ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1164 ปะทะกับคนแข็งแกร่ง ผลลัพธ์น่ากลัวมาก (1)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- บทที่ 1164 ปะทะกับคนแข็งแกร่ง ผลลัพธ์น่ากลัวมาก (1)
“สิ่งสำคัญกว่าอีกจุดหนึ่งก็คือ ตอนนี้ซ่างกวนหงก็อยู่เมืองA”ถังหลินมองหน้าเขา ลังเลสักพัก จากนั้นก็พูดต่อไปว่า “ดังนั้นพวกเราไม่มีแม้กระทั่งเวลาเตรียมตัว”
ตอนนี้ซ่างกวนหงอยู่ในเมือง A ดังนั้นมีความเป็นไปได้ที่จะลงมือกับพวกเขาทุกเมื่อ ด้วยพลังอำนาจขององค์กรโกสต์ซิตี้ เกรงว่าคงไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวเพื่อโจมตีพวกเขา ขอเพียงซ่างกวนหงสั่งการ วินาทีต่อมาก็โจมตีพวกเขาได้แล้ว
ซ่างกวนหงมีความสามารถอย่างนั้นจริงๆ องค์กรโกสต์ซิตี้ก็มีอำนาจเช่นนั้นจริงๆ
หากก่อนจะถังหลินจะสืบรู้ประวัติ แล้วมีคนบอกเขา เขาอาจจะไม่เชื่อ ทว่าตอนนี้ถังหลินเข้าใจสิ่งเหล่านี้ดีที่สุด
“กำลังส่วนใหญ่ของคุณไม่ได้อยู่ในเมือง A แปดสุดยอดวงศ์ตระกูลของพวกเรา(ตอนนี้ตรวจเข้มงวดมาก มีหลายๆอย่างไม่อนุญาตให้เขียน ดังนั้นจึงแก้ไขพื้นเพครอบครัวของถังหลิน)ยังมีตระกูลกู้ค่อยเล่นไม่ซื่อตลอด พ่อผมก็ยังไม่กลับจากเมืองไห่ ผมสามารถเคลื่อนย้ายกองกำลังในเมือง Aไม่มาก ถ้าซ่างกวนหงลงมือกับพวกเราเวลานี้ พวกเราก็ตีเสมอคู่ต่อสู้ไม่ได้เลย”ตอนที่ถังหลินพูดประโยคนี้สีหน้าเคร่งขรึมกว่าเก่า เขาไม่ใช่เอาบารมีคนอื่นมาขู่ขวัญตัวเอง สิ่งที่เขาพูดเป็นความจริงทั้งหมด
เย่ซือเฉินเม้มปากไม่ได้พูดอะไร ทว่าจากสีหน้าจริงจังอย่างเด่นชัดของเขา เรียกได้ว่าเห็นด้วยกับคำพูดของถังหลินทุกประการ
เย่ซือเฉินก็รู้อำนาจขององค์กรโกสต์ซิตี้กับซ่างกวนหงเป็นอย่างดี
“ตอนนี้ได้แต่ดูว่าซ่างกวนหงจะทำยังไงแล้ว?”ครั้งแรกที่ถังหลินไม่มั่นใจกับความสามารถในการรับมือของตน ครั้งแรกที่ไม่อาจกุมสิทธิ์ตัดสินไว้ในมือตัวเอง
นี่ไม่ใช่เพราะเขาอ่อนแอเกินไป แต่เป็นเพราะคู่ต่อสู้เก่งมากเกินไป!!
“เท่าที่ผมรู้มา องค์หญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้เมื่อกลับมาอยู่ที่องค์กรแล้ว ซ่างกวนหงไม่ค่อยให้ความสำคัญมากนัก ซ่างกวนหงไม่เคยปรากฏตัวสู่สาธารณะพร้อมกับองค์หญิงคนนี้มาก่อน ซ่างกวนหงก็ไม่เคยยอมรับกับปากตัวเองถึงเรื่องสถานะองค์หญิงคนนี้ ดังนั้นซ่างกวนหงก็ไม่ ……”เย่ซือเฉินไม่ได้แย้งคำพูดของถังหลิน เวลานี้ไม่ใช่เวลาโอ้อวด เย่ซือเฉินก็รู้ดีว่าซ่างกวนหงจะทำยังไงต่อจากนี้คือประเด็นสำคัญ
“ใช่ ซ่างกวนหงไม่เคยเปิดตัวองค์หญิงคนนี้มาก่อน ควรพูดว่าซ่างกวนหงอยู่ที่เมือง Aตลอด แต่ไม่เคยออกงานมาก่อน คุณคิดว่าเพราะอะไร?”ถังหลินก็รู้สถานการณ์ที่เย่ซือเฉินพูดถึงอย่างเด่นชัด ทว่าความคิดของถังหลินต่างจากเย่ซือเฉินมาก
“หา?”เย่ซือเฉินมองถังหลินด้วยหน้าขมวดคิ้ว
“ซ่างกวนหงตามหาคนรักของตัวเองมายี่สิบห้าปี ซึ่งรู้ได้จากจุดนี้ว่าเขารักมากแค่ไหน ตอนนี้ถึงแม้จะตามหาลูกสาวตัวเองกลับมา แต่คนที่เขารักมากไม่อยู่แล้ว เขาจะรู้สึกยังไง?จากที่ผมสืบมา ช่วงนี้ซ่างกวนหงขังตัวเองอยู่แต่ในห้อง ไม่เคยออกนอกบ้านเลย”เห็นได้ชัดว่าครั้งนี้ถังหลินสืบข้อมูลมาได้เยอะมาก แม้แต่ที่พำนักอาศัยของซ่างกวนหงช่วงนี้ก็สืบรู้ด้วย
“คนที่ขังตัวเอง ต้องเสียใจถึงขีดสุดแล้ว สูญเสียคนที่รักมากที่สุดไป ซ่างกวนหงจะมีอารมณ์ปรากฏตัวตามงานสังคมได้อย่างไร?พอซ่างกวนหงเห็นหน้าลูกสาวที่ตามหากลับมาก็จะนึกถึงคนรักที่สูบเสียไป เขาไม่ออกงานกับองค์หญิงก็เป็นเรื่องปกติ”ถังหลินบอกความคิดของตัวเอง อันที่จริงถังหลินวิเคราะห์ได้สมเหตุสมผลมาก
เห็นเย่ซือเฉินไม่ยอมพูดโดยตลอด ถังหลินครุ่นคิดดูแล้วจึงกล่าวอีกว่า “หากเป็นคุณ หาตามหาลูกชายลูกสาวเจอหนึ่งคู่ แล้วคนรักตัวเอง ……”
ถังหลินพูดได้ครึ่งทาง เย่ซือเฉินก็กวาดสายตาเพ่งมองไปทันที แววตาที่ทอประกายแสงเยือกเย็น ยิ่งมีกลิ่นอายความอันตรายมากขึ้นอย่างปิดไม่อยู่
“ผมแค่ยกตัวอย่าง ยกตัวเองเฉยๆ”ถังหลินรีบเปลี่ยนคำพูด เขาก็แค่ตั้งสมมุติฐาน เย่ซือเฉินตอบสนองเกินควรไปแล้ว
“ผมคิดว่าคุณน่าจะรับรู้ความรู้สึกของซ่างกวนหงได้ดี หากเป็นคุณ คุณจะเป็นยังไง?จะเข้าๆออกๆอย่างมีความสุขกับลูกตัวเองไหม?”ถังหลินรู้สึกว่าเหตุการณ์ที่เย่ซือเฉินประสบพบเจอมีความคล้ายคลึงกับซ่างกวนหง เพียงแต่เย่ซือเฉินโชคดีกว่าซ่างกวนหง ตอนนี้เย่ซือเฉินมีทั้งลูกและคนรักกลับคืนสู่อ้อมแขนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ดวงตาเย่ซือเฉินมืดครึ้มอย่างเด่นชัด มุมปากยกขึ้น“ถ้าเป็นผม ผมคงขังตัวเองจนวันตาย”
ระหว่างที่เย่ซือเฉินพูด สีหน้าเข้มขรึมมาก น้ำเสียงก็มีความเคร่งเครียดยิ่ง เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้ล้อเล่น และเขาก็ไม่ได้พูดสุ่มสี่สุ่มห้าอย่างแน่นอน
ถ้าตามหาเจอเฉพาะลูกตัวเอง แต่กลับต้องสูญเสียเวินลั่วฉิงไป เขาก็จะ……
บัดนี้เย่ซือเฉินเห็นด้วยกับคำพูดของถังหลินอย่างสุดแสน สาเหตุที่ซ่างกวนหงไม่ออกงานพร้อมกับองค์หญิง คงเป็นเพราะสูญเสียคนรักจนเสียใจและเศร้าสลดเกินไป ดังนั้นเลยขังตัวเองไว้แต่ในบ้าน
“ก่อนหน้านี้ซ่างกวนหงเจ็บปวดทุกข์ใจเพราะสูญเสียคนรักไป เลยไม่ค่อยแยแสองค์หญิงคนนี้ซะเท่าไหร่ นั่นเป็นเพราะก่อนหน้านี้องค์หญิงกลับมาอยู่ในองค์กรโกสต์ซิตี้แล้ว ได้ใช้ชีวิตเหมือนปลาได้น้ำ สุขสบาย ทำตัวได้อิสระเสรี แต่ตอนนี้องค์หญิงคนนี้โดนรังแก ซ่างกวนหงคงไม่นิ่งนอนใจแน่”ถังหลินหยุดพูดชั่วครู่ จากนั้นก็กล่าวอย่างกลัดกลุ้มว่า “ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ ด้วยนิสัยของซ่างกวนหง ไม่เพียงแต่ใส่ใจเท่านั้น เกรงว่ายังคงจะ……”
ถังหลินไม่ได้พูดจบ ทว่าความหมายนั้นชัดเจนมาก เย่ซือเฉินเข้าใจอยู่แล้ว
หากเป็นเขา ถ้าลูกสาวตัวเองโดนรังแก เขาจะใช้ความสามารถของตนทั้งหมดเพื่อช่วยลูกสาวแก้แค้น ใครหน้าไหนก็อย่าคิดขัดขวางเขาเชียว
“แถมได้ยินมาว่าซ่างกวนหงยังชอบปกป้องคนของตัวเองมากอีกด้วย ในความคิดของเขาก็คือ ถึงแม้คนของตัวเองจะทำผิด แต่ก็ไม่อนุญาตให้คนนอกข่มเหงรังแกเด็ดขาด”ถังหลินเสริมอีกหนึ่งประโยคช้าๆ มีคนไม่น้อยรู้เรื่องซ่างกวนหงชอบปกป้องคนของตัวเอง
เรียกได้ว่าซ่างกวนหงเป็นตัวพ่อในการปกป้องคนของตัวเองกันเลยทีเดียว!!
“ทหารมาใช้ขุนพลรับมือ น้ำมาใช้ดินกลบทับ ซ่างกวนหงจะลงมือก็เชิญเลย พวกเราไม่กลัวเขาหรอก”ในใจเย่ซือเฉินรู้ความรุนแรงของเรื่องดี และเขาก็รู้ผลลัพธ์ที่ซ่างกวนหงโจมตีพวกเราเต็มกำลัง แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น เขาก็ไม่มีทางกลัวซ่างกวนหง
“คุณพูดถูก เขาจะมาไม้ไหนก็แล้วแต่ พวกเราไม่กลัวอยู่แล้ว……”มุมปากถังหลินยกขึ้นเล็กน้อย เป็นการคลี่ยิ้ม ทว่าเขาก็เสริมช้าๆอีกหนึ่งประโยคว่า“กลัวก็ไม่มีประโยชน์”
เย่ซือเฉินกวาดสายตามองเขาแวบหนึ่ง ไม่ได้พูดอะไร
“โอเค ผมกลับไปเตรียมตัวก่อน จะมากจะน้อยก็เตรียมตัวไว้บ้าง เผื่อถึงเวลาโดนจู่โจมจะได้ทำอะไรไม่ถูก คุณรอฉิงฉิงที่นี่เถอะ”ถังหลินกับเย่ซือเฉินวิเคราะห์เหตุการณ์เมื่อวานเสร็จสรรพ ตอนนี้สิ่งที่ทำได้เพียงอย่างเดียวก็คือ พยายามเตรียมตัวรับมาให้พร้อมมากที่สุด เพื่อจะได้ไม่ต้องไร้แผนรับมือ เมื่อซ่างกวนหงมาโจมตีพวกเขาจริงๆ
“อย่าพึ่งบอกเรื่องนี้กับฉิงฉิงนะ ผมไม่อยากให้เธอกังวล”เย่ซือเฉินเรียกถังหลินให้หยุด เขาไม่อยากดึงเวินลั่วฉิงเข้ามาเกี่ยวข้องเรื่องนี้ เขาเป็นคนก่อเรื่อง เขาก็ต้องเป็นคนแก้ไขปัญหาอยู่แล้ว
“คุณยังไม่รู้ว่าฉิงฉิงเป็นคนยังไงอีกเหรอ?ถึงได้คิดจะปิดบังเธอ?คุณคิดว่าปิดได้มิดเหรอ?อีกอย่างซ่างกวนหงลงมือได้ทุกเมื่อ ถึงเวลาก็ยิ่งปิดไม่มิดแล้ว”ถังหลินเข้าใจเจตนารมณ์ที่ดีของเย่ซือเฉิน แต่ถังหลินก็รู้ดีมากว่า เรื่องนี้คงปิดฉิงฉิงไม่ได้แน่นอน “คุณไม่อยากให้เธอกังวลใจ งั้นตอนนี้ยังไม่บอกเธอก็ได้ ถึงเวลานั้นค่อยว่ากันใหม่”อันที่จริงถังหลินก็ไม่อยากให้เวินลั่วฉิงกังวลใจ ที่เขามหายถึง ถึงเวลานั้น คงเป็นสถานการณ์ที่ย่ำแย่มาก
“ผมไปก่อนนะ คุณเจอฉิงฉิงแล้วก็กลับบ้านตระกูลถังกันเถอะ ครอบครัวพวกคุณควรอยู่กันพร้อมหน้าเสียที”ถังหลินหวังอยากให้ครอบครัวนี้อยู่ด้วยกันเร็วๆ
“อืม”เดิมทีเย่ซือเฉินก็คิดอย่างนี้อยู่แล้ว เขาเชื่อว่าตอนนี้ท่านปู่ถังกับท่านย่าถังคงไม่ขัดขวางเขาอยู่แล้ว
“ใช่แล้ว คุณคิดว่าเมื่อไหร่?หรือใช้วิธีไหนในการประกาศสถานะของเด็กทั้งสองคน?”เดิมทีถังหลินคิดจะไป เพียงแต่นึกถึงเรื่องนี้แล้วอดถามหนึ่งประโยคไม่ได้ เพราะตอนนี้จุดนี้คือประเด็นสำคัญ
“ประกาศเลย ยิ่งเร็วก็ยิ่งดี”เห็นได้ชัดว่าเย่ซือเฉินคิดไว้ตั้งนานแล้ว ในเมื่อตนนี้เขารู้อีกว่าเขามีลูกสองคน ต้องประกาศอย่างแน่นอน หลังประกาศเสร็จ เรื่องจากนั้นเขาจัดการเองได้อยู่แล้ว
“แน่นอน งานแต่งของผมกับฉิงฉิงก็ยิ่งเร็วยิ่งดี”เย่ซือเฉินพูดมาถึงตรงนี้ มุมปากยกขึ้น ในเมื่อลูกของเขากับฉิงฉิงโตกันขนาดนี้แล้ว เขากับฉิงฉิงก็ต้องรีบแต่งงานอยู่แล้ว
“แผนใช้ชีวิตของคุณแหลมคมมาก”ถังหลินอดหัวเราะไม่ได้ อันที่จริงบทสรุปอย่างนี้เขาหวังและอยากเห็นมานานแล้ว
“วางใจเถอะ หลังจากที่รู้เรื่องเด็กๆทั้งสองคนแล้ว ผู้ใหญ่อันเคารพรักทั้งสองท่านก็ไม่คิดจริงๆจังๆว่าจะแยกคุณกับฉิงฉิงจากกัน ดังนั้น คุณไปถึงบ้านตระกูลถังแล้วอย่าเกินเลยกับผู้ใหญ่อันเคารพรักทั้งสองท่านนะ”ถังหลินล้วนแต่พูดความจริงเท่านั้น ตระกูลถังของพวกเขาอยากเห็นฉิงฉิงมีความสุขที่สุด จะแยกพวกเขาจากกันจริงๆได้อย่างไร