ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1119 สถานะของถังจื่อโม่ ทุกคนต่างพากันอึ้ง (1)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- บทที่ 1119 สถานะของถังจื่อโม่ ทุกคนต่างพากันอึ้ง (1)
เดิมทีก็ใจหายใจคว่ำกันอยู่แล้ว ไม่ใช่สิ ต่างก็อกสั่นขวัญแขวนกันอยู่แล้วพอมาได้ยินประโยคนี้ของถังจื่อโม่อีก ต่างก็ตะลึงไปตามๆกัน และภายในใจของทุกคนต่างก็รู้สึกสลดขึ้นมาทันที
“หนู ? พ่อแม่หนูเป็นใครเหรอ ? ”ผ่านไปสักพัก ก็มีคนที่ได้สติ ถามออกไปเสียงสั่นเทาด้วยความกลัว
ในจังหวะที่คนคนนั้นถามคำถามนี้ออกไปนั้น ก็มีเสียงของคนอื่นๆที่แอบกลืนน้ำลายปะปนอยู่ด้วย ทุกคนในตอนนี้ต่างก็ประหม่า และวิตกกังวลมาก
หากให้พวกเขาต้องสู้กันจนตัวตายไปข้างหนึ่ง พวกเขาย่อมไม่กลัวอยู่แล้ว แต่สถานการณ์ในตอนนี้มันเป็นกรณีพิเศษ นี่เป็นแค่เด็กคนหนึ่ง อีกทั้งสถานะของเด็กคนนี้ก็ไม่ธรรมดา
เมื่อถังจื่อโม่เห็นท่าทีของพวกเขา มุมปากก็ยกขึ้น คนพวกนี้ก็ช่างขี้ขลาด คนของเย่ซือเฉินก็ไม่เท่าไรนี่
เมื่อเห็นทุกคนมีท่าทีหวาดกลัว ถังจื่อโม่ก็ตัดสินใจจะขู่พวกเขาไปอีกสักหน่อย แน่นอนว่า ถังจื่อโม่ไม่เพียงแค่อยากจะพูดขู่เท่านั้น แต่ถังจื่อโม่ยังมีแผนอื่นอีกด้วย
เป้าหมายสูงสุดของถังจื่อโม่คือคุณชายสามเย่
“พวกนายรู้จักถังหลินใช่ไหม ? ” ถังจื่อโม่ยื่นมือน้อยๆออก แล้วโบกไปมา เสียงเล็กเสียงน้อยของเขาก้องอยู่ในรถ
แม้เสียงของเขาจะนุ่มนวล และถึงเขาจะเป็นเพียงเด็กอายุห้าขวบ แต่ทุกคนบนรถที่มองมาที่เขาในตอนนี้ ต่างก็มีท่าทีเคร่งขรึมจริงจัง
“รู้ รู้จัก……”ทุกคนที่ได้ยินคำถามของถังจื่อโม่ ต่างก็พยักหน้า มีใครที่ไม่รู้จักถังหลินได้ยังไง คุณชายใหญ่ตระกูลถัง ผู้มีอำนาจเหนือคนผู้ใด
เด็กคนนี้คงไม่ใช่ลูกของถังหลินหรอกใช่ไหม ?
หากพวกเขาลักพาตัวลูกของคุณชายถังมาจริงๆ คุณชายถังจะปล่อยพวกเขาไว้อย่างนั้นเหรอ ?
เอาหัวแม่เท้าคิดก็ยังคิดได้ว่าไม่มีทาง !!
“หนู หนูเป็นลูกของถังหลินเหรอ ? ” มีใครคนหนึ่งได้สติ อดไม่ได้ที่จะถามออกมา
“อ้อ ไม่ใช่ ” ถังจื่อโม่กะพริบตาปริบๆ จากนั้นก็ตอบออกไปอย่างไม่สะทกสะท้าน ด้วยท่าทีไร้เดียงสา
เห็นได้ชัดว่าทุกคนต่างก็โล่งอก ค่อยยังชั่ว ยังดีหน่อยที่เด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกชายของคุณชายถัง
“พวกนายน่าจะรู้จักคุณหนูใหญ่ตระกูลถังใช่ไหม?”ทุกคนยังไม่ทันได้โล่งอกแบบสุดๆ เด็กน้อยถังจื่อโม่ก็ยิงอีกหนึ่งคำถามออกมา
คำถามนี้ของถังจื่อโม่ ทำให้ทุกคนบนรถเหงื่อตกไปตามๆกัน และมีเสียงสูดลมหายใจปนออกมาด้วย
หากเด็กคนนี้เป็นลูกของคุณชายถัง แม้ว่าจะเสี่ยงอยู่มาก แต่คิดว่าคุณชายถังคงไม่ถึงขั้นเอาชีวิตพวกเขา อีกทั้งถึงตอนนั้นพวกเขาก็อาจจะหลบหนีได้ และถ้าหากเด็กคนนี้เป็นลูกของคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง ต้องบรรลัยแน่ๆ
และถึงตอนนั้นต่อให้พวกเขาคิดอยากจะหลบหนีก็คงหนีไม่พ้น เพราะคุณชายสามเย่เป็นเจ้านายของพวกเขา และคุณหนูใหญ่ตระกูลถังก็เป็นยอดดวงใจของเจ้านายพวกเขา
“หนู ? หนู ? กับ……กับคุณหนูใหญ่ตระกูลถังเป็นอะไรกัน ?” หัวหน้ารู้สึกราวกับเลือดในกายเย็นเฉียบ พูดติดๆขัดๆขึ้นมาในทันใด
“ก็สนิทแนบแน่นอยู่พอสมควร ”ถังจื่อโม่ยกยิ้ม พูดสิ่งที่น่าสะพรึงออกมาอีกครั้ง
ทันใดนั้นเสียงสูดลมหายใจ ก็ดังขึ้นพร้อมกันอีกครั้ง
“หัวหน้า เรา เราพาตัวเขากลับไปส่งคืนเถอะ ? ”ใครคนหนึ่งพูดเสนอแนะออกมาอย่างระแวง ตอนนี้เอากลับไปส่งคืน ก็น่าจะยังทัน
“พวกนายลักพาตัวฉันมาแล้ว ตอนนี้เอาฉันกลับไปส่งก็ไม่มีประโยชน์ ฉันจะบอกอะไรให้ ฉันเป็นแขกคนสำคัญของบ้านตระกูลถัง พวกนายลักพาตัวฉัน ก็รอได้เลย……”เมื่อถังจื่อโม่ได้ยินว่าพวกเขาจะเอาตัวไปส่ง ก็รีบกลับคำทันที
เย่ซือเฉินให้คนมาลักพาตัวเขา เรื่องนี้จะปล่อยผ่านมันไปง่ายๆไม่ได้ ดังนั้น เขาไม่ปล่อยให้ทั้งหมดที่ทำมาสูญเปล่าไปแน่
เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดนี้ของถังจื่อโม่ ต่างก็อึ้งกันไปอีกครั้ง แต่ใบหน้าที่จริงจังและหวาดกลัวเมื่อครู่ เห็นชัดว่าจางลงไปอย่างมาก
“ที่แท้ก็เป็นแขกของบ้านตระกูลถัง ตกใจหมดเลย ฉันก็คิดว่าเป็นลูกของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังจริงๆซะอีก”
“เด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังก็พอ เป็นแค่แขกของบ้านตระกูลถัง คงไม่เป็นเรื่องใหญ่โตอะไร ”
ทุกคนที่ได้ยินว่าเป็นเพียงแขกของบ้านตระกูลถัง ต่างก็ โล่งใจอย่างเห็นได้ชัด
“เรารีบพาคนไปให้ลูกพี่เถอะ ให้ลูกพี่จัดการเอง” คนเมื่อกี้ที่แนะนำว่าให้เอาตัวถังจื่อโม่ไปส่งคืนในตอนนี้ก็รีบกลับคำเหมือนกัน
“ใช่ รีบพาตัวไปให้ลูกพี่เถอะ ขอแค่เราพาตัวไปให้ลูกพี่ได้แล้ว ก็ถือว่าภารกิจของเราสำเร็จ เรื่องอื่นก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเราอีก”
ถังจื่อโม่ได้ยินบทสนทนาของพวกเขา ริมฝีปากก็อดที่จะกระตุกไม่ได้ คนพวกนี้เป็นคนที่เย่ซือเฉินจัดหามาใช่ไหม ? รู้สึกว่าก็ไม่เท่าไรจริงๆ
“เราจะส่งตัวเขาไปที่ไหน ? เราไม่รู้ว่าลูกพี่อยู่ที่ไหนนี่ท่านกู้ก็ไม่รับสายสักที”
“งั้นก็พาตัวไปไว้ที่องค์กรยมบาลก่อน ท่านกู้น่าจะอยู่ที่องค์กรยมบาล”
ในที่สุดทุกคนต่างก็มีความเห็นตรงกัน รถจึงได้ขับมุ่งตรงไปที่องค์กรยมบาล
ถังจื่อโม่เองก็ไม่ได้พูดอะไรอีก และไม่ได้ก่อความวุ่นวายอะไร
ตลอดการเดินทางนั้นเป็นไปอย่างเงียบสงบ ผ่านไปราวๆหนึ่งชั่วโมงได้ ในที่สุดก็มาถึงที่องค์กรยมบาล
หลังจากที่รถจอดสนิท ทุกคนต่างก็ลงจากรถ มีเพียงถังจื่อโม่ที่ยังคงนั่งนิ่งไม่เคลื่อนไหวไปไหน
ก่อนหน้านั้นเป็นต้าชุนที่บังคับพาตัวถังจื่อโม่ขึ้นรถ เพราะถูกกล่าวโทษจากถังจื่อโม่บนรถก่อนหน้านั้น ตอนนี้จึงไม่มีใครกล้าที่จะแตะต้องตัวถังจื่อโม่ กลัวว่าจะถูกถังจื่อโม่กล่าวหาว่าพวกเขาทำร้ายอีก
พ่อทูนหัวคนนี้ ไม่กล้าแตะแล้วจริงๆ!!
ไม่กล้าแตะ!!
และพวกเขาในตอนนี้ก็หนีไม่พ้น !!
เพราะพวกเขาเป็นคนลักพาตัวคนมา !
“หนูน้อยถังจื่อโม่ ถึงแล้ว ลงมาเถอะ” ใบหน้าของหัวหน้ายกยิ้ม ใช้เสียงที่เขาคิดว่านุ่มนวลที่สุดเอ่ยเรียกเด็กน้อยถังจื่อโม่
เด็กน้อยถังจื่อโม่เหลือบมองเขาแวบหนึ่ง ไม่ได้พูดอะไร และไม่ขยับไปไหน และไม่คิดที่จะลงรถด้วย
“เด็กน้อยถังจื่อโม่ เรามาถึงแล้ว นายอยู่บนรถคนเดียวมันไม่ปลอดภัย ลงจากรถมาก่อนเถอะ” ในใจของหัวหน้าขมขื่น ไม่คิดอยากจะหาเรื่องใส่ตัวแบบนี้เลย ?
คราวนี้ถังจื่อโม่ ไม่แม้แต่จะมองไปที่หัวหน้า เมินเฉยเหมือนพวกเขาไม่มีตัวตน
“นี่ ? ทำยังไงกันดี ? ”หัวหน้าเองก็จนปัญญาแล้ว มองขอความช่วยเหลือไปที่คนอื่นๆ
“อุ้มตัวเขาลงมาเถอะ จะปล่อยให้เขาอยู่บนรถคนเดียวได้ยังไง”
“ใครเป็นคนอุ้ม นายอุ้ม ความร้ายกาจของเด็กคนนี้นายก็เคยเห็นมันมาแล้ว เกิดผิดพลาดขึ้นมาทำไง ?”
เหตุการณ์บนรถก่อนหน้านั้น พวกเขาต่างก็รู้ดี หัวหน้าไม่ได้ทำอะไรเขาเลย เห็นชัดว่าเขาจงใจสร้างสถานการณ์ เพราะฉะนั้นตอนนี้ไม่มีใครกล้าที่จะเข้าไปแตะต้องเด็กน้อยถังจื่อโม่นั้น
“แค่อุ้มลงมา เบาๆหน่อย และนุ่มนวลหน่อย ก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไร”มีใครคนหนึ่งเสนอแนะออกมาเสียงเบา
“งั้นนายก็ไปอุ้มลงมา ”
“ได้ ฉันไปอุ้มก็ได้ ปล่อยเอาไว้แบบนี้ไม่ได้อยู่แล้ว”ชายคนนั้นลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่แล้วก็เดินขึ้นรถไป ยื่นมือออก แล้วโอบร่างถังจื่อโม่เบาๆ กะจะอุ้มถังจื่อโม่ลงมา เขาเพียงแค่ต้องการอุ้มเด็กน้อยลงมาเท่านั้น !!