ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1057 ยัยแอ๊บแบ๊วหาเหาใส่หัว ตบหน้าตัวเองจัง ๆ (2)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- บทที่ 1057 ยัยแอ๊บแบ๊วหาเหาใส่หัว ตบหน้าตัวเองจัง ๆ (2)
“เจ้าหญิงเข้าใจผิดแล้วค่ะ ฉันไม่ได้เก็บมาใส่ใจเลยจริง ๆ ฉะนั้นไม่มีทางที่จะโกรธหรอกค่ะ ฉันก็แค่รู้สึกว่าพวกเราค่อนข้างมีวาสนาต่อกัน เลยตั้งใจเข้ามาทักทายน่ะค่ะ” รอยยิ้มบนใบหน้าของฉู่หลิงเอ๋อดูชัดเจนมากยิ่งขึ้น ตอนนี้เธอไม่ได้โกรธจริง ๆ เพราะเธอดูออกว่าตอนนี้เจ้าหญิงคนนี้กำลังโกรธมาก ฉะนั้นเธอจึงไม่โกรธเลยสักนิด
“จริงสิ ฉันเรียกคุณว่าเจ้าหญิงแบบนี้ดูห่างเหินเกินไปหน่อย ฉันจำได้ว่าเจ้าหญิงแซ่เฉิงใช่ไหมคะ? งั้นต่อไปฉันจะเรียกคุณเฉิงแล้วกัน” ฉู่หลิงเอ๋อมองเฉิงโหรวโหรว แววตาดูมีประกายขึ้นมาเล็กน้อย นี่สิถึงจะเป็นจุดประสงค์ที่แท้จริงของเธอ
ถึงแม้คราวก่อนระหว่างเธอกับเจ้าหญิงคนนี้จะมีปัญหาไม่ลงรอยกันสักเท่าไหร่ แต่ฉู่หลิงเอ๋อรู้จักยับยั้งชั่งใจ จึงไม่มีทางก่อเรื่องในสถานการณ์แบบนี้
แต่เมื่อครู่นี้ฉู่หลิงเอ๋อเห็นเต็มตาว่าเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้คนนี้มองฉิงฉิงของเธอเป็นศัตรู ในเมื่อเป็นศัตรูกับฉิงฉิงของเธอ งั้นเธอก็ไม่เกรงใจแล้ว
เธอไม่หาเรื่องอย่างโจ่งแจ้ง แต่แค่ต้องการทำให้เจ้าหญิงที่ไม่มีสมองคนนี้ลำบากใจต่อหน้าทุกคนแค่นี้ก็ง่ายเหลือเกิน ไม่ต้องหาเรื่องทะเลาะเลยสักนิด
เฉิงโหรวโหรวเดิมทียังมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าบ้าง แต่หลังจากที่ได้ยินคำพูดของฉู่หลิงเอ๋อ โดยเฉพาะตอนที่ได้ยินฉู่หลิงเอ๋อเรียกเธอว่าคุณเฉิง รอยยิ้มบนใบหน้าของเฉิงโหรวโหรวก็แข็งทื่อไปทันที
เฉิงโหรวโหรวเม้มมุมปากจนแน่น ไม่พูดไม่จาไปชั่วขณะ
ตอนนี้ เฉิงโหรวโหรวอ่อนไหวกับปัญหาเรื่องแซ่มากเป็นพิเศษ ก่อนหน้านี้แม้ว่าองค์กรโกสต์ซิตี้จะยอมรับตัวตนของเธอแล้ว แต่หัวหน้ากลับไม่ยอมให้เธอเปลี่ยนแซ่ ก่อนหน้านี้แม้ว่าในใจเธอรู้สึกไม่ค่อยพอใจ แต่ก็ไม่ได้คิดมากจนเกินไป
หลังจากที่ได้ยินคำพูดพวกนั้นของไป๋หยิง หลังจากที่รู้ว่าเธอไม่ใช่ลูกสาวของหัวหน้า ในใจของเธอก็เหมือนมีหนามปักอยู่ ทิ่มแทงจนเธอรู้สึกทรมานอย่างมาก
หัวหน้าไม่ยอมให้เธอเปลี่ยนแซ่ แสดงให้เห็นว่าไม่ได้ยอมรับตัวตนของเธอจริง ๆ
ฉะนั้น ตอนนี้ฉู่หลิงเอ๋อเอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมาต่อหน้าทุกคน ทำให้เฉิงโหรวโหรวโกรธมากเลยทีเดียว
“อ้อ ฉันจำได้ว่าหัวหน้าแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ดูเหมือนจะแซ่ซ่างกวนใช่ไหมคะ? แล้วทำไมเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ถึงแซ่เฉิงล่ะ? องค์กรโกสต์ซิตี้ยอมรับเจ้าหญิงแล้วแต่ทำไมถึงไม่ให้เจ้าหญิงเปลี่ยนแซ่ล่ะคะ? ฉันได้ยินมาว่า องค์กรโกสต์ซิตี้เคร่งครัดเรื่องกฎระเบียบมาก และให้ความสำคัญกับเรื่องของฐานะตัวตนมากด้วย ฉะนั้นเรื่องการใช้แซ่ของบรรพบุรุษน่าจะไม่ทำสะเพร่าแบบนี้นะคะ?” ฉู่หลิงเอ๋อเห็นสีหน้าท่าทางที่เปลี่ยนไปของเฉิงโหรวโหรว ก็อดไม่ได้ที่จะแอบหัวเราะในใจ แน่นอน เธอไม่มีทางปล่อยเฉิงโหรวโหรวไปง่าย ๆ อย่างนี้หรอก
ในเมื่อเธอต้องทำ ก็จะทำให้ถึงที่สุดแน่นอน
ตอนที่ทุกคนได้ยินประโยคก่อนหน้าของฉู่หลิงเอ๋อ ก็เริ่มเดากันไปต่าง ๆ นา ๆ แล้ว ตอนนี้ได้ยินฉู่หลิงเอ๋ออธิบายแบบนี้อีก ก็ยิ่งคาดเดากันไปใหญ่ บางคนถึงขนาดเริ่มซุบซิบขึ้นมาทันที
“ฉันก็ได้ยินว่ากฎระเบียบขององค์กรโกสต์ซิตี้นั้นเข้มงวดมาก เรื่องแบบนี้ไม่น่าจะสะเพร่าได้ ทำไมรู้สึกว่าเรื่องนี้มีอะไรแปลก ๆ นะ?”
“แปลกจริงด้วย ไม่รู้ว่าองค์กรโกสต์ซิตี้ทำแบบนี้หมายความว่ายังไง?”
“ในเมื่อเป็นลูกสาวที่หัวหน้าให้การยอมรับ ทำไมหัวหน้าถึงไม่ยอมให้ลูกสาวคนนี้เปลี่ยนแซ่ล่ะ? หรือว่าหัวหน้าจะมีเจตนาอื่น?”
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของทุกคนถึงแม้ไม่ดังมาก แต่ตอนนั้นพวกเขากลับอยู่ใกล้กับเฉิงโหรวโหรวมาก เฉิงโหรวโหรวจึงได้ยินอยู่แล้ว
“เป็นฉันเองที่ไม่อยากเปลี่ยน ฉันถูกย่าเก็บมาเลี้ยงตั้งแต่เด็ก เลยใช้แซ่ของย่า ตอนนี้ถึงแม้ว่าพ่อแท้ ๆ ของฉันจะรับตัวกลับแล้ว แต่คงจะลืมครอบครัวที่รับเลี้ยงฉันในเมื่อก่อนไม่ได้หรอกนะ” คราวนี้ เฉิงโหรวโหรวตอบกลับได้ค่อนข้างไวทีเดียว
เพียงแต่ว่า ต่อให้เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ก็ไม่น่าจะต้องเป็นเธอออกมาพูดด้วยตัวเอง เธอแสดงออกอย่างรีบร้อนเกินไปจริง ๆ
ถ้าหากเป็นแบบนี้ ให้คนขององค์กรโกสต์ซิตี้ที่อยู่ข้างกายเธอเป็นคนพูดออกมาจะได้ผลดีกว่านี้แน่นอน
ไป๋หยิงมองเฉิงโหรวโหรวแวบหนึ่ง แล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย ยัยโง่ไร้สมองคนนี้ มันโง่จริง ๆ เลย
เรื่องแบบนี้ไม่ต้องให้หล่อนพูดออกมาเองหรอกนะ
“อ๋อ ที่แท้คุณเฉิงก็อยากเปลี่ยนนี่เอง พอดูออกค่ะว่าคุณเฉิงเป็นคนที่มีใจกตัญญู” ฉู่หลิงเอ๋อยิ้มออกมาไม่หยุด ดูออกว่าตอนนี้ฉู่หลิงเอ๋อยิ้มอย่างมีความสุขมากจริง ๆ
ฉู่หลิงเอ๋อหยุดพูดครู่หนึ่ง แล้วคิ้วของเธอก็ขมวดเล็กน้อย ดูเหมือนจะคิดอะไรขึ้นมาได้ ดูเหมือนกำลังวุ่นวายใจเล็กน้อย : “ในเมื่อคุณเฉิงเป็นคนที่กตัญญูรู้คุณ งั้นทำไมหลังจากที่คุณเฉิงได้เป็นเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้แล้วถึงไม่สนใจใยดีกับครอบครัวที่รับเลี้ยงคุณเลยล่ะ? ตอนนี้คุณเฉิงใช้ชีวิตสุขสบายอยู่ในองค์กรโกสต์ซิตี้ แต่ครอบครัวที่รับเลี้ยงคุณเฉิงในเมื่อก่อนกลับใช้ชีวิตอย่างลำบากอยู่บนเขา ฉันได้ยินมาว่าหลายวันก่อนคุณย่าท่านนั้นที่รับเลี้ยงคุณเฉิงล้มป่วยแต่ไม่มีแม้แต่เงินไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล”
ฉู่หลิงเอ๋อเป็นคนที่ค่อนข้างแค้นฝังใจ คราวก่อนเฉิงโหรวโหรวหาเรื่องเธอ หลังจากนั้นเธอก็เลยไปสืบเรื่องเกี่ยวกับเฉิงโหรวโหรวมาบ้าง
แน่นอนว่าการที่ฉู่หลิงเอ๋อไปสืบเรื่องพวกนี้สาเหตุหลัก ๆ ก็เป็นเพราะสถานะเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ของเฉิงโหรวโหรว
เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดของฉู่หลิงเอ๋อ ก็พากันอึ้งไปหมด ขณะที่หันไปมองเฉิงโหรวโหรวอีกครั้ง สายตาที่มองก็ดูเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน
แน่นอน องค์กรโกสต์ซิตี้ยิ่งใหญ่มากเกินไป จึงไม่มีใครกล้าไปหาเรื่องเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ ดังนั้นพวกคนที่คอยดูเรื่องสนุกต่างก็พากันถอยห่างอย่างเงียบ ๆ เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องกับตัวเอง
เฉิงโหรวโหรวโมโหจนอกแทบระเบิด โกรธจนหน้าเขียว แล้วก็หน้าซีด ดวงตาคู่นั้นจ้องเขม็งไปที่ฉู่หลิงเอ๋อ โกรธจนแทบอยากจะจับฉู่หลิงเอ๋อมาฉีกกินทั้งเป็น
“เจ้าหญิงเหนื่อยแล้ว ฉันขอตัวพาเจ้าหญิงไปพักหน่อย ขอตัวนะคะทุกท่าน” ไป๋หยิงทนดูต่อไปไม่ได้แล้ว ไป๋หยิงรู้ว่าถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ไม่เพียงแต่เฉิงโหรวโหรวเท่านั้นที่จะขายหน้า แม้แต่องค์กรโกสต์ซิตี้ก็คงถูกเฉิงโหรวโหรวทำให้อับอายขายหน้าไปด้วย
“อ้อ คุณเฉิงเหนื่อยแล้ว? งั้นคุณเฉิงรีบไปพักเถอะค่ะ” ฉู่หลิงเอ๋อตอบรับด้วยความ“ห่วงใย”เป็นอย่างมาก เพียงแต่ตอนนี้ฉู่หลิงเอ๋อจงใจพูดเสียงดังขึ้น เพื่อให้ทุกคนได้ยินอย่างทั่วถึง
ทุกคนต่างได้ยินคำว่าคุณเฉิงที่ฉู่หลิงเอ๋อเรียกอย่างชัดเจน!
เฉิงโหรวโหรวเดิมทีก็โมโหมากอยู่แล้ว โมโหจนแทบจะฆ่าคนได้แล้ว ตอนนี้เมื่อได้ยินฉู่หลิงเอ๋อจงใจเรียกเธอว่าคุณเฉิง เฉิงโหรวโหรวก็อยากจะเข้าไปฉีกฉู่หลิงเอ๋อให้เป็นชิ้น ๆ จริง ๆ
ไป๋หยิงออกแรงดึงเธอเอาไว้ : “พวกเราไปพักกันก่อนเถอะ”
เฉิงโหรวโหรวไม่มีฉลาด แต่ไป๋หยิงฉลาด ไป๋หยิงมองออกว่าฉู่หลิงเอ๋อจงใจทำให้เฉิงโหรวโหรวตกที่นั่งลำบาก เฉิงโหรวโหรวไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉู่หลิงเอ๋อจริง ๆ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เฉิงโหรวโหรวคงเสียเปรียบแน่ ๆ
“เธอดึงฉันทำไม? ทำไมเมื่อกี้เธอไม่ช่วยฉัน เธอไม่เห็นเหรอว่ายัยฉู่หลิงเอ๋อมันจงใจทำให้เสียหน้า?” เฉิงโหรวโหรวถูกไป๋หยิงลากมาที่มุมหนึ่งด้านนอก สีหน้ายังคงบึ้งตึงมาก และได้ระบายความโมโหใส่ไป๋หยิง
ไม่ง่ายเลยที่เฉิงโหรวโหรวจะรู้ทันว่าฉู่หลิงเอ๋อจงใจทำให้เธอเสียหน้า
ไป๋หยิงโกรธแทบเป็นแทบตาย แต่จำเป็นต้องอดทนไว้ เพราะเธอยังต้องใช้ประโยชน์จากสถานะเจ้าหญิงของเฉิงโหรวโหรว เธอยังต้องใช้ประโยชน์จากอำนาจขององค์กรโกสต์ซิตี้จัดการกับเวินลั่วฉิง
“เธอสงบสติอารมณ์ลงหน่อย ฉู่หลิงเอ๋อจงใจยั่วโมโหเธอแจ่มแจ้งอย่างนี้ เธอโกรธจนตกหลุมพรางของหล่อน สถานการณ์อย่างนี้เธอต้องรู้จักปกปิดอารมณ์ของตัวเอง” ไป๋หยิงใช้ความอดทนสอนเรื่องพื้นฐานพวกนี้กับเฉิงโหรวโหรว
“เธอก็รู้ว่ามันจงใจทำ แค้นนี้ยังไม่จบหรอกนะ ฉันไม่มีทางปล่อยมันไปแบบนั้นแน่” เดิมทีเฉิงโหรวโหรวก็เป็นคนที่ใจแคบอยู่แล้ว และเป็นคนที่แค้นฝังใจมากด้วย คราวก่อนเธอมีปัญหากับฉู่หลิงเอ๋อ แต่คราวก่อนเฉิงโหรวโหรวไม่ได้จองหองเหมือนอย่างตอนนี้
“ฉู่หลิงเอ๋อทำแบบนั้นก็เพราะเวินลั่วฉิง ฉะนั้นการที่พวกเราจัดการเวินลั่วฉิงก็เท่ากับจัดการฉู่หลิงเอ๋อด้วยเหมือนกัน” ไป๋หยิงไม่อยากให้มีปัญหาอื่นเพิ่มขึ้น ไม่ว่ายังไง แผนการของเธอก็สำคัญที่สุด ไม่มีทางให้เรื่องอื่นมากระทบกับแผนการของเธอเด็ดขาด