ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1054 ใครเป็นเจ้าหญิง
เวินลั่วฉิงมองเธอ แล้วยิ้มอย่างเฉยชา รอยยิ้มนี้ ดูลึกซึ้งยากจะคาดเดา
จากนั้น เวินลั่วฉิงก็ละสายตาไป ไม่ได้มองไป๋หยิงอีก
ไป๋หยิงอึ้งไปอย่างเห็นได้ชัด เธอคิดไม่ถึงว่าเธอจ้องมองเวินลั่วฉิงถึงขนาดนี้ แล้วจู่ ๆ เวินลั่วฉิงจะยิ้มให้เธอ?
เวินลั่วฉิงคิดจะทำอะไร?
และเวินลั่วฉิงแสดงท่าทีไม่คิดจะสนใจเธอเลยสักนิด นั่นยิ่งทำให้ไป๋หยิงกัดฟันขบกรามด้วยความเกลียดแค้นมากยิ่งขึ้น
“ฉิงฉิง เธอยิ้มอะไรน่ะ?” ฉู่หลิงเอ๋ออยู่ข้าง ๆ เวินลั่วฉิงตลอด จึงเห็นว่าจู่ ๆ เวินลั่วฉิงก็ยิ้มออกมาจนรู้สึกแปลกใจ เวินลั่วฉิงยิ้มขึ้นมาเฉย ๆ ทำไม?
“เจอเรื่องที่น่าสนุกขึ้นมาน่ะ” เวินลั่วฉิงยิ้มมุมปากเล็กน้อย เรื่องเมื่อห้าปีก่อนเธอไม่ได้สืบให้แน่ชัด ในใจจึงรู้สึกยังไม่ค่อยวางใจเท่าไหร่ ยังไงซะการที่ไม่รู้ว่าศัตรูที่แอบอยู่ข้างหลังเป็นใคร ไม่แน่อาจจะโผล่มากัดเธอกะทันหันก็ได้ เรื่องแบบนี้คงไม่ดีแน่
ตอนนี้ผู้หญิงคนนี้โผล่ออกมาเอง เวินลั่วฉิงจึงคิดว่าเรื่องเมื่อห้าปีก่อนควรจะคลี่คลายได้แล้ว
“เรื่องน่าสนุก? เรื่องน่าสนุกอะไร?” ฉู่หลิงเอ๋อได้ยินว่ามีเรื่องน่าสนุกก็กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที
“ไม่ต้องรีบ คืนนี้น่าจะมีเรื่องสนุกให้ดู เธอคอยดูแล้วกัน” เวินลั่วฉิงรู้ดีว่าในเมื่อผู้หญิงคนนั้นโผล่มาในงานเลี้ยงแบบนี้ ต้องมีแผนอะไรแน่นอน ฉะนั้นเวินลั่วฉิงจึงรู้ว่าคืนนี้ต้องมีเรื่องสนุกแน่ ๆ”
“จริงเหรอ? เรื่องสนุกอะไร? ที่ไหนมีเรื่องสนุก?” ดวงตาของฉู่หลิงเอ๋อเป็นประกายขึ้นมาทันที เธอชอบดูเรื่องสนุกที่สุดแล้ว อะไรก็มาขวางให้เธอดูเรื่องสนุกไม่ได้หรอก
เวินลั่วฉิงครุ่นคิด จากนั้นก็เข้าไปกระซิบใกล้ ๆ ฉู่หลิงเอ๋อสองสามประโยค
ฉู่หลิงเอ๋อตาโตทันที สีหน้าดูตกตะลึงมาก : “เธอ เธอพูดจริงเหรอ?”
“อืม” เวินลั่วฉิงพยักหน้าเบา ๆ จากนั้นก็เหลือบมองไปทางไป๋หยิงแวบหนึ่ง
ตอนนี้ไป๋หยิงไม่ได้จ้องเวินลั่วฉิงอยู่ แต่กำลังพูดอะไรสักอย่างกับเฉิงโหรวโหรว
ฉู่หลิงเอ๋อหันไปมองตามสายตาของเวินลั่วฉิง จากนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด : “ทำไมเป็นหล่อน?”
“เธอรู้จักเหรอ?” เวินลั่วฉิงอึ้งเล็กน้อย รู้สึกคาดไม่ถึง ที่ฉู่หลิงเอ๋อรู้จักผู้หญิงคนนั้น
“หล่อนเป็นเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ ครั้งก่อนฉันเคยบอกเธอแล้ว” ฉู่หลิงเอ๋อเบะมุมปากเล็กน้อย : “เมื่อกี้นี้เธอหมายถึงหล่อนหรือเปล่า? หล่อนไม่เหมือนคนมีสมองเท่าไหร่……”
เวินลั่วฉิงตาเป็นประกายเล็กน้อย เจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้?
นี่ทำให้เธอคาดไม่ถึงจริง ๆ
ผู้หญิงคนนั้นเป็นเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้?
เวินลั่วฉิงเห็นท่าทีของคนสองสามคนที่อยู่ข้างผู้หญิงคนนั้น รวมถึงท่าทีที่ผู้หญิงคนนั้นมีต่อผู้หญิงข้าง ๆ ก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย : “เธอหมายถึงคนไหน?”
ลักษณะท่าทางของผู้หญิงคนนั้นไม่เหมือนเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้
“คนนั้นที่ใส่ชุดสีชมพูน่ะ รู้สึกจะชื่อเฉิงโหรวโหรว แต่ฉันจำได้ว่าหัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้เหมือนจะแซ่ซ่างกวน หัวหน้าแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ตามลูกสาวกลับมาได้แล้วทำไมถึงยังไม่เปลี่ยนแซ่ให้ลูกสาวอีกล่ะ? รู้สึกเรื่องนี้แปลก ๆ” ฉู่หลิงเอ๋อรู้สึกได้ว่าที่พวกเธอพูดเมื่อครู่นี้ไม่น่าจะใช่คนคนเดียวกัน : “เธอหมายถึงคนที่สวมชุดสีม่วงคนนั้นที่อยู่ข้างเฉิงโหรวโหรวใช่ไหม?”
“อืม” เวินลั่วฉิงตอบกลับเสียงเบา มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ช่วงนี้เรื่องที่เกิดขึ้นมากมายกับตระกูลถังล้วนเกี่ยวข้องกับองค์กรโกสต์ซิตี้ทั้งนั้น พูดตามตรงเรื่องระหว่างเธอกับองค์กรโกสต์ซิตี้น่าจะถือว่าจบไปนานแล้ว
เพียงแต่ว่า เวินลั่วฉิงไม่อยากให้ศัตรูของเธอเป็นเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ องค์กรโกสต์ซิตี้แข็งแกร่งมากไป แข็งแกร่งมากเกินไปจริง ๆ มู่หรงดัวหยางเคยบอกไว้ ว่าต่อให้เย่ซือเฉินกับถังหลินร่วมมือกันก็อาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ขององค์กรโกสต์ซิตี้
“ถ้าหากเป็นคนนั้นที่สวมชุดสีม่วงก็สมเหตุสมผล ผู้หญิงคนนั้นที่สวมชุดสีม่วงแค่ดูก็รู้ได้ทันทีว่าร้ายลึก และเป็นพวกไร้ศีลธรรมด้วย” ฉู่หลิงเอ๋อหรี่ตาลงเล็กน้อย : “ว่าแต่เธอไปทำอะไรให้หล่อนไม่พอใจ? หล่อนเป็นใครกันแน่?”
“พูดตามตรงนะฉันไม่รู้จักหล่อน ฉันเพียงแค่มั่นใจจากสายตาที่หล่อนมองฉันเมื่อครู่นี้ว่าเป็นผู้หญิงคนนั้นที่ทำร้ายฉันเมื่อห้าปีก่อน ฉันก็ไม่รู้ว่าเมื่อห้าปีก่อนทำไมหล่อนถึงต้องทำร้ายฉัน” เวินลั่วฉิงไม่เข้าใจเรื่องนี้จริง ๆ
เธอสามารถยืนยันได้ว่าเธอไม่เคยเจอกับผู้หญิงคนนั้นมาก่อนเลย ไม่รู้จักผู้หญิงคนนั้นเลยด้วย ถ้าหากเคยเจอมาก่อนเธอไม่มีทางลืมแน่นอน
“งั้นก็น่าแปลกนะ” ฉู่หลิงเอ๋ออึ้งไป แล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย : “เมื่อห้าปีก่อนเห็นได้ชัดว่าหล่อนต้องการทำลายเธอให้ป่นปี้ ถ้าหากไม่ได้โกรธเกลียดเคียดแค้นกันฉันไม่มีทางเชื่อ”
“ฉันถึงแปลกใจมากไง” เวินลั่วฉิงถอนหายใจเบา ๆ : “แต่ฉันคิดว่าวันนี้น่าจะหาคำตอบที่ชัดเจนได้ วันนี้หล่อนโผล่มาที่นี่ไม่น่าจะใช่เรื่องบังเอิญ น่าจะมาหาเรื่องฉัน”
“เธอหมายความว่าหล่อนจะจัดการเธอในงานเลี้ยงวันนี้เหรอ?” ฉู่หลิงเอ๋อทำตาโต : “หล่อนหาเรื่องตายหรือไง?”
“อย่าดูถูกหล่อน เมื่อห้าปีก่อนหล่อนวางแผนทำร้ายฉันสำเร็จ” สีหน้าของเวินลั่วฉิงดูเคร่งขรึมมากขึ้น เมื่อห้าปีก่อนแม้ว่าเธอไม่ได้เก่งกาจเหมือนอย่างตอนนี้ แต่ตอนนั้นคนธรรมดาทั่วไปก็ไม่มีทางทำร้ายเธอได้เด็ดขาด
ตอนนั้นถ้าไม่ใช่เพราะการออกแบบเป็นพิเศษของห้องพักในโรงแรม ถ้าไม่ใช่เพราะเธอหนีเข้าไปในห้องของเย่ซือเฉินพอดี เธอไม่กล้าคิดถึงผลที่ตามมาเลย
ฉู่หลิงเอ๋อตกใจ แล้วเงียบไปชั่วขณะ สีหน้าดูซีเรียสมากขึ้น
“อีกอย่างช่วงนี้เรื่องที่เกิดขึ้นกับตระกูลถังล้วนแต่เกี่ยวข้องกับองค์กรโกสต์ซิตี้มาตลอด ฉันคิดว่าน่าจะเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้ ผู้หญิงคนนี้น่าจะจงใจหาเรื่องฉัน ฉะนั้นจึงลงมือกับตระกูลถังครั้งแล้วครั้งเล่า” เวินลั่วฉิงฉลาดมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เรื่องพวกนี้จึงคิดได้อย่างทะลุปรุโปร่ง
“ไม่น่าใช่มั้ง? งั้นผู้หญิงคนนี้อยู่ในองค์กรโกสต์ซิตี้ฐานะอะไร? เจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้เพิ่งได้รับการยอมรับ เมื่อก่อนหล่อนไม่ได้พึ่งพาอำนาจของเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้แน่นอน” ฉู่หลิงเอ๋อสีหน้าดูตะลึงงัน : “อีกทั้งหล่อนหาเรื่องตระกูลถัง? นั่นแสดงว่าหล่อนรู้ว่าเธอมีสถานะเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง?”
“อืม มีความเป็นไปได้สูง” เวินลั่วฉิงคิดถึงเรื่องนี้นานแล้ว หลังจากที่เธอกลับสู่ตระกูลถัง คนที่รู้ว่าถังฉิ้นเอ๋อก็คือเวินลั่วฉิงมีไม่กี่คนเท่านั้น แต่ผู้หญิงคนนี้น่าจะรู้ด้วย
แต่ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้รู้ได้ยังไง?
ดูท่าทางผู้หญิงคนนี้รู้เรื่องของเธอไม่น้อยเลย
ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ!!
“โอ้ย ดูท่าจะรับบทโหดเหี้ยมแหะ” สีหน้าของฉู่หลิงเอ๋อเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด : “ตอนนี้หล่อนอยู่กับเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ ฉันว่าความสัมพันธ์ของหล่อนกับเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ดูไม่เลวเลยนะ”
ขณะที่ฉู่หลิงเอ๋อพูดนั้นน้ำเสียงฟังดูหม่นหมองมาก สีหน้าก็ดูเป็นกังวลขึ้นมา
“ความสัมพันธ์ของหล่อนกับเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้? ถ้าฉันไม่ได้ดูผิดไปล่ะก็ เจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้เชื่อฟังหล่อนมากเลยล่ะ” เวินลั่วฉิงเป็นคนช่างสังเกต แม้ว่าตอนนี้จะอยู่ค่อนข้างห่างกัน แม้ว่าสถานการณ์แบบนี้ไป๋หยิงจะไม่กล้าอวดดีเท่าไหร่ และพยายามปกปิดอย่างมาก แต่เวินลั่วฉิงก็ยังคงมองออกอยู่ดี