ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1246 การเอาคืนกากเดนขั้นสูงสุด (1)
ก่อนหน้านี้ท่านมั่นใจนักหนาว่าเด็กคนนี้เชิญกู่หยูมาไม่ได้ ดังนั้นจึงปริปากบอกว่าท่านไม่สงสัยกับผลตรวจของกู่หยู ตอนนี้กู่หยูมาถึงแล้ว…
ถ้าเกิดกู่หยูตรวจสุขภาพให้คุณปู่เย่แล้วไม่พบปัญหาจริงๆ มันต้องยุ่งยากแน่
ตอนนี้แกนนำของโรงพยาบาลต้อนรับกู่หยูเสียใหญ่โต ขบวนใหญ่เพียงนี้ ให้เกียรติมากขนาดนี้ ล้วนแล้วแต่สร้างบารมีให้กู่หยูทั้งนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ ผลตรวจของกู่หยูก็ยิ่งไม่มีใครกล้าสงสารมากขึ้นแล้ว
หากท่านยังสงสัยอีก คงต้องถูกก่นด่าอย่างโหมกระหน่ำแน่
ตอนนี้ท่านควรทำเช่นไรดี?จะพลิกสถานการณ์อย่างไร?ตอนนี้คุณย่าเย่รู้สึกร้อนรนมากๆ
คุณปู่เย่ที่นอนอยู่บนเตียงก็อนาทรร้อนใจเช่นกัน เขากำลังคิดเหมือนคุณย่าเย่อยู่ คิดว่าเขาจะฟื้นตอนนี้ บอกว่าตัวเองดีขึ้นแล้ว?
ทว่าเขาฟื้นกะทันหันเวลานี้ มันก็โจ่งแจ้งเกินไป และถึงแม้เขาจะทำเหมือนฟื้นตอนนี้ หากกู่หยูยังยืนกรานบอกว่าสุขภาพของเขาไม่มีปัญหาอะไร บอกว่าเขาแกล้งเป็นลม งั้นเขาก็ต้องขายหน้าแย่สิ
คุณปู่เย่ที่นอนอยู่บนเตียงไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรไปชั่วขณะ การมาเยือนของกู่หยูทำให้พวกท่านสิ้นไร้ไม้ตอก เหมือนเจอทางตันแล้ว รุกไปเบื้องหน้าไม่ได้ กระถดถอยก็ไม่ได้เช่นกัน
ตอนนี้กู่หยูยืนอยู่หน้าประตูห้องคนไข้ เขาปรายตามองพลันเห็นคุณชายสองโจ๋วอุ้มถังจื่อโม่อยู่ ชั่วพริบตานี้ดวงตาของกู่หยูก็สว่างจ้า เด็กคนนี้เหรอ ดีจังเลย!!
เขาพึงพอใจมาก มองแวบเดียวก็ถูกใจเลย!!
ระหว่างทางที่เขามา เขาเข้าใจเรื่องของวันนี้หมดสิ้นแล้ว คุณปู่เย่แกล้งเป็นลมเพื่อใส่ร้ายป้ายสีเย่ซือเฉิน จากนั้นเด็กคนนี้ก็มาเปิดโปงคุณปู่เย่ที่โรงพยาบาล เพื่อคืนความบริสุทธิ์ให้แก่เย่ซือเฉิน
ลำพังเจตนาและความกล้าหาญจุดนี้ก็ทำให้เขาพอใจมากแล้ว เด็กห้าขวบทำได้ขนาดนี้ บอกตามตรง มันน่าทึ่งมาก
กู่หยูดูถ่ายทอดสดระหว่างทาง เห็นสิ่งที่ถังจื่อโม่ทำ เขายิ่งดูก็ยิ่งพอใจ ยิ่งดูก็ยิ่งชื่นชอบ เขารู้สึกว่าลูกศิษย์ที่เขาตามหาเกือบสามสิบปี บัดนี้หาเจอแล้ว
เขาเห็นถังจื่อโม่สวมแว่นกับหมวกผ่านการถ่ายทอดสด จึงไม่เห็นขี้แมลงวันที่มุมปากและแก้มของอีกฝ่าย แต่ตอนนี้กู่หยูมาเห็น มองแวบแรกก็รู้ว่าเป็นของปลอม ดังนั้นเด็กคนนี้อำพรางใบหน้าก่อนมาอย่างดิบดี
คิดครอบคลุมจริงๆ เป็นคนหลักแหลมจริงๆ ดีเหลือเกิน
หลายปีมานี้ไม่เคยมีใครถูกใจเขาเลย เขาเคยถูกใจถังหลินในอดีต ทว่าตอนนั้นถังหลินอายุสิบขวบแล้ว ถังหลินฉลาดชาญชัยมาก หลักแหลมมากเหมือนกัน ทว่าถังหลินเติบโตในบ้านตระกูลถังที่มีกฎบ้านเคร่งครัด ตอนนั้นถังหลินเป็นคนมีมารยาทมาก ซึ่งต่างจากถังจื่อโม่อย่างลิบลับ
เห็นได้ชัดว่ากู่หยูชอบแบบที่ถังจื่อโม่เป็นมากกว่า
ถังจื่อโม่ชะงักกับแววตาร้อนรุ่มอย่างฉายชัดของกู่หยู ถังจื่อโม่มองคุณชายสองโจ๋วด้วยจิตใต้สำนึก เมื่อกี้แววตาคุณชายสองโจ๋วที่มองตนอย่างตื่นเต้นนั้นยังพอเข้าใจอยู่ เพราะคุณชายสองโจ๋วเป็นสหายรักกับคุณลุงและคุณพ่อของเขา
ทว่าด๊อกเตอร์กู่ท่านนี้หมายความว่าอย่างไร?
เขาไมเกี่ยวพันกับด๊อกเตอร์กู่ใดๆทั้งสิ้น เป็นคุณลุงที่เชิญด๊อกเตอร์กู่มา ก่อนหน้านี้เขากับด๊อกเตอร์กู่ท่านนี้ไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อนแน่นอน ไม่เคยเจอกันจริงๆ
แล้วที่ด๊อกเตอร์กู่มองเขาเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?
ด๊อกเตอร์กู่เห็นถังจื่อโม่ก็เดินไปหาอีกฝ่ายทันที นักข่าวที่เบียดกันอยู่หน้าประตูจนทำให้คนเข้าไปไม่ได้ ทว่าตอนนี้พวกเขาเห็นด๊อกเตอร์กู่เข้ามาก็รีบแหวกทางให้
ด๊อกเตอร์กู่เดินมาอยู่ตรงหน้าถังจื่อโม่ เห็นคุณชายสองโจ๋วอุ้มถังจื่อโม่อยู่ หางคิ้วของเขาก็ยกขึ้นเบาๆ “พอได้แล้ว ผมมาถึงแล้ว คุณไม่ต้องอุ้มเขาอีก วางลงเถอะ”
น้ำเสียงของด๊อกเตอร์กู่เจือความหึงหวงเล็กน้อย ลูกศิษย์ที่เขาหมายตาไว้ เขายังไม่ได้อุ้มเลย คนอื่นจะอุ้มได้ไง แถมคนอื่นในที่นี่ยังเป็นหมอเหมือนเขาอีก
เขาไม่มีทางปล่อยให้คนแซ่โจ๋วแยกลูกศิษย์เขาไปหรอก
เมื่อกู่หยูเปล่งถ้อยคำนี้ออกมา ถังจื่อโม่และคุณชายสองโจ๋วต่างชะงัก อะไรกัน?เกิดอะไรขึ้น?
เขาอุ้มหลานไม่ได้เชียวหรือ?เขาอุ้มหลานตัวเองมันขวางหูขวางตาใครไม่ทราบ?!
ตาเฒ่าคนนี้เสือกเกินไปแล้ว!!
บัดนี้ถังจื่อโม่ทำหน้ามึนงง ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
“วางลง วางลง นายเอาแต่อุ้มเด็กไว้อย่างนี้ นายไม่เหนื่อย แต่เด็กก็ไม่สบายตัวนะ”กู่หยูเห็นคุณชายสองโจ๋วยังคงอุ้มถังจื่อโม่อย่างไม่มีทีทางว่าจะวางลง พลางแสดงท่าทีไม่พอใจอย่างเด่นชัด เวลานี้ด๊อกเตอร์กู่เหลือแต่ไม่แย่งถังจื่อโม่มาแล้ว หากไม่ใช่กลัวเด็กตกใจ เขาก็คิดจะแย่งมาเหมือนกัน
ดวงตาคุณชายสองโจ๋วกะพริบรัวๆ ทำหน้างวยงง ไม่สบายตัวอย่างนั้นเหรอ?เขาอุ้มถังจื่อโม่สุดที่รักแล้วทำให้จื่อโม่ไม่สบายตัวเหรอ?
เขาไม่ใช่คนชราอายุเจ็ดแปดสิบนะ ยังหนุ่มยังแน่น หน่วยก้านได้ที่มาก ร่างกายมีความยืดหยุ่นสูง
ไอ้แก่คนนี้หาเรื่องหรือเปล่า?
ไม่ใช่สิ เขาแค่อุ้มหลานชายของเขา ทำไมทำให้ตาแก่เคืองใจได้ล่ะ?
ดวงตาคุณชายสองโจ๋วเปล่งประกายระยิบระยับ เห็นกู่หยูมองถังจื่อโม่ด้วยแววตาทอประกายแสงดวงดาวก็เข้าใจในบัดดล หรือว่าตาเฒ่านี้จะถูกใจจื่อโม่สุดที่รักเข้า?
เขารู้เรื่องกู่หยูอยากมีลูกศิษย์ เขายังรู้ว่ากู่หยูเฟ้นหามาเกือบยี่สิบปีแล้ว ทว่าก็ยังคงหาไม่เจอ เขารู้สึกว่ากู่หยูไม่ได้กำลังหาลูกศิษย์ แต่เป็นการสร้างความลำบากใจให้กับตัวเองอยู่
อยากได้ลูกศิษย์ แต่มีข้อเรียกร้องสูงอย่างนี้ คงจะหาเจอชาติหน้าตอนบ่ายๆแหละ
ทว่าหากเป็นหลานชายของเขาก็เป็นไปได้อยู่!!
มิน่าล่ะตาเฒ่าถึงได้หึงปานนี้!!
มิน่าล่ะพี่ใหญ่ถึงเชิญตาเฒ่านี้มาได้ เขารู้จักนิสัยของตาเฒ่านี้ดี ตาเฒ่านี้คงไม่ไว้หน้าพี่ใหญ่หรอก ก่อนหน้านี้พี่ใหญ่โทรบอกเขาว่าตาเฒ่ากำลังขับรถไปเองแล้ว เขารู้สึกประหลาดใจอย่างยิ่งยวด
ตอนนี้ดูเหมือนพี่ใหญ่ไม่ได้เชิญบุคคลนี้มา แต่เป็นการหลอกล่อเขามา ซึ่งพี่ใหญ่ใช้ถังจื่อโม่เป็นตัวล่อครั้งนี้
พี่ใหญ่ก็คือพี่ใหญ่ เก่งชะมัด!!
“เขาเป็นหลานชายผม คนในครอบครัวผม ทำไมผมจะอุ้มไม่ได้”หลังคุณชายสองโจ๋วฉุกคิดได้ ก็ยิ่งกระชับมืออุ้มถังจื่อโม่ให้แนบแน่นขึ้น โดยไม่คิดปล่อยมือ เขาจงใจเน้นย้ำว่าถังจื่อโม่เป็นของเขา มันระคนความท้าทายหลายส่วน
คุณชายสองโจ๋วที่ปรกติเป็นคนเย่อหยิ่งและสุขุม ตอนนี้เหมือนเด็กไม่มีผิดเพี้ยน อันที่เป็นการกระทำของคุณชายสองโจ๋วที่ทำตัวเหมือนเด็กมากที่สุด
“มีดผ่าตัดของผมรู้สึกจะไม่คมแล้ว เสี่ยวโจ๋วจะช่วยผมลับหน่อยไหม”ด๊อกเตอร์กู่ไม่ได้โมโหเฉกเช่นคุณชายสองโจ๋วประมาณการไว้ ทางกลับกัน กลับยิ้มสดใสยิ่งนัก ทว่าถ้อยคำของด๊อกเตอร์กู่ทำให้คุณชายสองโจ๋วอดกระตุกมุมปากไม่ได้
เขาเคยสัมผัสมีดผ่าตัดของตาเฒ่ามาแล้ว หากทำให้ตาเฒ่าเคืองใจ มีดของตาเฒ่าก็จะบินมาเสียดื้อๆเลย ตอนเขาไปที่โรงพยาบาลของแปดสุดยอดวงศ์ตระกูล มีผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่งต้องการให้ด๊อกเตอร์กู่ช่วยดูอาการของเพื่อนเขาให้ได้ จึงทำให้ด๊อกเตอร์กู่บันดาลโทสะ จากนั้นก็เหวี่ยงมีดผ่าตัดไปยังผู้บริหารระดับสูงของโรงพยาบาลคนนั้น จากนั้นก็เฉียบผ่านใบหูของผู้นำโรงพยาบาลคนนั้น ก่อนมีดผ่าตัดจะทะลุเข้าผนังด้านหลังของอีกฝ่าย
ตอนนั้นมีดผ่าตัดไม่ได้ทำร้ายผู้นำโรงพยาบาลแต่อย่างใด แต่ตอนเฉียบผ่านใบหูได้ตัดทิ้งเส้นผมออกไม่น้อย ทำให้คู่กรณีตกใจจนสองขาอ่อนเปลี้ย แล้วทรุดลงกับพื้นทันที
มีดผ่าตัดของตากู่แม่นยำกว่าลี้น้อยมีดบินอีก
ตอนนี้คุณชายสองโจ๋วได้ยินคำพูดของด๊อกเตอร์กู่ก็นึกถึงเหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้รู้สึกขนลุกซู่กะทันหัน
เขาไม่อยากช่วยตาเฒ่าคนนี้ลับมีดเลย!!
และตาเฒ่ามักจะเรียกเขาว่าเสี่ยวโจ๋วเสมอ มันทำให้เขาปวดหัวยิ่งนัก เขาเป็นลูกผู้ชายอกสามศอก สูง 186 เซนติเมตร ตาเฒ่าคนนี้เรียกเขาอย่างกับเป็นชื่อของขันทีอย่างไรอย่างนั้นเลย
ทว่าคุณชายสองโจ๋วนึกถึงมีดผ่าตัดของตาโจ๋วก็ไม่กล้าย้อนกลับ ได้แต่กล้ำกลืนไว้
คุณชายสองโจ๋วรู้สึกไม่สบอารมณ์ ทว่าก็ไม่กล้าปริปากพูด ทว่าคุณชายสองโจ๋วก็ยังต้องรักษาหน้าตา เพราะกลัวมีดผ่าตัดของตากู่จึงยอมสยบ แต่เขาให้คนนอกดูออกไม่ได้
คุณชายสองโจ๋ววางถังจื่อโม่ลง จากนั้นก็แนะนำอย่างเป็นทางการว่า“หลานรัก ท่านนี้คือด๊อกเตอร์กู่ มา กล่าวทักทายด๊อกเตอร์กู่กัน”
สีหน้าของคุณชายสองโจ๋วในขณะนี้เป็นธรรมชาติมาก มองไม่เห็นความผิดแปลกเลยสักนิด!!
“สวัสดีด๊อกเตอร์กู่ครับ”ถังจื่อโม่เป็นเด็กมีมารยาทอยู่แล้ว เมื่อครู่เพราะแปลกใจกับการกระทำของด๊อกเตอร์กู่ทำให้เขามึนไปบ้าง เขาไม่เข้าใจสถานการณ์ตรงหน้าเลย!