ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1183 เจ้าหญิงตัวน้อยถูกทอดทิ้งแล้ว ยกโทษให้ไม่ได้ (2)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- บทที่ 1183 เจ้าหญิงตัวน้อยถูกทอดทิ้งแล้ว ยกโทษให้ไม่ได้ (2)
“ครับ” ถังจื่อโม่ดึงสติกลับมา แล้วมองไปยังท่านย่าถัง และหัวเราะออกมาเบาๆ
“จื่อโม่เป็นเด็กดีที่สุดแล้ว เรื่องของผู้ใหญ่ก็ให้ผู้ใหญ่ไปจัดการแก้ไขนะลูก พ่อของลูกจะต้องคิดวิธีการแก้ไขเรื่องพวกนี้ได้อย่างแน่นอน” เฟิ่งเหมียวเหมียวเองก็รีบเกลี้ยกล่อมถังจื่อโม่ด้วยเช่นกัน คำพูดนี้ของเฟิ่งเหมียวเหมียวก็เป็นการให้กำลังใจถังจื่อโม่ คนอื่นๆก็รู้ว่าเรื่องนี้ไม่ได้จะแก้ไขได้ง่ายๆแบบนั้นเลย
เพราะถึงอย่างไรคุณปู่เย่ก็จัดการเรื่องการแต่งงานของเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้แทนเย่ซือเฉิน อีกทั้งคุณปู่เย่ก็ได้ประกาศแจ้งกับคนภายนอกแล้วด้วย เย่ซือเฉินเป็นคนของตระกูลเย่ ถึงแม้เย่ซือเฉินจะไม่ยอมรับ แต่บัญชีนี้ก็ต้องมาคิดกับเย่ซือเฉินเช่นกัน
ตอนนี้สิ่งที่เย่ซือเฉินจะสามารถทำได้นั้นอาจจะมีเพียงแค่การถอนหมั้นเพียงเท่านั้น แต่การถอนการแต่งงานกับองค์กรโกสต์ซิตี้ ผลลัพธ์ที่จะตามมานั้นทุกคนก็ล้วนแต่ไม่กล้าคิดกันทั้งสิ้น
แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เป็นไปไม่ได้เลยที่จะให้เย่ซือเฉินไปแต่งงานกับเจ้าหญิงอะไรนั่นอย่างแน่นอน
“เจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้สวยมากไหมคะ?” ถังจื่อซีกะพริบตาลง จู่ๆก็เอ่ยถามขึ้นมา
ทุกคนไม่เข้าใจว่าทำไมถังจื่อซีถึงได้ถามแบบนี้ ล้วนแต่มองไปยังถังจื่อซีอย่างแปลกๆ
“พวกเราก็ไม่รู้จักเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้เหมือนกัน ไม่รู้ว่าเธอหน้าตาเป็นอย่างไร” ถึงแม้ว่าท่านย่าถังจะไม่รู้ว่าทำไมถังจื่อซีถึงเอ่ยถามขึ้นมาแบบนี้ แต่ก็ยังตอบกลับไปโดยจิตใต้สำนึก
“ฉันเคยเห็นในรายงานข่าวค่ะ หน้าตาก็ใช้ได้นะคะ แต่ดูแล้วจะดูระมัดระวังตัวอยู่บ้าง ดูไม่สุภาพ รู้สึกว่าลักษณะท่าทางไม่เรียบร้อย” โดยปกติเฟิ่งเหมียวเหมียวไม่ชอบที่จะวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นลับหลัง แต่เจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้คนนั้นดูไม่เป็นอย่างไรเลยจริงๆ
“ถ้าอย่างนั้นเธอเก่งมากไหมคะ?” ถังจื่อซือเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง
“เจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้นี้เพิ่งจะหาตัวกลับมา ดูเหมือนจะยังไม่เข้าใจอะไร แล้วก็ทำอะไรไม่เป็นด้วย ไม่ต่างไปกับคนธรรมดาทั่วไปเลย จะว่าเก่งก็คงไม่ได้จริงๆ” เฟิ่งเหมียวเหมียวเองก็ได้สืบหาเรื่องราวเกี่ยวกับองค์กรโกสต์ซิตี้เพราะคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ก็มาจัดการกับตระกูลถังเช่นกัน จึงเข้าใจเรื่องราวของเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้นี้มาบ้าง
“ในเมื่อเธอไม่ได้หน้าตาดี แล้วก็ไม่เก่ง อะไรๆก็ไม่เข้าใจ อะไรๆก็ทำไม่เป็น แล้วทำไมพวกเขาถึงต้องการให้คุณพ่อแต่งงานกับผู้หญิงแบบนี้ล่ะคะ?” ปากเล็กๆของถังจื่อซียกขึ้น สีหน้าท่าทางที่น่ารัก ถังจื่อซีคิดไม่ตกถึงตรงจุดนี้จริงๆ
ถังจื่อซีคิดไม่ตก แต่ในใจคนอื่นๆในห้องนั้นกลับเข้าใจดี เนื่องจากความเก่งกาจขององค์กรโกสต์ซิตี้ไง คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ถึงอยากจะผูกสัมพันธ์กับองค์กรโกสต์ซิตี้เพื่อหวังผลประโยชน์ ถึงแม้เจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้จะโง่เหมือนหมู น่าตาน่าเกลียดเสียจนไม่สามารถไปพบปะผู้คนได้ คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ก็ยังคงจะจัดการกับเรื่องแต่งงานนี้อยู่ดี
“แล้วก็ยังมีอีกว่า ไม่ใช่ว่าคุณพ่อเอาตัวเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้คนนั้นโยนออกมาจากบริษัทหรอกหรือคะ? แล้วทำไมเธอยังอยากจะแต่งงานกับคุณพ่ออีก? เธอไม่รู้สึกอายบ้างหรือคะ?” คำถามที่ถังจื่อซีคิดไม่ตกนั้นมีมากมาย สรุปแล้วคิดอยากจะแยกคุณพ่อกับคุณแม่ของเธอไปนั้นไม่ได้เด็ดขาดอยู่แล้ว
ทุกคนได้ยินคำพูดของถังจื่อซีแล้ว ก็ล้วนแต่พากันรู้สึกอึ้งไป ใบหน้าปรากฏความงุนงงออกมา
ใช่ ทั้งๆที่เจ้าหญิงถูกเย่ซือเฉินจับโยนออกมา แล้วทำไมเธอยังถึงอยากจะแต่งงานกับเย่ซือเฉินอีกกัน?
เจ้าหญิงท่านนี้หมายความว่าอะไรกันแน่?
“นี่จะเป็นแผนการอีกครั้งหนึ่งขององค์กรโกสต์ซิตี้อีกหรือเปล่า? จะพุ่งเป้ามาที่พวกเราอีก?” สีหน้าท่าทางของท่านย่าถังจริงจังและหนักแน่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากเรื่องราวทั้งสองครั้ง ตอนนี้เธอรู้สึกกลัวจริงๆแล้ว
ถังหลินกับถังหยุนเฉิงเกือบจะถูกทำลายคามือของคนแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้อยู่แล้ว ถ้าหากครั้งนี้เป็นการวางแผนร้ายของพวกเขาอีกครั้งหนึ่ง กลัวว่าเรื่องราวจะยิ่งยุ่งยากมากขึ้น ผลที่ตามมาจะต้องรุนแรงยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน
“พวกเขาทำแบบนี้เพื่ออะไร? ที่พวกเขาทำแบบนี้นอกจากจะเป็นการบีบบังคับเย่ซือเฉินแล้ว กับเรื่องอื่นๆก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรมากนี่” ในใจของท่านปู่ถังรู้สึกกังวลอยู่บ้างเช่นกัน แต่ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้ เขาก็มองไม่ออกถึงการวางแผนร้ายที่ยิ่งใหญ่มากกว่านี้
“หรือว่าพวกเขารู้ว่าเย่ซือเฉินจะไม่แต่งงานกับเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้นั่น พวกเขาก็อยากจะบีบให้เย่ซือเฉินถอนหมั้น หลังจากนั้นพวกเขาก็จะสามารถจัดการกับพวกเราได้ และแน่นอนว่า ถ้าหากเย่ซือเฉินไม่ถอนหมั้น ถึงตอนนั้นเย่ซือเฉินก็จะไม่สามารถแต่งงานกับฉิงฉิงได้ พวกเขาก็จะสามารถแยกเย่ซือเฉินกับฉิงฉิงได้แล้ว จิตใจของพวกเขานี่ช่างร้ายกาจจริงๆ” ความคิดของท่านย่าถังกับท่านปู่ถังนั้นไม่เหมือนกันอยู่บ้าง แต่เห็นได้ชัดว่าครั้งนี้ท่านย่าถังเดาถูกแล้ว
แน่นอนว่าท่านย่าถังเดาถูกได้เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้เดาในอีกส่วนหนึ่ง
เจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้อยากจะแต่งงานกับเย่ซือเฉินจริงๆ
“สรุปแล้ว เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าจะจัดการได้ง่ายๆเลย” ท่านปู่ถังถอนหายใจออกมาเบาๆ สีหน้าท่าทางเปลี่ยนไปอย่างจริงจังและหนักแน่นด้วยเช่นกัน ท่านปู่ถังเห็นผู้คนที่ผ่านอุปสรรคมากมายมาเสียจนชินแล้ว แต่เวลานี้แม้แต่เขาเองก็ไม่มีวิธีอื่นแล้วเช่นกัน
“ท่านปู่ถัง ท่านย่าถัง คุณหนูใหญ่กลับมาแล้วครับ…..แล้วก็คุณชายสามเย่ก็มาด้วยครับ” เวลานี้ผู้ดูแลก็เข้ามารายงาน
ท่านย่าถังได้ยินว่าเวินลั่วฉิงกลับมาแล้ว ใบหน้าก็แสดงความดีใจออกมา เพียงแต่เมื่อได้ยินผู้ดูแลเอ่ยพูดเสริมขึ้นมาประโยคสุดท้ายนั้น สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปดูเคร่งขรึมขึ้นมา : “เย่ซือเฉินเองก็มาอย่างนั้นหรือ? เขามาทำอะไร? นี่เขายังจะกล้ามาอีกหรือ?”
“แม่คะ เวลานี้เราจำเป็นที่จะต้องปรึกษากันดีๆ แล้วหลังจากนั้นก็ค่อยแก้ไขปัญหา ซือเฉินเขาเองก็ไม่ได้มีความผิด ตอนนี้กลัวว่าซือเฉินจะยิ่งร้อนใจมากกว่าพวกเราเสียอีก” เฟิ่งเหมียวเหมียวกลัวว่าท่านย่าถังจะไล่เย่ซือเฉินไป จึงรีบทำให้เข้าใจกันเสียก่อน
“หึ่ย” ท่านย่าถังส่งเสียงฮึดฮัดออกมา : “ล้วนแต่เป็นเรื่องยุ่งยากที่พวกเขาตระกูลเย่สร้างขึ้นมา ตอนนี้ฉันนับวันก็ยิ่งไม่อยากจะให้ฉิงฉิงแต่งงานกับตระกูลเย่แล้วนะ”
“ให้เขาเข้ามาก่อน ฟังดูซิว่าเขาจะพูดยังไง? ลองดูว่าเขาจะมีวิธีแก้ไขหรือเปล่า?” ท่านปู่ถังไม่ได้ทำตามท่านย่าถัง แน่นอนว่าท่านปู่ถังเองก็รู้ว่าตอนนี้ท่านย่าถังกำลังโมโหอยู่ ไม่ได้อยากจะไล่เย่ซือเฉินไปจริงๆ
“เดี๋ยวก่อน เด็กๆสองคนยังอยู่ที่นี่อยู่เลย? คุณให้เย่ซือเฉินเข้ามาตอนนี้ เย่ซือเฉินก็จะเห็นเด็กๆทั้งสองคน จื่อซีเคยเจอกันกับเย่ซือเฉินแล้ว แต่จื่อโม่ยังไม่เคย เพราะฉะนั้น ไม่สามารถให้เขาเห็นจื่อโม่ได้ ตระกูลเย่ของพวกเขาไม่ใช่ว่าให้ความสำคัญกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิงหรอกหรือ? ก็จะยังไม่บอกเรื่องของจื่อโม่กับพวกเขา” ท่านย่าถังโมโหกับเรื่องเมื่อครู่นี้อยู่ไม่น้อย แน่นอนว่าในช่วงเวลาสั้นๆแบบนี้ความโมโหก็ยังคงไม่หายไป
“คุณย่าทวดคะ พี่เจอกันกับคุณพ่อแล้วค่ะ คุณพ่อรู้เรื่องของพี่แล้ว” ถังจื่อซีได้ยินคำพูดของท่านย่าถังแล้วก็ยิ้มออกมา : “เพราะฉะนั้นเรื่องของพี่ชายไม่ต้องปิดบังคุณพ่อแล้วนะคะ”
“รู้แล้วหรือ? เย่ซือเฉินรู้แล้ว? จื่อโม่เคยเจอกับเย่ซือเฉินแล้ว? ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” ท่านย่าถังรู้สึกตกตะลึงไป แววตาคู่นั้นมองไปยังถังจื่อโม่อย่างรวดเร็ว : “ไม่ใช่ว่าจื่อโม่พูดมาตลอดว่าต้องการจะทดสอบเย่ซือเฉิน ไม่ใช่ว่าพูดมาตลอดว่าจะปิดบังเย่ซือเฉินไว้ก่อนหรอกหรือ?!”
“คุณพ่อผ่านการทดสอบของพี่แล้วค่ะ เมื่อคืนนี้ พี่กับคุณพ่อเจอกันแล้ว” พอถังจื่อซีพูดถึงเรื่องนี้แล้วก็รู้สึกดีใจมากเป็นพิเศษ ลืมเรื่องราวความกังวลเมื่อครู่นี้ไปหมดแล้ว
“โอเค ในเมื่อเย่ซือเฉินรู้แล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องปิดซ่อนอีกแล้ว จะเป็นการเอาเปรียบเจ้าเด็กนั่นเปล่าๆ” ท่านย่าถังถอนหายใจออกมา ฟังดูแล้วเหมือนกับจะจนปัญญา แต่นั่นก็หมายความว่ายอมให้เย่ซือเฉินเข้ามาแล้ว
ผู้ดูแลเป็นคนฉลาด ได้ยินคำพูดของท่านย่าถังแล้ว ก็เข้าใจขึ้นมาทันที
“แต่เรื่องของจื่อโม่นั้นไม่สามารถให้คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่รู้ได้นะ ถึงตอนนั้นปล่อยให้พวกเขามาเสียใจในภายหลังเอาก็แล้วกัน” ท่านย่าถังเอ่ยพูดเสริมขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำอย่างอารมณ์เสีย
“แม่คะ ถ้าหากให้คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่รู้เรื่องจื่อโม่ ไม่แน่ว่าพวกเขาก็อาจจะไม่ให้ซือเฉินแต่งงานกับเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ก็ได้นะคะ ไม่แน่ว่าถึงตอนนั้นพวกเขาก็จะแก้ไขเรื่องการแต่งงานที่ยุ่งยากเรื่องนี้ก็ได้นะคะ?” เฟิ่งเหมียวเหมียวกะพริบตาลงเร็วๆ แล้วพูดความคิดที่อยู่ในใจของตัวเองออกมา คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ไม่ใช่ว่าอยากจะอุ้มหลานหรอกหรือ ตอนนี้หลานชายก็อยู่ตรงนี้แล้ว อีกทั้งจื่อโม่ยังฉลาดขนาดนี้ เก่งขนาดนี้ ไม่แน่ว่าคุณปู่เย่และคุณย่าเย่เห็นจื่อโม่แล้ว อาจจะเปลี่ยนความคิดไปเลยก็ได้ ไม่บีบบังคับเย่ซือเฉินให้ต้องแต่งงานกับเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้อีก
“พวกเขาไม่เป็นแบบนั้นหรอกครับ ผมไม่ได้สำคัญกับพวกเขาขนาดนั้น” ถังจื่อโม่เงยหน้าขึ้นมามองไปยังเฟิ่งเหมียวเหมียว คำพูดประโยคหนึ่งที่มั่นใจและตรงไปตรงมา และน้ำเสียงของเขานั้นยังมีความไร้เดียงสาอีกด้วย แต่กลับมีพลังที่ทำให้ไม่สามารถมองข้ามไปได้อีกด้วยเสียอย่างนั้น
เฟิ่งเหมียวเหมียวได้ยินคำพูดของถังจื่อโม่แล้วก็อึ้งไปเลย เฟิ่งเหมียวเหมียวกะพริบตาลง เด็กคนนี้รู้เรื่องมากเกินไปแล้ว มีความคิดเป็นของตัวเองมากเกินไปแล้ว
แบบนี้ก็ดีมากเช่นกัน เห็นแล้วก็ทำให้คนรู้สึกรักและเอ็นดู
ดวงตาของถังจื่อโม่กรอกไปเล็กน้อย แล้วมองไปตรงหน้าประตู เวลานี้เย่ซือเฉินกับเวินลั่วฉิงยังไม่ได้เข้ามา เขาเอ่ยพูดเสริมขึ้นมาอีกประโยคหนึ่งอย่างช้าๆ : “พวกเขาคงจะอยากให้เจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้คลอดเหลนออกมาให้มากกว่าครับ”
เรื่องแบบนี้ ไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นบอก ถังจื่อโม่ก็สามารถเข้าใจได้
สองสามคนภายในห้องนั้นได้ยินคำพูดของถังจื่อโม่แล้ว ก็รู้สึกแย่เสียจนจุกอกไปหมด เด็กคนนี้เข้าใจอะไรไปหมดเลยจริงๆ แต่ยิ่งเขาเข้าใจ ก็จะยิ่งเจ็บ!!