ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1137 ถังจื่อโม่ฟ้องคุณแม่ว่าถูกลักพาตัว (4)
“ใช่ คุณทายถูกแล้ว คุณลุงบอกผมเอง”ถังจื่อโม่ไม่ได้ปฏิเสธ ยอมรับด้วยมาดเข้มขรึมไม่หวาดหวั่น
“คุณอย่ามัวพูดจาเรื่อยเปื่อยและไม่ต้องดึงคนอื่นมาเกี่ยวข้องด้วย คุณบอกมาตรงๆเลยว่าคุณจะทำยังไง?”จากนั้นถังจื่อโม่ก็เสริมหนึ่งประโยคอย่างยกตนข่มท่าน จากนั้นก็ยืดอกตัวเองอีกครั้ง
เขาเป็นลูกผู้ชายอกสามศอก ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น!!
“นายคิดว่าฉันจะทำยังไง?”เย่ซือเฉินไม่ได้ตอบคำถามของถังจื่อโม่ คุณชายสามเย่มองร่างกายเล็กๆที่มีใบหน้าอันดื้อรั้น อันที่จริงตอนนี้เขาไม่รู้ว่าตอนนี้ควรทำอย่างไรดี
ถึงแม้เด็กคนนี้อายุยังน้อย ทว่ากลับมีความคิดเป็นของตัวเอง ทั้งยังมองออกว่าเด็กคนนี้มุ่งเป้ามาที่เขาอย่างมีจุดยืน
เด็กคนนี้พึ่งตัวเอง ดื้อรั้น มีความคิดเป็นของตัวเอง ทว่ากลับความรู้สึกอ่อนไหวไวมาก ดังนั้น ……
บัดนี้คุณชายสามเย่รู้สึกปวดหัวเสียจริง
เขาไม่ใช่ถังจื่อซี ปฏิบัติต่อเขาเหมือนถังจื่อซีไม่ได้
ปกติคุณชายสามเย่เฉิดฉายอย่างเด่นสง่าอยู่ในวงการธุรกิจ ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ ทว่าตอนนี้เผชิญหน้ากับลูกชายตัวเองกลับรู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อย
คุณชายสามเย่ไม่มีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อนจริงๆ
ถึงแม้ก่อนหน้านี้เขานับพ่อนับลูกกับถังจื่อซีแล้ว ทว่าถังจื่อซีคือเจ้าหญิงผู้มุ้งมิ้ง ไม่เคยปวดหัวด้านนี้มาก่อน
“ผมจะรู้ได้ยังไงว่าคุณจะทำอะไร?ผมรู้แค่ว่าคุณลักพาตัวผมมา”ถังจื่อโม่แหงนหน้าด้วยใบหน้าไม่ยอมถดถอย ไม่ยอมประนีประนอม ยิ่งไปกว่านั้นถังจื่อโม่เอ่ยถึงเรื่องเย่ซือเฉินลักพาตัวเขาอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่าถังจื่อโม่ยังไม่ยอมให้เรื่องนี้ผ่านไปโดยง่าย
“ใช่แล้ว ผมยังไม่ได้บอกคุณแม่ที่คุณลักพาตัวผมเลย ผมจะบอกแม่ เพราะเรื่องโดนลักพาตัวเป็นเรื่องใหญ่”ถังจื่อโม่ไม่ชอบเป็นฝ่ายถูกกระทำ เขาจะเป็นฝ่ายกระทำ ซึ่งสถานการณ์อย่างนี้ หากเขาอยากเป็นฝ่ายกระทำ วิธีที่ดีที่สุดคือทำเรื่องเย่ซือเฉินลักพาตัวเขาให้ใหญ่โตมากที่สุด
เขาดูออกว่าเย่ซือเฉินไม่ใส่ใจเขา ทว่าเย่ซือเฉินใส่ใจคุณแม่?
จากสีหน้าใจเย็นของคุณชายสามเย่ เมื่อได้ยินว่าถังจื่อโม่จะฟ้องเวินลั่วฉิง สีหน้าคุณชายสามเย่พลันแปรเปลี่ยน ความเรียบเฉยจางหาย เขามองไปยังถังจื่อโม่พลันหรี่ตาขึ้น“เรื่องระหว่างผู้ชาย พวกเราก็น่าจะคลี่คลายกันเอง ฟ้องผู้หญิงไม่ถือว่าเป็นคนมีฝีมือ”
บัดนี้น้ำเสียงคุณชายสามเย่ไม่ได้เรียบเฉยแบบไร้คลื่นอีกต่อไป หากแต่มีความกังวลใจเข้ามาแทนที่หลายส่วน
“ไม่ ผมยังเป็นเด็ก ยังเป็นเบบี๋ เมื่อเบบี๋เจอปัญหาแล้วบอกแม่ถือเป็นเรื่องปกติ”ถังจื่อโม่เห็นสีหน้าเย่ซือเฉินเปลี่ยนในที่สุด ก็รู้สึกลำพองใจ เขารู้ว่าวิธีนี้ได้ผลชัวร์อยู่แล้ว
ในเมื่อได้ผลขนาดนี้ เด็กน้อยถังจื่อโม่ก็จะใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด!!
ทว่า ขณะที่ถังจื่อโม่ลำพองใจก็อดหดหู่ใจไม่ได้ เย่ซือเฉินใส่ใจแต่คุณแม่จริงๆ ไม่ใส่ใจเขาเลย
กู้หวูได้ยินถังจื่อโม่พูด มุมปากพลันกระตุกแรงๆ คุณชายน้อยยังเป็นเบบี๋อยู่?
เบบี๋เจอปัญหาแล้วต้องบอกคุณแม่?
ฟังดูก็ไม่ผิดนะ ทว่าเมื่อใช้กับคุณชายน้อย กู้หวูรู้สึกสยองขวัญมาก
ด้วยความสามารถของคุณชายน้อย ไม่จำเป็นต้องหาใครมาช่วย คุณชายน้อยจัดการเองได้ทั้งนั้น ซึ่งสามารถใช้เรื่องที่เกิดขึ้นสดๆร้อนๆเป็นตัวยืนยันได้
ด้วยกำลังต่อสู้ของคุณชายน้อยเองทำให้พวกเขาไม่อาจต้านทานแล้ว
คุณชายน้อยถังกับขอความช่วยเหลือจากภายนอก ทั้งยังเชิญคุณนายผู้ทรงแกร่งกล้าเป็นผู้ช่วยเหลืออีกด้วย?
คุณชายน้อยแหกกฎเกินไปหรือเปล่า!!
หากคุณนายรู้ว่าคุณชายน้อยถูกลักพาตัว กู้หวูไม่กล้าจินตนาการถึงผลลัพธ์เลย
“คุณชายน้อยครับ มีอะไรคุยกันดีๆก่อนครับ คุยกันก่อน อย่าไปรบกวนคุณนายเลยครับ”กู้หวูห้ามปรามอีกครั้ง กู้หวูหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเรื่องจะจบลงด้วยความสงบอย่างเงียบๆ ทางที่ดีคืออย่าให้คุณนายรู้เรื่องเลย
“คุณชายน้อยครับ พวกเราไม่บอกคุณนายนะครับ อย่าให้คุณนายต้องเป็นห่วงเลยครับ”กู้หวูไม่กล้าห้ามลูกพี่ของตน จึงห้ามถังจื่อโม่ ทว่ากู้หวูลืมไปว่าปีศาจน้อยถังจื่อโม่พูดง่ายเสียที่ไหน
“คุณแม่ผมเป็นคนใจกล้า ไม่ตกใจหรอก ถึงจะตกใจแต่ก็ไม่ใช่เพราะผมเป็นสาเหตุ แต่คือคนลักพาตัวผมต่างหากที่ทำให้คุณแม่ตกใจ”ถังจื่อโม่เงยหน้า ถึงแม้เหมือนจะตอบกับกู้หวู ทว่ากลับพูดให้เย่ซือเฉินฟังอย่างเด่นชัด
เด็กน้อยถังจื่อโม่รู้ดี สถานการณ์เช่นนี้ ถึงจะบอกคุณแม่ คุณแม่ก็ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น เพราะตอนนี้เขาไม่มีอันตรายอะไรเลย
“คุณชายน้อยพูดแบบนี้ไม่ได้นะครับ ทางที่ดีที่สุดคือทำเรื่องใหญ่ให้กลายเป็นเรื่องเล็กจะดีกว่านะครับ”กู้หวูยังคงตัดสินใจเป็นผู้ไกล่เกลี่ย พยายามใช้เหตุผลคุยกับปีศาจน้อยถังจื่อโม่
“นั่นเป็นเพราะผู้ใหญ่อย่างพวกคุณเสแสร้ง โลกของเด็กๆนั้นบริสุทธิ์ พูดอะไรก็คืออย่างน้น ไม่มีทางกุเรื่องสร้างภาพหลอกลวงเด็ดขาด”ฉายาปีศาจน้อยถังจื่อโม่ไม่ได้เรียกเปล่าๆ ความโค้งจริงอยู่ในที ประโยคเดียวของปีศาจน้อยสยบทุกถ้อยคำของกู้หวูจนหมดสิ้น
กู้หวูสะดุ้งโหยง จากนั้นกู้หวูใช้แรงตบหน้าอกตัวเอง ทว่ากู้หวูยังคงรู้สึกกลางแน่นหน้าอกอย่างทรมาน
เมื่อกี้คุณชายน้อยบอกว่าโลกของเด็กบริสุทธิ์ที่สุด?!บริสุทธิ์ที่สุด?!
เขายอมรับว่าโลกของเด็กบริสุทธิ์ที่สุดจริงๆ แต่ไม่เกี่ยวกับคุณชายน้อยอะไรทั้งนั้น?
ทำไมคุณชายน้อยถึงพูดแบบนี้อย่างหน้าด้านได้?
“ผมคิดดูแล้ว ลักพาตัวถือเป็นเรื่องใหญ่ ผมต้องบอกคุณแม่แน่ ไม่งั้นก็ทำไม่ถูกแล้ว”ปีศาจน้อยถังจื่อโม่จงใจเสริมอีกหนึ่งประโยค
เย่ซือเฉินมองถังจื่อโม่ ดวงตาหรี่มีประกายแสงทอออกมา คุณชายสามเย่เม้มปาก ตรึกตรองดูแล้วก็พูดว่า “พูดมาเถอะ นายอยากทำอะไร?หรือมีข้อเรียกร้องทำอะไร?”
คุณชายสามเย่กล่าวเช่นนี้ แสดงว่ายอมประนีประนอมก่อนแล้ว แน่นอน คุณชายสามเย่รู้สึกว่าเพื่อภรรยาของตัวเอง ยอมอ่อนข้อให้ลูกชายตัวเองมันไม่ใช่เรื่องขายหน้าแต่อย่างใด
แถมลูกชายของเขาทำให้เขายอมเป็นฝ่ายประนีประนอมเอง ในใจเขารู้สึกภาคภูมิใจต่อลูกชายคนนี้มาก!!
“ไม่ ผมไม่มีข้อเรียกร้องอะไรทั้งนั้น ผมแค่จะบอกเรื่องที่คุณทำกับผมให้คุณแม่รู้”ปีศาจน้อยถังจื่อโม่ได้ยินเย่ซือเฉินกล่าวคำประนีประนอมก็รู้สึกแอบได้ใจ ทว่าถังจื่อโม่ไม่อยากถูไถให้ผ่านไปอย่างนี้
เย่ซือเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาจ้องถังจื่อโม่อยู่อย่างนั้น เม้มปากแน่น แต่ไม่ได้พูดอะไรอีก
อันที่จริงคุณชายสามเย่จัดการเรื่องเด็กไม่เป็นจริงๆ
ต้องบอกว่าเวลานี้ท่าทางคุณชายสามเย่น่ากลัวมาก กระทั่งกู้หวูยังรู้สึกกลัวเลย
แต่ปีศาจน้อยถังจื่อโม่ไม่ได้หวาดหวั่น ถังจื่อโม่เอามือถือของตนออกมา หาเบอร์ของแม่เจอ นิ้วมือเล็กก็ย้ายมาที่หมายเลขโทรศัพท์