ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1236 ถังจื่อโม่คือตัวเด่นในงาน ยอดเยี่ยมไปเลย (1)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- บทที่ 1236 ถังจื่อโม่คือตัวเด่นในงาน ยอดเยี่ยมไปเลย (1)
คุณย่าเย่ช่างพูดปดโดยไม่หลับตาจริงๆ ชุดนี้จริงจนไม่รู้จะจริงยังไงแล้ว คุณย่าเย่ยังมาบอกว่าเป็นของปลอมอีก!!
ในเมื่อคุณย่าเย่บอกว่าเป็นของปลอม งั้นก็ต้องพิสูจน์สักหน่อยแล้ว คุณย่าเย่จะได้ไม่มีข้อโต้เถียงอะไรอีก!!
“นายจะพิสูจน์ยังไง?”ท่านย่าถังได้ยินถังจื่อโม่บอกว่าจะพิสูจน์พลันถามด้วยจิตใต้สำนึก หลังจากถามเสร็จคุณย่าเย่ก็เริ่มรู้สึกเสียใจกับการกระทำนี้ เมื่อครู่ท่านไม่ควรถามคล้อยตามเด็กคนนี้เลย มันทำให้ใจฝ่อไม่น้อย
นักข่าวที่อยู่ในเหตุการณ์ได้ยินถังจื่อโม่บอกว่าจะพิสูจน์ก็ยิ่งเกิดชีวิตชีวามากขึ้น ถึงแม้จะเป็นเด็ก ทว่าวันนี้ทำให้พวกเขารู้สึกประหลาดใจไม่น้อยเลย ไม่รู้ว่าต่อจากนี้ เด็กคนนี้จะเซอร์ไพรส์อะไรพวกเขาอีก?!
พูดตามตรง ผลตรวจชุดที่ถังจื่อโม่ให้ทุกคนดู พวกเขารู้สึกสงสัยว่าจะไม่ใช่ของคุณปู่เย่เล็กน้อย เพราะดัชนีที่บ่งชี้ในผลตรวจนั้นดีเกินไป ไม่เหมือนอาการของคนอายุปูนนี้เลย มันเหมือนของคนวัยกลางคนที่ร่างกายแข็งแรงมากกว่า
“งั้นพวกเราให้คุณหมอโจ๋วของโรงพยาบาลตระกูลโจ๋วมาชี้แจงดีกว่าไหม เพราะผลตรวจชุดนี้คุณหมอโจ๋วเป็นคนเซ็นชื่อกำกับเอง คุณย่าเย่คิดเห็นอย่างไรบ้าง?”ถังจื่อโม่มองไปยังคุณย่าเย่ เวลานี้น้ำเสียงเต็มไปด้วยการหารืออย่างท่วมท้น
“คิก”คุณย่าเย่หัวเราะร่า“นายคิดว่าอยากเชิญคุณหมอโจ๋วก็เชิญได้อย่างนั้นเหรอ นายคิดว่าองค์กรยมบาลทำได้ทุกอย่างงั้นหรือ?”
เห็นได้ชัดว่าคุณย่าเย่ไม่เชื่อคำพูดของถังจื่อโม่ ท่านเชื่อว่าโจ๋วอันหนานจะไม่หักหลังพวกท่านในเวลานี้หรอก ถึงแม้องค์กรยมบาลจะข่มขู่โจ๋วอันหนาน ทว่าโจ๋วอันหนานก็ไม่ไดขี้ขลาดปล่อยให้คนอื่นมาข่มขู่ง่ายๆ
“องค์กรยมบาลของพวกเราคงเชิญไม่ได้ ไม่สู้ให้เย่ซือเฉินช่วยพวกเราเชิญดีกว่า เพราะเป็นการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเขาด้วย”ถังจื่อโม่ไม่ได้ฉุนเฉียว ไม่ได้ร้อนรน เวลานี้เขามีท่าทีไม่รีบร้อน เหมือนมีแผนทุกอย่างในใจแล้ว
เมื่อวาจานี้ของถังจื่อโม่เปล่งออกมา สีหน้าคุณย่าเย่พลันเปลี่ยนไป คุณย่าเย่รู้ความสัมพันธ์ของเย่ซือเฉินกับโจ๋วอันหนานจริงๆ หากเย่ซือเฉินไปเชิญโจ๋วอันหนาน เป็นไปได้ที่โจ๋วอันหนานจะมาจริงๆ
คนอื่นไม่รู้ว่าเย่ซือเฉินกับโจ๋วอันหนานรู้จักกัน ทว่าพวกเขารู้ว่าคุณชายสองโจ๋วกับคุณชายสามเย่เป็นพี่สองร่วมสาบานกัน แค่นี้ตระกูลโจ๋วต้องช่วยเหลืออยู่แล้ว
คุณย่าเย่แอบคิดวิธีรับมืออยู่ในใจ ท่านคิดว่าตนเองควรติดต่อโจ๋วอันหนานให้ช่วยตนก่อน
ปกติโจ๋วอันหนานเชื่อฟังท่านมาก แน่นอน ท่านยังมีวิธีจัดการโจ๋วอันหนาน ถึงแม้โจ๋วอันหนานจะเก็บความรู้สึกได้ดี ทว่าท่านก็ดูออก ดังนั้นท่านใช้สิ่งนี้โน้มน้าวโจ๋วอันหนานได้ ให้โจ๋วอันหนานช่วยท่านได้
คุณย่าเย่นึกถึงจุดนี้ก็แอบโล่งอก บัดนี้ท่านหวังอยากให้ถังจื่อโม่เรียกโจ๋วอันหนานมาจริงๆ ขอเพียงโจ๋วอันหนานช่วยท่าน ขอเพียงโจ๋วอันหนานพูดว่าเป็นผลตรวจปลอม สถานการณ์ก็จะสามารถพลิกแพลงได้แล้ว ถึงเวลานั้นถังจื่อโม่พูดอะไรต่อก็ไร้ความหมาย
คุณย่าเย่ยิ่งคิดก็ยิ่งพอใจ ยิ่งคิดก็ยิ่งลำพองใจ เวลานี้ท่านอยากให้โจ๋วอันหนานมาถึงโดยเร็วแทบตาย
“แน่นอน อยากพิสูจน์ว่าเป็นผลตรวจจริงๆหรือไม่ ก็ไม่จำเป็นต้องเชิญโจ๋วอันหนานมาเสมอไป”ทว่าถังจื่อโม่กลับเปลี่ยนแปลงกะทันหัน ตอนนี้ถังจื่อโม่ยืนอยู่ตรงหน้าคุณย่าเย่ ถึงแม้คุณย่าเย่จะปกปิดความคิดอ่านได้ดี ไม่ได้เผยสิ่งผิดแปลกทางสีหน้า ทว่าถังจื่อโม่ก็เห็นพิรุธอยู่ดี
เขาสังเกตเห็นความวาดหวังอย่างรอคอยในแววตาของคุณย่าเย่ที่ยังไม่ได้ปกปิดได้แยบยล ยังมีความลำพองใจอีกด้วย ดังนั้นถังจื่อโม่เดาออกว่าคุณย่าเย่ต้องมีวิธีรับมือแน่ ดังนั้นคุณย่าเย่คงหวังอยากให้โจ๋วอันหนานมา
ถังจื่อโม่ไม่อยากทำสงครามที่ไม่มั่นใจ ตอนแรกเขาก็แค่พูดถึงโจ๋วอันหนานไปงั้นๆ ไม่ได้จริงจังอะไร เขาคงโทรหาเย่ซือเฉิน แล้วให้เย่ซือเฉินเชิญโจ๋วอันหนานมาจริงๆไม่ได้หรอกมั้ง?
อีกอย่าง อยากยืนยันว่าเป็นผลตรวจจริงก็มีวิธีเด็ดอื่นอีก ไม่จำเป็นต้องเชิญโจ๋วอันหนานมาอย่างเดียว
“เมื่อกี้นายบอกว่าจะเชิญโจ๋วอันหนานมาไม่ใช่เหรอ?ทำไมไม่เชิญแล้วล่ะ?หากโจ๋วอันหนานเป็นผู้ออกผลตรวจฉบับนี้จริง เธอต้องรู้ดีแน่ นายให้เธอมา ให้เธอมาบอกว่าเป็นจริงหรือปลอม?”ในใจคุณย่าเย่มีวิธีจัดการกับโจ๋วอันหนานแล้ว จึงหวังอยากให้โจ๋วอันหนานมามากๆ
บัดนี้คุณย่าเย่ทำหน้าผู้มีคุณธรรม พูดอย่างมั่นใจ เหมือนกับว่าสิ่งที่ถังจื่อโม่กล่าวเป็นมูลเท็จ เหมือนกับว่าถังจื่อโม่กำลังปรักปรำท่านอยู่
“นายไม่ต้องให้ซือเฉินเชิญมาหรอก ตอนนี้ฉันสามารถเชิญโจ๋วอันหนานมาได้ ให้เธอบอกความจริงแก่ทุกคนเอง”ขณะนี้คุณย่าเย่ยืนกรานจะให้โจ๋วอันหนานมา
คุณย่าเย่เป็นคนอย่างนี้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะทำเรื่องอะไรก็ชินกับการวางอุบาย บัดนี้เพราะท่านรู้ความลับของโจ๋วอันหนาน มีวิธีจัดการโจ๋วอันหนาน ดังนั้นจึงไม่กังวลเลยสักนิด
“เมื่อกี้ผมคิดปัญหาหนึ่งออก อันนี้เป็นผลตรวจของเดือนก่อน ซึ่งผ่านมาหนึ่งเดือน อาการอาจจะเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้นผมคิดว่าไม่สู้ตรวจอีกครั้งอย่างเปิดเผยดีกว่า มันจะน่าเชื่อถือกว่าเยอะ”ถังจื่อโม่เห็นคุณย่าเย่รีบร้อนจะให้โจ๋วอันหนานมา เขาจะสวนทางเจตนาของคุณย่าเย่ให้ได้
“ฉันไม่เชื่อผลตรวจของโรงพยาบาลนี้”คุณย่าเย่ได้ยินว่าตอนนี้จะตรวจอาการ ทั้งยังตรวจต่อหน้าผู้คนอีกต่างหาก หัวใจของท่านก็หนักอึ้ง ตอนนี้ร่างกายของคุณปู่เย่ไม่ได้เป็นอะไรเลยสักนิด ไม่ว่าจะตรวจอย่างไรก็ไม่พบแน่นอน
“ในเมื่อคุณย่าเย่ไม่เชื่อมั่นในประสิทธิภาพการรักษาของโรงพยาบาลนี้ แล้วทำไมถึงส่งคุณปู่เย่มาที่นี่ล่ะ?มันขัดแย้งกับการกระทำมากไม่ใช่เหรอ?”ถังจื่อโม่รู้ความคิดอ่านของคุณย่าเย่ รู้ว่าคุณย่าเย่กลัวตรวจสอบร่างกายคุณปู่เย่ เพียงแต่ข้ออ้างนี้มันไร้น้ำหนักไปหรือเปล่า
คุณปู่เย่‘เป็นลม’ซึ่งเป็นอาการที่ค่อนข้างรุนแรง คุณย่าเย่ส่งเข้าโรงพยาบาลนี้แล้ว แต่ตอนนี้มาบอกว่าไม่เชื่อมั่นในศักยภาพของโรงพยาบาลนี้?
ตลกสิ้นดี!!
“แน่นอน หากคุณย่าเย่ไม่เชื่อผลตรวจของโรงพยาบาลนี้ เปลี่ยนเป็นโรงพยาบาลที่คุณย่าเย่เชื่อถือ”ถังจื่อโม่ไม่รอให้คุณย่าเย่ตอบก็รีบเปลี่ยนประโยคพูดทันที ปัญหานี้ของคุณย่าเย่จัดการไม่ยาก
“ฉันขอให้นายปล่อยสามีฉันไปเถอะ ตอนนี้เขาเป็นลมอยู่จะย้ายโรงพยาบาลได้ยังไง พวกนายอยากทำร้ายสามีฉันให้ตายหรือไง?”คุณย่าเย่ได้ยินถังจื่อโม่กล่าว พลางกะพริบตารัวๆ จากนั้นก็ทำหน้าเจ็บปวด ท่านมองถังจื่อโม่ พลางพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนหลายส่วน
หากมองแค่ท่าทางของคุณย่าเย่ตอนนี้ มันชวนให้รู้สึกสงสารมากๆ
“คุณย่าเย่ ถึงแม้คุณปู่เย่จะเป็นลมจริงๆ แต่ก็เป็นลมที่บ้านตระกูลเย่นะ พวกคุณเรียกรถโรงพยาบาลไป แล้วแบกคุณปู่เย่เข้าโรงพยาบาล ถ้าผมเดาไม่ผิด ตอนอยู่หน้าประตูโรงพยาบาล คุณย่าเย่ยังให้สัมภาษณ์ด้วย ตอนนั้นคุณปู่เย่นอนอยู่บนเตียงเข็นโรงพยาบาล คุณย่าเย่ยังไม่เป็นห่วงเลย ตอนนี้กลับเป็นห่วงซะงั้น”ถังจื่อโม่รู้สึกขำกับตรรกะของคุณย่าเย่มาก คุณย่าเย่จะแสดงละครรักที่รันทด แต่ก็ควรคำนึกถึงเรื่องที่ท่านทำก่อนหน้านี้ด้วยไหม
การขัดแย้งการกระทำก่อนและหลังทำให้คนไม่อินเลย
“ตอนนั้นเรียกรถพยาบาลมาส่งเพราะต้องการรักษาฉุกเฉิน มีเวลาไม่มาก ตอนนี้เขายังคงเป็นลมอยู่ จะให้เคลื่อนย้ายโดยพลการได้อย่างไร”คุณย่าเย่ได้ยินถังจื่อโม่พูดก็เดือดดาลจนปอดแทบระเบิด ไอ้เด็กบ้าคนนี้จงใจยั่วโมโหท่านใช่ไหม?
ไม่ เด็กบ้าคนนี้มาเพื่อก่อกวน มาเพื่อทำร้ายท่านชัดๆ
ลูกที่เวินลั่วฉิงสั่งสอนมานั้นไม่มีดีเลยสักคน แต่ละคนทั้งน่ารังเกียจและน่าขยะแขยง
“เมื่อกี้คุณย่าเย่บอกว่าไม่เชื่อมั่นในโรงพยาบาลนี้ คุณปู่เย่มาเกือบสองชั่วโมงแล้ว ถึงตอนนี้ยังเป็นลมอยู่เลย ในเมื่อคุณย่าเย่ไม่เชื่อมั่นในศักยภาพการรักษาของโรงพยาบาลนี้ ทำไมไม่ย้ายโรงพยาบาลล่ะ?”ถังจื่อโม่ไม่รู้ว่าบัดนี้คุณย่าเย่เกลียดเขาเข้ากระดูกเสียแล้ว แน่นอนถึงถังจื่อโม่จะรู้ก็ไม่อินังขังขอบเลยสักนิด
สำหรับคนที่ไม่เกี่ยวข้อง ทำไมเขาต้องใส่ใจกับความคิดของคนพวกนั้นด้วย?!
สำหรับเขาแล้วคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาทั้งนั้น!