ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1136 ถังจื่อโม่ฟ้องคุณแม่ว่าถูกลักพาตัว (3)
ความหมายของคุณชายสามเย่คือ ถังจื่อโม่จะยอมรับหรือไม่นั้นไม่สำคัญ เพราะถึงถังจื่อโม่จะไม่ยอมรับก็ยังเป็นลูกชายเขาอยู่ดี
ทว่าคุณชายสามเย่พูดลักษณะนี้ในสถานการณ์เช่นนี้ มันทำให้คนเข้าใจผิดได้!!
“ลูกพี่……”กู้หวูก็เข้าใจผิด ถังจื่อโม่ไม่ได้กล่าวอะไร กู้หวูก็ร้องอุทานออกมาก่อนแล้ว ลูกพี่รู้สถานะของถังจื่อโม่แล้ว ไม่กล่อมปีศาจน้อยหน่อยเหรอ?ทำไมลูกพี่จึงพูดเช่นนี้
ลูกพี่ทำอย่างนี้จะสูญเสียลูกได้นะ?
ลูกชายยอดเยี่ยมขนาดนี้ ลูกพี่ทำได้ลงคอ?
กู้หวูรู้ว่าปีศาจน้อยต้องโกรธที่ลูกพี่ทำแบบนี้แน่
ผลลัพธ์ที่ปีศาจน้อยโกรธนั้น……
“ได้ ผมไม่ยอมรับ”เห็นได้ชัดว่าเย่ซือเฉินไม่เข้าใจต่อสิ่งที่เย่ซือเฉินต้องการสื่อ ถังจื่อโม่ตะเบ็งเสียงออกมา เมื่อกี้ยังรู้สึกสบายใจอยู่เลย ตอนนี้กลับห่อเหี่ยวใจเสียแล้ว
เย่ซือเฉินหมายความว่ายังไง?อะไรที่เรียกว่าไม่สำคัญว่าเขาจะยอมรับหรือไม่?
ในเมื่อเย่ซือเฉินบอกว่าเขายอมหรือไม่ยอมรับก็ไม่สำคัญ งั้นเขาก็ไม่ยอมรับเสียเลย
ให้เย่ซือเฉินคุยกับแม่เรื่องลักพาตัวเขาเองเถอะ
ดวงตาเย่ซือเฉินหันไปมองถังจื่อโม่อีกครั้ง เห็นถังจื่อโม่หน้าบูดเบี้ยว เย่ซือเฉินไม่ได้พูดอไร ละสายตาจากไปอีกครั้ง
ถังจื่อโม่เห็นเย่ซือเฉินมีปฏิกิริยาตอบสนองเช่นนี้ก็ไม่สบอารมณ์ เขาตะเบ็งเสียงอีกครั้ง จากนั้นก็หันหน้าไม่มองเย่ซือเฉินอย่างจงใจ
“นายยังคิดจะให้พวกเขาดักซุ่มถึงเมื่อไหร่?”ดวงตาเย่ซือเฉินกลับมาหยุดที่ภาพในกล้องวงจรปิดอีกครั้ง พลางมองจุดดักซุ่มพวกนั้น
“ลูกพี่ ผมจะให้พวกเขาถอยมาเดี๋ยวนี้ครับ”กู้หวูสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพราะเป็นแผนการของปีศาจน้อย ถึงลูกพี่จะเข้ามาแล้ว แต่ปีศาจน้อยไม่ได้ออกคำสั่ง เขาจึงไม่กล้ารีบพวกที่ดักซุ่มกลับมา?
กู้หวูรู้สึกว่าเขาคงโดนยาพิษของปีศาจน้อยเข้าให้แล้ว?
กู้หวูรีบเอามือถือออกมาโทรหาหัวหน้ากลุ่ม บอกให้ทุกคนเลิกงาน
“เหอะ”ถังจื่อโม่ได้ยินเย่ซือเฉินให้คนถอยออกไปก็หันไปมองเย่ซือเฉินแวบหนึ่ง พลางตวาดเสียงดังใส่เย่ซือเฉินหนึ่งคำ
“เหอะอะไร?มีอะไรก็ว่ามา”เย่ซือเฉินมองถังจื่อโม่ด้วยใบหน้าที่ยังคงเย็นชา น้ำเสียงเย็นเยียบเหมือนเดิม ฟังอารมณ์ใดๆไม่ค่อยออก มีความเข้มงวดอย่างฉายชัด
“ผมไม่มีอะไรคุยกับคุณ คุณลักพาตัวผมมา พวกเรามีอะไรให้น่าคุยกัน?”บัดนี้ถังจื่อโม่อารมณ์เสียมาก เย่ซือเฉินลักพาตัวเขา ตอนแรกเขาไม่คิดจะถือสาเย่ซือเฉิน
เพราะเย่ซือเฉินไม่รู้สถานะของเขา ทว่าตอนนี้เย่ซือเฉินรู้แล้ว แต่ยังแสดงท่าทีเช่นนี้กับเขาอีก?
ให้อภัยไม่ได้ เขาก็ไม่มีทางให้อภัยเย่ซือเฉินเด็ดขาด
“ลูกพี่ เรื่องนี้โทษคุณชายน้อยไม่ได้นะครับ พวกเราลักพาตัวคุณชายน้อยก่อน และเรื่องกับดักเป็นความคิดของผมเองครับ คุณดูจุดดักซุ่มสิครับ คนอื่นไม่รู้เลย มีเพียงผมที่รู้ ดังนั้นเป็นความคิดผมเองครับ”กู้หวูเห็นท่าทางแข็งข้อของสองพ่อลูกก็ใจหายใจคว่ำ เวลานี้กู้หวูอยากรับทุกอย่างไว้เอง
ถังจื่อโม่ได้ยินคำพูดของกู้หวูก็อึ้ง ก่อนหน้านี้เขายังใช้เรื่องนี้คุกคามกู้หวู เมื่อกู้หวูโดนเขาคุกคามก็ยอมประนีประนอม ตอนนี้กู้หวูกลับเป็นฝ่ายแบกรับความรับผิดชอบทั้งหมดไว้เอง?
ขณะนี้ถังจื่อโม่ตกตะลึงมาก ไม่อาจพูดอะไรออกมาได้ทั้งนั้น
“ตัวเองทำแล้วยังให้คนอื่นเป็นแพะรับบาปอีกเหรอ?”เห็นได้ชัดว่าเย่ซือเฉินไม่เชื่อถ้อยคำของกู้หวู คุณชายสามเย่กล่าวกับถังจื่อโม่โดยตรง
“ผมไม่ได้ให้ใครเป็นแพะรับบาป ผมทำเอง ผมก็ยอมรับเอง ใช่ ผมทำเองทั้งหมด ผมให้คนขุดหลุมพราง ให้คนดักซุ่ม ผมให้พวกเขาซุ่มโจมตีคุณ คุณให้คนลักพาตัวผมได้ ทำไมผมจะดักทำร้ายคุณไม่ได้?”เดิมทีถังจื่อโม่ตกตะลึงกับคำพูดของกู้หวูอยู่ เมื่อได้ยินเย่ซือเฉินพูดก็เดือดดาลทันที เขาให้คนอื่นเป็นแพะรับบาปตั้งแต่เมื่อไหร่?
“นายน้อยอย่างผมทำเองก็ยอมรับเองคนเดียว ไม่เกี่ยวกับคนอื่น”สุดท้ายเด็กน้อยถังจื่อโม่ยังกล่าวหนึ่งประโยคด้วยความโอหัง ยังเดินไปด้านหน้าเย่ซือเฉิน ยื่นเชิดหน้าเชิดอกใส่เย่ซือเฉิน ระดับเสียงสูงขึ้นหลายส่วน
ถังจื่อโม่กล่าวจบก็เดินไปด้านหน้าเย่ซือเฉิน พลางยื่นอกขึ้นใส่เย่ซือเฉิน “คุณอยากจะทำอะไร?ก็มาได้เลย?นายน้อยไม่กลัวคุณหรอก”
ดวงตาเย่ซือเฉินยังคงมองถังจื่อโม่อยู่ แววตายังคงเย็นเยียบเช่นเดิน เย่ซือเฉินเม้มปาก ไม่ได้พูดอะไร
สองคนนี้ คนหนึ่งสูง คนหนึ่งเตี้ย คนหนึ่งเย็นชา คนหนึ่งโมโห ประชันหน้ากันแบบนี้ ทำให้กู้หวูหวาดผวาเป็นอย่างมาก
“ลูกพี่ครับ คุณชายน้อยอายุแค่ห้าขวบ เรื่องนี้……”กู้หวูกลัวจนสองขาอ่อนแรง ทั้งสองคนปะทะกันเช่นนี้ ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ ดังนั้นกู้หวูรวบรวมความกล้าไกล่เกลี่ยดู
เพราะคุณชายน้อยยังเด็กมาก คุณชายน้อยยังไม่ถึงห้าขวบ เด็กที่อายุไม่ถึงห้าขวบยังไม่ประสีประสา ลูกพี่จะถือสากับเด็กคนหนึ่งได้ยังไง?
ตอนนี้กู้หวูลืมมาดปีศาจน้อยของถังจื่อโม่ก่อนหน้านี้เสียสนิท!!
“อายุน้อยไม่ใช่เหตุผล”เพียงแต่เย่ซือเฉินตัดบทกู้หวูทันที แวบแรกที่เขาเห็นถังจื่อโม่ เขาก็ไม่มองถังจื่อโม่เป็นเด็กคนหนึ่งเลย
คุณชายสามเย่รู้ว่า ถังจื่อโม่ไม่อยากให้ใครละเลยความสามารถของเขา เพราะด้วยความที่เขาอายุน้อย
“ลูกพี่ครับ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณชายน้อยจริงๆครับ เป็นความผิดของผมเอง คุณดูจุดดักซุ่มพวกนั้นสิครับ คุณชายน้อยไม่มีทางรู้ได้เลย ดังนั้นเป็นความคิดของผมเองครับ”กู้หวูวิตกกังวลมาก คำพูดที่ถังจื่อโม่ใช้ขู่เขาก่อนหน้านี้ ตอนนี้กู้หวูนำมาโน้มน้าวจิตใจลูกพี่ของตน
กู้หวูรู้สึกว่าสิ่งที่เขาพูด ลูกพี่ต้องเชื่อแน่ อย่างไรเสียตอนนั้นเขาเองก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน
“ถังหลินรู้”เพียงแต่คุณชายสามเย่ไม่มองกู้หวูสักปราดเดียว คำพูดของคุณชายสามเย่ฟังเหมือนกำลังตอบกู้หวูอยู่ ทว่ายิ่งเป็นการบอกให้ถังจื่อโม่ฟัง
ถึงแม้จะเป็นถ้อยคำง่ายๆของคุณชายสามเย่ แต่ความหมายนั้นเด่นชัดมาก คนอื่นอาจไม่รู้ แต่ถังหลินรู้ ดังนั้นถังหลินเป็นคนบอกเรื่องนี้ให้ถังจื่อโม่
บทพูดกู้หวูขาดตอน ดวงตาหันไปมองถังจื่อโม่ กู้หวูมองถังจื่อโม่พลันกะพริบตารัวๆ ดังนั้นคุณชายถังบอกคุณชายน้อย?
ใช่ ก่อนหน้านี้คุณชายน้อยบอกว่ามีคนแอบบอกเขา!!
ดังนั้นบุคคลที่คุณชายน้อยกล่าวถึงคือคุณชายถัง?
โอ้พระเจ้า!!
รู้สึกว่าเขาถูกคุณชายน้อยต้มซะเปื่อยเชียว!!