ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1232 ออร่าถังจื่อโม่จัดเต็มเม็ดเต็มหน่วย (1)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- บทที่ 1232 ออร่าถังจื่อโม่จัดเต็มเม็ดเต็มหน่วย (1)
“เด็กคนนี้พูดมีเหตุผลมากค่ะ หลายๆเรื่องไม่สมเหตุสมผลกับที่คุณปู่เย่เป็นลมจริงๆค่ะ มันแปลกมากๆค่ะ”นักข่าวคนอื่นก็เอนเอียงไปทางถังจื่อโม่ด้วย
เริ่มพูดเข้าข้างถังจื่อโม่ขึ้นมา สาเหตุแรกคือพวกท่านถูกออร่าและความสามารถของถังจื่อโม่ครองใจ สาเหตุที่สองคือเป็นความจริงทุกคนล้วนเป็นคนฉลาด ถึงขั้นนี้แล้วยังมีอะไรไม่เข้าใจอีก
ถึงแม้พวกเขาจะครั่นคร้ามตระกูลเย่ ยำเกรงบารมีของคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ ทว่าพวกเขาจะรายงานข่าวปลอมไม่ได้
ยิ่งไปกว่านั้นเด็กคนนี้เป็นคุณชายน้อยแห่งองค์กรยมบาล พวกเขาจะกล้าเป็นปรปักษ์กับคุณชายน้อยแห่งองค์กรยมบาลอย่างโจ่งแจ้งได้อย่างไร ดังนั้นพวกเขาเลือกจะทำข่าวจริง
“รบกวนคุณย่าเย่อธิบายเรื่องนี้หน่อยครับ”แน่นอน มีนักข่าวที่รอบคอบกว่าบอกให้คุณย่าเย่อธิบาย และเป็นเพราะอยากฟังว่าคุณย่าเย่จะพูดเช่นไร หากคุณย่าเย่สามารถพลิกแพลงเรื่องนี้ได้ พวกเขาก็สามารถรายงานข่าวตามที่คุณย่าเย่บอก
เพราะถึงอย่างไรพวกเขาก็แค่รายงานตามคำสัมภาษณ์ของคุณย่าเย่ ไม่ถือว่าทำข้อมูลเท็จ
“คุณย่าเย่ควรอธิบายวัตถุประสงค์ที่ทำอย่างนี้ คุณย่าเย่ปล่อยข่าวคุณปู่เย่เป็นลมให้ฮือฮามันเพราะอะไรกันแน่?”ถังจื่อโม่หันไปมองคุณย่าเย่อีกครั้ง ครั้งนี้เขาไม่ได้วิเคราะห์จัดแจง ครั้งนี้เขาให้คุณย่าเย่มีโอกาสอธิบาย เขาจะดูสิว่าคุณย่าเย่จะพูดเช่นไร
หากคุณย่าเย่รับรู้ความผิดของตน ยอมรับว่าเป็นคนทำเอง แล้วคืนความบริสุทธิ์ให้เย่ซือเฉิน เขาจะไม่ถือสาเอาความเรื่องนี้อีก
คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ไม่คำนึกถึงความรู้สึกของคนในครอบครัวเลย ทว่าไม่ใช่ทุกคนก็จะเลือดเย็น อำมหิตเฉกเช่นคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่
เวลานี้บรรดาสมาชิกครอบครัวตระกูลถังก็กำลังดูถ่ายทอดสดอยู่
“จื่อโม่สุดที่รักเก่งมากเลย พูดได้ดีมาก พวกคุณดูสิ คุณย่าเย่จุกจนพูดไม่ออกเลย ร้อนรนจนหน้าเขียวแล้ว ฉันจะดูว่าครั้งนี้คุณย่าเย่จะเถียงข้างๆคูๆยังไง”สายตาท่านย่าถังจับจ้องอยู่ที่ถ่ายทอดสด ใบหน้าเจือความตื่นเต้นดีใจอย่างเด่นชัด จื่อโม่ของท่านทำได้ดีเยี่ยมมาก ถึงแม้ก่อนหน้านี้ท่านเชื่อว่าจื่อโม่จะสะสางเรื่องนี้ได้แน่นอน ทว่าท่านก็คาดไม่ถึงว่าจื่อโม่จะเก่งถึงเพียงนี้
วิเคราะห์แต่ละอย่างได้ชัดเจนมาก ตรรกะก็ดีเลิศ เรียกได้ว่าสมบูรณ์จนหาที่ติไม่ได้ ออร่าถังจื่อโม่จัดเต็มมาก ท่านย่าถังดูจนดวงตาใกล้จะเกิดประกายดาวอยู่รอมร่อ
“จื่อโม่เป็นเด็กมีหัวใจคนหนึ่ง”ท่านปู่ถังถอนหายใจเบาๆ เห็นได้ชัดว่าท่านปู่ถังคิดการณ์ไกลกว่าท่านย่าถัง ท่านปู่ถังอ่านเจตนาของถังจื่อโม่ออก
เห็นได้ชัดว่าถังจื่อโม่อยากให้โอกาสแก่คุณย่าเย่สักครั้ง
ไม่ว่าถังจื่อโม่ทำอย่างนี้เพื่อเย่ซือเฉินหรือด้วยเหตุผลอื่นก็ล้วนแสดงว่าเด็กคนนี้มีหัวใจยิ่ง
“จื่อโม่ของพวกเรามีหัวใจอยู่แล้ว จื่อโม่ของฉันเป็นคนรู้ความที่สุด รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา สงสารคนเป็น”ท่านย่าถังไม่ได้คิดอะไรมาก ท่านก็แค่ชมจื่อโม่สุดที่รักจากใจจริงเท่านั้น
ท่านปู่ถังไม่ได้พูดอะไรต่อ หันไปมองเย่ซือเฉิน ถังจื่อโม่ทำอย่างนี้เพื่อเย่ซือเฉินแน่นอน เย่ซือเฉินน่าจะรู้เจตนาของถังจื่อโม่มั้ง?
“ผมเข้าใจครับ”เย่ซือเฉินจะไม่รู้ได้อย่างไร เขาได้ยินถังจื่อโม่ให้คุณย่าเย่อธิบายก็รู้เจตนาที่ดีของถังจื่อโม่แล้ว
วินาทีนี้ คุณชายสามเย่รู้สึกสับสนมาก ลูกชายของเขาที่ปฏิเสธในการยอมรับว่าเป็นลูกชายของเขา ถึงกลับคิดเพื่อเขาขนาดนี้
หลังจากที่เขาไร้อ้อมแขนของแม่ตอนอายุเก้าขวบ เขาก็เรียนรู้ที่จะพึ่งตัวเอง เรียนรู้ที่จะแบกรับทุกอย่างไว้เองคนเดียว เขารู้ตั้งนานแล้วว่าคนในตระกูลเย่ไม่ได้ห่วงใยเขาเลย ดังนั้นเขาไม่ได้คาดหวังกับคนพวกนั้นมากนัก
ตอนนี้ลูกชายของเขาทำเพื่อเขาเช่นนี้ เขารู้สึกเพียงดวงตาแสบร้อนด้วยความตื้นตันใจ ซึ่งเป็นความรู้สึกที่ไม่เคยมีมาก่อน
“ อืม เข้าใจก็ดี ถึงแม้จื่อโม่จะเป็นเด็กรู้ความ แต่ก็ความรู้สึกไว พอเขากลับมานายก็คุยกับเขาดีแล้วกัน สองพ่อลูกควรคุยกันดีๆสักที”ท่านปู่ถังแคร์จื่อโม่มาก อยากให้สองพ่อลูกคู่นี้เคลียร์กันเร็วๆ
ตอนนี้เย่ซือเฉินตัดขาดกับตระกูลเย่แล้ว ถึงภายนอกเย่ซือเฉินจะแสดงความเข้มแข็งเพียงใด ทว่าส่วนลึกของหัวใจต้องบอบช้ำแน่ เวลานี้จื่อโม่ต้องใจอ่อนแน่ นี่คือโอกาสทองในการปรับสัมพันธ์ของสองพ่อลูกให้ดีขึ้น
“ครับ”เย่ซือเฉินตอบรับเสียงท้มต่ำ ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าถังจื่อโม่ปฏิเสธที่จะยอมรับเขา บวกกับเขาเองก็ไม่มีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน เขายังกังวลว่าจื่อโม่จะโทษเขา โทษที่เขาไม่ได้อยู่ข้างกายในหลายปีที่ผ่านมา
ดังนั้นเย่ซือเฉินจึงไม่รู้ว่าควรคุยกับถังจื่อโม่เช่นไรดี
ตอนนี้เห็นถังจื่อโม่ทำเพื่อเขา เขาต้องคิดหาวิธีอยู่ร่วมกับลูกชายดีๆ นั่นคือลูกชายของเขา ลูกชายแท้ๆของเขา ซึ่งเป็นผู้ที่เขาภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง
เวินลั่วฉิงอบรมบ่มเพาะลูกทั้งสองได้ดีมาก พวกเขาเป็นเด็กที่รู้ความมาก เห็นอกเห็นใจผู้อื่นและห่วงใยผู้อื่น
“พวกคุณพูดอะไรกัน?”ถึงแม้ท่านย่าถังจะดูถ่ายทอดสดอยู่ ทว่ายังคงได้ยินบทสนทนาระหว่างท่านปู่ถังกับเย่ซือเฉิน ท่านย่าถังมองท่านปู่ถังอย่างมึนงง
“บอกว่าจื่อเฉินเป็นเด็กดี”ท่านปู่ถังไม่ได้อธิบายอะไรมากมาย เพราะท่านปู่ถังรู้ว่า ถึงแม้ถังจื่อโม่จะให้โอกาสแก่คุณย่าเย่ ทว่าคุณย่าเย่ก็ไม่แน่ว่าจะรักษาโอกาสนี้ไว้
“จื่อโม่ก็เป็นเด็กดีมาแต่ไหนแต่ไรแล้วนิ คุณยังจำเป็นต้องพูดถึงอีกเหรอ?”ถึงแม้บางครั้งท่านย่าถังจะไม่คิดลึกซึ้งเฉกเช่นท่านปู่ถัง แต่ก็ไม่ใช่จะตบตาได้ง่ายๆ ท่านย่าถังรู้ว่าท่านปู่ถังไม่ได้พูดความจริง ทว่าท่านก็ไม่คิดจะซักไซ้หาความจริง
ในเมื่อตาเฒ่าไม่คิดจะบอกท่าน งั้นก็ต้องมีเหตุผลของเขา ในเมื่อตาเฒ่าของตนไม่บอกท่าน ท่านก็ไม่อยากรับรู้แล้ว
เย่ซือเฉินกะพริบตาปริบๆ ถังจื่อโม่เป็นเด็กดีจริงๆ ทว่าเย่ซือเฉินรู้ว่าคุณย่าเย่ต้องทำให้ถังจื่อโม่ผิดหวังแน่นอน
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เย่ซือเฉินรู้ตับไตไส้พุงของคุณย่าเย่หมดเปลือกแล้ว
“ฉันไม่รู้ว่าใครสอนเด็กคนนี้ แต่ที่รู้ๆคือคนผู้นั้นให้เด็กมาก่อกวนอย่างนี้ต้องเป็นคนเจ้าเล่ห์ มีความคิดโหดเหี้ยมแน่นอน ……”คุณย่าเย่ที่อยู่ในห้องคนไข้ไม่ได้อธิบายเรื่องที่คุณปู่เย่เป็นลมเป็นแล้งแต่อย่างใด เพราะคุณย่าเย่รู้ว่าคนที่อยู่ในนี้รู้ว่าคุณปู่เย่แกล้งเป็นลม
นับจากตอนที่ถังจื่อโม่เช็ดรอยช้ำบนปากคุณปู่เย่ออก เรื่องนี้ก็เผยพิรุธแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นถังจื่อโม่ได้ลั่นวาจาเช่นนั้นออกมา เกรงว่าถึงจะโง่เง่าเต่าตุ่นเพียงใดก็คงเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
อีกอย่างเมื่อครู่มีนักข่าวทำการถ่ายทอดสดด้วย จึงไม่ใช่รู้กันเพียงแค่นักข่าวพวกนี้ คนอื่นมากมายต่างก็รู้กันหมดสิ้นแล้ว
คุณย่าเย่รู้ว่าสถานการณ์เช่นนี้ ถึงแม้ท่านจะอำพรางเก่งเพียงใดก็ปิดไม่มิด หากเวลานี้ท่านยังคิดจะแก้ต่างเรื่องคุณย่าเย่เป็นลมอีก มันจะทำให้คนอื่นคิดว่าท่านกำลังพูดปดอยู่
ท่านไม่มีทางทำผิดเช่นนั้นเป็นอันขาด ดังนั้นเวลานี้คุณย่าเย่จะไม่เอ่ยถึงเรื่องคุณปู่เย่เป็นลมเด็ดขาด จึงไล่ถามถังจื่อโม่ต่อ
“คุณย่าเย่คนนี้เกินไปจริงๆ เวลานี้แล้วยังคิดจะแว้งกัดอีก ถึงกับใส่ร้ายฉิงฉิงของพวกเราเชียวหรือ”เดิมทีท่านย่าถังดูด้วยความตื่นเต้นดีใจ เมื่อได้ยินคำพูดของคุณย่าเย่ก็เดือดดาล “เธอยังมีหน้าบอกว่าคนอื่นเจ้าเล่ห์อีก ยังมีหน้าบอกว่าคนอื่นโหดร้าย เธอนั่นแหละที่อำมหิตที่สุด เกินไปจริงๆ เกินไปจริงๆ”
ท่านปู่ถังส่ายหัว แก้สันดานคุณย่าเย่ไม่ได้จริงๆ
เวินลั่วฉิงไม่มีการตอบสนองใดๆทั้งสิ้น เพราะเมื่อก่อนขนาดคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ใส่ร้ายป้ายสีเธอ เธอยังทนเพื่อเย่ซือเฉินมาแล้วเลย ตอนนี้คุณย่าเย่ไม่ได้เอ่ยถึงชื่อ แล้วเธอจะสะเทือนเธอได้อย่างไร
ตอนนี้เย่ซือเฉินตัดขาดกับตระกูลเย่แล้ว ไม่เกี่ยวข้องกับคุณปู่เย่ คุณย่าเย่อีก เธอไม่มีอารมณ์ใส่ใจกับคนพรรค์นั้น
เย่ซือเฉินได้ยินคำพูดของคุณย่าเย่ มุมปากพลันยกโค้ง เหยียดยิ้มเย้ยหยัน เขารู้ว่าต้องเป็นอย่างนี้อยู่แล้ว เพราะเป็นอย่างนี้เสมอมา เขาไม่ได้ตั้งความหวังอะไรตั้งนานแล้ว เขาตายใจแล้ว
เพียงแต่ครั้งนี้ผู้ที่ต้องเผชิญหน้ากับสิ่งเหล่านี้คือถังจื่อโม่ ครั้งนี้ทำให้จื่อโม่ผิดหวังซะแล้ว เขาเห็นแล้วรู้สึกสงสาร ปวดใจไม่น้อย!