ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1146 คุณชายสามเย่ภาคภูมิใจมาก(2)
“ความเป็นจริงพวกเราไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไร ผมกับพี่สองเพิ่งเดาว่าหรือจะเพราะพี่สะใภ้สามทิ้งพี่สาม พี่สามอารมณ์ไม่ดี ดังนั้นก็เลยชวนพวกเราออกมาดื่ม” สีจี้อธิบายยาวเหยียด
“จริงเหรอ? พี่สะใภ้สามทิ้งพี่สามแล้ว?” ดวงตาของเสี่ยวชีเบิกกว้างอย่างรวดเร็ว ใบหน้าแสดงความคาดไม่ถึงอย่างชัดเจน แต่ว่าสิ่งที่มากไปกว่านั้นคือดีใจบนความทุกข์ของคนอื่นมากกว่าคุณชายสองโจ๋วอย่างเห็นได้ชัด:”ถ้าเป็นเรื่องจริง ไม่เสียแรงที่พวกเรามากลางดึกแบบนี้ เรื่องสนุกๆแบบนี้ต้องดูแน่นอน”
“เบาเสียงหน่อย นายไม่กลัวว่าพี่สามกำลังมาพอดี แล้วพี่สามได้ยินเข้าหรือไง” สีจี้ถลึงตามองเสี่ยวชีครู่หนึ่ง:“อีกอย่าง พี่สามถูกพี่สะใภ้สามทิ้ง นายมีความสุขมากขนาดนี้เลยเหรอ?”
“ฉันอยากจะเห็นสภาพหลังจากพี่สามถูกพี่สะใภ้สามทิ้งว่าเป็นยังไง?” ใบหน้าของเสี่ยวชีในเวลานี้เคล้าไปด้วยรอยยิ้มอย่างชัดเจน แต่ว่าเสียงของเขาเบาลงมา เสี่ยวชีเป็นกังวลว่าคุณชายสามเย่จะผ่านมาได้ยินสิ่งที่เขาพูดพอดี
“เรื่องมันร้ายแรงขนาดนี้จริงๆเหรอ?” คุณชายห้าฉิงฟังบทสนทนาของพวกเขา ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขายังคงสงสัย
ความสัมพันธ์ของพี่สามกับพี่สะใภ้สามในตอนนี้ดีมากไม่ใช่เหรอ?
“พี่สามจะดื่มเหล้าเพื่อลืมความทุกข์แล้ว เรื่องนี้ต้องร้ยาแรงมาก พี่สามดื่มเพื่อลืมความทุกข์ พวกนายจินตนาการภาพนั้นได้ไหม? คราวที่แล้วพี่สะใภ้สามหย่ากับพี่สาม พี่สามยังไม่เห็นจะดื่มเหล้าเพื่อลืมความทุกข์เลย” เสี่ยวชีส่ายหน้าด้วยความโอเวอร์ :“เฮ้อ พี่สามน่าสงสารจริงๆ……”
เพียงแต่เวลานี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของเสี่ยวชีกว้างยิ่งกว่าเดิม:“คิดไม่ถึงว่าพี่สามจะมีวันนี้”
“พวกนายแต่ละคนไม่มีความเห็นอกเห็นใจเลยจริงๆ พี่สามถูกทิ้งแล้ว พวกนายแต่ละคนมารอดูเรื่องสนุกๆเนี่ยนะ?” คุณชายห้าฉิงเห็นสีหน้าของเสี่ยวชีอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าไปมา
“พี่ห้า พี่ไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่พบเจอยากมากเหรอ? ทำให้พี่กระทบกระเทือนจิตใจอย่างแรง เรียกพวกเราออกมาดื่มเหล้าเพื่อลืมความทุกข์ สถานการณ์แบบนี้พี่เคยเห็นมาก่อนเหรอ? พี่รับประกันได้เหรอว่าหลังจากนี้จะได้เจออีก? พบเจอเรื่องมหัศจรรย์แบบนี้ พี่ไม่อยากดูหน่อยเหรอ? โอกาสแบบนี้ถ้าพลาดไปแล้วก็ไม่มีละนะ” เสี่ยวชีวิเคราะห์ให้คุณชายห้าฉิงฟังด้วยความจริงจัง
“นายพูดมีหลักการ” คุณชายห้าฉิงฟังคำพูดของเสี่ยวชีจบอดไม่ได้ที่จะพยักหน้า
“ดังนั้น พวกเรามาดูเรื่องสนุกๆกันก่อนแล้วค่อยว่ากัน สำหรับเรื่องต่อจากนี้ พวกเราไม่ต้องกังวลแล้ว พี่สามต้องกังวลคนเดียว” เสี่ยวชีตัดสินด้วยความดีอกดีใจ ไม่ว่าอย่างไร ดูเรื่องสนุกๆให้จบก่อนแล้วค่อยว่ากัน
ครั้งนี้ ไม่มีใครเสนอความคิดเห็นอื่น เห็นได้ชัดว่าตอนนี้คนทั้งสี่ที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่มากก็น้อยล้วนมีความคิดอยากจะดูเรื่องสนุกๆของคุณชายสามเย่
“เฮ้อ ทำไมพี่ใหญ่ไม่มา? ช่วงนี้พี่ใหญ่อยู่ที่เมือง A ตลอดเวลา ด้วยความเร็วของพี่ใหญ่น่าจะรีบมาแล้วไม่ใช่เหรอ?” คุณชายห้าฉิงไม่เห็นถังหลิน อดไม่ได้ที่จะสงสัย :“พี่สามคงไม่ได้บอกพี่ใหญ่รึเปล่า?”
คนอื่นๆฟังคำพูดของคุณชายห้าฉิงแล้วหยุดชะงัก
“พี่สะใภ้สามเป็นน้องสาวของพี่ใหญ่ พี่สะใภ้สามทิ้งพี่สาม เวลานี้เรียกพี่ใหญ่มาคงจะกระอักกระอ่วนอย่างมาก ดังนั้นพี่สามน่าจะไม่ได้เรียกพี่ใหญ่มา” เสี่ยวชีช่วยทุกคนวิเคราะห์อีกครั้ง
“คงไม่ใช่หรอก? หรือว่าพี่สะใภ้สามทิ้งพี่สามไปแล้วจริงๆเหรอ?” สีจี้หยุดชะงัก จากนั้นร้องตะโกน ถึงแม้เมื่อกี้เขาจะคาดเดาแบบนี้ แต่ความเป็นจริงเขาไม่เชื่อการคาดเดาแบบนั้น
สีจี้เองก็เข้าใจ ความเป็นจริงเมื่อกี้ทุกคนไม่เชื่อความเป็นไปได้นั้นเท่าไหร่ ส่วนมากก็แค่ล้อเล่นเท่านั้น แต่ว่าตอนนี้พี่สามไม่ได้เรียกพี่ใหญ่มา ทำให้สิ่งที่เขาคาดเดาเมื่อกี้มีความเป็นไปได้มากยิ่งขึ้น
เพราะถึงอย่างไรพี่ใหญ่กับพี่สามก็สนิทกันที่สุด ร่วมกับความสัมพันธ์ของพี่สะใภ้สามในตอนนี้ พี่สามไม่มีเหตุผลที่จะบอกพวกเขาแล้วไม่บอกพี่ใหญ่
ครั้งนี้ ทุกคนไม่ได้พูดอะไรอีก แม้แต่เสี่ยวชีก็ยังคงเงียบ ถึงแม้เมื่อกี้เขาจะบอกว่าอยากดูเรื่องสนุกๆของพี่สาม แต่ถ้าเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นจริงๆ เขาคงทำใจดูอย่างเดียวไม่ได้แน่ๆ
“โทรถามพี่ใหญ่ดูดีไหม?” คุณชายห้าฉิงทำลายความเงียบเป็นคนแรก:“หรือว่าพี่ใหญ่อยู่ระหว่างทาง ยังมาไม่ถึง? ฉันโทรไปถามพี่ใหญ่จะได้ลองเชิงพี่ใหญ่ดูหน่อย”
“นายระวังคำพูดหน่อย” คุณชายสองโจ๋วพูดเตือนเสียงเบา
“วางใจเถอะ ฉันรู้ว่าควรจะพูดยังไง” ในฐานะที่คุณชายห้าฉิงเป็นหัวหน้าสำนักงานตำรวจ แน่นอนว่าย่อมมีทักษะในการพูดอยู่บ้าง
คุณชายห้าฉิงหยิบโทรศัพท์ออกมา โทรหาถังหลิน
“ฮัลโหล น้องห้า มีเรื่องอะไร?” เสียงรอสายดังขึ้นสองครั้ง ปลายสายก็รับแล้ว เสียงของถังหลินดังขึ้น
“พี่ใหญ่ พี่อยู่ไหน?” คุณชายห้าฉิงกวาดมองไปที่ทุกคน จากนั้นแสร้งเป็นถามอย่างไม่ใส่ใจ
“อยู่บ้าน มีธุระ?” ถังหลินพูดสั้นๆได้ใจความเหมือนเดิม
“อยู่บ้านตระกูลถัง?” คุณชายห้าฉิงถามต่อ แต่พอได้ยินถังหลินบอกว่าอยู่บ้าน ภายในใจของเขาก็มั่นใจได้แล้วว่าพี่สามไม่ได้โทรเรียกพี่ใหญ่มา
“เปล่า ที่บริษัทมีธุระนิดหน่อย เดี๋ยวจัดการเสร็จ ก็อยู่ที่นี่ล่ะ” เป็นเรื่องยากที่ถังหลินจะอธิบายยาวเหยียดแบบนี้:“ทำไม เกิดเรื่องอะไรขึ้น”
“เปล่า พวกเราไม่ได้รวมตัวกันนานแล้ว หาเวลามารวมตัวกันหน่อย” คำพูดของคุณชายห้าฉิงนี้เธอเป็นการอธิบาย และยิ่งเป็นการลองเชิง
“ได้ นายนัดมาเลย ไว้ถึงเวลาโทรหาฉันละกัน” ถังหลินตอบอย่างรวดเร็ว เดิมทีการที่พวกเขานัดรวมตัวกันก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
“ได้ ผมนัดทุกคนแล้วจะโทรหาพี่ใหญ่ก็แล้วกัน ถ้าอย่างนั้นแค่นี้ก่อนนะ” คุณชายห้าฉิงกลัวถังหลินจะจับพิรุธได้ และไม่กล้าพูดอะไรมาก จึงวางสาย
“ดูท่า พี่สามไม่ได้บอกให้พี่ใหญ่มาจริงๆด้วย” หลังจากคุณชายห้าฉิงวางสาย ก็ประกาศผล
เมื่อกี้คุณชายห้าฉิงเปิดลำโพง ดังนั้นทุกคนจึงได้ยินบทสนทนาเมื่อครู่อย่างชัดเจน แน่นอนว่าต่างก็เข้าใจกันหมดแล้ว
“ดังนั้นพี่สะใภ้สามทิ้งพี่สามจริงๆ ดังนั้นพี่สามก็เลยออกมาดื่มเหล้าเพื่อลืมความทุกข์ พี่สามถึงขั้นไม่โทรตามพี่ใหญ่?” เสี่ยวชีรีบพูดเสริม
ทุกคนเงียบอีกครั้ง ถ้าวิเคราะห์แบบนี้ คล้ายว่าจะมีความเป็นไปได้จริงๆ
เป็นเวลาอันประจวบเหมาะ ประตูห้องถูกเปิด เย่ซือเฉินเดินเข้ามา
สายตาของทุกคนจับจ้องไปยังคุณชายสามเย่ที่เปิดประตูเข้ามา เพราะคุณชายสามเย่มาได้เวลาพอดี ทุกคนยังไม่ทันได้เก็บสีหน้า ดังนั้นสีหน้าของพวกเขาจึงมีความเห็นอกเห็นใจไม่มากก็น้อย
เย่ซือเฉินสบตาทุกคน ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ทำไมพวกเขาต้องมองตนแบบนี้ด้วย?
“พี่สาม พี่มาแล้ว” เสี่ยวชีที่เดิมทีอยากจะดูเรื่องสนุกๆรีบวิ่งมา จากนั้นดึงตัวคุณชายสามเย่เข้าไป:“พี่สาม มา พวกเราดื่มเป็นเพื่อนพี่เอง”
“ใช่ พี่สาม คืนนี้พวกเราจะดื่มเป็นเพื่อนพี่เอง ไม่เมาไม่กลับ” คุณชายห้าฉิงพูดสนับสนุนเสี่ยวชี