ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1060 ศัตรูหัวใจตามมาแล้ว ชักสนุกแล้วสิ (3)
“ยอมสิ ยอมอยู่แล้ว” ไป๋หยูหนิงเม้มปากเล็กน้อย ถึงแม้ตอนนี้เธอพูดว่ายอม แต่เห็นได้ชัดว่าไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่
เพราะไป๋หยูหนิงรู้ดีกว่าใครว่าสไตล์การทำงานของรุ่นพี่เป็นยังไง องค์กรของพวกเขามีกฎว่าทุกครั้งที่รับภารกิจจำเป็นต้องรับค่าตอบแทน และค่าตอบแทนไม่น้อยเลย ต่อให้ช่วยเพื่อนหรือคนรู้จักก็ต้องเก็บเงิน
เหมือนครั้งก่อนที่เวินลั่วฉิงขอให้เธอช่วยเรื่องถังหยุนเฉิง
ที่จริงครั้งนั้นไป๋หยูหนิงไม่อยากเก็บเงินจากเวินลั่วฉิง เธอไปหารุ่นพี่ อยากพูดกับรุ่นพี่ว่าไม่ต้องเก็บค่าตอบแทนครั้งนี้
แต่รุ่นพี่บอกว่าจะแหกกฎไม่ได้
ตอนนั้นรุ่นพี่พูดมาประโยคหนึ่ง ทำให้เธอพูดปฏิเสธไม่ออกอีกเลย
ตอนนั้นรุ่นพี่พูดว่า เขากับเธอสนิทสนมกัน ยิ่งไม่สามารถแหกกฎได้ ไม่อย่างนั้นคนอื่นจะเอาไปนินทาได้
ตอนนั้นรุ่นพี่พูดว่าพวกเขาสนิทสนมกัน ทำให้เธอตื้นตันใจมาก และดีใจมากอีกด้วย
เธอชอบรุ่นพี่มาตั้งหลายปีขนาดนั้น แม้ว่าไม่เคยสารภาพรักไปตรง ๆ แต่เรื่องที่เธอทำไปมากมายที่จริงก็แสดงให้เห็นชัดเจนอยู่แล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่รุ่นพี่พูดแบบนี้ออกมา เธอรู้สึกว่าน่าจะเป็นการตอบตกลงของรุ่นพี่แล้ว
เดิมทีเธอคิดว่าหลังจากทำภารกิจครั้งนี้เสร็จจะกลับไปถามรุ่นพี่ให้แน่ชัดสักหน่อย
แต่คิดไม่ถึงว่าจู่ ๆ จะถูกผู้ชายหน้าไม่อายคนหนึ่งตามตื้อขนาดนี้
ไป๋หยูหนิงกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ จนเหม่อลอยเล็กน้อย
“เรื่องของฉันไม่ได้รีบร้อนเท่าไหร่ มานี่ มาดื่มไวน์กันสักแก้ว พวกเราค่อย ๆ คุยกัน” เวินลั่วฉิงบอกว่าต้องการให้ไป๋หยูหนิงช่วยเหลือที่จริงก็แค่ข้ออ้างเท่านั้น เธอทำเพื่อรั้งไม่ให้ไป๋หยูหนิงเป็นฝ่ายเข้าไปหารุ่นพี่คนนั้นก่อน
แน่นอน เธอไม่เพียงแต่ขัดขวางไม่ให้ไป๋หยูหนิงเป็นฝ่ายเข้าไปหารุ่นพี่คนนั้นก่อนเท่านั้น แต่ต้องการให้รุ่นพี่คนนั้นเห็นว่าไป๋หยูหนิงในตอนนี้กำลังดื่มไวน์ พูดคุยสนุกสนาน เป็นตัวของตัวเองสุด ๆ
ฉู่หลิงเอ๋อเข้าใจเจตนาของเวินลั่วฉิงทันที ฉู่หลิงเอ๋อนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับไป๋หยูหนิง : “มา พวกเรามาเล่นเกมกัน ใครแพ้คนนั้นต้องดื่ม”
ในเมื่อต้องเล่น ก็ต้องเล่นใหญ่หน่อย ฉู่หลิงเอ๋อชำนาญเรื่องแบบนี้ที่สุดแล้ว
“คุณฟู่ มานั่งเล่นกับพวกเราสิคะ” ฉู่หลิงเอ๋อกวักมือเรียกคุณฟู่ ท่าทางแบบนั้นเหมือนกวักมือเรียกสัตว์เลี้ยงไม่มีผิด
แต่คุณฟู่กลับนั่งลงอย่างว่านอนสอนง่าย เขานั่งลงข้าง ๆ ไป๋หยูหนิง
ไป๋หยูหนิงมองคุณฟู่ ด้วยสายตาที่ไม่ค่อยพอใจนัก : “ทำไมต้องให้เขามาเล่นด้วย?”
หลายวันมานี้ เธอใกล้จะถูกผู้ชายคนนี้ทรมานจนเป็นบ้าแล้ว ตอนนี้เธออยากอยู่ให้ห่างจากผู้ชายคนนี้หน่อย
“เกมนี้อย่างน้อยต้องเล่นกันสามคนขึ้นไปถึงจะได้ เธอก็รู้นี่ว่าฉิงฉิงดื่มเหล้าไม่เป็น” ฉู่หลิงเอ๋อไม่มีทางยอมให้ไป๋หยูหนิงทำลายแผนการของเธอหรอก จากนั้นก็ยกแก้วไวน์หลายใบมาวางบนโต๊ะ
“ใครแพ้คนนั้ต้องดื่ม แล้วถ้าหากใครชนะล่ะ?” ไป๋หยูหนิงไม่ได้ปฏิเสธอีกต่อไปแล้ว เพียงแต่ไป๋หยูหนิงยังสงสัยกฎของเกมนี้อยู่เล็กน้อย
“คนที่ชนะสามารถขอร้องให้คนอื่นอื่น ๆ ทำอะไรก็ได้” ฉู่หลิงเอ๋อตาเป็นประกายขึ้นมา มุมปากมีรอยยิ้มอย่างเห็นได้ชัด
เวินลั่วฉิงก็ยิ้มออกมาเหมือนกัน ฉู่หลิงเอ๋อไหวพริบดีมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว มีฉู่หลิงเอ๋ออยู่ด้วย เรื่องนี้คงยิ่งสนุกมากขึ้น
“ตกลง” ไป๋หยูหนิงตาเป็นประกายขึ้นมา ครั้งนี้ตอบตกลงด้วยความสนุกสุด ๆ ถ้าหากเธอชนะล่ะก็ จะให้ผู้ชายคนนี้อยู่ให้ห่าง ๆ จากเธอ
“ตกลงครับ” คุณฟู่เองก็ตอบตกลงอย่างน่าสนุกเช่นกัน ขณะที่เขาพูด ดวงตาคู่นั้นหันไปมองไป๋หยูหนิง ความคิดของไป๋หยูหนิงเขาดูออกอยู่แล้ว เพียงแต่ ไป๋หยูหนิงไม่มีโอกาสชนะแน่นอน
ฉู่หลิงเอ๋อให้คนหยิบไพ่ป๊อกมาให้
“เกมนี้ง่ายมาก นี่คือไพ่ป๊อก พวกเราสามคนทุกคนหยิบไปคนละใบ คนที่ถือไพ่ใหญ่สุดถือว่าชนะ คนที่ชนะสามารถสั่งให้อีกคนทำอะไรก็ได้” คราวนี้ฉู่หลิงเอ๋ออธิบายอย่างละเอียด แน่นอน รอยยิ้มที่มุมปากของเธอก็ยิ่งเห็นชัดมากขึ้นด้วย
“ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม?” ฉู่หลิงเอ๋อสับไพ่สักครู่ จากนั้นก็หันไปมองอีกสองคนที่นั่งฝั่งตรงข้าม
“ฉันโอเค” ไป๋หยูหนิงตอนนี้คิดแค่ว่าหลังจากชนะแล้วสามารถสั่งให้ผู้ชายตรงหน้าไสหัวไปให้ไกลหน่อย ดังนั้นเธอจึงไม่มีปัญหาอะไร
ไป๋หยูหนิงคิดแค่ว่าทั้งหมดนี้ก็แค่อาศัยดวงเท่านั้น เล่นหลาย ๆ ครั้งเข้า เธอก็จะมีโอกาสชนะเอง ขอแค่เธอสามารถชนะสักครั้ง เธอก็บรรลุเป้าหมายได้แล้ว
“ผมก็ไม่มีปัญหา” คุณฟู่หลุบตาต่ำลงเล็กน้อย นัยน์ตาลึก ๆ นั้นมีประกายบางอย่างแวบออกมาเล็กน้อย
เวินลั่วฉิงมองพวกเขาอยู่ ก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่สายตาของเธอเหลือบไปมองรุ่นพี่คนนั้นอีกครั้ง เธอพบว่ารุ่นพี่คนนั้นยังคงพูดคุยกับคนอื่นอยู่ แต่เห็นได้ชัดว่าไม่ได้มีท่าทางสุขุมเยือกเย็นเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว
เวินลั่วฉิงพบว่า รุ่นพี่คนนั้นแกล้งทำเป็นมองมาทางพวกเขาโดยไม่ได้ตั้งใจหลายครั้งแล้ว และเวินลั่วฉิงก็เห็นว่า ทุกครั้งที่รุ่นพี่คนนั้นมองมา สีหน้าก็ดูขรึมขึ้นเล็กน้อย
เห็นได้ชัดว่า รุ่นพี่คนนั้นคิดไม่ถึงว่าไป๋หยูหนิงจะไม่ไปหาเขา แต่กลับมานั่งเล่นเกมกับคนอื่น
ตอนนี้ในใจรุ่นพี่คนนั้นคงจะอึดอัดมากเลยล่ะสิ?
เป็นอย่างที่เวินลั่วฉิงคิดไว้ไม่มีผิด ตอนนี้ในใจของรุ่นพี่รู้สึกอึดอัดมาก และรู้สึกโกรธขึ้นมาแล้วด้วย
แม้ว่ารุ่นพี่จะแสร้งทำเป็นไม่เห็นไป๋หยูหนิงมาตลอด แต่ที่จริงรุ่นพี่คอยสังเกตไป๋หยูหนิงอยู่ตลอดเวลา และรุ่นพี่รู้ว่าไป๋หยูหนิงเห็นเขาตั้งนานแล้ว
ในเมื่อไป๋หยูหนิงเห็นเขาแล้ว ทำไมไม่เข้ามาหาเขา?
รุ่นพี่เหมียวเหยียนยังให้สนใจกับคนอื่น ๆ ที่อยู่กับไป๋หยูหนิงด้วย เหมียวเหยียนรู้จักฉู่หลิงเอ๋ออยู่แล้ว
แต่วันนี้เวินลั่วฉิงปลอมตัวมา เขาจึงจำเวินลั่วฉิงไม่ได้
ส่วนผู้ชายคนนั้น เขาก็รู้จัก เพราะได้รับข่าวตั้งนานแล้ว ว่าหลังจากที่ไป๋หยูหนิงทำภารกิจครั้งนี้เสร็จแต่ไม่กลับไปทันที เพราะอยู่กับผู้ชายคนนี้ตลอด
ส่วนตัวตนของผู้ชายคนนั้น เขายังสืบไม่ได้
แต่ เขารู้ว่าไป๋หยูหนิงชอบเขามาตลอด ในใจของไป๋หยูหนิงมีแต่เขา ฉะนั้นเขาไม่กังวลเลยว่าระหว่างผู้ชายคนนั้นกับไป๋หยูหนิงจะมีอะไรกันหรือเปล่า
ไป๋หยูหนิงไม่มีทางไปจากเขาเด็ดขาด
เมื่อคิดถึงเรื่องพวกนี้เหมียวเหยียนก็โล่งใจขึ้นมาเล็กน้อย อารมณ์ก็ค่อย ๆ ดีขึ้นมาหน่อย
“เริ่มกันเถอะ ทุกคนหยิบไพ่หนึ่งใบ” ฉู่หลิงเอ๋อเอาไพ่ทั้งหมดวางไว้ตรงกลางโต๊ะ จากนั้นให้ไป๋หยูหนิงกับคุณฟู่หยิบคนละใบ
คุณฟู่ดูเหมือนจะไม่ได้คิดอะไรมาก หยิบไพ่ออกไปอย่างรวดเร็ว แต่คุณฟู่ไม่ได้เปิดดูก่อน แล้วเอาไพ่วางลงบนโต๊ะ แน่นอนว่าวางไพ่คว่ำหน้าลง ตัวเขาเองไม่ได้ดู คนอื่นก็มองไม่เห็นเช่นกัน
ไป๋หยูหนิงอึ้งไปเล็กน้อย หันไปมองเขาด้วยความแปลกใจ เขาไม่เปิดดูหน่อยเหรอ?
อะไรของเขาเนี่ย?
ถึงแม้ไป๋หยูหนิงจะรู้สึกแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกมา เธอรีบหยิบไพ่ออกมาหนึ่งใบ
ฉู่หลิงเอ๋อเห็นพวกเขาสองคนหยิบไพ่เสร็จแล้ว เธอจึงหยิบออกมาหนึ่งใบ ฉู่หลิงเอ๋อหงายไพ่ของเธอทันที เพื่อให้ทุกคนเห็นได้อย่างชัดเจน
ฉู่หลิงเอ๋อหยิบได้ไพ่คิง
ไป๋หยูหนิงมองไพ่ในมือของตัวเองแวบหนึ่ง แล้วก็เบ้ปากเล็กน้อย ด้วยความผิดหวัง เพราะเธอจับได้ไพ่เลข 3 ถูกกำหนดว่ามีค่าน้อยสุด
ไป๋หยูหนิงนึกขึ้นได้จึงหันไปมองคุณฟู่ ไม่รู้ว่าเขาจับได้ไพ่อะไร?
ไป๋หยูหนิงรู้ดีไม่ว่าเขาจับได้ไพ่อะไรก็ต้องใหญ่กว่าเธอแน่นอน แต่ไป๋หยูหนิงหวังว่าไพ่ของเขาจะไม่ใหญ่ไปกว่าฉู่หลิงเอ๋อ
ไป๋หยูหนิงกลัวว่าถ้าเขาชนะขึ้นมาจะขอร้องให้ทำเรื่องแปลกประหลาด
คุณฟู่หงายไพ่ที่วางอยู่ตรงหน้าตัวเองขึ้นมา เป็นไพ่โพแดง 10 เล็กกว่าฉู่หลิงเอ๋อ
ไป๋หยูหนิงรู้สึกโล่งใจอย่างเห็นได้ชัด เธอมองไปทางฉู่หลิงเอ๋อ ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า : “เธอชนะแล้ว บอกข้อเรียกร้องของเธอมาเถอะ”
ไป๋หยูหนิงคิดว่าข้อเรียกร้องของฉู่หลิงเอ๋อไม่มีทางเป็นผลเสียต่อเธอแน่นอน
“ตกลง งั้นฉันจะบอกข้อเรียกร้องแล้วนะ” ฉู่หลิงเอ๋อมองไป๋หยูหนิง แล้วยิ้มออกมาจนตาแทบจะเป็นสระอิแล้ว