ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1062 ขอเรียกร้องที่แสนบ้าคลั่ง (2)
“ฉันไม่เอาใบติดหนี้ ฉันจะเอาเงินสด และต้องเป็นเดี๋ยวนี้ ทันทีทันใด หากคุณโอนเงินให้ฉันตอนนี้ไม่ได้ งั้นคุณก็ทำตามข้อเสนอของฉันเลย”ฉู่หลิงเอ๋อตัดบทไป๋หยูหนิงอีกครั้งชนิดที่ไม่ให้โอกาสเจรจาเลยสักนิด
“ฉู่หลิงเอ๋อ มันก็แค่เกมไม่ใช่หรือ?คุณทำเกินไปหรือเปล่า คุณจงใจหาเรื่องแบบไม่มีเหตุผล?ข้อเรียกร้องของคุณเกินขอบเขตไปแล้ว คุณกำลังฝืนบังคับคนอยู่นะ”ไป๋หยูหนิงเห็นฉู่หลิงเอ๋อมีท่าทีหนักแน่นระคนความหงุดหงิดเล็กน้อย แต่เธอไม่อยากหอมแก้มผู้ชายคนนี้จริงๆนี่นา
เธอไม่ได้ชื่นชอบผู้ชายคนนี้สักหน่อย เธอจะหอมแก้มเขาได้ยังไง?
ดังนั้น เธอรู้สึกว่าฉู่หลิงเอ๋อกำลังทำให้เธอลำบากใจซะแล้ว
“ไป๋หยูหนิง มันเป็นข้อตกลงของพวกเรา ฉิงฉิงเป็นพยานได้ ในเมื่อคุยกันแล้ว และฉันก็เป็นฝ่ายชนะ ฉันมีอิสระในการยื่นข้อเรียกร้อง ส่วนคุณเป็นฝ่ายแพ้ คุณก็ต้องทำตามกฎที่ตั้งไว้ ต้องทำตามที่ฉันบอก”เมื่อฉู่หลิงเอ๋อบังเกิดไอเดียแล้วจะไม่มีทางยอมโอนอ่อนผ่อนตามเด็ดขาด
“ฉู่หลิงเอ๋อก็แค่เล่นเกม คุณไม่จำเป็นต้องเลยเถิดขนาดนี้มั้ง?อีกอย่างข้อเรียกร้องของคุณเกินพอดี ใครจะทำได้”ไป๋หยูหนิงไม่ได้คิดจะเบี้ยว เพียงแต่สิ่งที่ฉู่หลิงเอ๋อเสนอนั้นทำให้เธอลำบากใจเหลือเกิน
“ไป๋หยูหนิง คุณไม่เคยเล่นเกมเหรอ?ข้อเรียกร้องนี้เกินไปหรือ?เมื่อก่อนฉันเคยพนันกับคนอื่นว่าถ้าแพ้จะวิ่งล่อนจ้อนที่กลางสนามหนึ่งชั่วโมงนะ ของคุณมันจิ๊บๆ?”ฉู่หลิงเอ๋อทำตามขาวใส่ไป๋หยูหนิง ประชดไป๋หยูหนิงว่าโลกทัศน์แคบ
“งั้นคุณก็ไม่ได้แพ้”ไป๋หยูหนิงชะงักด้วยความตะลึงงัน ทว่าเธอประเมินเหตุการณ์นั้นว่าฉู่หลิงเอ๋อต้องเป็นฝ่ายชนะแน่ๆ เพราะไม่เคยได้ยินข่าวฉู่หลิงเอ๋อเปลือยกายเลยสักครั้ง
“ใช่ ครั้งนั้นฉันไม่ได้แพ้ แต่ถ้าหากฉันแพ้ ฉันก็ไม่เบี้ยวหรอก ฉันจะทำตามแน่นอน”ตอนนั้นฉู่หลิงเอ๋อชนะ ดังนั้นเวลานี้เธอจึงพูดได้สบายใจเฉิบ
“คุณชนะ คุณก็พูดง่ายสิ”ไป๋หยูหนิงรู้ว่าต้องเป็นแบบนี้อยู่แล้ว“ฉู่หลิงเอ๋อ คุณเปลี่ยนข้อเรียกร้องใหม่ อันนี้เกินไปแล้ว”
“ไป๋หยูหนิง ไม่ได้เกินไปเลย เมื่อก่อนตอนพวกฉันเล่นtruth or dare ตอนนั้นฉิงฉิงแพ้ ฉันให้ฉิงฉิงหอมแก้มผู้ชายคนไหนก็ได้ที่อยู่ในนั้น ซึ่งฉิงฉิงก็ทำตามที่ฉันบอกด้วย”ฉู่หลิงเอ๋ออยากให้ไป๋หยูหนิงหลงคารม จึงใช้เวินลั่วฉิงแอบอ้าง
“ฉันไม่เชื่อ”ไป๋หยูหนิงตะลึงงัน ดวงตาทั้งคู่พลันมองไปยังเวินลั่วฉิง“ฉิงฉิงแพ้ให้คุณได้ไง”
“จริงนะ ครั้งนั้นฉิงฉิงแพ้จริงๆ ตอนนั้นฉิงฉิงก็ทำตามที่ฉันบอก โดยไม่หอมแก้มผู้ชายที่อยู่ด้วยกัน คุณไม่เชื่อก็ถามฉิงฉิงได้”ดวงตาฉู่หลิงเอ๋อประกายแสงความขบขันหลายส่วน เธอไม่มีทางบอกไป๋หยูหนิงหรอกว่าตอนนั้นฉิงฉิงหอมแก้มถังจื่อโม่
“จริงหรือฉิงฉิง?ตอนนั้นคุณหอมแก้มผู้ชายจริงๆเหรอ?”ไป๋หยูหนิงมองเวินลั่วฉิง เธอรู้ว่าเวินลั่วฉิงไม่ใช่คนเสกสรรปั้นแต่ง
ไป๋หยูหนิงไม่เชื่อฉู่หลิงเอ๋อ ทว่าเธอเชื่อถือคำพูดของเวินลั่วฉิง
“ใช่ ฉู่หลิงเอ๋อพูดจริง”เวินลั่วฉิงทำหน้าแน่นิ่ง ตอบอย่างเป็นธรรมชาติ สิ่งที่ฉู่หลิงเอ๋อกล่าวมาเป็นความจริงทั้งหมด ถึงแม้ตอนนั้นเธอจะหอมแก้มลูกชายของเธอก็ตาม เพราะลูกชายของเธอก็เป็นบุรุษเพศเหมือนกัน ซึ่งไม่ได้ผิดเลยสักนิด
แน่นอน เวินลั่วฉิงก็ไม่ได้โง่งมถึงขั้นอธิบายรายละเอียดให้ไป๋หยูหนิงฟัง
“ตอนนี้เชื่อแล้วสินะ”ฉู่หลิงเอ๋อเห็นเวินลั่วฉิงให้ความร่วมมือ เธอก็ยิ่งกระหยิ่มใจยิ่งขึ้น “ดังนั้น คุณรีบทำตามเลย คุณอย่าถ่วงเวลาอีก ฉันไม่ปล่อยคุณไปแน่”
“ถ้าคุณไม่ทำตามที่ฉันบอก ฉันก็ไม่รับรองว่าต่อจากนี้ฉันจะทำเรื่องอะไร”ฉู่หลิงเอ๋อไม่อยากให้ไป๋หยูหนิงยืดเวลาอีกต่อไป และไม่อยากให้ไป๋หยูหนิงผ่านด่านง่ายๆ ดังนั้นเธอจึงเค้นเสียงข่มขู่ไป๋หยูหนิงโดยตรง
“ไป๋หยูหนิง คุณรู้จักฉันดี ฉันทำได้ทุกเรื่อง อย่างเช่นฉันอาจจะตะโกนเรียกเหมียวเหยียนที่เธอแอบรักก็ได้”ฉู่หลิงเอ่อรู้สึกว่าเมื่อสักครู่เธอพูดไม่เพียงพอ ดังนั้นฉู่หลิงเอ๋อจึงเสริมวาจาขู่ข่มเพิ่มเติม
คุณฟู่ได้ยินฉู่หลิงเอ๋อพูดแววตาก็เคร่งขรึมอย่างฉายชัด เขารู้เรื่องนี้ตั้งนานแล้ว ทว่าเมื่อได้ยินจากปากฉู่หลิงเอ๋อ เขาก็ยังคงรู้สึกแสบหูเป็นพิเศษ!
ไป๋หยูหนิงแอบกัดฟัน บัดนี้เธอรู้สึกขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ทว่าก็จนปัญญา เธอรู้จักนิสัยใจคอของฉู่หลิงเอ๋อ ฉู่หลิงเอ๋อเป็นยัยบ้าที่ชอบก่อความวุ่นวายขั้นเทพเชียว
ดังนั้นไป๋หยูหนิงจึงรู้ว่าฉูหลิงเอ๋อทำได้ตามที่บอกทุกประการจริงๆ
เรื่องที่เธอแอบรักรุ่นพี่ไม่ใช่ความลับตั้งนานแล้ว เธอทุ่มเทเพื่อรุ่นพี่มาหลายปีติดต่อกัน เธอคิดว่ารุ่นพี่คงรู้ ซึ่งครั้งก่อนรุ่นพี่ยังบอกว่าระหว่างพวกเธอมีความสัมพันธ์ที่สนิทชิดเชื้อมาก ถือได้ว่าเขาตอบสนองเธอแล้วหรือเปล่า?
ถึงอย่างนั้นไป๋หยูหนิงก็ยังไม่แน่ใจ และอีกอย่างเธอก็ไม่เคยสารภาพรักกับรุ่นพี่ตรงๆ ไม่รู้ว่ารุ่นพี่ชอบเธอหรือเปล่า
ตอนนี้อยู่ในงานเลี้ยงของบริษัทเว้ยคังกรุ้ป ที่นี่มีผู้คนสถานะสูงศักดิ์มากมาย
หากฉู่หลิงเอ๋อป่าวประกาศต่อหน้าฝูงชน เธอเกรงว่าจะสร้างความยุ่งยากให้แก่รุ่นพี่ได้
“โอเค โอเค ก็แค่เกมไม่ใช่เหรอ?ฉันทำตามที่คุณบอกก็ได้”ไป๋หยูหนิงครุ่นคิดดูแล้ว สุดท้ายก็ตัดสินใจทำตามสิ่งที่ฉู่หลิงเอ๋อบอก
ก็แค่หอมแก้มคุณฟู่หนึ่งที ไม่เร็วก็จบสิ้น
ยิ่งไปกว่านั้นตำแหน่งที่พวกเธอนั่งอยู่ลับหูลับตาคนเล็กน้อย ซึ่งตอนนี้ไม่มีใครสังเกตมองพวกเธอด้วย คงไม่มีใครเห็นหรอกมั้ง?
ทว่าไป๋หยูหนิงก็ยังคงมองไปยังเหมียวเหยียนด้วยจิตใต้สำนึก และเห็นอีกฝ่ายไม่ได้มองมาทางนี้ ไป๋หยูหนิงพลันรู้สึกโล่งอก
คุณฟู่เห็นการตอบสนองแรกของไป๋หยูหนิงคือมองไปยังเหมียวเหยียน แววตาของเขาก็ทอประกายความเย็นเยียบหลายส่วน เธอแคร์รุ่นพี่คนนี้ขนาดนี้เลยหรือ?
รุ่นพี่คนนี้มีอะไรดีนักหนา?คุ้มค่าที่เธอทำอย่างนี้แล้วหรือ?!
ไป๋หยูหนิงคิดว่าไม่ว่าจะหดหัวหรือยืดหัวก็ต้องเจอมีดคาบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงได้แต่ฝืนทำใจแล้วละ ในเมื่อไป๋หยูหนิงตัดสินใจได้แล้วจึงไม่ได้ลังเลอีกต่อไป เธอรีบเอาริมฝีปากเข้าใกล้คุณฟู่ จากนั้นก็หอมแก้มคุณฟู่หนึ่งครั้งแล้วรีบนั่งตัวตรง
เดิมทีใบหน้าคุณฟู่ที่เคร่งขรึมอย่างเศร้าสร้อยก็ชะงักค้างกะทันหัน ความเย็นเยียบมลายหายไปจากใบหน้า ความเย็นเยือกในแววตาก็ดับสูญอย่างรวดเร็ว เขานั่งตัวตรงๆ ไม่ได้ขยับ ไม่พูดจา คล้ายกับกลายเป็นประติมากรรมแกะสลักในชั่วพริบตาเสียอย่างนั้น
ถึงแม้ไป๋หยูหนิงจะหอมแก้มด้วยความเร็วแสง ริมฝีปากเธอแค่แตะเบาๆหนึ่งครั้งเท่านั้น ทว่าความอ่อนนุ่มนั้นชัดเจนมาก ชัดเจนจึงตรึงอยู่ในผิวพรรณของเขา จากนั้นก็แผ่ขยายไปทั่วทั้งร่างกาย บัดนี้ เขารู้สึกว่าร่างกายตัวเองเร่าร้อนขึ้นมาแล้ว!!