ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1068 อับอายจนโมโหคลั่งหลังถูกปฏิเสธ (2)
ตอนนี้ไป๋หยูหนิงกลับปฏิเสธเขาหลายต่อหลายครั้ง……
ทั้งยังทำหลังจากที่เขาบอกชอบไป๋หยูหนิงแล้วด้วย
จุดนี้ทำให้เหมียวเหยียนใกล้จะคลั่งแล้ว
ทำไมไป๋หยูหนิงถึงปฏิเสธเขา?
ทำไม?
เพื่อผู้ชายคนนี้หรือ?
เหมียวเหยียนนึกได้ว่าเมื่อสักครู่ไป๋หยูหนิงหอมแก้มผู้ชายคนนี้ ดวงตาทั้งคู่พลันหรี่ขึ้น ไป๋หยูหนิงปฏิเสธเขาเพราะผู้ชายคนนี้จริงๆหรือ?
“หนิงเอ๋อร์บอกผมว่าทำไม?”เหมียวเหยียนโกรธจนจะระเบิดออกมาแล้ว แต่เขาไม่ใช่คนทั่วไป จึงแสดงอารมณ์ฉุนเฉียวออกมาไม่ได้และเปิดเผยอารมณ์ของตัวเองไม่ได้
เขาพยายามข่มกลั้นเพลิงโทสะสุดขีด พยายามให้ตัวเองใจเย็นเข้าไว้
ไป๋หยูหนิงเม้มปาก ไม่ได้ตอบ เพียงแต่มองคุณฟู่ที่กำลังลิ้มลองไวน์แดงแวบหนึ่ง
เพราะเธอกับผู้ชายคนนี้ตกลงกันไว้แล้ว ทว่าจะบอกเรื่องนี้กับรุ่นพี่ไม่ได้
คุณฟู่รับรู้ได้ว่าไป๋หยูหนิงกำลังมองมายังตน เขาเงยหน้ามองไปยังไป๋หยูหนิง จากนั้นก็ยิ้มกะทันหัน ซึ่งเป็นรอยยิ้มที่อ่อนโยน เป็นความอ่อนโยนที่เอ็นดูตามใจคุณถึงกระดูก
หน้าตาคุณฟู่หล่อเหลาเอาการ เพียงแต่ปกติจะเป็นคนนิ่งๆ เย็นชาหน่อยๆ บัดนี้เขายิ้มอย่างอ่อนโยนก็ราวกับดอกไม้ที่กำลังผลิดอกในบ่อน้ำร้อน เป็นความงามที่ชวนให้คนมองพร่ามัว ทั้งยังมีความรู้สึกให้ความอบอุ่นทั่วร่างกายเขาอีกด้วย
เวินลั่วฉิงเห็น‘รูปงาม’ของเย่ซือเฉินจนเคยชินแล้ว บัดนี้อดมองคุณฟู่มากๆไม่ได้
ผู้ชายคนนี้มีเสน่ห์น่าหลงใหลจริงๆ เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าไป๋หยูหนิงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
ทว่าไป๋หยูหนิงแอบรักเหมียวเหยียนมาหลายปี ความชอบนั้นกลายเป็นความคุ้นเคยส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันไปแล้ว คุณฟู่อยากให้ไป๋หยูหนิงลืมเลือนเหมียวเหยียนแล้วมาชอบเขา มันเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย
ยิ่งไปกว่านั้นเวินลั่วฉิงรู้ว่าไป๋หยูหนิงเป็นคนดื้อดึงมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อสักครู่เหมียวเหยียนก็‘สารภาพรัก’กับไป๋หยูหนิงแล้วด้วย เวินลั่วฉิงรู้ว่าเมื่อเหมียวเหยียน‘สารภาพรัก’กับไป๋หยูหนิงแล้ว นอกจากเหมียวเหยียนทำเรื่องผิดต่อไป๋หยูหนิง ไม่เช่นนั้นแล้วมีความเป็นไปได้สูงที่ไป๋หยูหนิงจะไม่รักคนอื่นอีก
บัดนี้ไป๋หยูหนิงมองคุณฟู่ เห็นคุณฟู่ยิ้มกะทันหันอย่างนี้ ไป๋หยูหนิงก็อึ้งและชะงักค้าง อันที่จริงปกติผู้ชายคนนี้จะเย็นชาไปบ้าง แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยยิ้มให้เธอเลย เพียงแต่ปกติจะเป็นยิ้มแบบอันธพาลหรือไม่ก็ยิ้มทะเล้น
ทุกครั้งที่เขายิ้มให้เธอก็ไม่เคยเป็นเรื่องดีงามเลย ดังนั้นทุกครั้งที่เห็นเขายิ้ม เธอมักจะรู้สึกขวัญหนีดีฝ่อและจะขบฟันด้วยความชิงชังทุกครั้งด้วย
ทว่าตอนนี้เขายิ้มอย่างนี้……
ทันใดนั้นไป๋หยูหนิงรู้สึกว่าตรงหน้าขาวโพลน คล้ายกับว่าจะมองไม่ค่อยชัดเจน แต่รอยยิ้มของเขากลับชัดเจนยิ่งนัก คล้ายกับรอยยิ้มนี้เบ่งบานอยู่ในหัวใจเธอ
ไป๋หยูหนิงเม้มปากอีกครั้ง ไม่รู้เพราะเหตุใด ชั่วขณะนี้รู้สึกว่าการเต้นของหัวใจของเธอผิดจังหวะไปหนึ่งครั้งกะทันหัน
ไม่มีอะไรผู้ชายคนนี้ยิ้มอย่างนี้ทำไม?
บ้าหรือเปล่า!!
ไป๋หยูหนิงรีบละสายตาไป ไม่มองคุณฟู่อีก
เพียงแต่ท่าทางของไป๋หยูหนิงไวเกินไป ดังนั้นมองแล้วให้ความรู้สึกว่ากำลังลุกลนและมีเจตนาหลบหลีก
รอยยิ้มที่มุมปากของคุณฟู่ยิ้มเข้มข้นขึ้น พึงพอใจกับการตอบสนองของไป๋หยูหนิงมาก
เดิมทีเหมียวเหยียนก็ไม่ใช่คนทั่วไปอยู่แล้ว เขาเป็นคนช่างสังเกต ดังนั้นการสื่อกันและกันของไป๋หยูหนิงในชั่วพริบตาเขากลับมองเห็นอย่างชัดเจน
แววตาเหมียวเหยียนเคร่งขรึมอย่างเห็นได้ชัด เมื่อกี้เขาให้ไป๋หยูหนิงอธิบาย แต่ไป๋หยูหนิงไม่ได้อธิบาย ซ้ำยังมองไปยังคุณฟู่ ดังนั้นเหมียวเหยียนจึงมั่นใจได้ว่าที่ไป๋หยูหนิงไม่กลับกับเขาเพราะเกี่ยวข้องกับคุณฟู่คนนี้
และปฏิกิริยาที่ไป๋หยูหนิงมองคุณฟู่ ทำให้เหมียวเหยียนตึงเครียด ไป๋กหยูหนิงชอบคุณฟู่คนนี้แล้วหรือเปล่า?
ไม่ เป็นไปไม่ได้ เขาปล่อยให้เรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นไม่ได้
“หนิงเอ๋อร์ คุณก็รู้ว่าผมเป็นห่วงคุณมาก ดังนั้นผมจึงมาหาคุณโดยเฉพาะ”เหมียวเหยียนแอบถอนหายใจ เขาอดกลั้นความไม่พอใจไว้สุดความสามารถ เมื่อมองไป๋หยูหนิงอีกครั้งพลันปั้นรอยยิ้มอ่อนโยนอีกครั้ง
“ฉัน ฉันรู้ว่า……”ไป๋หยูหนิงมองเหมียวเหยียนแวบหนึ่ง ไม่รู้เพราะตื่นเต้นหรือรู้สึกผิดในใจ เธอมองเหมียวเหยียนแวบหนึ่งแล้วก็รีบหลุบตาลงทันที
“หนิงเอ๋อร์ เมื่อกี้ผมก็พูดชัดเจนแล้ว คุณน่าจะเข้าใจความรู้สึกของผมนะ”เมื่อสักครู่เหมียวเหยียนถูกเวินลั่วฉิงบีบให้ยอมรับว่าชอบไป่หยูหนิงก็รู้สึกไม่พอใจ ตอนนี้เขารู้สึกว่าสามารถใช้ผลประโยชน์จากสิ่งนี้ได้อย่างลงตัว
เขารู้ความสามารถของไป๋หยูหนิงดี ข้างกายเขาไม่มีใครสู้ไป๋หยูหนิงได้สักคน และไม่มีสักคนที่ยินดีทำเพื่อเขาอย่างเต็มใจเหมือนไป๋หยูหนิง
ดังนั้น เขาไม่มีทางให้ไป๋หยูหนิงไปจากข้างกายเขาเด็ดขาด ไม่มีทาง
“รุ่นพี่……”ไป๋หยูหนิงเงยหน้ามองเหมียวเหยียนอีกครั้ง น้ำเสียงของเธอต่ำ ทำท่าพูดอึกๆอักๆ อยากพูดแต่ไม่กล้าพูดออกมา
“หนิงเอ๋อร์ คุณรู้ว่าผมชอบคุณ ผมชอบคุณจึงไม่อยากให้คุณมีอันตรายอะไรทั้งนั้น”เหมียวเหยียนเห็นไป๋หยูหนิงหยุดพูด หัวใจของเขาก็ยิ่งหนักอึ้งขึ้นอีกหนึ่งส่วน แต่ใบหน้ายังคงประดับรอยยิ้มที่อ่อนโยนไม่จางหาย
บัดนี้เหมียวเหยียนกล่าวคำหวานซึ้งได้อย่างอ่อนโยนสุดๆ
เมื่อสักครู่ถูกเวินลั่วฉิงบีบบังคับ เหมียวเหยียนจึงฝืนพูดมาก แต่บัดนี้เหมียวเหยียนพูดอย่างเชี่ยวชาญเอามากๆ
ไม่เหมือนว่าพูดเป็นครั้งแรก
“ดังนั้นกลับไปกับผมดีไหม?”ต้องบอกว่าเหมียวเหยียนถนัดเรื่องอ่านใจคนและโน้มน้าวใจเป็นที่สุด โดยเฉพาะจูงใจไป๋หยูหนิง เพราะไป๋หยูหนิงชอบเขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทั้งยังชอบมาหลายปีอีกด้วย
ดวงตาทั้งคู่ของเหมียวเหยียนจับจ้องอยู่ที่ไป๋หยูหนิง รอคำตอบจากไป๋หยูหนิง เขารู้สึกว่าเขาพูดชัดเจนมากพอแล้ว ไป๋หยูหนิงคงไม่ปฏิเสธเขาอีก
มุมปากฉู่หลิงเอ๋อกระตุกแรงๆ มีความวู่วามที่จะด่าคน ผู้ชายคนนี้ร้ายกาจเกินไปแล้ว ช่ำชองด้านความเลวทรามเกินไปแล้ว
เมื่อสักครู่เขายอมรับว่าชอบไป๋หยูหนิงอย่างฝืนกลั้น หากไม่ใช่ฉิงฉิงลงมือ เกรงว่าเขาจะตบตาให้ผ่านๆไป ไม่คิดจะยอมรับอะไร
ตอนนี้เขากลับเป็นฝ่ายกระตือรือร้นมากเสียขนาดนี้
เห็นชัดๆว่าเขาทำเพื่อหลอกลวงไป๋หยูหนิง ผู้ชายคนนี้น่าขยะแขยงเสียจริง เป็นผู้ชายเศษสวะชั้นดีคนหนึ่ง
ทำไมไป๋หยูหนิงถึงตาบอกไปชอบผู้ชายสวะอย่างนี้ได้?
ก่อนหน้านี้เธอกับฉิงฉิงทำทั้งหมดก็เพื่อให้ไป๋หยูหนิงหลุดพ้นจากผู้ชายสวะคนนี้ ตอนนี้กลับถูกผู้ชายสวะคนนี้ใช้เป็นเครื่องมือกอบโกยหาผลประโยชน์
ฉู่หลิงเอ๋อยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ โกรธจนตับไตไส้พุงจะระเบิดอยู่แล้ว
คุณฟู่หรี่ตาขึ้นเล็กน้อย หัวใจถูกแขวนเอาไว้ ถึงแม้เมื่อสักครู่ไป๋หยูหนิงจะปฏิเสธเหมียวเหยียนแล้วก็ตาม แต่ตอนนี้เหมียวเหยียนหยอดคําหวานเพื่อหลอกไป๋หยูหนิง มีความเป็นไปได้สูงที่ไป๋หยูหนิงจะโดนเหมียวเหยียนหลอกสำเร็จ