ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1237 ถังจื่อโม่คือตัวเด่นในงาน ยอดเยี่ยมไปเลย (2)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- บทที่ 1237 ถังจื่อโม่คือตัวเด่นในงาน ยอดเยี่ยมไปเลย (2)
พ่อของเขาตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลเย่แล้ว พ่อของเขาไม่เกี่ยวข้องกับคุณปู่เย่และคุณย่าเย่อีกต่อไป เขาก็ยิ่งไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ ดังนั้นพวกท่านชอบเขาหรือไม่ เกลียดเขาหรือเปล่า เขาก็ไม่ใส่ใจ
“ตอนนี้คนไข้ยังสลบอยู่ จะย้ายมั่วๆได้ยังไง หากเกิดเหตุสุดวิสัยจะทำยังไง?”ดวงตาคุณย่าเย่จ้องมองถังจื่อโม่โดยตรง สีหน้ามีความโหดเหี้ยมหลายส่วน ทว่าตอนนี้กล้องจับภาพคุณย่าเย่ด้านข้าง ดังนั้นนักข่าวจึงจับภาพสีหน้าของคุณย่าเย่ไม่ได้
“ความหมายของคุณย่าเย่ก็คือให้คุณปู่เย่‘สลบ’อยู่ที่โรงพยาบาลนี้ ปล่อยไปตามยถากรรมเหรอ?หมอในโรงบาลนี้บอกว่าคุณปู่ไม่เป็นอะไรคุณก็ไม่เชื่อ คุณหมอแค่ให้น้ำตาลเด็กซ์ทรสแก่คุณปู่เย่ ไม่ใช้ยาใดๆทั้งสิ้น อาการอย่างนี้คุณย่าเย่ยังไม่กังวลเหรอ?วางใจแล้วเหรอ?หรือว่าคุณย่าเย่อยากให้คุณปู่เย่เป็นลมอย่างนี้ต่อไป?”ปากเล็กๆของถังจื่อโม่ย้อนเถียงคุณย่าเย่กลับเป็นชุดๆ
“และอีกอย่างคุณหมอไม่เคยบอกว่าเคลื่อนย้ายคุณปู่เย่ไม่ได้ ทำไมคุณย่าเย่จึงมั่นใจว่าย้ายคุณปู่เย่ไม่ได้?”ถังจื่อโม่รีบเสริมอีกหนึ่งประโยคอย่างรวดเร็ว
“ใช่ครับ ใช่ครับ อาการของคุณปู่เย่ในตอนนี้เคลื่อนย้ายได้ครับ ไม่มีปัญหาเลย เมื่อคุณย่าเย่ไม่เชื่อมั่นในความสามารถของโรงพยาบาลของพวกเรา ผมก็จะช่วยคุณทำเรื่องย้ายครับ”หมอที่ทำให้คุณย่าเย่โกรธไม่น้อย ตอนนี้เสริมต่อจากถังจื่อโม่อีกครั้ง ต้องบอกว่าหมอคนนี้เสริมได้เหมาะเจาะมากๆ
“คุณย่าเย่ หมอบอกว่าย้ายโรงพยาบาลได้”ถังจื่อโม่พอใจกับคำพูดของคุณหมอมาก คุณหมอก็เอ่ยปากพูดแล้ว เขาจะดูสิว่าคุณย่าเย่จะหาเหตุผลอะไรอีก
“ทำไมนายต้องให้พวกเราย้ายโรงพยาบาลด้วย นายมีเป้าหมายอะไรกันแน่ มีเจตนาอะไรกันแน่?”คุณย่าเย่เถียงถังจื่อโม่ไม่ไหว ได้แต่หาเรื่องอื่นมาคุย เพื่อจะได้เบี่ยงเบนความสนใจของทุกคน
“คุณปู่เย่เป็นลมอยู่อย่างนี้ โรงพยาบาลนี้ก็หาวิธีรักษาไม่ได้ คุณย่าเย่ไม่กังวลเลยเหรอ?ผมกำลังช่วยพวกคุณอยู่ ถ้าพูดถึงเป้าหมายของผม งั้นก็ต้องเป็นตรวจสุขภาพคุณปู่เย่ให้ครบวงจร จะได้รู้อาการคุณปู่เย่เป็นอย่างไรบ้าง”ถังจื่อโม่จะปล่อยคุณย่าเย่ไปง่ายๆได้อย่างไร
“นายพูดได้น่าฟัง แต่ใครจะรู้ว่ามีเจตนาอะไรแอบแฝงกันแน่ ไม่รู้ว่าระหว่างทางพวกนายจะทำอะไรกันพวกฉันบ้าง?องค์กรยมบาลอย่างพวกนายทำได้ทุกอย่างอยู่แล้วนี่”ตอนนี้คุณย่าเย่จงใจพูดเช่นนี้ก็เพื่อเพ่งความสนใจมายังถังจื่อโม่ให้หมด
“คุณย่าเย่ กินข้าวมั่วได้ แต่พูดเรื่อยเปื่อยไม่ได้นะ พูดอะไรต้องมีหลักฐาน ไม่งั้นพวกเราองค์กรยมบาลสามารถฟ้องคุณโทษฐานใส่ร้ายได้”กู้หวูไม่ได้พูดนานแล้ว เพราะเรื่องนี้เขาไม่จำเป็นต้องออกหน้า คุณชายน้อยก็จัดการได้อยู่หมัดแล้ว เพียงแต่ได้ยินคุณย่าเย่พูดเช่นนี้ กู้หวูก็อดกลั้นไม่ไหว ถึงกับกล้าใส่ร้ายป้ายสีองค์กรยมบาลของพวกเขาด้วย
ถึงแม้องค์กรยมบาลของพวกเขาต้องบริหารจัดการมากมาย ปกติก็รับงานกรณีพิเศษอยู่แล้ว แต่ต้องอยู่ในกฎเกณฑ์ของพวกเขา ซึ่งนั่นก็คือทำผิดกฎหมายไม่ได้ และทำผิดศีลธรรมไม่ได้เด็ดขาด และยิ่งไม่ทำเรื่องผิดต่อหลักการมนุษยชาติอย่างแน่นอน
ข้อหาที่ยัดเยียดมานี้ องค์กรยมบาลของพวกเขารับไม่ได้เด็ดขาด
คุณย่าเย่เห็นท่าทางของกู้หวูก็ถอยหลังหนึ่งก้าวด้วยสัญชาตญาณ เพราะท่าทางของกู้หวูในตอนนี้น่ากลัวมาก คล้ายกับสามารถฆ่าท่านได้ตลอดเวลา
เวลานี้คุณย่าเย่ไม่กล้าพูดปรักปรำองค์กรยมบาลแม้แต่คำเดียว
“หากคุณย่าเย่ไม่วางใจ ไม่อยากให้คุณปู่เย่ย้ายโรงพยาบาลก็ยังมีอีกวิธีหนึ่ง”ถังจื่อโม่ไม่ถือสาคุณย่าเย่เรื่องกล่าวให้โทษองค์กรยมบาล เพราะถังจื่อโม่รู้สึกว่าไม่จำเป็น ภาพลักษณ์องค์กรยมบาลเป็นเช่นไร ไม่ใช่คุณย่าเย่จะใช้คำสองคำมาทำลายได้
“วิธีอะไร?”เวลานี้คุณย่าเย่ตกใจกู้หวูจนตะลีตะลาน เมื่อได้ยินถังจื่อโม่พูดก็ควบคุมความโกรธไม่อยู่ น้ำเสียงเจือความโกรธขึ้งอย่างฉายชัด ระดับเสียงก็ดังขึ้นหลายส่วน
คุณปู่เย่ที่นอนอยู่บนเตียงยิ่งโมโหและร้อนใจกว่าคุณย่าเย่เสียอีก ไอ้เด็กเวรคนนี้ น่าโมโหชะมัด
อายุไม่ถึงห้าขวบ ทำไมความคิดเยอะแยะเพียงนี้ ทำอย่างไรถึงจะหุบปากไอ้เด็กเวรคนนี้ได้ มีหลักการเป็นชุดๆ วิธีก็มีมาเรื่อยๆ ไอ้เด็กเวรคนนี้รับมือได้ทุกสถานการณ์เลย
ไอ้เด็กเวรแน่จริงไปโจมตีคนนอกสิ ทำไมทำกับคนในครอบครัวซะอย่างนั้นล่ะ เขาเป็นปู่ทวดของเด็กเวรนะ เด็กเวรคนนี้น่าโมโหจริงๆ รอให้เขา ‘ฟื้น’แล้วจะสั่งสอนให้หลาบจำเลย
คุณปู่เย่ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าวิธีที่เด็กเวรคนนี้เสนอไม่ใช่วิธีดีอะไรเลย ต้องทำให้เขาโกรธอีกเป็นแน่
“คุณย่าเย่ไม่เชื่อมั่นโรงพยาบาลนี้และไม่อยากให้คุณปู่เย่ย้ายโรงพยาบาล งั้นอยากตรวจทั้งร่างกายคุณปู่เย่ก็ต้องเชิญหมอจากที่อื่นมาแล้ว”ถังจื่อโม่รับมือได้ทุกกระบวนท่าจริงๆ คุณย่าเย่ใช้เหตุผลสารพัดขัดขวางเขา เขากลับหาวิธีมากมายมาจัดการได้
“คุณย่าเย่เชื่อมั่นหมอคนไหน พวกเราก็จะเชิญหมอคนนั้นมาตรวจ คนเป็นหมอก็มีจิตใจดังบิดามารดา ตอนนี้คุณปู่เย่ยัง สลบ’อยู่ คนเป็นหมอต้องไม่นิ่งเฉยแน่ เชิญให้พวกหมอมาตรวจอาการคนไข้ พวกเขาคงไม่ปฏิเสธหรอก”ครั้งนี้ถังจื่อโม่ไม่ให้คุณย่าเย่โต้แย้ง พูดดักคอคุณย่าเย่อย่างรู้ทัน ทำให้คุณย่าเย่จุกจนพูดไม่ออก
ความหมายของถังจื่อโม่คือให้คุณย่าเย่บอกว่าต้องการให้เชิญหมอคนไหน ขอเพียงเป็นหมอที่คุณย่าเย่เอ่ยถึง คุณย่าเย่ก็จะสงสัยในผลตรวจไม่ได้
“แน่นอน หากคุณย่าเย่ไม่เชื่อมั่นในอุปกรณ์การรักษาของโรงพยาบาลนี้ พวกเราก็สามารถยืมจากโรงพยาบาลอื่นมา คุณย่าเย่เชื่อมั่นโรงพยาบาลไหนก็จะยืมกับโรงพยาบาลนั้น หากคุณย่าเย่ยังสงสัย พวกเราจะเชิญหมอผู้เชี่ยวชาญมาหลายคน และยืมอุปกรณ์มาหลายชุด เพื่อตรวจสุขภาพคุณปู่เย่หลายๆครั้ง เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จะน่าเชื่อถือแล้ว”ถังจื่อโม่ยกมุมปากโค้งขึ้น จากนั้นก็เอ่ยออกมาหลายประโยคอย่างรวดเร็ว
ครั้งนี้ถังจื่อโม่จะสยบทุกข้ออ้างของคุณย่าเย่ ไม่ให้คุณย่าเย่ถูไถได้อีก
วิธีการของถังจื่อโม่ในขณะนี้ ล้วนทำตามความต้องการของคุณย่าเย่ทั้งสิ้น หากคุณย่าเย่ยังไม่พอใจ งั้น ……
เรื่องถึงขั้นนี้แล้ว อันที่จริงทุกคนก็พอจะดูออกกันแล้ว เหลือแค่หลักฐานขั้นสุดท้ายแล้ว หากคุณย่าเย่ยังปฏิเสธอีกก็เท่ากับหวาดผวาจากความผิดของตน
ถึงเวลาถังจื่อโม่ไม่ต้องพูดอะไรอีก ทุกคนก็จะเข้าใจโดยปริยาย
คุณปู่เย่นอนอยู่บนเตียงโกรธจนปวดถึงตับไตไส้พุงไปหมด ไอ้เด็กเวรคนนี้จ้องแต่จะเป็นปรปักษ์กับท่าน เขาไม่เป็นอะไรแท้ๆ ยังต้องการตรวจสุขภาพอีก?
คุณปู่เย่รู้ว่าหากตรวจขึ้นมาก็จะเผยพิรุธทันที
ไอ้เด็กเวรคนนี้รู้ทั้งรู้ว่าเขาไม่เป็นอะไร แต่ยังกัดไม่ปล่อยอีก?
น่าโมโหจริงๆ!!
บัดนี้คุณปู่เย่อยากกระโดดลงจากเตียงแล้วสั่งสอนเด็กเวรคนนี้สักหนึ่งฉาดเหลือเกิน
มุมปากคุณย่าเย่ขยิบ อยากพูดอะไรบางอย่าง ทว่ากลับสรรหาถ้อยคำไม่ได้ เพราะทุกเหตุผลที่ท่านจะกล่าวอ้างได้นั้นโดนถังจื่อโม่สยบหมดสิ้นแล้ว
ชั่วพริบตานั้นสีหน้าคุณย่าเย่เปลี่ยนไปอย่างเด่นชัด แน่นอนว่าเปลี่ยนไปในทางที่แย่ ไม่น่ามองมากขึ้น ท่านจ้องเขม็งถังจื่อโม่ด้วยท่าทางราวกับจะกินถังจื่อโม่เสียอย่างนั้น
คุณย่าเย่อัดอั้นตันใจมาครึ่งค่อนวัน แต่ก็ยังพูดไม่ออกสักคำ
“หากคุณย่าเย่ไม่โต้แย้ง เรื่องนี้ก็ตามนี้เลย”ถังจื่อโม่พยักหน้าด้วยความพอใจมาก เขามองข้ามใบหน้าที่โกรธเคืองและเหี้ยมเกรียมของคุณย่าเย่โดยอัตโนมัติ เขาถือว่าคุณย่าเย่เห็นดีเห็นงามแล้ว
เมื่อเป็นเช่นนี้ เรื่องนี้ก็ง่ายแล้ว
สีหน้าคุณย่าเย่ย่ำแย่กว่าเดิม หน้าอกของท่านกระพือขึ้นไม่หยุดหย่อน ดูท่าแล้วราวกับโกรธจนสามารถเป็นลมได้ตลอดเวลา ทว่าร่างกายของคุณย่าเย่ดันดีมาก ถึงแม้ท่านอยากเป็นลม แต่ก็ไม่เป็นเช่นนั้น
ก่อนหน้านี้คุณปู่เย่เป็นลมก็ทำเรื่องวุ่นวายเช่นนี้แล้ว คุณย่าเย่จึงแกล้งเป็นลมไม่ได้อีก และท่านก็ไม่กล้าทำ ไม่งั้นเด็กคนนี้หาหมอมาตรวจสุขภาพท่านกับตาเฒ่าของท่านขึ้นมา ทุกอย่างก็ต้องขึ้นอยู่กับเด็กคนนี้แล้ว ท่านก็จะโต้เถียงอะไรไม่ได้อีก!!