ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1231 ถังจื่อโม่เท่มาก ทรงพลังและน่าเกรงขาม (2)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- บทที่ 1231 ถังจื่อโม่เท่มาก ทรงพลังและน่าเกรงขาม (2)
“เมื่อกี้เย่ซือเฉินจัดงานแถลงข่าวชี้แจงว่าตัดขาดกับตระกูลเย่ คุณปู่เย่ก็เป็นลมเรียกรถพยาบาลมา”ถังจื่อโม่พูดต่อด้วยใบหน้าที่จริงจัง น้ำเสียงที่เข้มขรึม
“ตระกูลเย่ คุณปู่เย่เป็นผู้มีสถานะสูงส่ง ต้องมีแพทย์ส่วนตัว และอายุอย่างคุณปู่เย่แพทย์ส่วนตัวต้องพักอยู่ในบ้าน ถึงแม้จะไม่พักก็สามารถเรียกได้ตลอดเวลา ต้องมาเร็วกว่ารถโรงพยาบาลแน่นอน ทำไมคุณย่าเย่ไม่เรียกตัวเลือกที่เร็วกว่า แต่เลือกอันที่ช้ากว่าล่ะ?คุณภาพการรักษาของแพทย์ส่วนตัวไม่ได้ด้อยไปกว่าแพทย์ในโรงพยาบาลเลย คุณย่าเย่ทำอย่างนี้มีเจตนาอะไรกันแน่?”ถังจื่อโม่จับประเด็นวิเคราะห์แต่ละข้อมาเปิดโปงได้อย่างชัดเจน เข้าใจได้ง่าย
“ตอนนั้นอยู่ในเหตุการณ์อันตราย การตอบสนองแรกคือเรียกรถโรงพยาบาล”คุณย่าเย่หรี่ตาขึ้น แววตาสะท้อนแสงมืดครึ้มหลายส่วน ถึงแม้จะรู้ว่าเด็กคนนี้เป็นลูกชายของซือเฉิน แต่ท่านก็ปล่อยให้เด็กทำตัวเหลวไหลไม่ได้
“ไม่ใช่ เวลาคนตกอยู่ในอันตรายการตอบสนองแรกจะเกิดจากกิจวัตรประจำวันที่คุ้นเคย ไม่มีทางทำอะไรที่ไม่เคยทำมาก่อน ผมคาดว่าด้วยฐานะของตระกูลเย่ ด้วยสถานะของคุณปู่เย่คงไม่เคยเรียกรถโรงพยาบาลมาก่อนใช่ไหม?ครั้งนี้ต้องเป็นครั้งแรกอย่างแน่นอน?”ถังจื่อโม่ได้ยินคำพูดของคุณย่าเย่ มุมปากพลันยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม คุณย่าเย่หลอกคนทั่วไปได้ แต่คิดจะหลอกเขาหรือ?ไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก
แม่ของเขาเป็นถึงนักจิตวิทยาด้านอาชญากรรม ทั้งยังเป็นคนที่เก่งที่สุด เขาต้องเรียนรู้มาไม่น้อยอยู่แล้ว
เห็นได้ชัดว่าคุณย่าเย่อึ้งกับคำพูดของถังจื่อโม่ เด็กคนนี้มีไหวพริบเร็วมาก ฉลาดหลักแหลมมาก ขนาดผู้ใหญ่ธรรมดายังไม่คิดถึงขั้นนี้เลย ผู้ใหญ่ทั่วไปคงคิดไม่ถ่องแท้เท่าเด็กคนนี้หรอกมั้ง
เด็กคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ
“ตระกูลเย่ของพวกเราก็……”แน่นอน การตอบสนองแรกของคุณย่าเย่คือโต้แย้ง ท่านปล่อยให้เด็กซัดกระหน่ำจนพูดไม่ออกไม่ได้
“ผมขอเตือนว่าคิดให้ดีก่อนพูดนะ บ้านตระกูลเย่มีแพทย์หรือไม่ แค่สืบดูก็รู้ และเรื่องตระกูลเย่เคยเรียกรถโรงพยาบาลหรือไม่ก็สืบได้ไม่ยากเช่นกัน”ถังจื่อโม่เห็นคุณย่าเย่คิดจะถกเถียง จึงอดหัวเราะไม่ได้
ประโยคนี้ของถังจื่อโม่ทำให้คุณย่าเย่จุกจนพูดไม่ออก เพราะถังจื่อโม่พูดถูกเผง ที่บ้านตระกูลเย่มีแพทย์ส่วนตัวจริงๆ และพวกท่านก็ไม่เคยเรียกรถโรงพยาบาลมาก่อนจริงๆ เพราะด้วยอำนาจบารมีของตระกูลเย่ไม่จำเป็นต้องเรียกรถโรงพยาบาลจริงๆ
เป็นอย่างที่ถังจื่อโม่กล่าวจริงๆ เทคนิคการรักษาของแพทย์ส่วนตัวตระกูลเย่ไม่ได้เป็นรองกับแพทย์ฉุกเฉินของโรงพยาบาลเลย และในบ้านตระกูลเย่ยังมีอุปกรณ์ฉุกเฉินที่คุณภาพไม่ได้ด้อยไปกว่าของโรงพยาบาลเลย
“และอีกอย่างด้วยสถานะของคุณปู่เย่ หากรุนแรงถึงขั้นเป็นลมต้องส่งเข้าโรงพยาบาลเอกชนหรู และเป็นโรงพยาบาลที่คุณปู่เย่เข้ารักษาประจำ เพราะแพทย์ในโรงพยาบาลที่คุณปู่เย่ไปรักษาประจำจะรู้อาการดีกว่า สามารถให้การรักษาได้ทันท่วงที”ถังจื่อโม่จับประเด็นได้อีกครั้ง ซึ่งถ้อยคำนี้มีน้ำหนักมาก
สีหน้าคุณย่าเย่พลันเปลี่ยนไปมา รู้สึกอัดอั้นตันใจไปชั่วขณะ อยากพูดอะไรบ้าง แต่กลับพูดไม่ออกสักคำ เพราะท่านไม่ยอมรับไม่ได้ว่าคำพูดเด็กคนนี้เป็นจริงทุกประการ
“เท่าที่ผมรู้มา ปกติคุณปู่เย่จะเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนของตระกูลโจ๋ว ซึ่งโจ๋วอันหนานจะทำการรักษาให้ทุกครั้ง คาดว่าฝีมือการรักษาของโจ๋วอันหนานนั้นเป็นที่รู้จักกันดีของทุกคนว่า ไม่มีที่แพทย์ในเมืองเก่งกว่าโจ๋วอันหนานอีกแล้ว”ถังจื่อโม่พูดประโยคที่ระทึกขวัญอีกครั้ง เขาสืบกระทั่งโรงพยาบาลที่คุณปู่เย่รักษาประจำ เห็นได้ว่าก่อนเขามาได้เตรียมการทุกอย่างได้ครอบคลุมมากๆ
คุณย่าเย่ขยิบมุมปากหลายครั้ง แต่ยังคงพูดไม่ออกสักคำ เพราะถ้อยคำของถังจื่อโม่ทำให้ท่านไร้คำโต้ตอบ
ปกติท่านเป็นคนพูดได้น้ำไหลไฟดับ ปกติท่านวางเล่ห์กลและมีไอเดียเยอะมาก ทว่าเวลานี้เมื่อท่านมาเผชิญหน้ากับเด็กคนนี้ ท่านถึงกับรับมือไม่ไหว
ทุกประเด็นที่เด็กคนนี้เอ่ยมา ตรรกะชัดเจนมาก ท่านหาจุดอ่อนไม่เจอเลยสักนิด แน่นอนสิ่งสำคัญคือคุณย่าเย่คาดไม่ถึงว่าถังจื่อโม่จะเก่งเพียงนี้ ทำให้ตะลึงลาน สมองตามไม่ทันชั่วขณะ
“ไม่ใช่แพทย์ส่วนตัว ไม่ไปโรงพยาบาลที่รู้อาการของคุณปู่เย่ดี ไม่ใช่แพทย์ที่รู้อาการของคุณปู่เย่ดี แต่คุณย่าเย่กลับเรียกรถโรงพยาบาล ขอถามหน่อยว่าเป็นเพราะเหตุใด?”ถังจื่อโม่ไม่ให้คุณย่าเย่มีเวลาไตร่ตรอง รีบซักไซ้อีกหนึ่งประโยคทันที
“ผมคิดว่ามีเพียงเหตุผลเดียว”ถึงแม้ถังจื่อโม่กำลังถามคุณย่าเย่อยู่ แต่ก็ไม่คาดหวังว่าคุณย่าเย่จะตอบ เขารู้ว่าอย่างคุณย่าเย่แล้ว แม้นเห็นโลงศพก็ไม่หลั่งน้ำตาแน่นอน
หากให้คุณย่าเย่ตอบจริงๆ คุณย่าเย่ต้องสรรหาข้ออ้างต่างๆนาๆแน่ๆ
“ผมคิดว่าทุกคนคงเดาสาเหตุนี้ออก”ถังจื่อโม่ไม่รอให้คุณย่าเย่ตอบ พลางหันหน้าไปยังนักข่าวโดยตรง “เห็นได้ชัดว่าคุณย่าเย่อยากให้เรื่องเอิกเกริก ให้ทุกคนรู้กันหมด”
“ลำดับแรกคือเรียกรถโรงพยาบาล จากนั้นก็สะเทือนไปถึงนักข่าว ไม่นานนักข่าวก็มาที่บ้านตระกูลเย่ ซึ่งตระกูลเย่ให้นักข่าวเข้าไปอย่างไม่ขัดขวาง พอถึงโรงพยาบาล นักข่าวรุมล้อมคุณปู่เย่ คุณย่าเย่ก็ยังยอมรับการสัมภาษณ์ของนักข่าว เห็นได้ชัดว่าคุณย่าเย่กลัวคนอื่นจะไม่รู้เรื่องนี้ ทั้งๆที่คุณปู่เย่เป็นลมแล้ว คุณย่าเย่ยังมีอารมณ์ให้สัมภาษณ์อีก แถมยังตอบหลากหลายคำถามอย่างละเอียดอีกต่างหาก จุดนี้มันยอดเยี่ยมจริงๆ”ตอนที่ถังจื่อโม่กล่าวพลันเบนสายตามองไปยังคุณย่าเย่แวบหนึ่ง น้ำเสียงของถังจื่อโม่เจือความเย้นหยันอย่างฉายชัด
“ปกติแล้ว สถานะอย่างคุณปู่เย่ หากไม่สบายจริงๆคงต้องพยายามปกปิดเป็นความลับ เพราะสถานะของคุณปู่เย่ส่งผลกระทบต่อหุ้นส่วนในบริษัทตระกูลเย่กรุ้ป ตอนนี้หุ้นส่วนใหญ่ในบริษัทเป็นของคุณปู่เย่ ก่อนหน้านี้เย่ซือเฉินพูดแล้วว่าจะไม่สนใจเรื่องในบริษัทอีก หากข่าวล้มป่วยของคุณปู่เย่แพร่ออกไป พรุ่งนี้หุ้นบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปต้องตกแน่ๆ ดังนั้นถึงแม้คุณปู่เย่จะป่วยจริงๆ คุณย่าเย่ก็ควรปิดเป็นความลับถึงจะถูก แต่คุณย่าเย่กลับทำให้ผู้คนรู้ทั่วไป มันเป็นเพราะอะไรกันแน่?”ถังจื่อโม่มองไปยังคุณย่าเย่อีกครั้ง ประโยคพวกนี้ทำให้คุณย่าเย่ยิ่งตะลึงมากขึ้น
ท่านคาดไม่ถึงว่าเด็กตัวเล็กๆคนหนึ่งจะรู้อะไรมากมายเพียงนี้ นี่แค่เด็กอายุห้าขวบเท่านั้น ทำไมรู้เยอะจัง?
ต้องมีคนสอนเขาแน่ ต้องเป็นเวินลั่วฉิงสอนแน่ๆ
ท่านไม่มีทางปล่อยเวินลั่วฉิงไปเด็ดขาด!!
แน่นอน ณ ตอนนี้คุณย่าเย่ไม่กล้าเปิดโปงว่าเด็กคนนี้เกี่ยวพันกับเวินลั่วฉิง เพราะท่านให้คนอื่นรู้ว่าเป็นลูกของเย่ซือเฉินไม่ได้ ให้เด็กคนนี้ส่งผลต่อเรื่องแต่งงานของเย่ซือเฉินกับองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ไม่ได้
คุณย่าเย่เห็นถังจื่อโม่พูดมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งพูดก็ยิ่งละเอียด ทั้งยังเป็นความจริงอีกต่างหาก คุณย่าเย่ทั้งโกรธทั้งอึ้งในเวลาเดียวกัน“อย่าพูดมั่วอีก เด็กอย่างนายจะรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง บอกมาว่าใครสอนให้พูดอย่างนี้?”
ถึงแม้ให้คนอื่นรู้ว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของซือเฉินไม่ได้ ทว่าคุณย่าเย่รู้สึกว่ายังสามารถใช้จุดนี้เบี่ยงเบนความสนใจของทุกคนได้
ถังจื่อโม่รู้ว่าคุณย่าเย่อยากเบี่ยงเบนความสนใจของทุกคน ถังจื่อโม่ไม่ให้คุณย่าเย่สมปรารถนาแน่นอน
“เรื่องพวกนี้แค่ตั้งใจคิดก็รู้แล้ว ผมเชื่อว่าทุกท่านที่อยู่ที่นี่ก็นึกออกเหมือนกัน”ถังจื่อโม่ไม่ได้ตอบคำถามโดยตรง แต่เป็นการมองไปยังนักข่าวแทน
“ใช่ครับ ขอแค่ตั้งใจคิดดีๆก็จะนึกออกครับ”นักข่าวที่ถังจื่อโม่ดึงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยรีบผงกศีรษะเห็นด้วย
แน่นอน เขาไม่ได้คล้อยตามถังจื่อโม่เฉยๆ ตอนนี้เขายังรู้สึกเลื่อมใสเด็กคนนี้มาก
“เด็กคนนี้พูดมีเหตุผลมากค่ะ หลายๆเรื่องไม่สมเหตุสมผลกับที่คุณปู่เย่เป็นลมจริงๆค่ะ มันแปลกมากๆค่ะ”นักข่าวคนอื่นก็เอนเอียงไปทางถังจื่อโม่ด้วย