ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1219 เปิดโปงความเสแสร้งของผู้อาวุโสบ้านเย่ทั้งสอง (2)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- บทที่ 1219 เปิดโปงความเสแสร้งของผู้อาวุโสบ้านเย่ทั้งสอง (2)
ท่านย่าถังไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ถึงโหดเหี้ยมเช่นนี้ เด็กคนหนึ่งที่น่ารักขนาดนี้ ยังเป็นเด็กตระกูลเย่เขาอีก ทำไมพวกเขาถึงทำไปได้?!
บ้านถังนั้นรักและเอ็นดูเด็กๆทุกคนเลย ไม่ว่าเรื่องอะไรก็จะให้ความสุขและความสนุกของเด็กๆไว้เป็นอันดับแรก
“เฮ้อ พวกเขายังโหดเหี้ยมกับซือเฉินขนาดนั้นเลย ซือเฉินเป็นคนที่พวกเขาเลี้ยงดูด้วยตัวเองพวกเขายังโหดร้ายขนาดนั้นได้ ยิ่งไปกว่านั้นคือจื่อซี พวกเขาเคยเจอจื่อซีแค่ครั้งเดียว ไม่มีความรู้สึกต่อจื่อซีเลย บวกกับจื่อซีเป็นเด็กผู้หญิงอีกด้วย พวกเขาได้กำหนดงานแต่งให้เย่ซือเฉินกับองค์หญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้ ต้องเป็นเพราะกังวลว่าจื่อซีจะไปทำลายงานแต่งนี้แน่นอน ดังนั้นถึงคิดอยากจะส่งจื่อซีจากไป” เพียงแค่ครู่เดียวท่านปู่ถังก็เดาความคิดของคุณปู่เย่ออกแล้ว
ก่อนหน้านี้ ท่านปู่ถังและท่านย่าถังจะไม่คุยเรื่องพวกนั้นของตระกูลเย่ต่อหน้าถังจื่อซี พวกเขากลัวว่าจื่อซีจะเสียใจ
ทว่าเมื่อกี้จื่อซีได้ยินทุกอย่างอย่างชัดเจนแล้ว ถังจื่อซีคือเด็กที่ฉลาด สิ่งที่ไม่ควรรู้ต่างก็รู้หมดแล้ว และไม่จำเป็นต้องปิดบังอีกต่อไป
“จื่อซีของพวกเราไปทำอะไรให้พวกเขา? ฉิงฉิงของพวกเราไปทำอะไรให้พวกเขา? พวกเขายังจะขายฉิงฉิงไปยังเขตบนดอยอีก พวกเขากล้าได้ยังไง? ทำไมถึงกล้าขนาดนี้?” เสียงของท่านย่าถังสั่นไปหมด เธอไม่กล้าเชื่อเลยว่าคุณปู่เย่และคุณย่าเย่จะทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้
“คุณย่าถัง เรื่องนี้……” เย่ซือเฉินเห็นท่าทีที่ไม่สามารถทนได้ของท่านย่าถัง ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะเปิดงานแถลงข่าวประกาศว่าตัดความสัมพันธ์กับตระกูลเย่แล้ว ทว่าไม่ว่ายังไงแล้วคุณปู่เย่ก็เป็นคุณปู่แท้ๆของเขา อีกอย่างเรื่องพวกนี้ต่างก็เกิดขึ้นเพราะเขา
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนาย นายไม่ได้เกี่ยวข้องกับตระกูลเย่แล้ว เรื่องพวกนั้นที่คุณปู่เย่และคุณย่าเย่ทำแน่นอนว่าไม่เกี่ยวกับนายแล้ว” ท่าย่าถังกลับขัดคำพูดของเย่ซือเฉินไปเลย เธอโมโหคือส่วนของโมโห ทว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของเย่ซือเฉิน เย่ซือเฉินก็เป็นผู้ถูกประทุษร้ายเช่นกัน
คุณปู่เย่และคุณย่าเย่ทำร้ายเย่ซือเฉินอย่างอนาถแล้ว ต้องบอกเลยว่าคุณปู่เย่และคุณย่าเย่สามารถทำทุกวิถีทางเพื่อให้บรรลุเป้าหมายได้จริงๆ
เย่ซือเฉินตะลึงงันไปเลย มองออกเลยว่าเขาคิดไม่ถึงเลยว่าท่านย่าถังจะพูดคำพูดแบบนี้ออกมา
“คุณยายพูดถูก เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนายเลย นายคือพ่อของจื่อซี คือผู้ชายของฉัน คือคนที่สนิทที่สุดของพวกเรา” เวินลั่วฉิงที่ยืนอยู่ข้างนอกห้องรับแขกมาโดยตลอดได้เดินเข้ามา นี่ไม่ใช่ความผิดของเย่ซือเฉิน ดังนั้นไม่เกี่ยวข้องกับเย่ซือเฉินอยู่แล้วตั้งแต่แรก
ถึงแม้ว่าเย่ซือเฉินจะไม่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลเย่แล้ว เรื่องนี้ก็ไม่สามารถโทษเย่ซือเฉินได้
“คุณพ่อ คือคุณพ่อของหนู และคือคุณพ่อของพี่ชายค่ะ” ถังจื่อซีได้ยินคำพูดของเวินลั่วฉิงแล้ว ก็รีบพูดเสริมอีกหนึ่งประโยค องค์หญิงน้อยใส่ใจเก่งไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ไม่ลืมพี่ชายของตัวเอง
“คุณพ่อคุณแม่คะ ต่อจากนี้ครอบครัวของพวกเราก็สามารถอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหมคะ” ถังจื่อซีเดินมาตรงหน้าของเวินลั่วฉิง เงยหน้าขึ้นมองไปทางเวินลั่วฉิง บนใบหน้านั้นยิ้มเบิกบานเลยทีเดียว
นี่เป็นความหวังของถังจื่อซีมาโดยตลอด เขาอยากจะอยู่กับคุณพ่อคุณแม่และพี่ชาย ทั้งครอบครัวอยู่ด้วยกัน
มองออกเลยว่าถังจื่อซีไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องของคุณปู่เย่เลย หรืออาจจะได้รับผลกระทบ แต่ว่าผลกระทบไม่ใหญ่ เวลาที่ได้รับผลกระทบก็ไม่นาน
“ถูกต้อง ต่อจากนี้ครอบครัวของพวกเราก็สามารถอยู่ด้วยกันได้แล้ว” เวินลั่วฉิงมองลูกสาวของตัวเอง บนใบหน้ามีรอยยิ้มที่เบิกบาน วันนี้มีลูกชายลูกสาวคู่นี้ ยังมีผู้ชายที่รักตัวเองในขณะเดียวกันก็เป็นผู้ชายที่ตัวเองรัก ทั้งชีวิตนี้เธอรู้สึกพอใจมากแล้ว
เรื่องอื่นๆ ต่างก็ไม่สำคัญ เธอไม่มีทางให้เรื่องพวกนั้นส่งผลกระทบต่ออารมณ์เธอ ส่งผลกระทบต่อชีวิตของพวกเธอ
“ดีมากเลยค่ะ” ถังจื่อซีร้องโห่ดีใจ “พี่ชายรู้แล้วก็ต้องดีใจมากๆแน่เลยค่ะ”
องค์หญิงน้อยถังจื่อซีนั้นนึกถึงพี่ชายอยู่ตลอดเวลาจริงๆ
“แต่ว่า พี่ชายไปแก้แค้นแทนพวกเราแล้วค่ะ” เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า ถังจื่อซีเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดจากการคุยโทรศัพท์ของเย่ซือเฉินในเมื่อกี้แล้ว รวมถึงเรื่องที่ถังจื่อโม่ไปหาคุณปู่เย่
“คุณแม่ค่ะ พี่ชายจะไม่มีอันตรายใช่ไหมคะ? พวกเราต้องไปช่วยพี่ชายไหมคะ?” ถังจื่อซีมองไปทางเวินลั่วฉิง ดวงตาคู่หนึ่งกะพริบขึ้น บนใบหน้าไม่ได้มีความกังวลมากมาย แต่มีความรอคอยเพิ่มขึ้น
“หนูไม่ได้เป็นห่วงพี่ชาย หนูแค่อยากไปสร้างความวุ่นวายใช่ไหม” เวินลั่วฉิงแค่มองถังจื่อซีแวบเดียวก็มองออกแล้ว จริงๆแล้วตอนแรกเวินลั่วฉิงยังเป็นห่วงว่าถังจื่อซีจะรู้สึกเสียใจหลังจากที่ได้ยินเรื่องพวกนั้นที่คุณปู่เย่ทำ รู้สึกแย่มาก ต่อมาเห็นจื่อซีในสภาพแบบนี้แล้ว เวินลั่วฉิงถือว่าวางใจ
ถังจื่อซีเป็นคนที่ร่าเริงแจ่มใสมาโดยตลอด ยัยเด็กนี่ไม่ใช่พวกคนเขลาเบาปัญญาที่ได้แต่เป็นทุกข์เป็นร้อนในเรื่องที่ไร้สาระ คนอื่นดีต่อเธอ เจ้าเด็กนี่ก็จะดีต่อคนอื่น ส่วนพวกคนที่ไม่ดีต่อเธอ แล้วคนพวกที่ไม่เกี่ยวข้องกับเธอ เจ้าเด็กนี่ก็จะละเว้นไปอัตโนมัติ
สำหรับการตอบสนองในวันนี้ของถังจื่อซี เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าได้ละเว้นคุณปู่เย่และคุณย่าเย่ออกไปแล้ว
“หนูอยากลองไปดูว่าพี่ชายทำอะไรกันแน่ค่ะ” ความในใจของถังจื่อซีถูกคุณแม่จับได้แล้วก็ไม่ได้ปิดบัง พูดเป้าหมายของตัวเองออกมาตรงๆเลย
“ตอนนี้พี่ชายไปแล้ว พวกเราตามไปคงจะไม่ทันแล้ว อีกอย่างพวกเราไปกะทันหันแบบนี้ อาจจะสร้างความวุ่นวายให้แผนการของพี่ชายได้ พอถึงเวลาเกรงว่าจะเป็นภาระให้พี่ชายไปอีก ดังนั้นสู้พวกเรารอข่าวจากที่ชายที่บ้านเถอะ” เวินลั่วฉิงไม่อยากให้ถังจื่อซีไป ถึงแม่ว่าเย่ซือเฉินจะตัดความสัมพันธ์กับตระกูลเย่แล้ว ทว่าเวินลั่วฉิงก็ไม่อยากให้เด็กทั้งสองไปเจอกับผู้อาวุโสทั้งสองของตระกูลเย่
เรื่องของถังจื่อโม่นั้นเป็นเพียงแค่เรื่องผิดคาด หากไม่ใช่เพราะคุณปู่เย่ทำเกินไป เมื่อกี้เธอจะออกมาห้ามเย่ซือเฉินไว้แน่ๆ
แน่นอนว่า หากไม่ใช่เพราะคุณปู่เย่ทำเกินไป ถังจื่อโม่ก็ไม่มีทางไปหาคุณปู่เย่แน่นอน
“ก็ได้ค่ะ” ถังจื่อซีได้ยินว่าอาจจะทำให้เสียแผนของพี่ชาย ได้แต่ฝืนตกลงไป
“คุณแม่ค่ะ คุณแม่ว่าพี่ชายจะแก้แค้นแทนพวกเรายังไงคะ?” ทว่าองค์หญิงน้อยถังจื่อซีสงสัยมาก เธออยากรู้มากๆ ว่าพี่ชายจะไปทำอะไรกันแน่
“อันนี้แม่ก็ไม่รู้เหมือนกัน คงทำได้แต่รอพี่ชายกลับมาถึงจะรู้แล้วแหละ” เวินลั่วฉิงไม่ทราบจริงๆว่าแผนของถังจื่อโม่คืออะไร บอกตามตรงเธอเองก็สงสัยมาก เวินลั่วฉิงยังมีความเป็นห่วงเล็กน้อย กลัวว่าถังจื่อโม่จะทำให้เรื่องใหญ่
“ถึงแม้ว่าจื่อโม่จะเด็ก ทว่าทำอะไรก็รู้ความเหมาะสมอยู่ ไม่เกิดปัญหาอะไรขึ้นแน่นอน อีกอย่างฉันให้กู้หวูตามเขาไปด้วย ไม่เป็นอะไรแน่นอน” เย่ซือเฉินมองออกถึงความเป็นห่วงของเวินลั่วฉิง รีบปลอบใจเธอ
“ฉิงฉิง เรื่องนี้เธอไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องที่คุณปู่เย่ทำ ถึงแม้ว่าถังจื่อโม่จะไม่ไปหาคุณปู่เย่ ฉันก็จะคิดบัญชีนี้กับเขา บ้านถังของพวกเราใช่คนที่รังแกได้ง่ายๆ ซะที่ไหนกัน” ท่านปู่ถังเป็นคนที่ใจกว้างโอบอ้อมอารีมาโดยตลอด ปกติแล้วมักจะเป็นคนไกล่เกลี่ยเพื่อยุติความขัดแย้ง ทว่าเรื่องนี้เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าท่านปู่ถังไม่อยากปล่อยแล้วไปแบบนี้
ทุกคนต่างก็มีขีดจำกัดของตัวเอง ขีดจำกัดของท่านปู่ถังก็คือคนในครอบครัวของตัวเอง ท่านปู่ถังไม่มีทางยอมให้ใครมาแตะต้องครอบครัวของเขาแน่นอน
เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า ครั้งนี้คุณปู่เย่ได้ทำให้ท่านปู่ถังโมโหแล้วจริงๆ
แน่นอนว่าเวินลั่วฉิงเข้าใจความหมายของท่านปู่ถัง ท่านปู่ถังนั้นเอ็นดูสงสารเธอ และเอ็นดูสงสารจื่อซี หากไม่ใช่เพราะเธอกับจื่อซี ท่านปู่ถังก็ไม่โมโหขนาดนี้แน่นอน
“วันนี้นายเปิดงานแถลงข่าวประกาศว่าตัดความสัมพันธ์กับตระกูลเย่แล้ว คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ไม่มีทางปล่อยไปง่ายๆแน่ ยังไม่รู้ว่าจะสร้างเรื่องอะไรขึ้นมาอีก นายต้องเตรียมใจเอาไว้นะ” ท่านปู่ถังหันไปทางเย่ซือเฉิน ท่านปู่ถังนั้นรู้จักคุณปู่เย่ดี ดังนั้นท่านปู่ถังรู้ว่าเรื่องนี้ต้องเกิดปัญหาขึ้นแน่นอน
“ถูก ถูก เรื่องพวกนั้นที่คุณปู่เย่และคุณย่าเย่ทำ แต่ละเรื่องเกินกว่าแต่ละเรื่องจริงๆ คิดไม่ถึงว่าวันนี้คุณปู่เย่จะแกล้งสลบมาทำร้ายเย่ซือเฉิน ไม่รู้จริงๆเลยว่าพวกเขาจะทำเรื่องแบบไหนออกมาอีก” ท่านย่าถังเห็นด้วยเป็นอย่างมากกับคำพูดของท่านปู่ถัง
“ผมรู้ครับ” เย่ซือเฉินตอบกลับด้วยเสียงต่ำ ก่อนที่จะทำเรื่องนี้ เขาก็คิดแล้วว่าจะมีผลอะไรที่ตามมา หลายปีมานี้ แน่นอนว่าเขารู้ดีเกี่ยวกับสิ่งที่คุณปู่เย่และคุณย่าเย่ทำ
ทว่าเย่ซือเฉินรู้สึกว่าตัวเองประเมินคุณปู่เย่และคุณย่าเย่ต่ำเกินไปแล้ว ก่อนหน้านี้เขาคิดไม่ถึงเลยจริงๆว่าคุณปู่เย่จะแกล้งสลบ
“จื่อโม่ไปหาคุณปู่เย่แล้วไม่ใช่เหรอ? ไม่แน่จื่อโม่อาจจะสามารถเปิดโปงการเสแสร้งของคุณปู่เย่ก็ได้” ท่านย่าถังเชื่อใจในความสามารถของถังจื่อโม่มาก เขารู้สึกว่าหากถังจื่อโม่ออกมือจะต้องมีผลลัพธ์ที่ทุกคนพอใจแน่นอน เด็กน้อยจื่อโม่บ้านเขาออกมือ ไม่มีเรื่องอะไรที่ทำไม่ได้!