ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1170 ลงชื่อหนังสือแต่งงาน (1)
แต่งงานกับองค์หญิงที่มีอุปนิสัยใจคอเช่นนี้ องค์กรโกสต์ซิตี้ต้องเป็นของตระกูลเย่ในอนาคตแน่!!
“วันนี้พวกเรามาด้วยความจริงใจนะคะ เดิมทีไม่ควรรีบร้อนต่อเรื่องนี้ โดยเฉพาะด้วยตำแหน่งและสถานะขององค์หญิงยิ่งไม่ต้องรีบร้อนอะไร”ไป๋หยิงรู้เทคนิคการพูด พวกเธอมาคุยเรื่องแต่งงานอย่างนี้ มันโฉ่งฉ่างอยู่แล้ว หากไม่มีคำอธิบายที่เหมาะสมก็จะดูไม่งาม
“ใช่ ใช่ คุณสมบัติขององค์หญิงไม่จำเป็นต้องรีบร้อน”คุณย่าเย่พูดจาไพเราะเป็นพิเศษ รีบเห็นด้วยกับคำพูดของไป๋หยิงทันที
“อันที่จริงหัวหน้าพวกเราพึ่งตามหาตัวองค์หญิงกลับมาได้ ไม่อยากให้องค์หญิงแต่งงานเร็วอย่างนี้”เวลานี้ไป๋หยิงจงใจเอ่ยถึงหัวหน้า ประเด็นหลักๆก็คือสื่อให้รู้ว่าหัวหน้ามีความรักใคร่และให้ความสำคัญกับองค์หญิงขนาดไหน
ภายในองค์กรโกสต์ซิตี้รู้ดีว่าองค์หญิงไม่ได้รับความโปรดปรานเลยสักนิด ทว่าคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ไม่มีทางรั่วไหลข่าวนี้กับคนนอกเด็ดขาด ถึงแม้ด้านนอกจะมีการคาดเดาต่างๆนาๆ แต่ก็ไม่มีทางรู้ความจริงอย่างแน่นอน
ดังนั้นไป๋หยิงจึงกล้าพูดเช่นนี้
“แน่นอนอยู่แล้ว”คุณย่าเย่พยักหน้าคล้อยตามอีกครั้ง
ไป๋หยิงแอบผ่อนลมหายใจ คล้ายกับกำลังลำบากใจอยู่ จนปัญญาเล็กน้อย เธอหยุดพูดชั่วครู่ ก่อนจะพูดต่อว่า “แต่เช้าวันนี้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ดังนั้นฉันคิดว่ากำหนดงานแต่งงานของทั้งสองบ้านขึ้นมา จากนั้นก็ประกาศสู่สาธารณชน ถ้าเป็นแบบนั้น เรื่องวันนี้ก็จะคลี่คลายได้แล้วค่ะ”
“เรื่องนี้ซือเฉินเป็นคนก่อขึ้น เดิมทีพวกเราก็ควรรับผิดชอบอยู่แล้ว ดังนั้นพวกเราต้องให้ความร่วมมือในการกู้ภาพลักษณ์ขององค์หญิงกลับมาเต็มที่อยู่แล้ว”คุณย่าเย่ได้ยินไป๋หยิงพูดถึงเรื่องแต่งงานสักที พลางรู้สึกพอใจมาก ทว่าก็ยังคงต้องพูดอ้อมหน่อย แน่นอนคุณย่าเย่ไม่ได้หมายความว่าปฏิเสธ เนื่องด้วยคำนึกถึงภาพลักษณ์ของตน
ให้คนอื่นดูออกว่าเธอรีบร้อนอยากเกี่ยวดองกับองค์กรโกสต์ซิตี้ไม่ได้ ให้คนอื่นรู้ว่าเธอใฝ่สูงอยากปีนป่ายองค์กรโกสต์ซิตี้ไม่ได้
“ใช่ ใช่ พวกเราต้องทำได้อยู่แล้ว”ในใจคุณปู่เย่ก็ต้องพอใจแน่นอน ทว่าคุณปู่เย่ยังคงเก๊กกว่าคุณย่าเย่มาก
“พูดแบบนี้ คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่เห็นด้วยกับการแต่งงานของพวกเขา และเห็นด้วยที่จะประกาศสู่ภายนอกใช่ไหมคะ?”ไป๋หยิงรู้กลยุทธ์การพูดดี อะไรที่คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ไม่สะดวกพูดตรงๆ งั้นเธอก็จะเป็นฝ่ายพูดเอง
“หากองค์หญิงไม่รังเกียจ พวกเราก็เห็นด้วยแน่นอน”ไป๋หยิงพูดชัดเจนขนาดนี้แล้ว คุณย่าเย่ก็ไม่อาจพูดอ้อมค้อมได้แล้ว
คู่แต่งงานที่ดีพร้อมอย่างนี้ เธอไม่มีทางบอกปฏิเสธแน่นอน
“จำเป็นต้องถามเรื่องนี้กับประธานเย่ไหมคะ?”ไป๋หยิงมองไปยังคุณย่าเย่ ทั้งยังจงใจถามหนึ่งประโยค ซึ่งในใจไป๋หยิงรู้ดีว่าเย่ซือเฉินไม่อยากแต่งงานกับเฉิงโหรวโหรว และคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ก็ต้องรู้อยู่แล้ว ดังนั้นไป๋หยิงรู้ว่าเวลานี้คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่จะไม่ถามความคิดเห็นของเย่ซือเฉินเด็ดขาด
คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ไม่ถามก็ยังพอเข้าใจอยู่ แต่ถ้าพวกเธอไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้ งั้นก็จะไม่เข้าท่าเอาซะเลย
ดังนั้น บัดนี้ไป๋หยิงจงใจถามเช่นนี้ แน่นอนไป๋หยิงก็มั่นใจมากว่าคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่จะไม่ถามเย่ซือเฉินแน่นอน
งานแต่งงานของเย่ซือเฉินกับกู่หยิงหยิงครั้งก่อน คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่กำหนดขึ้นโดยที่ปิดบังคุณเย่ซือเฉินไว้
หลังจากกลับมาจากเมืองจิ่น เธอก็สั่งให้คนสืบเรื่องตระกูลเย่มาพอสังเขปแล้ว จึงรู้สึกคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่เล็กน้อย
“พวกเราเป็นผู้ใหญ่ของเขา พวกเราตัดสินใจแทนเรื่องนี้ได้อยู่แล้ว ซือเฉินฟังพวกเราแน่นอน”ดวงตาคุณย่าเย่กะพริบปริบๆ ใบหน้าเผยรอยยิ้มอีกครั้ง เธอพูดอย่างเป็นธรรมชาติสุดๆ มั่นใจสุดๆ
“ใช่ ซือเฉินต้องฟังพวกเราอยู่แล้ว”คุณปู่เย่ก็รีบเสริมอีกหนึ่งประโยค
“งั้นก็ดีค่ะ”รอยยิ้มบนใบหน้าไป๋หยิงค่อนข้างสวยสดรุ่งโรจน์มาก เป็นดังที่เธอคาดเดาไม่มีผิดเพี้ยน เมื่อเป็นแบบนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว
“นายท่านครับ นายหญิงครับ คุณชายชอบคุณ……”พ่อบ้านได้ยินว่าองค์หญิงท่านนี้ชอบคุณชายก็เริ่มอกสั่นขวัญแขวนแล้ว ตอนนี้ได้ยินว่าพวกเขาตอบตกลงงานแต่งงานโดยไม่ซักถามคุณชายเลยสักคำ เขาก็เป็นเดือดเป็นร้อนแทน
ปกติพ่อบ้านแทรกพูดน้อยมาก ทว่าตอนนี้มันเกี่ยวโยงถึงความสุขในบั้นปลายชีวิต ตอนนี้พ่อบ้านปลีกตัวไปไหนไม่ได้ ไม่มีโอกาสแอบส่งข่าวให้คุณชาย ดังนั้นพ่อบ้านจึงรวบรวมความกล้าเพื่อเตือนคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ แน่นอนคำพูดของพ่อบ้านนี้ก็พูดให้องค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ฟังด้วย
พ่อบ้านรู้สึกว่าหากองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้รู้ว่าคุณชายมีคนที่ชอบอยู่แล้ว คงถอดตัว องค์หญิงคงไม่หน้าด้านถึงกลับทำลายความรักของผู้อื่นหรอกมั้ง?
“นายหุบปาก นายมีสิทธิ์อะไรมาพูดที่นี่?”คุณปู่เย่จ้องเขม็งพ่อบ้าน พร้อมกับแทรกบทพูดของพ่อบ้านกลางคัน
พ่อบ้านชะงัก เขาทำงานเป็นพ่อบ้านในบ้านตระกูลเย่ก็สี่สิบกว่าปีแล้ว ปกติถึงแม้นิสัยของคุณปู่เย่จะไม่ดี แต่ก็ยังปฏิบัติต่อเขาดีอยู่ เมื่อสักครู่เขาร้อนรนจึงพลั้งถามพูดออกไป และเขาล้วนพูดแต่ความจริง พ่อบ้านคาดไม่ถึงว่าคุณปู่เย่จะพูดอย่างนี้ออกมา
ตอนนี้ยังมีคนนอกอยู่ด้วย พ่อบ้านจึงไม่ได้พูดอะไรอีก เขาได้แต่ก้มหน้าชงชาต่อ
ถ้าไม่ใช่ทำเพื่อคุณชาย เขาก็ไม่มีอารมณ์ยุ่งเรื่องคนอื่นอย่างนี้หรอก
ช่างสงสารคุณชายเหลือเกิน คุณชายต้องพลัดพรากกับคุณแม่แต่เด็ก ส่วนคนเป็นพ่อก็ไม่เคยไยดี และคุณปู่กับคุณย่าก็ไม่เคยเอานึกถึงหัวอกของเขาเลยสักนิด
ไม่ง่ายเลยกว่าคุณชายจะหาผู้หญิงที่ชอบเจอ นายท่านกับนายหญิงกลับทำลายด้วยสารพัดวิธี
คุณชายลำบากมากกับการอยู่ในบ้านตระกูลเย่หลายปี
การกระทำของคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ทำให้คุณชายผิดหวังมากแล้ว พ่อบ้านคิดว่าหากครั้งนี้คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ยังปิดบังเรื่องแต่งงานนี้อีก เกรงว่าคุณชายจะตายใจ ไร้ความผูกพันต่อตระกูลเย่อีก
คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่คิดว่าคุณชายเป็นลูกหลานตระกูลเย่ ซึ่งจุดนี้ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้นพวกเขาจึงใช้จุดนี้ทำอะไรที่เกินควร ต้องมีสักวันที่คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ต้องเสียใจแน่
“พ่อบ้านหมายความว่ายังไงคะ?”ไป๋หยิงมองไปยังพ่อบ้าน จงใจทำหน้าสงสัยหลายส่วน“หรือว่ามีปัญหาอะไรเหรอคะ?”
ไป๋หยิงรู้เรื่องเย่ซือเฉินกับเวินลั่วฉิงกว่าใคร ไป๋หยิงรู้ดีกว่าใครว่าเย่ซือเฉินชอบแต่เวินลั่วฉิงเท่านั้น ตอนนี้เธอยังแสร้งทำเป็นไม่ประสีประสาอีก
“คุณอย่าฟังเขาพูดจาเหลวไหลเลย ไม่มีอะไรเลย ไม่มีปัญหาอะไรเลยสักอย่าง”คุณย่าเย่ก็ไม่พอใจกับการที่พ่อบ้านพูดจาส่งเดชมาก ทว่าใบหน้าไม่ได้เผยความผิดปกติแต่อย่างใด
“คุณปู่เย่ คุณย่าเย่ เพราะองค์หญิงของพวกเราชอบเย่ซือเฉิน และเพราะเรื่องตอนเช้าส่งผลกระทบหนักมาก พวกเราจึงมาคุยเรื่องเกี่ยวดองกัน หากประธานเย่มีคนที่ชอบพอกันแล้ว องค์หญิงของพวกเราต้องไม่ทำลายชีวิตของประธานเย่หรอกค่ะ”ทั้งๆที่ไป๋หยิงมาเพื่อทำลายความรักของเย่ซือเฉินกับเวินลั่วฉิงอยู่แล้ว แต่ตอนนี้กลับเสแสร้งแกล้งทำเป็นมีคุณธรรม
“ไม่มี คุณฟังผิดแล้ว ซือเฉินของพวกเราเคยแต่งงานกับเวินลั่วฉิง แต่พวกเขาหย่ากันนานแล้ว พวกเขาไม่มีความเกี่ยวพันกันนานแล้ว”เพราะเคยมีข่าวเอิกเกริกเรื่องการแต่งงานของเวินลั่วฉิงกับเย่ซือเฉิน ดังนั้นคุณย่าเย่จึงไม่คิดจะปกปิดจุดนี้ เพราะคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ก็ต้องรู้อย่างแน่นอน
“ใช่ พวกเขาหย่ากันนานแล้ว เวินลั่วฉิงมีลูกไม่ได้ ถ้าเวินลั่วฉิงกับซือเฉินอยู่ด้วยกัน ตระกูลเย่ของพวกเราก็ไร้ทายาทแล้ว ดังนั้นพวกเราไม่ยอมให้พวกเขาอยู่ด้วยกันหรอก”คุณปู่เย่ก็รีบแสดงท่าที คุณปู่เย่เอ่ยถึงเรื่องเวินลั่วฉิงมีบุตรไม่ได้อีกครั้ง
เพราะนี่คือสาเหตุหลักของการขัดขวาง
หากเวินลั่วฉิงตั้งท้องได้ พวกเขาอาจจะยอมรับก็ได้ เพราะเย่ซือเฉินหนักแน่นในความรู้สึกของตัวเองมาก พวกเขาก็ไม่อยากเกิดปากเสียงกับเย่ซือเฉินจนความสัมพันธ์สั่นคลอนเหมือนกัน
แน่นอน คุณปู่เย่ละเลยกับการมีอยู่ของถังจื่อซีอย่างอัตโนมัติ เพราะในสายตาคุณปู่เย่ เด็กผู้หญิงไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลย
เมื่อก่อนเวินลั่วฉิงคลอดเด็กผู้หญิงคนนี้ แต่ตอนนี้เวินลั่วฉิงมีบุตรไม่ได้ ตระกูลเย่ของพวกเขาจะขาดทายาทสืบทอดวงศ์ตระกูล
“ใช่แล้ว อันที่จริงก่อนหน้านี้พวกเราปฏิบัติกับเวินลั่วฉิงเป็นอย่างดี เธอเป็นสะใภ้บ้านตระกูลเย่ พวกเราต้องดูแลดีๆอยู่แล้ว แต่เวินลั่วฉิงมีลูกไม่ได้ จึงเป็นเหตุสุดวิสัย พวกเราไม่มีทางเลือกจริงๆ”คุณย่าเย่เริ่มสาธยายถึงความขมขื่น ซึ่งระหว่างนี้คุณย่าเย่ยังไม่ลืมชมตัวเองด้วย