให้กู่หลิงหลิงนำกำไรหยกใส่เข้าไปในกระเป๋าของเวินลั่วฉิง
ไม่รู้ว่าตอนนี้กำไรหยกยังมีที่เวินลั่วฉิงหรือเปล่า?
หรือจะ?
ทันใดนั้นกู่หยิงหยิงก็มีลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้นมาบางอย่าง!!
เวินลั่วฉิงมองกู่หยิงหยิงแล้ว พลางยิ้มให้กู่หยิงหยิงเบาๆ จากนั้นก็จงใจเอื้อมมือไปจับกระเป๋าของตัวเอง แสดงให้เห็นว่ากระเป๋าของตนแบนเรียบไม่มีอะไร
คล้ายกับเป็นการกระทำให้กู่หยิงหยิงยิ่ง‘วางใจ’ เวินลั่วฉิงยังค้นกระเป๋าของตัวเองออกมา และเขย่าด้วย ซึ่งพบว่ากระเป๋าว่างเปล่าจริงๆ ไม่มีอะไรเลย