ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1224 แผนการของถังจื่อโม่ ทำให้ขายหน้าอย่างมาก (1)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- บทที่ 1224 แผนการของถังจื่อโม่ ทำให้ขายหน้าอย่างมาก (1)
ถังจื่อโม่จึงเปิดประตูเข้าไป คุณย่าเย่ได้ยินเสียงเปิดประตูจึงหันไปมอง ตอนที่เห็นท่าทีของเขา ถึงกับชะงักด้วยความตะลึงงัน
ก่อนหน้านี้บอดี้การ์ดรายงานว่าคุณชายน้อยคนนั้นพาบอดี้การ์ดติดตามมาด้วย คุณย่าเย่คิดว่าเป็นบอดี้การ์ดธรรมดา คิดไม่ถึงว่าจะยิ่งใหญ่แบบนี้ บอดี้การ์ดพวกนี้แค่มองก็รู้แล้วว่าแต่ละคนฝีมือดีมาก คนธรรมดาทั่วไปไม่มีทางจ้างบอดี้การ์ดระดับนี้ได้
นี่ไม่ใช่เรื่องของเงิน บอดี้การ์ดที่ติดตามคุณชายน้อยคนนี้ คนธรรมดาต่อให้มีเงินก็ไม่สามารถจ้างได้
คนพวกนั้นแค่มองปราดเดียว ก็ให้ความรู้สึกเหมือนนักรบในที่ผ่านสงครามมายาวนาน ทำให้มีความหวาดกลัวก่อตัวขึ้นในใจ
คุณย่าเย่เองก็ผ่านเรื่องต่างๆมามากมาย แต่เหตุการณ์แบบนี้เธอเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก หัวใจจึงเต้นแรงขึ้นมาทันที
บอดี้การ์ดบอกว่าคุณชายน้อยคนนี้คือคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ องค์กรโกสต์ซิตี้มาด้วยความยิ่งใหญ่แบบนี้หมายความว่าอะไรกันแน่?!
อีกทั้งทำไมองค์กรโกสต์ซิตี้ต้องให้เด็กแบบนี้มาด้วย?
“หนูคือคุณชายน้อยขององค์กรโกสต์ซิตี้เหรอครับ?” ภายในใจของคุณย่าเย่มีความสงสัยมากมาย ท่าทีของคุณย่าเย่แปรเปลี่ยนเป็นระมัดระวัง เธอมองไปทางถังจื่อโม่ น้ำเสียงเคล้าไปด้วยการถามหยั่งเชิง
“ไม่ใช่ครับ ผมไม่ใช่คนขององค์กรโกสต์ซิตี้ ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับองค์กรโกสต์ซิตี้” ก่อนหน้านี้ถังจื่อโม่ยืมชื่อขององค์กรโกสต์ซิตี้ เพื่อที่จะได้เข้ามาสะดวกยิ่งขึ้น ตอนนี้เข้ามาแล้ว เป้าหมายบรรลุแล้ว เป็นธรรมดาที่เขาไม่จำเป็นต้องอ้างชื่อองค์กรโกสต์ซิตี้แล้ว
กู้หวูฟังคำพูดของคุณชายน้อยตนแล้วรู้สึกอยากหัวเราะ จากน้ำเสียงของคุณชายน้อยทำให้รู้สึกว่าคุณชายน้อยรังเกียจองค์กรโกสต์ซิตี้
“แล้วหนูเป็นใคร?” สีหน้าของคุณย่าเปลี่ยนไปเล็กน้อย:“ในเมื่อไม่ใช่คนขององค์กรโกสต์ซิตี้แล้วทำไมถึงต้องแอบอ้างว่าเป็นคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ด้วย?”
นักข่าวทั้งสามคนที่ตามถังจื่อโม่เข้ามาก็อยากจะรู้ตัวตนของถังจื่อโม่มาก เวลานี้ได้ยินคุณย่าเย่ถาม เงี่ยหูฟังทันที
พวกนักข่าวสำนักอื่นๆที่ก่อนหน้านี้อยู่ในโรงพยาบาลและเฝ้าอยู่ด้านนอกห้องพักผู้ป่วยของคุณปู่เย่มาโดยตลอดก็เบียดเสียดกันเข้ามา เห็นสถานการณ์ตรงหน้า ถึงแม้จะตกตะลึง แต่ก็ล้วนอยากจะได้ข่าวใหญ่
“คนอย่างผมทำเรื่องอะไรไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อนามสกุล คุณฟังให้ดี……” ถังจื่อโม่มองไปทางคุณย่าเย่ แววตานิ่งสงบอย่างมาก นี่คือคุณย่าของคุณพ่อของเขา ทางสายเลือดแล้วเธอคือคุณย่าทวดของเขา แต่พวกเขากลับอยากส่งน้องสาวออกไป ขายคุณแม่ทิ้ง ญาติแบบนี้คุณพ่อไม่ต้องการ เขาเองก็ไม่ต้องการ
ถังจื่อโม่จงใจหยุดพูดครู่หนึ่ง สายตาของนักข่าวแต่ละคนพากันจับจ้องไปที่ถังจื่อโม่ ยื่นคอมอง อยากจะฟังให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
สายตาของคุณย่าเย่มีความเคืองขุ่น ทว่ายังคงมองถังจื่อโม่ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยการวางแผน แต่ว่า ตอนนี้คุณย่าเย่ไม่เข้าใจ แค่เด็กคนหนึ่ง และไม่ได้เป็นคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ มีอะไรต้องกลัว
ต่อให้ตัวตนของเขาจะพิเศษแค่ไหน ตระกูลเย่ของพวกเธอก็ไม่กลัว ในเมือง A นี้ตระกูลเย่ของพวกเธอเคยกลัวใคร?
“ผมคือคุณชายน้อยขององค์กรยมบาล” ถังจื่อโม่พูดเสียงดัง ประกาศตัวตนของตน น้ำเสียงของเขาเคล้าไปด้วยความทระนง เป็นความรู้สึกที่ไม่ได้ตั้งใจโอ้อวดทว่าส่วนมีควาทระนงแผ่ออกจากส่วนลึกในใจ
พ่อของเขาสร้างองค์กรยมบาลขึ้นมาด้วยตนเอง เป็นความสำเร็จของคุณพ่อ คุณพ่อของเขาพัฒนาองค์กรยมบาลจนยิ่งใหญ่ขนาดนี้ จะไม่ให้เขาภาคภูมิใจได้ยังไง?
กู้หวูได้ฟังน้ำเสียงของคุณชายน้อย ครั้งนี้เขาหัวเราะแล้วจริงๆ คุณชายน้อยของเขาน่ารักเกินไปแล้ว เขาชอบท่าทีทระนงในตอนนี้ของคุณชายน้อยมากจริงๆ
ตอนที่คุณชายน้อยบอกว่าตนเป็นคุณชายน้อยขององค์กรยมบาลดูทระนงอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าคุณชายน้อยให้การยอมรับพี่ใหญ่ของพวกเขา เห็นได้ชัดว่าคุณชายน้อยภาคภูมิใจกับพี่ใหญ่ของพวกเขา
ใครบอกว่าคุณชายน้อยรังเกียจพี่ใหญ่ของเขา? ใครบอกว่าคุณชายน้อยไม่ชอบพี่ใหญ่?
คุณชายน้อยแคร์พี่ใหญ่มากชัดๆ!!
ดีจริงๆ!!
คนอื่นๆที่อยู่ในเหตุการณ์หลังจากได้ยินคำพูดของถังจื่อโม่ต่างพากันตกตะลึง ถึงแม้องค์กรยมบาลจะไม่ยิ่งใหญ่เท่าองค์กรโกสต์ซิตี้ แต่องค์กรยมบาลก็เป็นองค์กรในเมือง A ที่ทั้งลึกลับและทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัว
ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่มีใครไม่รู้เรื่ององค์กรยมบาล ทุกคนต่างรู้ถึงความสามารถขององค์กรยมบาลเป็นอย่างดี ความสามารถขององค์กรยมบาลไม่น้อยไปกว่าตระกูลเย่อย่างแน่นอน คนนอกลือกันว่าองค์กรยมบาลที่อยู่ในเมือง A ยิ่งใหญ่กว่าตระกูลถัง
สำหรับหัวหน้าองค์กรยมบาล คนที่เคยเจอหัวหน้ามีน้อยมาก เพราะเหตุนี้ ในสายตาของพวกเขาองค์กรยมบาลจึงยิ่งลึกลับ ยิ่งไม่สามารถคาดเดาได้
ถึงแม้องค์กรโกสต์ซิตี้จะยิ่งใหญ่ แต่องค์กรโกสต์ซิตี้ไม่ได้อยู่ในเมือง A แต่ทว่าองค์กรยมบาลกลับ ‘เกิดและเติบโต’ ในเมือง A
ถ้าจะเอาองค์กรยมบาลมาเปรียบเทียบกับองค์กรโกสต์ซิตี้จริงๆ องค์กรยมบาลเท่ากับจักรพรรดิของเมือง A ส่วนองค์กรโกสต์ซิตี้ถึงอย่างไรก็เป็นแค่แขกต่างเมือง พูดถึงความน่าเกรงขาม ในใจของคนเมือง A องค์กรยมบาลชนะองค์กรโกสต์ซิตี้
แน่นอนว่าเวลานี้ทุกคนเองกำลังเปรียบเทียบอำนาจขององค์กรยมบาลกับองค์กรโกสต์ซิตี้ที่อยู่ในเมือง A
ดังนั้นหลังจากถังจื่อโม่บอกว่าตนเป็นใครแล้วทุกคนก็ตกตะลึง พวกเขาไม่เคยเจอหัวหน้าองค์กรยมบาลมาก่อน ไม่รู้ว่าเป็นใคร วันนี้คุณชายน้อยขององค์กรยมบาลกลับเผยตัว
แต่ว่าคุณชายน้อยคนนี้ใส่หมวก ใส่แว่นกันแดด จึงมองเห็นหน้าไม่ชัดเท่าไหร่
ภายในใจของคุณย่าเย่ตะลึงกัน แน่นอนว่าเธอเคยได้ยินชื่อขององค์กรยมบาลมาก่อน และพอจะรู้มาบ้าง คนส่วนมากบอกว่าองค์กรยมบาลยิ่งใหญ่กว่าตระกูลเย่ สำหรับข้อนี้ไม่ได้มีการศึกษาข้อเท็จจริง เพราะถึงอย่างไรตระกูลเย่กับองค์กรยมบาลก็ไม่ได้เป็นปรปักษ์กัน และไม่ได้เปรียบเทียบกันจริงจังมาก่อน
อีกทั้งการดำเนินงานหลายอย่างขององค์กรยมบาลกับตระกูลเย่มีหลายอย่างที่ไม่เหมือนกัน
แน่นอนคุณย่าเย่ไม่รู้ว่าองค์กรยมบาลเป็นของเย่ซือเฉิน ดังนั้นเวลานี้ ภายในใจของคุณย่าเย่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัยมากยิ่งขึ้น พวกเขาไม่เคยเกี่ยวข้องกับองค์กรยมบาล ทำไมวันนี้องค์กรยมบาลจึงมาหาถึงที่?
“ที่แท้ก็เป็นคุณชายน้อยขององค์กรยมบาลนี่เอง พ่อของคุณชายน้อยเป็นใครครับ?” ถึงอย่างไรคุณย่าเย่ก็ผ่านอะไรมามากมาย ดึงสติกลับมาทันที แล้วเริ่มถามข้อมูลจากถังจื่อโม่
สำหรับเรื่องนี้ ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างอยากจะรู้ เพราะทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่มีใครเคยเจอหัวหน้าองค์กรยมบาลมาก่อน ไม่รู้ว่าหัวหน้าองค์กรยมบาลเป็นใคร ไม่แน่ว่าอาจจะได้ยินอะไรบางอย่างจากปากคุณชายน้อยคนนี้ก็ได้
“คุณไม่ต้องคิดหาวิธีสืบเรื่องตัวตนของผมหรอก การที่คุณรู้ว่าผมเป็นใครไม่ได้ส่งผลดีต่อคุณแม้แต่น้อย” ถังจื่อโม่นึกถึงเรื่องที่คุณปู่เย่ส่งน้องสาวทิ้งไป ถ้าปล่อยให้คุณปู่เย่และคุณย่าเย่รู้ว่าเขาเป็นใคร เพื่อที่พวกเขาจะได้ประจบองค์กรโกสต์ซิตี้ ก็อาจจะส่งเขาทิ้งไปเหมือนกันรึเปล่า?
ถังจื่อโม่คิดว่าถ้าก่อนหน้านี้คุณปู่เย่และคุณย่าเย่รู้ถึงการมีอยู่ของเขา อาจจะปฏิบัติกับเขาอย่างเดียวกับน้องสาวก็ได้ เพราะถึงอย่างไรสิ่งที่คุณปู่เย่และคุณย่าเย่ต้องการไม่ใช่ญาติมิตรมาก่อน พวกเขาต้องการผลประโยชน์
เหลนชาย เหลนสาว คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ต้องอยากจะได้เหลนที่เกิดจากเจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้มากกว่า
กู้หวูฟังคำพูดของถังจื่อโม่ เข้าใจความคิดของถังจื่อโม่ สีหน้าของกู้หวูอดไม่ได้ที่จะสลดลง กวาดตามองคุณย่าเย่ด้วยแววตาเย็นชา
คุณย่าเย่ชะงัก เห็นชัดว่าเธอไม่คิดว่าถังจื่อโม่จะตอบแบบนี้ คุณย่าเย่มองไปที่ถังจื่อโม่ ภายในใจรู้สึกโมโห เด็กคนนี้ไม่มีมารยาทจริงๆ
“แล้วทำไมหนูต้องมาที่นี่? ดูเหมือนว่าตระกูลเย่ของเราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับองค์กรยมบาลมาก่อน” น้ำเสียงของคุณย่าเย่ในตอนนี้เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน แปรเปลี่ยนเป็นเหี้ยมโหด แปรเปลี่ยนเป็นหมดความอดทน ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่หน้าขององค์กรยมบาล เธออยากจะไล่เด็กคนนี้ออกไปจริงๆ
เวลานี้คุณปู่เย่นอนอยู่บนเตียง เขาแกล้งไม่ได้สติ ดังนั้นบทสนทนาในห้อง เขาจึงได้ยินอย่างชัดเจน ได้ยินเด็กคนนี้บอกว่าตนเป็นคุณชายน้อยขององค์กรยมบาล คุณปู่เย่ตกตะลึง
ก่อนหน้านี้บอดี้การ์ดเข้ามารายงานให้คุณย่าเย่ฟังว่าคุณชายน้อยคนนี้มาคิดบัญชีกับเขา แต่ว่าเขาไม่เคยมีปัญหากับองค์กรยมบาลมาก่อน
เด็กคนนี้เข้าใจอะไรผิดรึเปล่า?
คุณปู่เย่อยากจะถาม แต่ว่าตอนนี้เขาแกล้งไม่ได้สติ ไม่สามารถฟื้นขึ้นมาได้ ดังนั้นจึงทำได้เพียงอดทน
“ผมได้ยินว่าคุณปู่เย่หมดสติ ดังนั้นผมก็เลยมาเยี่ยม” ถังจื่อโม่ไม่ได้มองคุณย่าเย่อีก แต่เดินไปตรงเตียงคุณปู่เย่ กระทำด้วยความชำนาญ เหมือนอยู่ในบ้านของตนเองอย่างไรอย่างนั้น
คุณย่าเย่ขมวดคิ้วเล็กน้อย ภายในใจยิ่งรู้สึกรำคาญ เธออยากจะไล่เด็กคนนี้ออกไปจริงๆ แต่ว่าอีกฝ่ายเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง ถ้าเธอแสดงท่าทีออกไปเกินงาม เกรงว่าคงจะไม่ดีเท่าไหร่ อีกทั้งเป็นแค่เด็กคนหนึ่งไม่มีอะไรให้ต้องกังวล
คุณย่าเย่อยากจะลวงคำตอบมาจากปากของถังจื่อโม่ ดังนั้นคุณย่าเย่จึงไม่ได้ห้ามถังจื่อโม่
เวลานี้คุณปู่เย่ต้องแกล้งไม่ได้สติ เป็นธรรมดาที่ไม่สามารถลืมตาได้ ดังนั้นจึงมองไม่เห็นถังจื่อโม่ แค่ว่าคุณปู่เย่สัมผัสได้ว่ามีคนเดินเข้ามาใกล้เตียงของเขา