ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่745 ผลของการที่เจ้าเด็กถังจื่อโม่โมโห
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่745 ผลของการที่เจ้าเด็กถังจื่อโม่โมโห
บทที่745 ผลของการที่เจ้าเด็กถังจื่อโม่โมโห
“พวกเราจะกลับบ้าน” เย่ซือเฉินหันมา มองไปทางเธอหนึ่งที การตอบกลับนั้นเป็นเหมือนสิ่งที่สมเหตุสมผลมาก
“ฉันจะกลับบ้านของตระกูลถัง” เวินลั่วฉิงอยากจะพยายามขอดู ถึงแม้ว่าความหวังจะไม่มาก
“กลับบ้านของตระกูลถัง? หลังจากนั้นล่ะ?” คุณชายสามเย่ยักคิ้วเบาๆ ในเสียงนั้นมีความอันตรายแฝงอยู่
“อืม?” เวินลั่วฉิงมองไปทางเขา มีความไม่เข้าใจเล็กน้อย
“เมื่อวาน เธอบอกว่ากลับบ้านของตระกูลถังไปพักผ่อน ปรากฏว่าไปแอบพบคนที่ชื่อเย่โป๋เหวิน วันนี้ เธอบอกว่าจะกลับบ้านของตระกูลถังพักผ่อน ปรากฏว่าเธอแอบไปพบหยวนจุนหลิน ตอนนี้ให้เธอกลับไป เธอคิดจะไปแอบพบใครอีกล่ะ?”
เวินลั่วฉิง “……”
คำพูดนี้ของเขาฟังแล้วไม่ค่อยถูกต้อง แต่กลับไม่สามารถคัดค้านได้
“ฉะนั้น จากวันนี้ไป เธออยู่ที่ไหนฉันก็อยู่ที่นั่น” จากนั้น คุณชายสามเย่ก็พูดการตัดสินใจของเขาออกมา อื้ม เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าเขาตัดสินใจไว้ตั้งนานแล้ว
เวินลั่วฉิง “……”
“คุณชายเย่ ความหมายของคุณคือพวกเรายังไม่ได้แต่งงานกันแต่อยู่ด้วยกัน?” เวินลั่วฉิงมองไปทางเขา กะพริบตาด้วยความเร็ว “คุณตา คุณยายไม่เห็นด้วยแน่นอน”
เจ้าเด็กถังจื่อโม่ยิ่งไม่เห็นด้วยแน่นอน
“งั้นเราก็ไปจดทะเบียนสมรสกันตอนนี้เลย” คุณชายสามเย่รู้สึกว่าที่ไม่ใช่ปัญหาเลย
“ไปจดทะเบียนสมรสแบบนี้ พวกเขาไม่เห็นด้วยแน่นอน” เวินลั่วฉิงแอบเบ้ปาก
คุณชายสามเย่ นายจัดการกับลูกชายของคุณให้ได้ก่อนค่อยพูดเถอะ ครั้งนี้ นายเป็นโทษลูกชายไปแล้วจริงๆ
เมื่อไหร่ที่นายจัดการกับลูกชายได้แล้ว ค่อยพูดถึงเรื่องแต่งงานเถอะ
เวินลั่วฉิงกำลังคิดอยู่ จู่ๆ โทรศัพท์เธอก็ดังขึ้น เธอเห็นเบอร์โทรศัพท์ ริมฝีปากของเธอก็อดเบ้ปากไม่ได้
เวินลั่วฉิงมองไปทางคุณชายสามเย่หนึ่งที จากนั้นก็รับโทรศัพท์
“คุณแม่ แม่จะกลับบ้านเมื่อไหร่?” โทรศัพท์ถูกรับปุ้ป เสียงของเจ้าเด็กถังจื่อโม่ก็ดังผ่านมา
หลังจากที่เย่ซือเฉินจากไปแล้ว เจ้าเด็กถังจื่อโม่ยิ่งอยู่ก็ยิ่งโมโห
เย่ซือเฉินตาบอดมองไม่เห็นเขา ยังลักพาแม่ของเขาไปด้วย ฉะนั้น เขาจะต้องแย่งคุณแม่กลับมา
“ฉัน…..” เวินลั่วฉิงฟังออกว่าในน้ำเสียงของเจ้าเด็กถังจื่อโม่เต็มไปด้วยความโมโห เธอคิดอยู่ว่าจะตอบยังไงดี จึงจะสามารถปลอบใจเจ้าเด็กถังจื่อโม่ได้
“คุณแม่ แม่ทิ้งผมกับน้องสาวไว้ที่บ้านไม่สนใจ เป็นสิ่งที่ไม่ถูก ผมกับน้องสาวพึ่งห้าขวบเอง พวกเราต้องการความรัก แม่เป็นแบบนี้ตอนกลางวันไม่อยู่บ้าน กลางคืนก็ไม่อยู่บ้าน แบบนี้จะส่งผลกระทบที่ไม่ดีต่อการเติบโตของผมกับน้องสาว เด็กๆ ที่ขาดความรัดนั้นง่ายที่จะทำให้นิสัยของเด็กบกพร่องได้” อีกทางหนึ่งของโทรศัพท์ เจ้าเด็กถังจื่อโม่วางสายของเวินลั่วฉิงไปเลย
ความหมายของถังจื่อโม่ชัดเจนมาก ก็คือให้เธอกลับบ้าน
เวินลั่วฉิง “……”
เจ้าเด็กถังจื่อโม่จะขาดแคลนความรัก? นิสัยจะบกพร่อง?
นั่นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้แน่นอน
“คุณแม้ ถ้าแม่ยังไปกับเขาอีก คืนนี้ไม่ยอมกลับบ้านอีก ผมไม่ให้อภัยคุณแม่แน่” ในตอนที่เจ้าเด็กถังจื่อโม่พูดนั้น ในน้ำเสียงมีความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดเจน และน้ำเสียงก็ยืนหยัดมาก
เย่ซือเฉินมองไม่เห็นเขาช่างเถอะ เขาไม่ต้องการหรอก!!
แต่ว่าตอนนี้เพื่อเย่ซือเฉิน กลางวันกลางคืนคุณแม่ก็ไม่กลับบ้าน ความเป็นห่วงเป็นใยที่มีต่อเขาและน้องสาวก็ยิ่งอยู่ยิ่งน้อยแล้ว
เจ้าเด็กถังจื่อโม่แสดงให้เห็นว่า เขาโมโหมาก
ฟังคำพูดของเจ้าเด็กถังจื่อโม่แล้ว เวินลั่วฉิงพูดไม่ออกเลย ถ้าจะพูดก็ ช่วงเวลานี้ ความห่วงใยที่มีต่อลูกน้อยทั้งสองเธอมีให้ไม่พอจริงๆ
การที่เป็นแม่ เธอนั้นเธอก็ได้ทำหน้าที่ของเธอพลาดไปเหมือนกัน
“คุณแม่ ถ้าหากวันนี้คุณแม่หนีไปกับเย่ซือเฉินแล้ว ผมกับน้องสาวจะไม่ให้อภัยคุณแม่แน่นอน” ถังจื่อโม่อาจจะรู้สึกว่าพลังของตัวเองยังไม่พอ ฉะนั้น ก็เอาน้องสาวของตัวเองออกมาด้วยแล้ว
“ได้ ฉันรู้แล้ว” เวินลั่วฉิงถอนหายใจไปเบาๆ ไปหนึ่งที ทางหนึ่งคือผู้ชายของตัวเอง ทางหนึ่งคือลูกชายแท้ๆ ของตัวเอง เธอจะเลือกยังไงล่ะ?
“วันนี้ฉันจำเป็นต้องกลับไปที่บ้านของตระกูลถัง” เวินลั่วฉิงก็ยังเลือกลูกชายของตัวเองแท้ๆ เพราะว่าลูกชายแท้ๆ ของตัวเองโมโหแล้ว ต้องได้รับการปลอบใจ
“จำเป็นต้องกลับบ้าน?” เย่ซือเฉินหรี่ตา เมื่อกี้เธอรับโทรศัพท์ แล้วไม่ได้พูดอะไรเลย แต่ว่าพอวางสายแล้วกลับบอกว่าจะกลับบ้าน
สายโทรศัพท์ของใคร ทำให้เธอต้องรีบกลับบ้านขนาดนี้?
ยังจำเป็นต้องกลับบ้านอีก?
เวินลั่วฉิงยังไม่ได้ตอบคำถามของเขา โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นอีกครั้ง
เวินลั่วฉิงเห็นว่าเป็นคุณหมอประจำตัวของคุณปู่เวิน สีหน้าเปลี่ยนไปเลย รีบรับโทรศัพท์ด้วยความเร็ว “คุณหมอหลี่ ทำไมหรอคะ? หรือว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ฉันหรือเปล่า?”
“คุณเวิน คุณรีบมาโรงพยาบาลด่วนเลย อาการของคุณปู่ในตอนนี้ไม่ค่อยดีเลย” ในน้ำเสียงของคุณหมอหลี่ความกระวนกระวายแฝงอยู่อย่างเห็นได้ชัดเจน
ถึงแม้ว่าคุณชายสามเย่จะไม่ได้ยินคำพูดของคุณหมอหลี่ แต่เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าเดาออกแล้ว ฉะนั้นจึงเปลี่ยนทิศทางด้วยความเร็ว พุ่งตรงไปทางโรงพยาบาล
“ทำไมถึงเป็นแบบนี้? เมื่อกี้ตอนที่ฉันไปเยี่ยมคุณปู่ คุณปู่อาการยังดีอยู่แท้ๆ” เวินลั่วฉิงกระวนกระวายในใจ มือที่จับโทรศัพท์ก็อดสั่นไม่หยุดแล้ว
คุณหมอเคยพูด ถ้าหากอาการของคุณปู่แย่ลง เกรงว่า…..
“วันนี้คุณชายสองเวินเข้ามาเยี่ยมคุณเวิน ไม่รู้ว่าคุณชายสองเวินได้พูดอะไรกับคุณปู่เวินไปบ้าง คุณปู่เวินก็…….” คุณหมอหลี่ลังเลไปสักพัก สุดท้ายก็พูดเรื่องทั้งหมดกับเวินลั่วฉิงแล้ว
แววตาของเวินลั่วฉิงหรี่ขึ้นมา เวินจีหยัน ได้ ดีจริงๆ!!
เวินลั่วฉิงวางสายลง สีหน้าแย่มาก เธอเม้มปากแน่น ไม่ได้พูดอะไร
ในตอนที่เวินลั่วฉิงมาถึงโรงพยาบาล คุณปู่กำลังอยู่ในห้องฉุกเฉินอยู่
นอกห้องฉุกเฉิน เวินจีหยันยังไม่ไป ตอนแรกเขาคิดอยากจะไป แต่ว่าคุณหมอห้ามเขาไว้ ให้เขาเซนต์ชื่อ อีกอย่างอาการของคุณปู่เมื่อกี้ ก็ทำให้เขาตกใจมากจริงๆ
เวินจีหยันเห็นเวินลั่วฉิงเดินมากับเย่ซือเฉิน ร่างกายของเขาทรุดลงทันที
“นายพูดอะไรกับคุณปู่อีก?!” เวินลั่วฉิงมองไปทางเขา แววตาเย็นชาสุดขีด
“ฉันไม่ได้พูดอะไร ฉันแค่พูดว่าพวกเธอบังคับฉันจนไม่มีหนทางให้อยู่ต่อแล้ว นี่เป็นความผิดของพวกเธอ โทษฉันไม่ได้” เวินจีหยันสวนกลับหนึ่งที
“ไป” เวินลั่วฉิงสูดหายใจลึก สถานการณ์แบบนี้ เธอไม่อยากพูดไร้สาระกับเวินจีหยัน
เย่ซือเฉินอยู่ที่นี่ เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าเวินจีหยันกลัวแล้ว ฉะนั้นไม่กล้าคัดค้าน รีบจากไปด้วยความเร็ว
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ในที่สุดห้องฉุกเฉินก็ถูกเปิดออก
“คุณหมอหลี่ คุณปู่ของฉันเป็นยังไงบ้างคะ?” เวินลั่วฉิงเห็นคุณหมอหลี่เดินออกมา รีบถามด้วยความกระวนกระวาย ขณะนี้ ในน้ำเสียงของเธอมีความกลัวแฝงอยู่อย่างเห็นได้ชัดเจน
“คุณเวินวางใจได้เลย อาหารของคุณปู่เวินในตอนนี้คงที่แล้ว ยังไม่มีอันตรายต่อชีวิต แต่ว่า ยังไม่ได้ฟื้นขึ้นมา”
เวินลั่วฉิงถอนหายใจเบาๆ โชคดีที่ไม่เป็นอะไร โชคดีที่ไม่เป็นอะไร
“ต่อจากนี้ไม่ต้องให้เวินจีหยันเข้ามาเยี่ยมผู้ป่วยที่ห้องผู้ป่วยอาการนะคะ” เวินลั่วฉิงไม่รู้ว่าเวินจีหยันพูดอะไรกับคุณปู่ไปบ้าง แต่ว่าเธอไม่มีทางให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกเด็ดขาด
ในตอนที่ถังจื่อโม่กลับมาถึงบ้านของตระกูลถัง เวินลั่วฉิงยังไม่กลับมา เจ้าเด็กถังจื่อโม่ไม่พอใจเป็นอย่างมาก โมโหมาก ดังนั้น..