ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่901 เจ้าหญิงตัวจริงหรือตัวปลอม(6)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่901 เจ้าหญิงตัวจริงหรือตัวปลอม(6)
สีหน้าของหลี่เฉียงเปลี่ยนไปในทันที!ดวงตาคู่นั้นเบิกโพลงมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งหัวหน้าน้อยพูดจบ เขากลืนน้ำลายลงคออย่างไม่รู้ตัว: “หัวหน้าน้อย จริงเหรอ?จะทำอย่างนั้นจริงๆ เหรอ?”
“แล้วคุณคิดว่าอย่างไรล่ะคุณ?” หัวหน้าน้อยเลิกคิ้วขึ้น ก่อนจะกวาดตามองเขาสักพัก
จากนั้นหลี่เฉียงก็ได้แต่กดคำพูดของตัวเองเอาไว้ เป็นไปตามคาด หัวหน้าน้อยไม่มีทางเล่นไปตามกฎอยู่แล้ว
หัวหน้าน้อยนั้นน่ากลัวเสียจริง
แต่ทว่าในเมื่อหัวหน้าน้อยออกคำสั่งแล้ว เขาไม่กล้าขัดอยู่แล้ว จึงได้แต่ทำตามที่หัวหน้าน้อยสั่ง
เมื่อฟ้าค่อยๆ มืดลง แสงค่อยๆ หมดไป หัวหน้าน้อยยืนอยู่ด้านหน้าหน้าต่าง แสงจันทร์ด้านนอกสาดส่องลงบนใบหน้าของเขา จนทำให้เกิดเสน่ห์อย่างประหลาด
เขาไม่รู้ว่าคิดถึงอะไรขึ้นมาได้ จากนั้นก็ค่อยๆ เบ้ปาก แล้วก็ยิ้มขึ้นมาเบาๆ
ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ในตอนนี้
ตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มกว่าแล้ว มีรถคันหนึ่งกำลังขับอยู่บนถนน ที่คับแคบ และไม่เรียบเท่าไหร่ ดังนั้นรถเลยขับไปอย่างช้าๆ
ถังหยุนเฉิงนั่งอยู่บนรถ ด้วยแววตาเคร่งขรึม
หลังจากที่เขามาถึงที่เมืองไห่ ตอนแรกมากับหัวหน้ากงที่ทะเล เพื่อตรวจสอบศักยภาพของทะเล ซึ่งมันถือเป็นการตรวจสอบแบบปกติ
ถึงแม้ว่าถังหยุนเฉิงจะไม่ได้ลดความระแวดระวังลงเลยแม้แต่น้อย แต่เมื่อมาอยู่กับหัวหน้ากง เขากลับไม่ได้กังวลใจมากขนาดนั้น ถึงอย่างไรหัวหน้ากงจะปกป้องตระกูลกู้ขนาดไหน ก็ไม่มีทางช่วยตระกูลกู้ให้มาทำร้ายเขาได้
ดังนั้นการมีอยู่ของหัวหน้ากง ทำให้ถังหยุนเฉิงรู้สึกโล่งใจไปได้เล็กน้อย
แต่เมื่อตกค่ำ หัวหน้ากงก็ได้ข่าว ว่าเกิดเรื่องในหมู่บ้านหนึ่งของชานเมืองไห่ เลยให้เขามาตรวจสอบเสียหน่อย
หมู่บ้านเล็กๆ นั้นเป็นพื้นที่ของเหล่าตระกูลใหญ่ทั้งแปด
หัวหน้ากงเพียงแค่ให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่เข้าไปกับเขาด้วย หัวหน้ากงกลับพาคนอื่นๆ ให้ไปตรวจสอบต่อจากพวกเขา
ในตอนนั้น ใจของถังหยุนเฉิงก็รู้สึกหนักอึ้ง แต่คำสั่งของหัวหน้ากง ทำให้เขาไม่สามารถขัดได้ ถึงอย่างไรตอนนี้คนแซ่กงก็ยังเป็นผู้นำของตระกูลทั้งแปดอยู่
ยิ่งในสถานการณ์แบบนี้ คำสั่งของหัวหน้ากงถือว่ามีเหตุผลไม่น้อย พวกเขามาเพื่อตรวจสอบเมืองไห่ หมู่บ้านเล็กๆ แถวนี้เกิดเรื่องขึ้นแล้ว หัวหน้ากงเลยจัดให้เขาออกไปแก้ไขปัญหา ถังหยุนเฉิงเองก็ไม่สามารถเสนอความเห็นอื่นไปได้
แต่สิ่งที่ทำให้ถังหยุนเฉิงประหลาดใจก็คือ ตอนที่พวกเขารีบไปที่หมู่บ้านเล็กๆ นั้น ปัญหาของหมู่บ้านเล็กๆ นั้นได้แก้ไขไปหมดแล้ว เพราะปัญหาไม่ได้มีมากเท่าไหร่ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ก็เพราะว่าการที่ฝนตกติดต่อกันมาหลายวันทำให้บ้านบางหลังในหมู่บ้านมันพังลง
แต่ไม่มีคนที่ได้รับบาดเจ็บ หัวหน้าหมู่บ้านของคนของบ้านที่พังพวกนั้นจัดการจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว
มันเป็นเรื่องเล็กๆ จริงๆ อันที่จริงไม่ต้องให้ถังหยุนเฉิงมาก็ได้ เพียงแต่ว่าหัวหน้ากงบอกมาแล้ว ถึงอย่างไรก็เป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของคนที่อยู่ในหมู่บ้าน ถังหยุนเฉิงเลยปล่อยไปไม่ได้
ถังหยุนเฉิงเดินวนไปมาในหมู่บ้าน เมื่อเห็นว่าไม่มีปัญหาอะไรแล้ว แต่ถังหยุนเฉิงก็ยังจัดให้คนในหมู่บ้านไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย ก่อนจะออกไปจากหมู่บ้าน
พนักงานที่มากับเขานั้นดีที่เป็นคนของหมู่บ้าน ในเมื่อมาถึงหน้าบ้านแล้ว คนนั้นก็บอกว่าจะพักที่บ้านสักคืน และจะได้เฝ้าระวังสถานการณ์ในหมู่บ้านด้วย
ถังหยุนเฉิงไม่ได้พูดอะไรมากมาย ถ้าเกิดคนของตระกูลกู้อยากจะแก้แค้นจัดการเขา การจะเอาเจ้าหน้าที่มาอยู่ข้างกายก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี
แต่ทว่า จนกระทั่งถังหยุนเฉิงออกจากหมู่บ้านไปก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถึงอย่างนั้นถังหยุนเฉิงก็ไม่ได้รู้สึกวางใจมากขึ้น แต่กลับกังวลมากกว่าเดิมเสียอีก
ระหว่างที่เดินบนถนนบนภูเขานั้น ถนนยิ่งเดินทางยากมากขึ้นเรื่อยๆ ความเร็วของรถก็ค่อยๆ ช้าลง แววตาของถังหยุนเฉิงก็ยิ่งหนักใจมากขึ้นเรื่อยๆ
ถนนบนเขาก็ยิ่งแคบขึ้น เพราะว่าเมื่อครู่เพิ่งจะฝนตกก็เดินทางลำบากอยู่แล้ว ตอนนี้ฟ้ามืดอีก ถ้าเกิดว่าเกิด ‘เรื่องที่ไม่คาดฝัน’ ขึ้น ก็ยากที่จะป้องกัน
“เป็นอะไรเหรอ?” ถังหยุนเฉิงกำลังคิดอยู่ จู่ๆ รถก็หยุดลง เพราะว่ารถนั้นขับมาด้วยความเร็วที่ไม่มาก ดังนั้นเมื่อหยุดลงกะทันหัน เลยไม่ได้เกิดการกระทบกระทั่งอะไรมาก เพียงแต่ว่าสีหน้าของถังหยุนเฉิงก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
“ถนนข้างหน้าถูกขวางเอาไว้แล้ว น่าจะเป็นดินภูเขาถล่มลงมา” คนที่ขับรถนั้นคือบอดี้การ์ดของถังหยุนเฉิง เมื่อเห็นว่าถนนข้างหน้าถูกขวางเอาไว้ บอดี้การ์ดเสี่ยวอู๋เลยแอบร้อนรนอยู่ในใจ
ตอนที่พวกเขาไปนั้น ยังไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ตอนกลับมาถนนกลับโดนกักเอาไว้ มันทำให้ถังหยุนเฉิงที่หวาดระแวงอยู่เต็มอกตั้งแต่แรกนั้นยิ่งไม่สบายใจเข้าไปใหญ่
ถนนถูกขวางเอาไว้ รถไปไม่ได้แน่นอน ตอนนี้เขาอยากจะกลับไปที่หมู่บ้าน หรือไม่ก็กลับไปที่เมือง
ทางจากตรงนี้ไปถึงในเมือง ถ้าเกิดเดินกลับไป ก็ต้องใช้เวลาราวๆ สามชั่วโมง แต่ตอนนี้มันฝนตกอยู่ด้วย
ถังหยุนเฉิงไม่รู้ว่าคนพวกนั้นอยากจะทำอะไร ดังนั้นเลยคาดเดาไม่ได้ว่าอันตรายมันรอเขาอยู่ตรงไหน
จะกลับเข้าไปในตัวเมือง?หรือกลับหมู่บ้านดีนะ?
ถังหยุนเฉิงตัดสินใจไม่ได้ในทันที
“ขับรถต่อไปไม่ได้แล้ว ตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไรดี……” เมื่อบอดี้การ์ดเห็นว่าถังหยุนเฉิงไม่พูดอะไร เลยถามออกมาเบาๆ
“ลงจากรถ” ถังหยุนเฉิงหายใจอย่างเงียบๆ ก่อนจะตัดสินใจออกมาในที่สุด
เขาไม่แน่ใจว่าดินถล่มนี้เป็นอุบัติเหตุหรือมีคนตั้งใจทำขึ้นมา
ถ้าเกิดมีคนตั้งใจทำขึ้นมา เพื่อขวางทางของพวกเขา ก็เพื่อหยุดไม่ให้เขากลับไปที่เมือง งั้นก็เลือกกลับไปยันเมืองจะดีกว่า
บอดี้การ์ดได้รับคำสั่ง จากนั้นก็รีบลงจากรถ เพื่อช่วยถังหยุนเฉิงเปิดประตูรถ
ฝนตกไม่แรงนัก แต่ถนนบนเขานั้นมันเดินลำบากจริงๆ
“ประธานถัง ด้านหน้ามีคนอยู่” บอดี้การ์ดที่เดินอยู่ด้านหน้าพูดออกมาด้วยความตกใจอย่างกะทันหัน: “เหมือนกับเด็ก”
เสี่ยวอู๋สาดไฟฉายไปยังด้านหน้าที่ไม่ไกลนัก
ถังหยุนเฉิงตกใจ จะมีเด็กในที่แบบนี้ได้อย่างไร?
ถังหยุนเฉิงเดินต่อไปด้านหน้า ก็เห็นว่ามีเด็กคนหนึ่งอยู่ด้านหน้าจริงๆ
เด็กคนนั้นนอนอยู่บนพื้นไม่ขยับเลย ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เด็กน้อยคนนั้นนอนห่างจากดินที่ถล่มลงมาไม่ไกล ไม่รู้ว่าได้รับบาดเจ็บจากหินบนเขาที่ถล่มลงมาหรือเปล่า
แต่ทว่า ระยะที่เด็กห่างจากก้อนหินดินทรายนั้นมันประมาณสองสามเมตร ถึงจะได้รับบาดเจ็บ ก็คงไม่บาดเจ็บหนักมากเท่าไหร่
ถังหยุนเฉิงไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่มีเรื่องหนึ่งที่เขามั่นใจได้ ถ้าเมื่อครู่เขาไม่ลงจากรถ แล้วเลือกกลับไปที่หมู่บ้าน เขาคงไม่เห็นเด็กคนนี้
เขาไม่รู้ว่าการที่เด็กคนอยู่ตรงนี้ มันเป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย หรือว่า?
แต่ไม่ว่าอย่างไร ถังหยุนเฉิงก็ไม่ช่วยไม่ได้
ถังหยุนเฉิงใช้ไฟจากไฟฉายสาดไปที่ดินที่ถล่มลงมาก่อนจะรีบเดินเข้าไปหา เมื่อเดินเข้าไปใกล้เด็กคนนั้น เขาก็คุกเข่าลง ก่อนจะตรวจสอบสักหน่อย: “ยังหายใจอยู่ ไม่ได้บาดเจ็บอะไรมาก น่าจะไม่เป็นอะไรเท่าไหร่”
“งั้นตอนนี้พวกเรา……” เสี่ยวอู๋มองไปทางเด็กที่นอนอยู่บนพื้น ก่อนจะลังเลเล็กน้อย
“เอาเด็กขึ้นรถมาก่อน ต้องรีบช่วยเอาไว้” ถังหยุนเฉิงไม่มีความลังเลเลย ก่อนจะอุ้มเด็กขึ้นมา แล้วก็กลับเข้าไปในรถอีกครั้ง
ถึงถังหยุนเฉิงจะรู้ว่าเด็กคนนี้มีปัญหา เขาก็ยังจะทำแบบนี้อยู่ดี
ถังหยุนเฉิงอุ้มเด็กไปที่รถ ก่อนจะเช็ดดินโคลนบนหน้าของเด็กจนสะอาด จากนั้นก็ตรวจร่างกายของเด็กอย่างละเอียด ก็พบว่าร่างกายไม่ได้บาดเจ็บอะไรมาก
“ประธานถัง เป็นเด็กสาว เช็ดจนสะอาดแล้วก็น่ารักดีนะ” เสี่ยวอู๋มองเด็กน้อย ก่อนจะพูดออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ เสี่ยวอู๋พูดอย่างไม่ได้คิดอะไร
หางคิ้วของถังหยุนเฉิงนั้นเลิกขึ้นทันที เขามองใบหน้าของเด็กน้อย ดวงตาคู่นั้นค่อยๆ เคร่งเครียดขึ้น เด็กคนนี้งั้นเหรอ?