ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่907 เมื่อเห็นว่าเธอเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ก็ต้องตกใจจนขนลุกขนพอง(6)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่907 เมื่อเห็นว่าเธอเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ก็ต้องตกใจจนขนลุกขนพอง(6)
ถังหยุนเฉิงคิด ถึงหัวหน้ากงจะอยากช่วยตระกูลกู้ แต่ก็ไม่มีทางทำอย่างโจ่งแจ้งได้ ถึงหัวหน้ากงจะไม่สนใจ แต่ฉิงฉิงเองก็ต้องรีบไปที่เมืองไห่ รอฉิงฉิงไปถึงที่เมืองไห่ ด้วยความสามารถของฉิงฉิงนั้นจะต้องหาได้แน่ว่าเขาอยู่ที่ไหน
ขังเขาเอาไว้ทั้งคืนมันมีประโยชน์อะไรนะ?
ตอนนี้สัญญาณของหมู่บ้านยู่สุ่ยนั้นถูกบล็อก เลยโทรไปไหนไม่ได้ และรับข่าวจากด้านนอกไม่ได้ ดังนั้นในตอนนี้ถังหยุนเฉิงเลยยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นด้านนอก
เฟิ่งเหมียวเหมียวกังวลเรื่องของทางถังหยุนเฉิงตลอด จนแทบไม่ได้นอน จากนั้นเธอก็โทรถังหยุนเฉิงไม่ติดสักที เลยยิ่งกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น เธอสนใจสถานการณ์ของเมืองไห่มากเป็นพิเศษ
ข่าวที่ออกมาเกี่ยวกับถังหยุนเฉิงนั้นออกมาไม่นานเท่าไหร่ เฟิ่งเหมียวเหมียวก็เห็นแล้ว เมื่อได้อ่านข่าวนั้น มือของเฟิ่งเหมียวเหมียวสั่น จนโทรศัพท์ตกลงถึงพื้น
เฟิ่งเหมียวเหมียวก้มไปเก็บโทรศัพท์ เพียงแต่เพราะมือสั่นเป็นอย่างมาก ตัวก็สั่นไปด้วย เธอเลยเก็บโทรศัพท์ไม่ขึ้นสักที
เฟิ่งเหมียวเหมียวขาสั่นทั้งสองข้าง จนทั้งตัวควบคุมอะไรไม่ได้เลย ดังนั้นเธอเลยนั่งลงทันที สุดท้ายก็เก็บโทรศัพท์ที่ร่วงบนพื้นขึ้นมาได้
เฟิ่งเหมียวเหมียวรีบโทรหาถังหยุนเฉิงทันที แต่โทรศัพท์ของถังหยุนเฉิงก็ยังโทรไม่ติดอยู่ดี
จากนั้นเฟิ่งเหมียวเหมียวก็รีบโทรหาเวินลั่วฉิงทันที: “ฉิงฉิง คุณ คุณ ตอนนี้ อยู่ที่เมืองไห่หรือเปล่า?”
เพราะเฟิ่งเหมียวเหมียวกำลังสั่นกลัวเลยไม่ได้ฟังอย่างชัดเจน
“อยู่” เวินลั่วฉิงได้ยินเสียงของเฟิ่งเหมียวเหมียวก็รู้ทันทีว่าเฟิ่งเหมียวเหมียวจะต้องเห็นข่าวแล้วแน่นอน
“คุณ เห็นข่าวแล้วเหรอ?” มือของเฟิ่งเหมียวเหมียวนั้นกำโทรศัพท์แน่ เพื่อพยายามทำให้ตัวเองใจเย็นลง เธอหวังว่าตัวเองจะมองผิดไปเอง เธอหวังจริงๆ ว่าเวินลั่วฉิงจะตอบว่ายังไม่เห็นข่าว
“อือ” เวินลั่วฉิงเข้าใจอารมณ์ของเฟิ่งเหมียวเหมียวในตอนนี้ดี ตอนนี้เธอไม่มีทางคุมตัวเองได้ด้วยซ้ำ ยิ่งในสถานการณ์แบบนี้ยังเป็นเฟิ่งเหมียวเหมียวด้วย
“ลุงของคุณน่ะ เขา เขาไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้หรอก” เสียงของเฟิ่งเหมียวเหมียวนั้นยังคงสั่นเหมือนเดิม แต่เสียงของเธอนั้นกลับมั่นคง
เธอกับถังหยุนเฉิงเป็นสามีภรรยากันมาสามสิบกว่าปี เธอรู้จักถังหยุนเฉิงดี ถังหยุนเฉิงไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้นแน่นอน
ไม่มีทาง
“ฉันรู้” เวินลั่วฉิงเองก็ไม่เชื่อ อีกฝ่ายกำลังใส่ร้ายถังหยุนเฉิงแน่นอน แต่ตอนนี้ติดต่อถังหยุนเฉิงไม่ได้ เธอเลยไม่กล้าทำอะไรง่ายๆ
“คุณได้เจอลุงของคุณหรือยัง?ฉันโทรหาลุงของคุณไม่ติดสักที” เฟิ่งเหมียวเหมียวคิดถึงตอนที่ตัวเองติดต่อถังหยุนเฉิงไม่ได้สักที ก็รู้สึกร้อนใจ
“ฉันเองก็ไม่ได้ติดต่อคุณลุงได้เหมือนกัน” ในสถานการณ์แบบนี้เวินลั่วฉิงเองก็ไม่สามารถปิดบังเฟิ่งเหมียวเหมียวได้ เวินลั่วฉิงรู้ดีว่าต่อจากนี้จะเกิดเรื่องที่แย่กว่านั้นแน่นอน
เฟิ่งเหมียวเหมียวได้ยินคำพูดของเวินลั่วฉิง ก็ตัวแข็งทื่อไป แล้วก็รู้สึกปวดใจทันที พลางรู้สึกขมขื่นเป็นอย่างมาก
“ฉิงฉิง คุณว่าลุงของคุณจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า?ฉันหมายถึงว่าลุงของคุณจะเป็นอันตรายหรือเปล่า?” ถึงเฟิ่งเหมียวเหมียวจะเพิ่งตกใจจนมึนกับเรื่องนี้ แต่เธอกังวลความปลอดภัยของถังหยุนเฉิงมากกว่า
“ไม่หรอก ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับลุงหรอก” คำพูดของเวินลั่วฉิงนั้นมันชัดเจนเป็นอย่างมาก ในเมื่ออีกฝ่ายปล่อยข่าวแบบนี้ออกมา และสร้างสถานการณ์แบบนี้ แน่นอนว่าจะไม่มีทางทำให้ถังหยุนเฉิงเกิดเรื่องแน่นอน
ถังหยุนเฉิงยังมีชีวิตอยู่ ข่าวนี้ถึงจะยิ่งสะเทือนไปอีก
“ฉิงฉิง คุณจะต้องหาวิธี จะต้องช่วยลุงของคุณให้ได้” เฟิ่งเหมียวเหมียวจิตไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว ตอนนี้เธอทำได้เพียงฝากความหวังเอาไว้ที่เวินลั่วฉิง
ถ้าเรื่องนี้เวินลั่วฉิงไม่มีทางแก้ไขได้ ก็จะไม่มีใครทำได้อีกแล้ว
“คุณน้า คุณอย่าร้อนใจไปเลย ฉันจะคิดหาวิธีให้ได้” เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เธอก็ต้องหาวิธีแก้ไขอยู่แล้ว
ตอนนี้เธอเป็นคนของตระกูลถัง เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลถัง ยิ่งในสถานการณ์แบบนี้น่าจะเกิดขึ้นเพราะเธอ
“ฉิงฉิง งั้นฉันวางสายก่อนนะ คุณมีข่าวอะไรก็โทรหาฉันนะ” เฟิ่งเหมียวเหมียวรู้ว่าในสถานการณ์แบบนี้พูดไปก็ไม่มีประโยชน์ เธอเองก็ไม่อยากจะเสียเวลาเวินลั่วฉิงเลย
ในสถานการณ์แบบนี้ต้องสู้ยิบตา
หลังจากที่เฟิ่งเหมียวเหมียววางสายไป ก็ขาอ่อนจนทรุดลงไปนั่งกับพื้น โดยไม่ได้ลุกขึ้นมาสักพักใหญ่ๆ
เฟิ่งเหมียวเหมียวรู้ว่าจะให้คนชราของที่บ้านรู้เรื่องนี้ไม่ได้ เพราะคนแก่อายุมากแล้ว จะรับเรื่องหนักๆ ไม่ไหว
ตอนนี้ทำได้เพียงซ่อนเอาไว้ก่อน พลางหวังว่าฉิงฉิงจะสามารถรีบแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที
“พี่ใหญ่ หาเบอร์โทรศัพท์ของนักข่าวเจิ้งเจอแล้ว” อีกทางหนึ่ง เย่ซือเฉินได้รับข้อความจากกู้หวูแล้ว
“เบอร์ของเจิ้งเยว่ต้องติดต่อเธอเหรอ?” เย่ซือเฉินส่งเบอร์ที่กู้หวูส่งมาให้กับเวินลั่วฉิง เพราะเวินลั่วฉิงเชี่ยวชาญกับเรื่องนี้มากที่สุด
เวินลั่วฉิงมองตัวเลขเหล่านั้น ก่อนจะขมวดคิ้ว พลางคิด จากนั้นก็โทรไปหาเจิ้งเยว่
เมื่อโทรศัพท์ดังอยู่สักพักก่อนจะรับ เมื่อโทรติดแล้ว อีกฝ่ายก็ยังไม่พูดอะไร พลางได้ยินเสียงรบกวนดังเข้ามาด้วย
“ฮัลโหล ใครเหรอ?มีเรื่องอะไรก็พูดมาเลย” เสียงของอีกฝ่ายเหมือนจะหงุดหงิด และร้อนใจด้วย
“นักข่าวเจิ้ง ฉันคือถังฉิ้นเอ๋อนะ” เวินลั่วฉิงบอกชื่อของถังฉิ้นเอ๋อออกไป เวินลั่วฉิงรู้ว่าในฐานะที่เจิ้งเยว่เป็นนักข่าว ในตอนนี้จะต้องรู้ข่าวของถังหยุนเฉิงอยู่แล้ว และน่าจะรู้จักเธอด้วย
“ถังฉิ้นเอ๋องั้นเหรอ?คุณหนูใหญ่ตระกูลถังงั้นเหรอ?เป็นหลานของถังหยุนเฉิงงั้นเหรอ?” แน่นอน ว่าเจิ้งเยว่พูดตัวตนของเวินลั่วฉิงออกมาทันที
“นักข่าวเจิ้ง พวกเรามาคุยกันหน่อยได้ไหม?” เวินลั่วฉิงได้ยินเสียงของเจิ้งเยว่นั้นยุ่งเหยิงเป็นอย่างมาก เพราะน่าจะอยู่บนรถ น่าจะเหมือนว่ากำลังสัมภาษณ์อยู่
แววตาของเวินลั่วฉิงมืดลงเล็กน้อย เจิ้งเยว่จะได้ไปสัมภาษณ์เรื่องเกี่ยวกับถังหยุนเฉิงหรือเปล่านะ?
ถ้าเป็นแบบนี้ เธอน่าจะโทรไปยันเบอร์ที่ถูกแล้ว
แน่นอน ว่าถ้าเจิ้งเยว่ได้รับข่าวว่าจะต้องไปสัมภาษณ์ข่าวเกี่ยวกับถังหยุนเฉิง แน่นอนว่าไม่สามารถมาเจอหน้าเธอได้ แต่อย่างน้อยเธอก็สามารถรู้เรื่องของอีกฝ่ายผ่านเจิ้งเยว่ได้
“ตอนนี้ฉันไปเจอคุณไม่ได้ ตอนนี้ฉันจะไปสัมภาษณ์” แน่นอน ว่าเจิ้งเยว่ปฏิเสธเวินลั่วฉิงอยู่แล้ว
“นักข่าวเจิ้งได้รับข่าวที่เกี่ยวกับลุงของฉัน” เวินลั่วฉิงพอจะเดาได้ในใจ
“คุณถัง ไม่เสียชื่อจริงๆ ฉลาดมากเลยล่ะ” เจิ้งเยว่เองก็ไม่ปฏิเสธ เพราะแบบนี้ไม่จำเป็นต้องปิดบัง เพราะว่าในเมื่อเธอจะไปสัมภาษณ์ แน่นอนว่าจะรายงานข่าวออกมาในเร็ววัน
ไม่ว่าจะเป็นข่าวอะไร เธอก็กล้ารายงานทั้งนั้น
“เวลาที่นักข่าวเจิ้งประกาศข่าวออกมาจะสนใจความจริงบ้างไหม?” ถึงอย่างไรเวินลั่วฉิงก็หาข้อมูลบางอย่างของเจิ้งเยว่มาบ้าง สำหรับเจิ้งเยว่นั้น เวินลั่วฉิงยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่
“แน่นอน” เจิ้งเยว่ตอบอย่างมั่นใจ ในตอนนี้เธอกำลังไปสัมภาษณ์ เธอก็พอจะคุยได้อยู่เล็กน้อย
“ถ้าอย่างนั้นนักข่าวเจิ้งจะตัดสินความจริงอย่างไรเหรอ?” เสียงของเวินลั่วฉิงนั้นหนักมากยิ่งขึ้น พลางถามด้วยความลองใจ