ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1102 สาวสวยโกรธแล้ว ผลที่ตามมาน่ากลัวมาก สมน้ำหน้าใครบางคนจริงๆ (1)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- บทที่ 1102 สาวสวยโกรธแล้ว ผลที่ตามมาน่ากลัวมาก สมน้ำหน้าใครบางคนจริงๆ (1)
“ถ้าอย่างนั้น หลังจากนี้ให้ผมได้เรียนรู้ตัวตนที่แท้จริงของคุณเถอะนะ” ซือถูมู่หรงมองไปที่เธอ เวลานี้แววตาของเขาจริงใจอย่างมาก จริงจังเป็นที่สุด
ทว่าหลิวหยิงกลับหัวเราะ เดาว่าโมโหจนหัวเราะออกมา
“ซือถูมู่หรง ฉันขายตัวเองให้คุณไปห้าปี ห้าปีเท่านั้น ไม่มากไม่น้อยไปกว่าหนึ่งวัน ตอนนี้ครบกำหนดแล้ว ฉันจะไป ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่สามารถขวางฉันได้” ปกติเวลาอยู่ต่อหน้าเขาหลิวหยิงแค่แสร้งเป็นคนอ่อนโยนและว่าง่าย แต่เธอไม่ได้เป็นคนที่อ่อนโยนและว่าง่ายจริงๆ ไม่อย่างนั้น งานเลี้ยงที่บ้านตระกูลถังเมื่อคราวที่แล้ว เธอคงไม่คิดอยากจะเอาขวดเหล้าฟาดหัวคุณชายสามเย่
“ถ้าอย่างนั้น นับจากวันนี้ พวกเราเริ่มต้นกันใหม่……” ตอนที่ซือถูมู่หรงได้ยินหลิวหยิงบอกว่าเธอเคยตัวให้เขานั้น ดวงตาคู่นั้นหม่นหมองลงอย่างเห็นได้ชัด ถ้าเป็นไปได้ เขาอยากให้เธอลืมเรื่องนั้นจริงๆ ลืมเรื่องในอดีตเหล่านั้น แล้วพวกเขาก็เริ่มต้นกันใหม่
เขาอยากจะขอโอกาสกับเธอ
“ไสหัวไป” ในเมื่อหลิวหยิงไม่จำเป็นต้องแสร้งทำตัวอ่อนโยนแล้ว และไม่จำเป็นต้องเสแสร้งแกล้งทำอีกต่อไป ถ้าอย่างนั้นก็เปิดเผยธาตุแท้ออกไปเลย เธอพูดขัดซือถูมู่หรงก คำพูดนี้ตรงไปตรงมาและหยาบคาย
ซือถูมู่หรงชะงัก เขารู้มาโดยตลอดว่าเธอแสร้งเป็นคนอ่อนโยนและเชื่อฟังเวลาอยู่ต่อหน้าเขา และเขาเองก็รู้ดีว่าตัวตนปกติของเธอตอนที่อยู่กับเขาไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง
แต่ว่า ซือถูมู่หรงกกลับคิดไม่ถึงว่า ตัวตนที่แท้จริงของเธอจะเป็นแบบนี้
“ซือถูมู่หรง ถ้าคุณยังไม่ยอมปล่อยฉัน ฉันจะแจ้งความจับคุณ” หลิวหยิงไม่อยากเสียเวลากับเขาแล้วจริงๆ ถ้าขืนเขายังเป็นแบบนี้ต่อไป เธอไม่ถือสาที่จะแจ้งความ
เมื่อก่อนระหว่างเธอกับเขามีสัญญา เธอเป็นคนตกลงว่าจะอยู่กับเขาห้าปี ดังนั้นเธอต้องรักษาสัญญา แต่ว่าตอนนี้ครบกำหนดแล้ว สัญญาของพวกเขาจบลงแล้ว และสัญญาก็เป็นโมฆะแล้ว ตอนนี้เธอเป็นอิสระแล้ว
ดังนั้น เธอสามารถฟ้องมู่รหงซือถูได้
“คุณลองแจ้งความดูก็ได้ ดูสิว่าจะมีคนสนใจไหม” ซือถูมู่หรงมองดูสีหน้าของเธอแล้วอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เธอจะแจ้งความ? ฟ้องร้องเขาเนี่ยนะ?
ก็ต้องดูว่าจะมีใครกล้ายุ่งหรือไม่!!
“ฉันให้ฉิงฉิงช่วยฉันแจ้งความได้ ฉิงฉิงสนิทกับหัวหน้าสำนักงานฉิง ฉันคิดว่าถ้าฉิงฉิงเป็นคนออกหน้า หัวหน้าสำนักงานฉิงต้องเข้ามายุ่งเรื่องนี้แน่นอน” หลิวหยิงเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา ฟังคำพูดของเขา กัดฟันแน่นด้วยความโกรธเคือง แน่นอน หลิวหยิงไม่ใช่คนที่จะปล่อยให้ใครมารังแก
เมื่อก่อนเป็นเพราะเธอขายตัวเองให้เขา ดังนั้นจำเป็นต้องรักษากฎที่เขาตั้งเอาไว้ แต่ตอนนี้ทุกอย่างจบลงแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องทำให้ตัวเองลำบากอีกแล้ว
แววตาของซือถูมู่หรงมีแสงแวววับวิ่งผ่านด้วยความเร็วสูง ใช่ คนอื่นอาจจะไม่กล้ามายุ่งกับเรื่องนี้ แต่ว่าเวินลั่วฉิงกล้ามายุ่งแน่นอน
เวินลั่วฉิงไม่เพียงแต่กล้าเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้ ถ้าหากเวินลั่วฉิงรู้เรื่องนั้น ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง
หลิวหยิงเองก็ไม่ได้แค่พูดเท่านั้น เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา คิดจะโทรหาเวินลั่วฉิง
แจ้งความหรือไม่แจ้งความเป็นเรื่องรอง สิ่งสำคัญที่สุดคือเธอต้องคิดหาวิธีไปจากที่นี่
ซือถูมู่หรงเห็นหลิวหยิงเจอเบอร์โทรศัพท์ของเวินลั่วฉิงแล้ว กำลังจะกดโทรออก
ซือถูมู่หรงกแทบไม่คิดอะไรมาก ยื่นมือออกไป รีบแย่งโทรศัพท์ของหลิวหยิงมา
“ซือถูมู่หรง คุณคิดจะทำอะไร?” หลิวหยิงตกตะลึง ซือถูมู่หรงแย่งโทรศัพท์ของเธอไปแบบนี้หมายความว่าอะไร?
ไม่ให้เธอโทร?
หลังจากนั้นล่ะ?
เขาคงไม่คิดอยากจะขังเธอไว้ที่นี่ใช่ไหม?”
“เรามาคุยกันหน่อย” มือข้างหนึ่งของซือถูมู่หรงจับข้อมือของเธอเอาไว้ มืออีกข้างจับโทรศัพท์ของเธอเอาไว้ ตอนนี้สีหน้าของเขาดูจริงจังอย่างมาก พูดได้ว่าเคร่งขรึมอย่างมาก
“ไม่” ทว่าหลิวหยิงกลับปฏิเสธทันควัน คุยกัน มีอะไรให้คุยกัน ระยะเวลาห้าปีของพวกเขาจบลงแล้ว เขาเองก็กำลังจะแต่งงานแล้ว เธอไม่คิดว่าระหว่างเธอกับเขามีอะไรให้ต้องคุยกัน
“หลิวหยิง……” ซือถูมู่หรงมองดูเธอที่ไม่รับฟังอะไรทั้งนั้น รู้สึกจนปัญญาเล็กน้อย และรู้สึกปวดหัวหน่อยๆ
“ไม่อยากคุย และไม่มีอะไรให้ต้องคุย” หลิวหยิงพูดขัดเขาขึ้นมาอีกครั้ง:”เอาโทรศัพท์ของฉันคืนมา”
“หยุดดื้อได้แล้ว ฟังผมนะ เรามาคุยกันหน่อย” ซือถูมู่หรงถอนหายใจเบาๆ ถึงแม้เมื่อก่อนเธอจะแสร้งทำเป็นอ่อนโยนและเชื่อฟังเวลาอยู่ต่อหน้าเขา แต่ว่าตอนนี้ เขาอยากให้เธอกลับไปอ่อนโยนและเชื่อฟังอีกครั้งจริงๆ อย่างน้อยเขาก็สามารถพูดทุกอย่างให้ชัดเจนได้
“ซือถูมู่หรง คุณคิดว่าระหว่างเรามีอะไรให้ต้องคุยอีกเหรอคะ? เมื่อห้าปีก่อน คุณจ่ายเงิน ฉันใช้ร่างกายเข้าแรง คุณช่วยฉันจัดการปัญหาที่บ้าน สิ่งที่ฉันควรให้คุณฉันก็ให้ไปหมดแล้ว ตอนนี้เราสองคนไม่มีอะไรติดค้างกันแล้ว ตอนนี้คุณยังอยากจะพูดอะไรอีก?” หลิวหยิงเป็นคนที่ชัดเจนเรื่องบุญคุณมาโดยตลอด และเธอเองก็รู้ดีว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับซือถูมู่หรงเป็นความสัมพันธ์แบบไหน
ตอนนี้มันจบลงแล้ว ไม่มีความจำเป็นที่จะคุยกันอีก ยิ่งคุยกันก็ยิ่งทำร้ายความรู้สึก
“ผมรู้ เรื่องเมื่อห้าปีก่อนเป็นความผิดของผม ผมไม่ควร……” ซือถูมู่หรงคิดถึงเรื่องเมื่อห้าปีก่อน รู้สึกเสียใจอย่างมาก ถ้าสามารถเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง เขาไม่มีวันทำสัญญาบ้าๆนั่นเด็ดขาด
“ไม่ คุณไม่ผิด คุณทำสิ่งที่คุณควรทำ ฉันก็ให้ในสิ่งที่ฉันควรให้ คุณไม่ผิด” หลิวหยิงพูดขัดเขาอีกครั้ง เรื่องเมื่อห้าปีก่อนเธอเป็นคนเห็นชอบเอง
ไม่ว่าจะเพราะเหตุผลอะไร ไม่ว่านั่นจะเป็นสัญญาแบบไหน ในเมื่อเธอเห็นชอบ เธอก็ไม่มีวันโทษใคร
“ซือถูมู่หรง ความเป็นจริงฉันควรขอบคุณคุณ เพราะถึงอย่างไรตอนนั้นคุณก็ช่วยครอบครัวของฉันจัดการเรื่องยุ่งยากพวกนั้น คุณช่วยแม่และน้องชายของฉัน” ถึงแม้สัญญาของซือถูมู่หรงในตอนนั้นจะเป็นการหยามเกียรติเธอ ถึงแม้ตอนนั้นซือถูมู่หรงทำให้เธออับอายครั้งแล้วครั้งเล่า แต่หลิวหยิงรู้ เธอต้องขอบคุณซือถูมู่หรง
ตอนนั้น ไม่มีใครยอมช่วยพวกเขา ตอนนั้นเธอกับแม่ถูกบีบจนหมดทางเลือกแล้ว หลังจากนั้นซือถูมู่หรงก็ปรากฏตัวขึ้นมา……
เธอจำวินาทีที่ซือถูมู่หรงปรากฏตัวได้ จู่ๆ ภายในใจของเธอก็มีความหวัง
ได้ยินเธอพูดแบบนี้ สีหน้าของซือถูมู่หรงเปลี่ยนไปทันที แววตาของเขาหม่นหมองลง มือที่จับข้อมือของเธอก็บีบแรงขึ้น
เธอบอกว่า เขาช่วยเธอ เขาช่วยคนในครอบครัวของเธอ!!
เธอบอกว่า เธอขอบคุณเขา
เรื่องผ่านไปห้าปีแล้ว ระยะเวลาห้าปี เธออยู่กับเขามาโดยตลอด ตอนแรกเขาคิดจะแก้แค้นเธออย่างเดียวเท่านั้น ไม่รู้ว่าค่อยๆเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อไหร่
เขาเห็นเธอไม่มีความสุข เขาก็เศร้าไปด้วย เห็นเธอมีความสุข เขาก็ทำใจทรมานเธอไม่ได้อีก
ดังนั้น อย่างช้าๆ เขาถึงชั้นค่อยๆลืมไปว่าตอนนั้นทำไมเขาถึงแบบนั้น
เขาช่วยคนในครอบครัวของเธอ?!
หัวใจของมุ่หรงซือถูบีบรัดขึ้นมากะทันหัน ตอนนี้ เขารู้สึกกลัวขึ้นมา เขากลัว……
ไม่ เรื่องมันผ่านไปแล้ว เรื่องที่ผ่านไปแล้วก็ปล่อยให้มันผ่านไป ห้าปีก่อนเธอไม่รู้ ตอนนี้ก็ยิ่งไม่มีวันรู้