ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1168 หารือเรื่องแต่งงาน (1)
ต้องบอกว่าไป๋หยิงฉลาดมาก เธอมองพ่อบ้านก็รู้ว่าไม่ใช่เจตนาของคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่!!
“พวกคุณรอเดี๋ยวครับ ผมจะแจ้งนายท่านก่อนนะครับ”สีหน้าพ่อบ้านเคร่งขรึมหลายส่วน พ่อบ้านก็รู้ว่าอีกฝ่ายมายืนอยู่หน้าประตูแล้ว หากพวกเขายืนกรานจะเข้าไป เขาก็ขวางไม่ได้
พ่อบ้านกล่าวจบก็เดินเข้าไปในบ้านหลังใหญ่
“คุณท่านครับ ข้างนอกมีคนขอเข้าพบครับ”พ่อบ้านเดินเข้ามาถึงห้องโถงพลันเห็นคุณปู่เย่นั่งอยู่ตรงนี้พอดี
“ใคร?”คุณปู่เย่กำลังเช็ดทำความสะอาดวัตถุโบราณอยู่ พลางถามอย่างเลื่อนลอยหนึ่งประโยค
“พวกเขาบอกว่าเป็นคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ครับ”พ่อบ้านมองไปยังคุณปู่เย่ พลางกะพริบตา
“คนขององค์กรโกสต์ซิตี้?นายบอกว่าเป็นองค์กรโกสต์ซิตี้?พวกเขามาทำไม พวกเราไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับพวกเขาสักหน่อย?”ปกติคุณปู่เย่จะไม่ค่อยติดตามข่าวในโซเชียลมากนัก ดังนั้นยังไม่รู้เรื่ององค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้โดนโยนออกจากบริษัทตระกูลเย่กรุ้ป
“รู้สถานะของพวกเราในองค์กรโกสต์ซิตี้ไหม?”คุณปู่เย่วางวัตถุโบราณลง ใบหน้าเผยความสงสัยหลายส่วน
“พวกเขาบอกว่ามีท่านหนึ่งเป็นองค์หญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้ครับ”เดิมทีพ่อบ้านไม่อยากเจาะจงพูดถึงสถานะของพวกเขา ทว่าตอนนี้คุณปู่เย่ถามแล้ว พ่อบ้านก็ไม่ปิดบังอีก
“องค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้?ทำไมเธอถึงมาบ้านตระกูลเย่ล่ะ?”หางคิ้วคุณปู่เย่ยกขึ้นด้วยความประหลาดใจ ทว่าใบหน้ากลับมีความได้ใจหลายส่วนเพิ่มขึ้นมา“ในเมื่อเป็นองค์หญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้ งั้นนายก็รีบเชิญเข้ามาเร็ว”
“แต่ตอนเช้าองค์หญิงท่านนี้พึ่งถูกคุณชายโยนออกจากบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปครับ พวกเธอมาตอนนี้ ผมเกรงว่าจะมาหาเรื่องครับ”พ่อบ้านครุ่นคิดดูแล้ว อดพูดหนึ่งประโยคไม่ได้ เขาไม่อยากให้องค์หญิงอะไรนั่นเข้ามาเลยจริงๆ
“ถูกซือเฉินโยนออกนอกบริษัท?ซือเฉินถึงกับโยนองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ออกนอกบริษัทเลยเหรอ เขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่?”คุณปู่เย่ได้ยินที่พ่อบ้านบอกก็ตกตะลึง ใบหน้ามีความหงุดหงิดหลายส่วน “บาดหมางกับองค์กรโกสต์ซิตี้ได้ซะที่ไหนกันล่ะ?”
“คุณชายทำแบบนี้ต้องมีเหตุผลแน่นอนครับ คุณชายโยนองค์หญิงท่านนี้ออกไปด้านนอก ตอนนี้องค์หญิงท่านนี้ก็มาหาถึงที่ เกรงว่าจะมาด้วยความประสงค์ร้ายนะครับ ผมรู้สึกว่าทางที่ดีอย่า ……”พ่อบ้านกังวลว่าองค์หญิงท่านนั้นจะก่อเรื่องอะไรขึ้นอีก แน่นอนประเด็นสำคัญคือพ่อบ้านเกรงจะมีผลเสียต่อคุณชาย
“คนมาคือแขก ในเมื่อเขาอุตส่าห์มาเยี่ยมถึงที่ พวกเราก็ไม่สะดวกที่จะปฏิเสธพวกเขา”คุณปู่เย่ยังไม่ทันพูดจบ คุณย่าเย่ที่กำลังลงจากบันไดพอดีพูดต่อเสียแล้ว
“ด้วยอำนาจและอิทธิพลขององค์กรโกสต์ซิตี้ หากคิดจะหาเรื่องพวกเราก็ทำได้ทันที ไม่มีทางให้องค์หญิงมาหาพวกเราถึงที่หรอก อีกอย่างซือเฉินเป็นคนโยนองค์หญิงของพวกเขา องค์กรโกสต์ซิตี้คิดจะหาเรื่องก็คงไม่มาหาพวกเราสองเฒ่าหรอก ดังนั้นวันนี้องค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้มาต้องมีเจตนาอื่นแน่ ฉันรู้สึกว่าคุยกันได้”
“แต่คุณชายโยนอีกฝ่ายออกไปแล้ว คงต้องขัดใจอีกฝ่ายแล้ว หากพวกเรามาหาเรื่องจริงๆล่ะก็ ……”พ่อบ้านพยายามเกลี้ยกล่อมเต็มที่ พ่อบ้านไม่อยากให้องค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้เข้ามาเลยจริงๆ
“ที่นี่คือบ้านตระกูลเย่ คือบ้านของพวกเรา หรือพวกเราต้องกลัวพวกเขา หากเรื่องนี้แพร่ออกไปแล้วพวกเราไม่ใช่ขายหน้าแย่เหรอ”คุณย่าเย่ตัดบทพูดของพ่อบ้าน ความหมายนั้นเด่นชัดมาก
“พวกเขามากันกี่คน?”ดวงตาคุณปู่เย่เปล่งประกายระยิบระยับ ทันใดนั้นก็ถามหนึ่งประโยคขึ้นมา
“สามคนครับ”ถึงแม้พ่อบ้านไม่อยากให้เข้ามา ทว่าเขาก็หลอกลวงและปกปิดคุณปู่เย่ไม่ได้
“พวกเขามากันแค่สามคนเหรอ?งั้นคุณไม่ใช่มาหาเรื่องหรอก หากองค์กรโกสต์ซิตี้จะมาหาเรื่องต้องไม่ใช่แค่สามคนแน่ พวกเราคงมาคุยธุระกับพวกเราจริงๆ นายรีบไปเชิญพวกเขาเข้ามา”คุณปู่เย่ได้ยินว่ามากันแค่สามคนก็กระตือรือร้นขึ้นมา
“ครับ”ครั้งนี้พ่อบ้านไม่อาจพูดสิ่งใดได้อีก ได้แต่ออกไปเชิญเข้ามาตามคำสั่งเท่านั้น
“คุณปู่เย่ คุณย่าเย่ ได้ยินชื่อเสียงมานาน วันนี้พวกเรามาเยี่ยมพวกท่านโดยเฉพาะเลยค่ะ”หลังจากไป๋หยิงเข้ามาถึงห้องโถง ใบหน้าประดับรอยยิ้ม ไป๋หยิงรู้ว่าเกิดเรื่องกรณีตอนเช้าขึ้น คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ต้องมีความสงสัยแน่นอน ดังนั้นเธอจึงแสดงจุดยืนให้เด่นชัดก่อนเป็นอันดับแรก
คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่เห็นท่าทีเช่นนี้ของเธอก็อึ้งเล็กน้อย คุณย่าเย่รู้ว่าองค์กรโกสต์ซิตี้คงไม่มาหาเรื่องพวกเขาเองถึงที่ แต่ก็คาดไม่ถึงว่าจะเป็นมิตรขนาดนี้
“คุณก็คือองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้เหรอ?”คุณย่าเย่มองสำรองไป๋หยิง เห็นหน้าตาดี ดูแวบแรกก็รู้ว่าเป็นคนมีไหวพริบ หรือว่าจะเป็นองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้กันนะ?
“คุณย่าเย่เข้าใจผิดแล้วค่ะ ฉันไม่ใช่องค์หญิง”มุมปากไป๋หยิงยกยิ้มจางๆ รอยยิ้มบนใบหน้าแลดูเป็นธรรมชาติมาก
ไป๋หยิงหยุดพูดชั่วครู่ จากนั้นก็หันไปยังเฉิงโหรวโหรว พลางกล่าวว่า “ท่านนี้ต่างหากที่เป็นองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ของพวกเราค่ะ”
“ออ ออ ”คุณย่าเย่มองไปยังเฉิงโหรวโหรวด้วยความอึ้ง คุณย่าเย่อายุปูนนี้แล้ว เคยเจอทั้งผู้คนและเรื่องราวมาก็นับต่อนับ หากไป๋หยิงไม่แนะนำให้รู้ คุณย่าเย่จะไม่เชื่อเลยว่าคนนี้คือองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้
“ท่านนี้คือหัวหน้าเจิ้ง ผู้ดูแลองค์กรโกสต์ซิตี้สาขาเมืองAค่ะ”ไป๋หยิงให้เจิ้งฉงมาก็เพื่อเพิ่มความน่าเกรงขามและความน่าเชื่อถือ ดังนั้นจึงแนะนำอย่างเป็นการเป็นงาน
“ที่แท้ก็หัวหน้าเจิ้งเองเหรอครับ เสียมารยาทแล้วครับ”คุณย่าเย่มองไปยังเจิ้งฉง ท่าทางเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งท่าทางเกรงใจกว่าตอนมองเฉิงโหรวโหรวเป็นไหนๆ
คุณปู่เย่ก็ลุกขึ้นกล่าวทักทายเจิ้งฉง เจิ้งฉงวางมาดได้เข้มแล้ว จึงไม่ได้พูดอะไร แค่ยิ้มจางๆเท่านั้น
คุณย่าเย่มองไปยังเฉิงโหรวโหรวอีกครั้ง เห็นท่าทางเฉิงโหรวโหรวแล้วก็เลิกคิ้ว ท่านนี้ก็คือองค์หญิงจริงๆเหรอ?คุณย่าเย่ดูไม่ออกว่าท่านนี้จะมีราศีขององค์หญิงตรงไหน
“หัวหน้าตามหาองค์หญิงท่านนี้ยี่สิบห้าปีแล้วค่ะ ไม่ง่ายเลยกว่าจะหาตัวเจอ”ไป๋หยิงเห็นความผิดแปลกของคุณย่าเย่ ดังนั้นไป๋หยิงจึงจงใจอธิบายหนึ่งประโยค
คุณย่าเย่ชะงัก พลางหันไปมองไป๋หยิง“งั้นต้องยินดีกับหัวหน้าด้วย ไม่รู้ว่าวันนี้องค์หญิงมาที่บ้านตระกูลเย่มีธุระอะไร?”
ในใจคุณย่าเย่ยังคงรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย ไม่รู้สาเหตุการมาของพวกเขา คุณย่าเย่ก็ไม่อยากพูดอ้อมกับอีกฝ่าย ดังนั้นจึงถามออกมาโดยตรง
ไป๋หยิงมองไปยังเฉิงโหรวโหรวแวบหนึ่ง จากนั้นมองคุณปู่เย่ด้วยรอยยิ้มเบ่งบานราวกับดอกไม้ “ที่องค์หญิงพวกเรามีเป็นเรื่องดี คือเรื่องมงคลค่ะ”
“เรื่องมงคล?”คุณย่าเย่อดอุทานไม่ได้ หากบอกว่าเป็นเรื่องดีก็สามารถเข้าใจว่าเป็นคำที่ให้ความเคารพและความเกรงอกเกรงใจซึ่งกันและกัน แต่คำที่ว่า เรื่องมงคล มันหมายความว่าอย่างไร?
“คาดว่าคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่คงรู้เรื่องตอนเช้าแล้วใช่ไหมคะ”ไป๋หยิงมองไปยังคุณย่าเย่ ใบหน้ายังคงมีรอยยิ้มดุลเดิม ประโยคนี้ฟังดูแล้วเหมือนมาคิดบัญชี แต่สีหน้าของไป๋หยิงกลับไม่เหมือนจะคิดบัญชี
คุณย่าเย่ไม่เข้าใจเจตนาของไป๋หยิงในชั่วขณะนี้
“ฉันเองก็เพิ่งได้ฟังเรื่องนี้เมื่อกี้นี่เอง ซือเฉินทำอะไรวู่วามไปหน่อย ทำให้องค์หญิงเคืองใจ ขอองค์หญิงให้อภัยด้วย”คุณย่าเย่รู้ว่าไม่ว่าอย่างไรเรื่องนี้ก็เป็นความผิดของเย่ซือเฉิน ถึงอย่างไรก็โยนคนออกนอกประตูไม่ได้
“ฉันไม่……”เฉิงโหรวโหรวได้ยินคำพูดของคุณย่าเย่ก็อยากแสดงจุดยืนทันที
“องค์หญิงของพวกเรามาเยี่ยมพวกท่านก็แสดงว่าองค์หญิงของพวกเราไม่ติดใจเอาความกับเรื่องนี้แล้วค่ะ”ไป๋หยิงชิงเฉิงโหรวโหรวพูด สถานการณ์เช่นนี้ให้เฉิงโหรวโหรวพูดเหลวไหลไม่ได้ คำบางคำ ถึงแม้จะมีความหมายเหมือนกัน แต่ถ้าใช้วิธีต่างกันแล้ว ผลลัพธ์ก็จะไม่เหมือนกัน
ซึ่งเฉิงโหรวโหรวไม่มีทางเข้าใจจุดนี้ตลอดกาล
“องค์หญิงเป็นคนสูงส่งใจคอกว้างขวางมากค่ะ”คุณย่าเย่รับหนึ่งประโยคด้วยความเกรงใจ ทว่าน้ำเสียงกลับไม่มีความจริงใจมากนัก แค่พูดผ่านๆเท่านั้น เพราะบัดนี้พวกเขาเอ่ยถึงเรื่องนี้ คุณย่าเย่ก็รู้ว่าเรื่องนี้คงไม่ยอมปล่อยผ่านง่านๆหรอก
“แต่ตอนนี้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่โตแล้ว ส่งผลเสียต่อองค์หญิงของพวกเรามาก ดังนั้นองค์หญิงของพวกเรามาวันนี้ก็เพื่อคุยเรื่องนี้กันค่ะ”ไป๋หยิงยังคงมองคุณย่าเย่ ถ้อยคำนี้ฟังดูเหมือนมาคิดบัญชีหลายส่วน!!
อีกอย่างใบหน้าของไป๋หยิงตอนนี้มีความซับซ้อนหลายส่วน