ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1131 พ่อลูกเจอกัน สนุกครึกครื้นเป็นพิเศษ น่าชม (4)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- บทที่ 1131 พ่อลูกเจอกัน สนุกครึกครื้นเป็นพิเศษ น่าชม (4)
สำหรับสถานการณ์ตอนนี้ของลูกพี่ กู้หวูมองจากกล้องวงจรปิดแล้ว หัวใจก็รู้สึกเต้นรัวแรง
ครั้งนี้ถังจื่อโม่ไม่ได้ถกเถียงกับกู้หวู เพียงแต่มองกู้หวูด้วยแววตาเจือจางหนึ่งปราด เห็นได้ชัดว่าเด็กน้อยถังจื่อโม่เห็นด้วยกับคำพูดของกู้หวู
กู้หวูเห็นการตอบสนองของคุณชายน้อยตัวเองก็รู้สึกปลาบปลื้มใจยิ่งนัก ถึงแม้คุณชายน้อยจะเป็นจอมก่อกวน ทว่าขอเพียงข้อคิดเห็นถูกต้อง คุณชายน้อยก็จะรับฟัง
แน่นอน คุณชายน้อยก็ไม่ได้ก่อกวนเสียสนิท เพราะพวกเขาลักพาตัวคุณชายน้อยก่อน
แถมคุณชายน้อยทำอะไรก็มีแผนการเตรียมตัวล่วงหน้าก่อน ถึงแม้คุณชายน้อยจะอายุแค่ห้าขวบ ทว่าสิ่งที่คุณชายน้อยจัดเตรียม หากเป็นคนอื่นก็ต้องโดนกับดักอย่างแน่นอน
เพียงแต่ลูกพี่ของเขาไม่ใช่คนทั่วไป ลูกพี่ของเขาปราดเปรื่องมากๆ
ทว่า บัดนี้กู้หวูเห็นลูกพี่ของตนจอดรถ ไม่มีการตอบสนองอะไรทั้งสิ้น ในใจกู้หวูก็แอบแปลกใจไม่ได้ ลูกพี่ทำอะไรอยู่กันแน่?
ลูกพี่ไม่ขยับอย่างนี้หมายความว่ายังไง?
ลูกพี่คิดจะทำอะไร?
“คุณว่าเมื่อกี้ต้าชุนใช้ยาอะไรบางอย่างทำให้เย่ซือเฉินสลบหรือเปล่า?”ถังจื่อโม่เห็นรถของคุณชายสามเย่ไม่มีการเคลื่อนไหวเป็นเวลานาน เขาก็ยิ่งรู้สึกสงสัยมากขึ้น
สถานการณ์อย่างนี้ปกติไหม?ปกติไหม?
น่าจะไม่ปกติมั้ง?
กู้หวูได้ยินถังจื่อโม่พูด ดวงตาพลันเปล่งประกาย ลูกพี่ถูกวางยาสลบ?
เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!
“ใครจะสลบก็สลบ แต่ลูกพี่ไม่มีทางเป็นอย่างนี้แน่”กู้หวูโต้แย้งทันที
ถังจื่อโม่แบะปากอย่างไม่เห็นด้วย พร้อมกันนั้นก็มีการเคลื่อนไหวในที่สุด……
มือถือกู้หวูดังขึ้นกะทันหัน บัดนี้คนในห้องทั้งสองคนกำลังจดจ่อกับภาพในกล้องวงจรปิด ต่างพากันมองรถของคุณชายสามเย่อย่างไม่คลาดสายตา
เมื่อมือถือกู้หวูดังกะทันหัน ทั้งสองก็สะดุ้งตกใจ
ทั้งสองรีบมองไปยังมือถือของกู้หวูพร้อมๆกัน กู้หวูเห็นชื่อสายเรียกเข้าก็อึ้ง“ลูกพี่โทรมาครับ”
ลูกพี่โทรหาเขา?ลูกพี่มีการเคลื่อนไหวแล้ว
“ผมบอกแล้ว ลูกพี่ไม่มีทางสลบแน่”กู้หวูเสริมอย่างได้ใจอีกหนึ่งประโยค เขาบอกว่าต้าชุนจะปัญญาทึบแค่ไหนก็ไม่ลงยาใส่ลูกพี่หรอก
“อืม คุณรับสายเลย”ถังจื่อโม่เห็นเย่ซือเฉินมีการเคลื่อนไหวในที่สุด ความกังวลใจเมื่อครู่ก็หายไปเป็นปลิดทิ้ง ดวงตาถังจื่อโม่มองกู้หวูที่มีรอยยิ้มเต็มใบหน้า
“ลูกพี่โทรหาผม ผมต้องรับอยู่แล้วครับ”กู้หวูรีบเอามือถือกลับมา ไม่ได้ฟังคำพูดของถังจื่อโม่ดีๆ
“คุณรับสายแล้วบอกเย่ซือเฉินว่าคุณกำลังมองเขาผ่านกล้องวงจรปิดอยู่เหรอ”มุมปากถังจื่อโม่ยกโค้งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ถ้อยคำมีเลศนัยอย่างแจ่มชัด
เย่ซือเฉินโทรหากู้หวูเวลานี้คงต้องถามว่าเกิดอะไรขึ้น เขาอุตส่าห์จัดเตรียมซะดิบดี ไม่มีทางปล่อยให้กู้หวูแพร่งพรายความลับเด็ดขาด
เย่ซือเฉินใช้ความสามารถของตัวเองผ่านด่านนี้ เขาก็ยอมนับถือจากใจจริง แต่ถ้าหากกู้หวูบอกความลับให้เย่ซือเฉิน เขาก็ไม่ยอมรับ
นิ้วมือของกู้หวูที่เตรียมจะกดปุ่มรับสายแข็งค้าง กู้หวูค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองถังจื่อโม่ มุมปากกู้หวูสั่นเทาอย่างเด่นชัด ทว่ากลับพูดไม่ออกสักคำเดียว
ปีศาจน้อยโหดเกินไปไหม?หากเขาพูดแบบนี้กับลูกพี่แล้วจะมีชีวิตรอดเหรอ?
กู้หวูรู้ว่าตัววู่วามแล้ว เมื่อกี้เขาตื่นเต้นดีใจที่เห็นลูกพี่โทรมา จึงลืมไปว่าข้างกายยังมีเด็กห้าขวบที่ความจริงเป็นปีศาจน้อย
ปีศาจน้อยตั้งอกตั้งใจวางแผนโจมตีลูกพี่เป็นพิเศษ ปีศาจน้อยจะปล่อยให้เขาทำลายแผนการได้อย่างไร?
ก่อนหน้านี้ปีศาจน้อยระแวงเขาสารพัด ระวังไม่ให้เขาแอบส่งข่าวให้ลูกพี่
ตอนนี้ปีศาจน้อยเฝ้าอยู่ตรงหน้า ถึงเขาจะรับสายของลูกพี่ แต่ก็รายงานเหตุการณ์ตอนนี้ให้แก่ลูกพี่ทราบไม่ได้
บอกความจริงไม่ได้ แล้วเขารับสายแล้วพูดอะไรได้บ้าง?
“คุณรับสายสิ รีบรับเร็ว”ถังจื่อโม่เห็นกู้หวูไม่รับสายก็เริ่มเร่งเขาขึ้นมา
“ไม่รับครับ รับแล้วก็ไม่รู้ควรพูดยังไงดี”ความขมฝาดในใจกู้หวู ณ ตอนนี้ มันขมกว่าอึ่งโน้ย
“ถ้าคุณไม่รับสาย เย่ซือเฉินต้องสงสัยแน่ คุณจำเป็นต้องรับสาย”ถังจื่อโม่ได้ยินเสียงเรียกเข้าของกู้หวูดังไม่หยุด ถังจื่อโม่รู้ว่าขืนเป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ดีแน่
เย่ซือเฉินต้องพบความผิดแปลกแล้วแน่ๆ ดังนั้นจึงโทรมาเพื่อคอนเฟิร์ม หากกู้หวูไม่รับสาย เย่ซือเฉินต้องรู้ว่ามีปัญหาจริงๆ
“ผมรับแล้วต้องพูดยังไงครับ?”กู้หวูเบิกตากว้าง จ้องมองถังจื่อโม่ด้วยสีหน้าที่ยากจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดสั้นๆ
“คุณบอกว่าไม่รู้”ถังจื่อโม่ครุ่นคิดดูแล้ว จากนั้นก็เสริมหนึ่งประโยคอย่างรวดเร็ว“คุณตอบเขาว่าไม่รู้เรื่องอะไรเลย”
“ไม่ ไม่ได้ครับ ผมหลอกลูกพี่ไม่ได้ครับ”กู้หวูปฏิเสธโดยตรง ตอนนี้เขาไม่อาจแอบส่งข่าวให้ลูกพี่ก็รู้สึกทุกข์ใจด้วยความละอายใจแล้ว เขาไม่มีทางหลอกลูกพี่เด็ดขาด
เขารู้อยู่แท้ๆ รู้สิ่งที่ปีศาจน้อยทำทุกอย่าง เขาจะบอกลูกพี่ว่าไม่รู้ได้ยังไง
แถมตอนนี้เขากำลังดูผ่านกล้องวงจรปิด เขาจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ได้อย่างไร?
ไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด
ครั้งนี้กู้หวูไม่อยากอยู่ภายใต้บารมีปีศาจของถังจื่อโม่อย่างเห็นได้ชัด
กู้หวูไม่รับสาย เสียงเรียกเข้าก็ขาดหายไป
“ได้ งั้นตอนนี้คุณบอกเย่ซือเฉินให้หมดเลย ถึงเวลาผมจะบอกเย่ซือเฉินว่าคุณเป็นคนจัดพวกนี้ทั้งหมด คุณเป็นคนขุดหลุมพรางและให้คนดักซุ่มโจมตี”ใบหน้าถังจื่อโม่เผยรอยยิ้มที่ได้มาตรฐานของ‘ทูตสวรรค์’
กู้หวูเบิกตากว้าง จ้องถังจื่อโม่ตรงๆ“คุณชายน้อยพูดมั่วๆแบบนี้ได้ยังไงครับ คุณเป็นคนวางแผนนะครับ ผมภักดีต่อลูกพี่ ไม่ทำอย่างนั้นหรอกครับ ลูกพี่เชื่อผมแน่ๆ”
“คุณแน่ใจนะ?”ถังจื่อโม่มองกู้หวู พลางยกคิ้วขึ้น“ผมคิดว่าจุดดักซุ่มที่มิดชิดทั้งสามจุดตรงทางเข้าประตู นอกจากเย่ซือเฉินกับคุณแล้ว คนอื่นในองค์กรยมบาลก็ไม่น่าจะรู้ใช่ไหม?”
“ใช่……”กู้หวูชะงัก ตอบหนึ่งคำ สีหน้าพลันแปรเปลี่ยน“คุณ คุณหมายความว่ายังไง?”
“คนองค์กรยมบาลมากมายยังไม่รู้เรื่องเลย นับภาษาอะไรกับเด็กอย่างผม ดังนั้นต้องมีคนแอบบอกผมแน่ๆ”ปากเล็กของถังจื่อโม่ขยับอย่างรวดเร็ว ทุกตัวอักษรกระโดดมาออกมาอย่างว่องไว ฟังแล้วมีเบิกบานเป็นพิเศษ
อันที่จริงเด็กน้อยถังจื่อโม่ไม่ได้พูดปด เพราะมีคนแอบบอกเขาจริงๆ ทว่าคนที่บอกเขาไม่ใช่กู้หวู แต่เป็นคุณลุงถังหลิน ตอนถังหลินกลับมาเมื่อคืนพบว่ามีคนขององค์กรยมบาลเฝ้านอกประตู ดังนั้นถังจื่อโม่จึงได้รับเรื่องราวเกี่ยวกับองค์กรยมบาลพอสังเขป ซึ่งเนื้อหาในนั้นก็รวมถึงจุดดักซุ่มทั้งสามจุดด้วย