ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1153 ขอเพียงแค่คุณแต่งงานกับฉัน (1)
และในช่วงเวลานี้เอง เธอก็ตัดสินใจได้ ว่าเธอจะแต่งงานกับเย่ซือเฉิน เธอจะต้องแต่งงานกับเย่ซือเฉินให้ได้อย่างแน่นอน ดังนั้น เธอจะต้องยั่วยวนเย่ซือเฉินมาอยู่ในมือให้ได้ ไม่คิดที่จะปล่อยเย่ซือเฉินไปอีกอยู่แล้ว
เย่ซือเฉินมีบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ป และยังมีอสังหาริมทรัพย์อื่น อีกทั้งยังรูปร่างหน้าตาน่าหลงใหล ไม่ได้แย่ไปกว่าหัวหน้าน้อยเลย ในทางตรงกันข้าม เย่ซือเฉินมั่นคงกว่าหัวหน้าน้อย เป็นผู้ใหญ่กว่า และยิ่งมีเสน่ห์ในแบบผู้ชายมากกว่าอีกด้วย
ตอนนี้เธอเป็นถึงเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ รอให้แต่งงานกับเย่ซือเฉินแล้ว ความสามารถอย่างเย่ซือเฉินสามารถช่วยเธอแย่งอำนาจขององค์กรโกสต์ซิตี้มาจากมือของหัวหน้าน้อยได้ทีละนิดๆ ถึงตอนนั้น คนเป็นของเธอ ทั้งองค์กรโกสต์ซิตี้ก็กลายมาเป็นของเธอด้วยเช่นกัน
อีกทั้งถึงตอนนั้น เธอเองก็ไม่กลัวหัวหน้าจะไม่ยอมรับเธอแล้ว
ช่วงนี้ เธอก็ยิ่งเข้าใจความสำคัญของอำนาจที่แท้จริงมากขึ้น ตอนนี้ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ แต่คนในองค์กรนี้ที่เชื่อฟังเธอจริงๆนั้นกลับมีไม่มาก
เจิ้งฉงและไป๋หยิงเพียงแค่หลอกใช้ประโยชน์จากเธอเพียงเท่านั้น ไม่ใช่ว่าจะฟังเธอจริงๆ
ขอเพียงแค่เธอคว้าเอาอำนาจขององค์กรโกสต์ซิตี้มาอยู่ในมือตัวเองได้จริงๆ ถึงจะสามารถเอาพวกนั้นมาเป็นของเธอได้จริงๆ
ชีวิตในตอนนี้ยิ่งทำให้เธอรู้สึกชอบ ยิ่งทำให้เธอหลงใหล ดังนั้น เธอจะไม่ยอมให้มันหายไปอย่างเด็ดขาด
“ประธานเย่ คุณมาแล้ว” เฉินโหรวโหรวเดินเข้าไปตรงหน้าเย่ซือเฉิน ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มที่เธอคิดไปเองว่างดงามที่สุด เวลานี้น้ำเสียงของเธอนั้นดูอ่อนโยนอย่างเห็นได้ชัด ได้ยินแล้วรู้สึกเลี่ยนเสียจนทำให้ขนหัวลุกชาไปหมดเลยแบบนั้น
เย่ซือเฉินไม่แม้แต่จะมองเธอเลย กลับมองข้ามอย่างไม่สนใจเธออีกด้วย และเย่ซือเฉินเองก็ไม่ได้สนใจเจิ้งฉงด้วยเช่นกัน แล้วเดินเข้าไปในห้องรับรองแขกเลย
เจิ้งฉงถูกเย่ซือเฉินมองข้ามอย่างไม่สนใจ ในใจก็รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่เวลานี้เจิ้งฉงกลับไม่ได้แสดงออกมาตรงๆเหมือนกับที่ทำกับเลขาหลิวก่อนหน้านี้ ถึงแม้ก่อนหน้านี้เขาจะไม่เคยติดต่อกับเย่ซือเฉินมาก่อน แต่เรื่องราวมากมายเกี่ยวกับเย่ซือเฉินเขาก็เคยได้ยินมาแล้ว
อยู่ต่อหน้าเย่ซือเฉิน ต่อให้เจิ้งฉงอยากจะทำเป็นแข็งแกร่งก็ทำไม่ได้อยู่ดี เนื่องจากว่าเย่ซือเฉินไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย และไม่ทำอะไรด้วยเช่นกัน ทำให้เขารู้สึกถึงความกดดันจนแทบจะหายใจไม่ออก ทำให้เขาไม่กล้าที่จะกำเริบเสิบสานขึ้นมา
“ประธานเย่ ฉันคือเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ ที่ฉันมาในวันนี้ก็เพราะมีเรื่องอยากจะคุยกับประธานเย่” เฉิงโหรวโหรวเห็นว่าเจิ้งฉงไม่เอ่ยพูดออกมา เธอจึงเป็นฝ่ายออกปากขึ้นมาเองอีกครั้ง
แน่นอนว่า ออร่าที่มองไม่เห็นแบบนั้นทำให้เธอรู้สึกกลัว และทำให้เธอรู้สึกได้ถึงความกดดันที่หายใจไม่ออก แต่เวลานี้เฉิงโหรวโหรวยิ่งมีความทะยานอยากมากขึ้น ความทะยานอยากเหล่านั้นทำให้เฉิงโหรวโหรวเปลี่ยนไปอย่าง “กล้าหาญ”
เย่ซือเฉินถึงได้มองไปยังเฉิงโหรวโหรว ดวงตาของเขานั้นเหลือบไปมองเฉิงโหรวโหรว เพียงแค่เหลือบไปมองแวบเดียวเพียงเท่านั้น แล้วไม่ได้สนใจอีก เขาได้ยินมาว่าองค์กรโกสต์ซิตี้หาตัวเจ้าหญิงคนหนึ่งกลับมาได้แล้ว
องค์กรโกสต์ซิตี้จะหาตัวเจ้าหญิงกลับมาได้หรือไม่ได้นั้นก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา แต่ที่องค์กรโกสต์ซิตี้จัดการกับตระกูลถัง จัดการกับลูกสาวของเขา เรื่องนี้เขาจะไม่สนใจไม่ได้
องค์กรโกสต์ซิตี้จัดการตระกูลถังติดต่อกัน แต่ตอนนี้กลับเป็นฝ่ายมาหาถึงที่เอง อีกทั้งเป็นเจ้าหญิงที่เพิ่งจะหาตัวกลับมานั้นมาถึงที่เองเสียด้วย เขาอยากจะดูว่าเจ้าหญิงท่านนี้จะทำอะไร!?
เย่ซือเฉินไม่ได้ไปที่เมืองจิ๋น เรื่องที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงตระกูลเหว้ยเย่ซือเฉินไม่รู้ เวินลั่วฉิงก็ยังไม่กลับมาจากเมืองจิ๋น จึงยังไม่ได้บอกเรื่องวันนั้นกับเย่ซือเฉิน
ดังนั้น เย่ซือเฉินจึงยังไม่รู้เรื่องที่เจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้จัดการกับเวินลั่วฉิงที่งานเลี้ยงของตระกูลเหว้ย
ถ้าหากเย่ซือเฉินรู้เรื่องนั้นเข้า เจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้นี่ไม่มีทางเข้ามายังบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปได้เลย
“ประธานเย่จะไม่ถามหน่อยหรือว่าฉันจะมาคุยกับคุณเรื่องอะไร?” เฉิงโหรวโหรวเห็นปฏิกิริยาของเย่ซือเฉินแล้วก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก เธอเพิ่งจะบอกถึงสถานะของตัวเองไป แต่ทำไมเย่ซือเฉินถึงได้ยังคงเย็นชากับเธอเช่นนี้
แต่เฉิงโหรวโหรวก็ยังไม่ยอมแพ้ ตอนนี้เย่ซือเฉินไม่รู้ความคิดของเธอ ถ้าหากเย่ซือเฉินรู้ว่าเธออยากจะแต่งงานกับเขา เย่ซือเฉินจะต้องไม่มีท่าทางแบบนี้อย่างแน่นอน
ถึงอย่างไรตอนนี้เธอเป็นถึงเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ เธอแต่งงานกับเย่ซือเฉิน เย่ซือเฉินก็จะกลายเป็นราชบุตรเขยแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ สำหรับตอนนี้แล้ว เธอก็นับว่าเป็นถึงทายาทเพียงหนึ่งเดียวที่ถูกต้องด้วยเหตุด้วยผลแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้นี้
เย่ซือเฉินแต่งงานกับเธอ ก็จะมีสิทธิ์ที่จะสืบทอดอำนาจแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ได้อย่างถูกต้องอีกด้วย ความสามารถอย่างเย่ซือเฉินนั้นเป็นไปได้อยู่แล้ว
ถ้าหากเย่ซือเฉินฉลาด ก็จะสามารถเข้าใจตรงจุดนี้ได้อย่างแน่นอน!!
เฉิงโหรวโหรวไม่เชื่อว่าเย่ซือเฉินจะต้านทานสิ่งที่ดึงดูดใจมากขนาดนี้ได้
“องค์กรโกสต์ซิตี้จัดการกับตระกูลถังครั้งแล้วครั้งเล่า และยังจัดการกับภรรยาของผมอีก ผมควรจะถามองค์กรโกสต์ซิตี้มากกว่าว่าหมายความว่าอะไรกันแน่?”
เย่ซือเฉินนั่งลงตรงเก้าอี้ในห้องรับรองแขกนั้น ดวงตาที่เยือกเย็นเหลือบมองไปยังเจิ้งฉงและเฉิงโหรวโหรว
“ภรรยาของประธานเย่? เท่าที่ฉันทราบมา ประธานเย่ยังโสดอยู่นี่คะ!” ตอนที่เฉิงโหรวโหรวได้ยินเย่ซือเฉินพูดถึงภรรยานั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไป ในใจอดที่จะรู้สึกอิจฉาขึ้นมาไม่ได้ เป็นเพราะความอิจฉา เสียงของเธอนั้นจึงแหลมขึ้นมา
ที่เธอมาครั้งนี้ก็เพื่อที่จะมายั่วยวนเย่ซือเฉิน อีกทั้งตอนนี้เธอตัดสินใจที่จะแต่งงานกับเย่ซือเฉินแล้วด้วย ดังนั้นเย่ซือเฉินจะต้องแต่งงานกับเธอ
เย่ซือเฉินขมวดคิ้วขึ้น ดวงตาอันแสนเยือกเย็นเหลือบมองไปยังเฉิงโหรวโหรว แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา เรื่องของเขาไม่จำเป็นที่จะต้องมาอธิบายให้คนๆนึงฟังอยู่แล้ว
“ประธานเย่ วันนี้ที่พวกเรามาไม่ได้มีเจตนาร้าย พวกเรามาคุยเรื่องความร่วมมือกับประธานเย่ ผมเชื่อว่าประธานเย่จะต้องสนใจอย่างแน่นอน”
เจิ้งฉงเองก็รู้สึกไม่พอใจในคำพูดของเฉิงโหรวโหรวด้วยเช่นกัน แต่ตอนนี้เย่ซือเฉินอยู่ด้วย เขาไม่สามารถแสดงออกมาได้อยู่แล้ว อีกทั้งเจิ้งฉงรู้ว่าภายใต้สถานการณ์แบบนี้ เขาจำเป็นที่จะต้องให้ความเคารพกับเฉิงโหรวโหรว
“ประธานเย่ วันนี้เจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้มาที่นี่ด้วยตัวเอง คงพอเห็นถึงความบริสุทธิ์ใจของพวกเรา”
“ร่วมมือ?!” หางคิ้วของเย่ซือเฉินเลิกขึ้นเล็กน้อย ดวงตาที่เย็นชาคู่นั้นมองมายังเจิ้งฉง ใบหน้าที่นิ่งเฉยนั้นมองไม่ออกถึงอารมณ์ใดๆ แต่กลับทำให้รู้สึกถึงความเย็นยะเยือกที่ขนลุกขนพองแบบนั้น
องค์กรโกสต์ซิตี้ที่จัดการกับตระกูลถังครั้งแล้วครั้งเล่า จัดการกับเวินลั่วฉิง แล้วยังคิดที่จะมาคุยเรื่องความร่วมมือกับเขาอีกอย่างนั้นหรือ?
“ใช่ ที่ฉันมาวันนี้ก็เพื่อจะมาคุยเรื่องการร่วมมือกันกับคุณ”เฉิงโหรโหรวเห็นว่าเย่ซือเฉินดูจะคุยได้นิดหน่อยแล้ว จึงพยักหน้าลงอย่างต่อเนื่อง
เจิ้งฉงมองไปยังเฉิงโหรวโหรวอย่างรวดเร็ว แสดงถึงการเตือนออกมา เฉิงโหรวโหรวแสดงออกมาอย่างรีบร้อนมากเกินไป ตอนนี้เธออยู่ในสถานะของเจ้าหญิง อยู่ต่อหน้าคนนอก จะต้องวางมาดของเจ้าหญิงเอาไว้
แต่เธอกลับมีท่าทางที่กระตือรือร้นเกินกว่าเหตุ เขาดูต่อไปไม่ได้แล้ว
เจิ้งฉงนึกถึงสถานะของเฉิงโหรวโหรวในตอนนี้ ในที่สุดก็อดกลั้นกับความไม่พอใจที่อยู่ในใจนี้เอาไว้ แล้วยังไกล่เกลี่ยแทนเฉิงโหรวโหรวอีกด้วย : “ประธานเย่ฟังดูก่อนก็ได้ ผมรับประกันว่าจะมีแต่ประโยชน์กับประธานเย่ จะไม่มีข้อเสียอย่างเด็ดขาด”
“ได้ ถ้าอย่างนั้นผมจะฟังหน่อยก็แล้วกันว่าองค์กรโกสต์ซิตี้อยากจะคุยเรื่องความร่วมมืออะไรกับผม” เย่ซือเฉินยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย น้ำเสียงเย็นชา ฟังไม่ออกถึงอารมณ์ความรู้สึกใดๆ เพียงแค่มุมปากที่โค้งขึ้นมาเล็กน้อยนั้นกลับมีความเยาะเย้ยแฝงอยู่ด้วย
คนขององค์กรโกสต์ซิตี้มาคุยเรื่องความร่วมมือกับเขาอย่างนั้นหรือ? ช่างตลกเสียจริงๆ
ตั้งแต่ตอนที่เขาจัดการกับตระกูลถัง และจัดการกับเวินลั่วฉิง ระหว่างเขากับองค์กรโกสต์ซิตี้ก็ได้กำหนดเอาไว้แล้วว่าไม่มีทางที่จะร่วมมือกันได้แล้ว
ต่อให้การร่วมมือนี้จะเป็นประโยชน์กับเขา ก็เป็นไปไม่ได้แล้วที่เขาจะคุยกับองค์กรโกสต์ซิตี้ด้วยเช่นกัน
แต่เย่ซือเฉินยังคิดอยากจะรู้ว่าคนขององค์กรโกสต์ซิตี้นั้นคิดจะทำอะไรกันแน่ รู้จุดประสงค์ของพวกเขาแล้ว เขาจะได้รับมือต่อไปได้
“คุณต้องการองค์กรโกสต์ซิตี้ทั้งหมดเลยไหม?” เดิมทีเฉิงโหรวโหรวก็ไม่รู้จักที่จะเก็บความในใจเอาไว้ ไม่รู้จักที่จะยับยั้งชั่งใจ เธอทนไม่ได้ตั้งแต่แรกแล้ว เมื่อได้ยินเย่ซือเฉินก็โล่งใจ เธอไม่รอให้เจิ้งฉงได้เอ่ยปาก แต่กลับเดินไปตรงหน้าของเย่ซือเฉิน และเพียงประโยคเดียวที่ตรงไปตรงมาที่ตรงไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว
เย่ซือเฉินอึ้งไป สำหรับคำพูดแบบนี้ เขายังคงรู้สึกประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้เมื่อครู่นี้เจิ้งฉงจะพูดว่ามาคุยเรื่องความร่วมมือด้วยความบริสุทธิ์ใจ และเจิ้งฉงเองก็พูดว่าการร่วมมือนี้จะต้องเป็นประโยชน์ต่อเขาอย่างแน่นอน แต่เย่ซือเฉินคิดไม่ถึงได้อย่างไรว่าเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้นี้เมื่อออกปากมาก็เอ่ยถามเขาว่าต้องการทั้งองค์กรหรือเปล่า
ไม่ใช่ว่าสมองของเจ้าหญิงจะมีปัญหาหรอกนะ?
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ให้ความสนใจเรื่องที่องค์กรโกสต์ซิตี้ตามหาตัวเจ้าหญิงกลับมามากมายเท่าไรนัก แต่เนื่องจากเรื่องที่องค์กรโกสต์ซิตี้จัดการกับตระกูลถัง ช่วงนี้ภายในองค์กรโกสต์ซิตี้เขาก็พอจะเข้าใจสถานการณ์อยู่บ้าง
จากที่เขารู้มานั้น เจ้าหญิงที่เพิ่งจะหาตัวกลับมาได้ท่านนี้ ในองค์กรโกสต์ซิตี้แทบจะเป็นสิ่งที่จัดวางเอาไว้เท่านั้น ไม่ได้มีตำแหน่ง และยิ่งไม่มีอำนาจอะไรเลยเสียด้วยซ้ำ
ตอนนี้เธอมาเอ่ยพูดอย่างเต็มปากเต็มคำกับเขาเรื่องอำนาจขององค์กรโกสต์ซิตี้อย่างนั้นหรือ? ช่างตลกเสียจริงๆ
อีกทั้ง ถึงแม้เจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้องค์นี้จะครอบครองอำนาจจริงๆขององค์กร แต่พูดกับเขาแบบนี้ก็ยิ่งไม่ถูกต้อง
เจิ้งฉงรู้สึกจุกอยู่ตรงหน้าอก โมโหเสียจนแทบกระอักเลือดออกมา เฉิงโหรวโหรวคนโง่คนนี้ ทำไมสามารถคำพูดแบบนี้กับเย่ซือเฉินได้ เขาแทบอยากจะทำให้เฉิงโหรวโหรวเป็นใบ้ไปเสียเลย! ทำให้เธอไม่สามารถออกปากพูดได้อีกตลอดไป!