ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่91 ชายหญิงชอบพอกันทั้งสองฝ่าย
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่91 ชายหญิงชอบพอกันทั้งสองฝ่าย
บทที่91 ชายหญิงชอบพอกันทั้งสองฝ่าย
“พี่ซือเฉิน พวกพี่กลับมากันแล้ว” “คนรู้จักเก่าของ เป็นลั่วฉิง ก็มองมาพอดี ตอนที่เธอมองเห็นเย่ซือเฉิน ทันใดนั้นใบหน้าที่สดใสก็ยิ้มออกมาบางๆ เสียงที่เปล่ง ออกมาก็อ่อนโยนมากขึ้น
เธอรีบเดินเข้ามา มองไปที่เป็นลั่วนิ่งที่ถูกเย่ซือเฉิน โอบเข้ามา พูดด้วยรอยยิ้มและเสียงอ่อนโยน : “คนนี้ก็ คือ คุณเป็นภรรยาใหม่ของพี่ซื้อเฉินใช่ไหม? ”
เงินลั่วฉิงยิ้มบางๆ ใช่สิ “คนรู้จักเก่าคนนี้ไม่รู้จัก
เธอ
แต่ว่าสำหรับเธอแล้ว เวินลั่วฉิงกลับเป็น ‘ความทรง จำฝังใจ
สี่ปีก่อน เพื่อจะใช้ภาพจอมปลอมปิดบังผู้อื่นเธอ เลยสมัครเรียนโรงเรียนการออกแบบ ตอนนั้นเธอสิ่งที่ เธอต้องการรอบรู้จริงๆคือจิตวิทยาอาชญากรรม
แต่ว่าเธอก็สนใจการออกแบบมาก และยังมี พรสวรรค์ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกแบบด้าน เครื่องประดับ
ธุรกิจเครื่องประดับเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของตระกูล เวิน ปีนั้นพ่อของเธอเวินจือฝางเป็นนักออกแบบเครื่อง ประดับที่โดดเด่นคนหนึ่ง
ถึงแม้ปีนั้นเวินจือฝางจะประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไป แต่ว่าตอนนั้นเขาทิ้งผลงานไว้ไม่น้อย นี่ก็เป็น เหตุผลที่สำคัญอย่างหนึ่งที่ต่อมาตระกูลเวินประสบ ความสำเร็จในธุรกิจเครื่องประดับอยู่หลายปี
เวินลั่วฉิงคิดว่าเธอก็น่าจะรับพรสวรรค์ด้านการ ออกแบบของเวินจือฝางมา ที่จริงการสมัครเรียน ออกแบบก็แค่เปลือก แต่ว่าเธอตั้งใจเรียนกมา ตอนนั้น ลูกทั้งสองคนเพิ่งคลอดมาไม่นาน เวลาส่วนใหญ่ของ เธอคืออยู่กับลูกสองคน
เพราะว่าลูกยังเล็ก เวลาส่วนมากคือนอน เป็นลั่วอึ้งเลยออกแบบร่างเครื่องประดับได้ไม่น้อยเลย ทีเดียว
ที่จริงก็เพราะว่าเธอชอบ ขณะเดียวกันก็เพื่อ บรรเทาความหดหู่ของการเรียนจิตวิทยา ตอนนั้นเธอก็
แค่วาดๆไป และก็ไม่คิดมาก
แต่ว่าต่อมาถูกมู่หรงด้วยหยางมองเห็น เพราะว่า ตอนนั้นมู่หรงด้วหยางมีหน้าที่ไปเป็นอาจารย์พิเศษ ของโรงเรียนสอนออกแบบ ตอนนั้นตัวตนที่ซ่อนเร้น ของมู่หรงด้วหยางก็คือนักออกแบบที่มีฝีมือคนหนึ่ง
พอมู่หรงด้วหยางมองเห็นผลงานของเธอ ก็ ต้องการให้เธอเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนั้นมาก บอกว่า ให้เป็นเงินค่าเงินลูกทั้งสอง
เวินลั่วฉิงคิดว่าข้อเสนอนี้ไม่เลว อีกอย่างเธอหวัง ว่าผลงานของตัวเองจะได้รับการยอมรับ
แต่ว่า ตอนนั้นเธอไม่สะดวกที่จะปรากฏตัว เพราะ
ว่าต้องดูแลลูก และก็มามีเวลาไปร่วมการแข่งขัน ดังนั้น เธอเลยเอาแบบร่างทั้งหมดให้มู่หรงด้ว
หยาง ให้อำนาจมู่หรงด้วหยางช่วยเธอทำเรื่องนี้อย่าง
เต็มที่
แต่ว่า วันถัดมาร่างที่ออกแบบนั้นกลับถูกขโมยไป คนที่ขโมยแบบร่างของเธอไปก็คือ ‘คนรู้จักเก่า’ตรง หน้านี้เอง -เฉียววี่หนาน
ปีนั้นเฉียววี่หนานอยู่ปีสี่ เป็นนักเรียนของมู่หรงด้ว หยาง ตอนนั้นก็เป็นแฟนของมู่หรงด้วหยาง
เฉียววี่หนานหน้าตาสวยมาก และยังเป็นสาวแต่ง ตัวทันสมัย สวยมีออร่า ทำให้คนมองแวบเดียวก็ถูก ดึงดูดไปด้วยความสวยแล้ว
ตอนนั้นเฉียววี่หนานกลับจีบมู่หรงด้วหยาง มู่หรง ด้วหยางก็จริงจัง
คืนนั้นมู่หรงด้วหยางเอาร่างออกแบบของเธอกลับ ไป เฉียววี่หนานก็อยู่ที่บ้านของมู่หรงดัวหยางพอดี
วันถัดมา เฉียววี่หนานจากไป มู่หรงด้วยหยางก็พบ ว่าไม่เจอผลงานออกแบบแล้ว
ตอนนั้นมู่หรงด้วหยางไปถามเฉียววี่หนานแล้ว แต่ เฉียววี่หนานปฏิเสธ ตอนนั้นมู่หรงด้วหยางยังเลือกที่จะ เชื่อเฉียววี่หนาน
แต่พอวันที่สาม ผลงานร่างออกแบบชิ้นหนึ่งของเป็นลั่วนิ่งก็ปรากฏบนบอร์ดของโรงเรียน คนออกแบบ ที่น่าประทับใจก็คือเฉียววี่หนาน
ในขณะเดียวกัน เฉียววี่หนานก็ใช้ผลงานนั้นเข้า ร่วมการแข่งขันด้วย
ยิ่งไปกว่านั้นเฉียววี่หนานเอาผลงานการออกแบ บอื่นๆของเวินลั่วฉิงไปจัดการ ปรับลดเป็นผลงานครึ่ง หนึ่งแล้วก็โพสต์ลงweiboของเธอ
โดยแบบนี้ เฉียววี่หนานเอาร่างออกแบบทุกอย่าง ของเวินลั่วฉิงไปเป็นของตัวเอง….
แค่หนึ่งวัน เฉียววี่หนานก็กลายเป็นคนดัง
ตอนนั้นมู่หรงด้วยหยางไปหาเหตุผลกับเฉียว หนาน แต่ว่าเฉียววี่หนานทำเป็นไม่รู้เรื่อง ยืนยันสุดๆว่า นั่นคือผลงานของเธอ
เพราะว่าตอนนั้นเวินลั่วฉิงเพิ่งจะคลอดลูก ตัวตนก็ พิเศษ ไม่สะดวกเรื่องนี้ และ เธอกับมู่หรงด้วหยางก็ไม่มี หลักฐานอะไรทั้งนั้น ตอนนั้นเธอมองออกว่ามู่หรงด้ว หยางยังไม่สามารถทนกับเฉียววี่มี่หนานที่ทำเกินไปและ โหดร้ายเกินไปได้ ดังนั้นตอนนั้นเรื่องนั้นก็ไม่มีอะไร เกิดขึ้นอีก
ต่อมาเฉียววี่หนานก็ยังใช้ผลงานของเธอเข้าร่วม การแข่งขันต่ออีกครั้งสองครั้ง ทุกครั้งจะได้รางวัลชนะ เลิศ จากวันนั้นเฉียววี่หนานก็มีชื่อเสียงไปทั่วโลก
ตอนนี้ต่างรู้จักกันดีว่าเฉียววี่หนานเป็นผู้หญิงที่เก่ง เป็นนักออกแบบที่มีความสามารถ
ตระกูลเฉียวก็ทำธุรกิจเครื่องประดับ ที่จริงก็เป็นคู่ แข่งของตระกูลเวิน หลายปีนี้เฉียววี่หนานใช้ร่าง ออกแบบของเธอไปส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์หลาย รุ่น ทุกรุ่นต่างขายดี ตอนนี้ธุรกิจเครื่องประดับของ ตระกูลเฉียวสามารถพูดได้ว่าเป็นเจริญรุ่งเรือง ขัด ขวางธุรกิจของตระกูลเวินอย่างมาก
เพราะว่าเป็นลั่วนิ่งแกล้งโง่แกล้งป่วยมาตลอด เธอ
ไม่เคยยุ่งธุรกิจของตระกูลเวิน เกี่ยวกับเรื่องของปีนั้น ตอนนั้นเธอไม่สอบสวนอะไร ต่อมาก็ไม่สนใจอีก
แค่คิดไม่ถึงว่าจะเจอเฉียววี่หนานที่นี่
เฉียววี่หนานมองไปที่เป็นลั่วนิ่ง สายตานุ่มนวลมาก รอยยิ้มอ่อนหวาน พูดได้ว่าเพอร์เฟคมาก
เวินลั่วฉิงแอบยิ้มอย่างเยือกเย็น เฉียววี่หนานแอ๊บ เก่งเสมอมา ไม่งั้นตอนนั้นก็คงไม่สามารถหลอกมู่หรง ด้วยหยางได้
“พี่ซือเฉิน คิดไม่ถึงว่าจู่ๆพี่จะแต่งงานกะทันหัน ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำ แม้แต่ฉันพี่ซือเฉินก็ไม่บอก เรื่องนี้ก็ ต้องปิดฉันด้วยเหรอ? “สายตาของเฉียววี่หนานมอง เงินลั่วฉิงตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วก็หันไปทางเย่ซือเฉินอ ย่างธรรมชาติ รอยยิ้มยังคงนุ่มนวลอ่อนหวาน
ท่าทางของเฉียววี่หนานก็ไม่มีอะไรผิดปกติและยัง รู้มารยาทได้เหมาะสมพอดีทีเดียว แน่นอนว่า ประโยคเรียบๆ ไม่กี่คำแบบนี้ชัดเจนว่า ความสัมพันธ์ของเธอกับ ซื้อเฉินนั้นไม่แย่เลยทีเดียว
ดวงตาของเวินลั่วฉิงกะพริบ โอ๊ย อะไรกันเนี่ย?
ผู้หญิงคนนี้เกี่ยวอะไรกับสามีเธอ? สนิทขนาดนี้ เชียว?
สามีเธอแต่งงานเรื่องอะไรต้องบอกผู้หญิงคนนี้ ด้วย? ผู้หญิงคนนี้จริงจังกับเธอมากไปแล้ว?
“ตัดสินใจกะทันหันน่ะ ยังไม่ได้แจ้งใครเลย”แต่ว่า ทำให้เป็นลั่วฉิงแปลกใจก็คือ จากนั้นจู่ๆเย่ซือเฉินก็ อธิบาย
ตาของเวินลั่วฉิงกะพริบ และก็กะพริบอีกครั้ง คุณ ชายสามเย่ที่ไม่ค่อยพูดตลอดมา กลับมาอธิบายให้ยัย สาวคนนี้ฟัง?
ความสัมพันธ์สองคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ? ที่จริง เวินลั่วฉิงคิดว่าเป็นเฉียววี่หนานที่เข้าหาเองอย่างไร้ ยางอาย แต่ดูแบบนี้แล้วกลับกลายเป็นว่าชายหญิง ชอบพอกันทั้งสองฝ่าย ทั้งสองรักกัน?
ถ้าเป็นปกติแล้ว ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่น เวินลั่วฉิง ยินยอมให้ทำสำเร็จแน่นอน
แต่ว่า ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้
“ฉันไม่ได้ว่าพี่ซือเฉินสักหน่อย พี่ซือเฉิน ยินดีกับ พวกพี่ด้วยนะ”เฉียววี่หนานได้ยินเย่ซือเฉินอธิบาย รอยยิ้มที่มุมปาก ก็สดใสแพรวพราวมากขึ้น ประโยคนี้ของเธอก็เหมาะสมมาก
แม้ว่าเฉียววี่หนานจะทำตัวอย่างธรรมชาติและ เหมาะสมมาก แต่เป็นลั่วนิ่งก็ยังมองเห็นตอนที่เฉียว หนานมองไปที่เยซือเฉินด้วยสายตาลึกซึ้งอย่างไม่ได้ ปกปิดความรักไว้หมด
มุมปากของเวินลั่วฉิงยกขึ้นบางๆ แบบนี้ ละคร เรื่องนี้ก็เล่นได้สนุกแล้ว เมื่อก่อนไม่เคยเจอ เรื่องเมื่อ ตอนนั้นเธอก็ไม่ติดใจอะไร แต่ตอนนี้เจอแล้ว งั้น….