ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1230 ถังจื่อโม่เท่มาก ทรงพลังและน่าเกรงขาม (1)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- บทที่ 1230 ถังจื่อโม่เท่มาก ทรงพลังและน่าเกรงขาม (1)
“เด็กคนนี้ทำไมไม่รู้ความเลยห๊ะ” คุณย่าเย่ร้อนใจ ถ้าไม่ใช่เพราะคิดขึ้นได้ว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของซือเฉิน คุณย่าเย่อยากจะเตะเด็กคนนี้ออกไป เด็กคนนี้ไม่มีมารยาทมาก ไม่รู้ความแบบนี้ ล้วนเป็นเพราะเวินลั่วฉิงสอนได้ไม่ดี ทั้งหมดนี้เป็นหน้าที่ของเวินลั่วฉิง ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของเวินลั่วฉิง
“เมื่อกี้ทุกคนเห็นการแต่งหน้าบนใบหน้าของคุณปู่เย่แล้ว ปากสีม่วงดำก็แต่งเอา ดังนั้นผมแค่เช็ดก็ออกแล้ว ใบหน้าซีดขาวของคุณปู่เย่ก็แค่แต่งหน้า ดังนั้นจึงทำให้คอและหน้าของคุณปู่คนละสีกันสิ้นเชิง” ครั้งนี้ถังจื่อโม่ไม่ได้สนใจคุณย่าเย่ เขาเองก็ไม่อยากเหลือเยื่อใยใดๆกับคุณย่าเย่แล้ว ดังนั้นตอนนี้เขาจึงพูดออกไปตรงๆและชัดเจน
ถังจื่อโม่พูดจบ หน้าอกของคุณปู่เย่ที่นอนอยู่บนเตียงก็กระเพื่อมขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด เห็นชัดว่าโมโหไม่น้อย
“เจ้าเด็กคนนี้มาก่อความวุ่นวาย ไม่ได้รับการอบรมสั่งสอน” คุณย่าเย่เองก็โมโหไม่น้อย อีกทั้งภายในใจของคุณย่าเย่ก็เป็นกังวล ถึงแม้เมื่อกี้ทุกคนจะพบความผิดปกติ แต่อย่างนั้นก็ไม่มีใครพูดออกมา ถ้าอย่างนั้นเรื่องนี้ก็ยังสามารถแก้ไขได้ ด้วยความสามารถของเธอสามารถพลิกเกมได้แน่นอน
เพราะถึงอย่างไรนักข่าวที่เข้ามาก่อนหน้านี้ก็เป็นนักข่าวที่อยู่ในสำนักข่าวซึ่งทำงานกับตระกูลเย่มาโดยตลอด ไม่ได้รับความยินยอมจากพวกเขา นักข่าวไม่มีวันกล้าเขียนอะไรเรื่อยเปื่อย
สำหรับนักข่าวที่ในตอนหลังตามเด็กคนนี้เข้ามานั้น ต้องเป็นนักข่าวที่อยู่ในสำนักข่าวเล็กๆแน่นอน แน่นอนว่าสามารถจัดการได้
แต่ว่าตอนนี้เด็กคนนี้กลับพูดออกมาตรงๆ พูดออกมาชัดเจน เรื่องต้องแปรเปลี่ยนเป็นยุ่งยาก
ตอนนี้คุณย่าเย่รู้ว่าต้องคิดหาวิธีหยุดถังจื่อโม่ ไม่ให้ถังจื่อโม่พูดอะไรได้อีก
“ถ้าทุกคนยังมีอะไรสงสัยก็เช็ดเครื่องสำอางบนใบหน้าของคุณปู่เย่ทิ้งให้หมดสิครับ” ดวงตาคู่นั้นของถังจื่อโม่มองไปทางคุณย่าเย่อย่างรวดเร็ว:“คุณย่าเย่ คุณย่ากล้าไหมครับ?”
ถึงแม้เสียงของถังจื่อโม่ในตอนนี้ยังคงเคล้าไปด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้ แต่ท่าทีของเขาในตอนนี้กลับทำให้คนไม่กล้าปฏิเสธ
ชั่วขณะหนึ่งคุณย่าเย่ตกตะลึง คำพูดที่กำลังจะออกจากปากคุณย่าเย่ถูกกลืนลงไป
“ผมคิดว่าคุณย่าเย่คงไม่กล้าหรอกใช่ไหมครับ? เพราะถ้าเครื่องสำอางบนใบหน้าของคุณปู่เย่ถูกเช็ดออกไปจนหมด เรื่องทุกอย่างก็จะเปิดเผยออกมา ไม่ใช่แค่เรื่องที่คุณปู่เย่หมดสติเท่านั้นที่เปิดเผยออกมา เรื่องอื่นๆอีกหลายเรื่องก็จะเปิดเผยออกมา” ดวงตาของถังจื่อโม่ยังคงจับจ้องไปที่คุณย่าเย่ ถึงแม้จะมีแว่นกันแดดกั้นกลางแต่ก็ยังคงทำให้คนรู้สึกกดดันโดยไร้ตัวตน
ถึงแม้ถังจื่อโม่จะอายุยังน้อย แต่ท่าทีของเขากลับไม่อ่อนแอ ดูทรงพลังอย่างมาก
กู้หวูมองไปที่ถังจื่อโม่ ดวงตาคู่นั้นเป็นประกายอย่างห้ามใจไม่ได้ สีหน้าของคุณชายน้อยเมื่อกี้เหมือนพี่ใหญ่มาก เก่งมากจริงๆ สมแล้วที่เป็นลูกชายของพี่ใหญ่
“แกไม่ต้องพูดเหลวไหล แกออกไปได้แล้ว ที่นี่ไม่ต้อนรับแก” ดวงตาของคุณย่าเย่หรี่เล็กลง แสดงความรำคาญอย่างเห็นได้ชัด เริ่มไล่ถังจื่อโม่อีกครั้ง
ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของเย่ซือเฉินกับเวินลั่วฉิง และยิ่งมั่นใจว่าสถานะคุณชายน้อยขององค์กรยมบาลที่เด็กคนนี้พูดก่อนหน้านี้เป็นเรื่องโกหก เพราะถึงอย่างไรเป็นไปไม่ได้ที่องค์กรยมบาลจะเป็นของซือเฉิน ดังนั้นคุณย่าเย่จึงรู้สึกว่าก่อนหน้านี้เด็กคนนี้ต้องสร้างเรื่องตบตาแน่นอน นี่คงจะเป็นฝีมือของเวินลั่วฉิง
เวินลั่วฉิงเจ้าเล่ห์จริงๆ เธอประเมินฝีมือของเวินลั่วฉิงต่ำไปแล้วจริงๆ
“ในเมื่อวันนี้ผมมาแล้ว ผมก็จะทำทุกอย่างให้ชัดเจน ผมคิดว่าทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต้องรู้ดีว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?” ดวงตาคู่นั้นของถังจื่อโม่มองไปทางนักข่าวที่อยู่ในเหตุการณ์
“ครับๆ พวกเรารู้ชัดเจนแล้วว่าเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่” นักข่าวที่มีทักษะในการพูดซึ่งถังจื่อโม่เรียกให้ตามเข้ามานั้นพยักหน้าตอบถังจื่อโม่ติดต่อกัน
“คุณย่าเย่ ผมอยากจะถาม นี่มันเรื่องอะไรกันแน่นครับ?”
“คุณย่าเย่ การหมดสติของคุณปู่เย่สรุปแล้วเป็นเรื่องจริงหรือโกหกครับ?”
“ใครเป็นคนแต่งหน้าให้คุณปู่เย่ครับ ทำไมต้องปลอมตัวแบบนั้น นี่มันหมายความว่าอะไรกันแน่ คุณย่าเย่ช่วยให้คำอธิบายที่มีเหตุผลหน่อยได้ไหมครับ?”
นักข่าวคนนี้รีบหันไปทางคุณย่าเย่แล้วถาม แต่ละคำถามนั้นตรงและเฉียบคมอย่างมาก
ก่อนหน้านี้เพราะเกิดเรื่องมากมายขึ้นในชั่วขณะหนึ่ง การปลอมตัวของคุณปู่เย่ ตัวตนของเด็กคนนี้ รวมถึงเรื่องที่เด็กคนนี้บอกว่าตนเป็นคนของตระกูลเย่ เขางงไปหมดแล้ว แน่นอนว่าเป็นเพราะทันทีที่พวกเขาเข้ามา บอดี้การ์ดของตระกูลเย่ก็ยืนอยู่ข้างๆพวกเขา ไม่ให้พวกเขาถ่ายทอดสด และไม่ให้พวกเขาถ่ายรูปเรื่อยเปื่อย ยิ่งไม่ให้พวกเขาเขียนข่าวใดๆลงบนอินเทอร์เน็ต พูดตามจริงเขาเก็บกดแทบแย่
ถึงแม้เขาจะเป็นนักข่าวในสำนักข่าวเล็กๆ แต่เขาไม่เคยเก็บกดขนาดนี้มาก่อน ดังนั้นตอนนี้ถังจื่อโม่ให้เขาพูด เขาก็เป็นคนแรกที่ออกมาสนับสนุน
นักข่าวคนนี้เชื่อทุกคำพูดของถังจื่อโม่ รวมถึงสถานะคุณชายน้อยขององค์กรยมบาลด้วย ดังนั้นนักข่าวคนนี้จึงรู้สึกว่าคุณย่าเย่ไม่มีอะไรน่ากลัว เขาสามารถอาศัยคุณชายน้อยขององค์กรยมบาลได้ ถึงแม้คุณชายน้อยคนนี้จะยังไม่ค่อยมีอำนาจ ยังเด็กไปหน่อย แต่แล้วจะส่งผลกระทบอะไรล่ะ ขอแค่ใช้งานได้ก็พอแล้ว
“คุณย่าเย่ คุณช่วยบอกหน่อยได้ไหมครับว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่?” นักข่าวคนอื่นๆเห็นนักข่าวคนนี้ถามคำถามตรงๆและเฉียบคมมากมาย ก็อดใจไม่ได้ ถึงแม้พวกเขาจะกลัวตระกูลเย่ กลัวคุณปู่เย่และคุณย่าเย่ แต่พวกเขาอยากได้ข่าวมากกว่า อยากได้ข่าวใหญ่
สถานการณ์ในตอนนี้ต้องเป็นข่าวใหญ่แน่นอน
“พวกคุณไม่ต้องฟังคำพูดเหลวไหลของเด็กคนนี้ เขาก็แค่เด็กคนหนึ่งเท่านั้น” คุณย่าเย่ฟังคำถามที่นักข่าวถามก็ทั้งโมโหและร้อนใจ เธอคิดไม่ถึงจริงๆว่าเรื่องจะกลายเป็นแบบนี้ ถ้ารู้แบบนี้แต่แรก เธอไม่มีวันยอมให้นักข่าวเข้ามาแน่
เธอไม่ควรให้เด็กคนนี้เข้ามาตั้งแต่แรกแล้ว
“ในเมื่อคุณย่าเย่ไม่พูด ถ้าอย่างนั้นผมพูดเองครับ” ถังจื่อโม่ไม่อยากฟังคำพูดหลอกลวงของคุณย่าเย่อีกแล้ว เขาเองก็ไม่อยากเสียเวลาอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว เขาอยากจะจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด จากนั้นก็รีบกลับบ้าน
กลับตระกูลถัง ที่นั่นต่างหากที่เป็นบ้านของเขา ที่นั่นต่างหากที่เป็นบ้านที่อบอุ่น ที่นั่นมีน้องสาวของเขา มีคุณแม่ของเขา มีคุณปู่ทวด คุณย่าทวด คุณปู่น้อย คุณย่าน้อย นั่นต่างหากที่เป็นญาติของเขา
แน่นอนว่าตอนนี้ยังมีคุณพ่ออีกด้วย ในที่สุดตอนนี้พวกเขาทั้งครอบครัวก็อยู่ด้วยกันได้สักที
นักข่าวทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ได้ยินคำพูดของถังจื่อโม่ แทบจะยื่นไมค์ไปตรงหน้าถังจื่อโม่ในเวลาเดียวกัน
นักข่าวที่เดิมทีกลัวบอดี้การ์ดของตระกูลเย่ห้าม ก็เบียดเสียดมาด้านหน้า ก่อนหน้านี้ถูกบอดี้การ์ดห้ามไม่ให้ถ่ายทอดสด ตอนนี้นักข่าวหลายสำนักเปิดกล้อง คิดจะถ่ายทอดสด
“ห้ามถ่ายทอดสด ห้ามถ่ายเรื่อยเปื่อย” บอดี้การ์ดได้รับคำสั่งมาจากคุณย่าเย่ ดังนั้นเห็นนักข่าวจะเปิดถ่ายทอดสด ก็รีบเดินเข้าไปห้าม
บอดี้การ์ดที่ตระกูลเย่จ้างมานั้นล้วนรูปร่างสูงใหญ่ มองดูแล้วน่าเกรงขามอย่างมาก
กู้หวูหัวเราะในลำคอ หลังจากนั้นก็ส่งสายตาให้กับคนที่เขาพามา
คนพวกนั้นได้รับสัญญาณจากกู้หวู ขยับตัวเล็กน้อย ก็ขวางอยู่ตรงหน้าบอดี้การ์ดแล้ว หยุดการกระทำของบอดี้การ์ดทั้งหมด
“พวกแกจะทำอะไร? พวกแกคิดจะทำอะไร? ที่นี่คือโรงพยาบาล คือห้องพักผู้ป่วย คือห้องพักของคุณปู่เย่? พวกแกคนขององค์กรยมบาลอยากจะเอาเปรียบและรังแกกันเหรอ?” บอดี้การ์ดคนหนึ่งถูกขวางเอาไว้ก็ร้อนใจ ร้องตะโกนเสียงดัง
คนขององค์กรยมบาลไม่สนใจเขา ขวางหน้าพวกเขาไม่ขยับแม้แต่น้อย แต่กลับทำให้บอดี้การ์ดพวกนั้นไม่สามารถเข้าไปได้
พวกนักข่าวเห็นสถานการณ์แบบนี้ ภายในใจก็ยิ่งมีความมั่นใจมากขึ้น ยิ่งไม่กลัวมากขึ้น นักข่าวหลายสำนักเริ่มมีการเปิดถ่ายทอดสด
“พวกคุณคิดจะทำอะไร……” คุณย่าเย่แทบจะเสียสติแล้ว แต่ว่าตอนนี้นักข่าวเปิดถ่ายทอดสดแล้ว ทุกคนจะเห็นทุกการกระทำของเธอ ดังนั้นเธอจึงต้องควบคุมตนเอง
ก่อนหน้านี้ที่เธอไม่ได้ควบคุมตนเองเท่าไหร่ เพราะเธอรู้ว่านักข่าวพวกนี้ไม่ได้ถ่ายทอดสด และเธอก็ไม่ใจว่าพวกนักข่าวไม่กล้าพูดในสิ่งที่เธอไม่อนุญาต
แต่ว่าตอนนี้เปิดถ่ายทอดสดแล้ว เรื่องหลายเรื่องไม่สามารถควบคุมได้แล้ว ดังนั้นคุณย่าเย่จึงจำเป็นต้องควบคุมตนเองอย่างมาก
ถังจื่อโม่ไม่ได้สนใจคุณย่าเย่ ตอนนี้เขาก็ไม่อยากพูดกับคุณย่าเย่ให้มากมายแล้ว ถังจื่อโม่หันไปทางนักข่าว ดวงตาคู่นั้นมองไปที่นักข่าว มุมปากกระตุกเล็กน้อย พูดออกมาแต่ละถ้อยคำอย่างชัดเจน:“ทุกคนรู้ดี ก่อนหน้านี้เย่ซือเฉินแถลงข่าวประกาศตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลเย่”
“ครับ พวกเรารู้ ตอนนั้นพวกเราอยู่ในงานแถลงข่าวด้วย” นักข่าวแต่ละคนได้ยินคำพูดของถังจื่อโม่ก็พยักหน้าติดต่อกัน