ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1249 สะใจชะมัด (2)
คำพูดของนักข่าวยิ่งเฉียบแหลมมากขึ้น เดิมทีนักข่าวมาเพื่อขุดคุ้ยหาข้อมูลอยู่แล้ว เพื่อจะให้ผลงานเป็นชิ้นโบว์แดง จึงไม่กลัวว่าเรื่องจะครึกโครมใหญ่โต ดังนั้นหลังจากได้ยินผู้อำนวยการพูดเช่นนั้นแล้ว นักข่าวทุกคนก็เบียดกันเข้าไปมุงอยู่รอบๆตัวคุณย่าเย่ทันที
ก่อนหน้านี้มีหลายสื่อที่ร่วมมือทางธุรกิจกับตระกูลเย่ พวกเขาจึงยำเกรงคุณย่าเย่ ทว่าตอนนี้เหตุการณ์กลับตาลปัตร คุณลุงของคุณชายน้อยแห่งองค์กรยมบาลเชิญคุณชายสองโจ๋วกับด๊อกเตอร์กู่มา และด๊อกเตอร์กู่ก็ให้คำตอบที่กระจ่างแจ้งแล้ว
เรื่องนี้จึงเท่ากับเป็นเรื่องตายตัว ตอนนี้คุณย่าเย่กำลังดิ้นรนต่อสู้กับฟางเส้นสุดท้าย
เป็นไปไม่ได้ที่คุณย่าเย่คิดจะปิดบังเรื่องนี้
เวลานี้นักข่าวก็พูดเรื่องคุณปู่เย่แกล้งเป็นลมออกมาเสียที
เมื่อมีนักข่าวเอ่ยถึงคนหนึ่ง นักข่าวที่เหลือต่างก็ทยอยซักไซ้เชิงบีบเค้นไม่หยุดหย่อน
“คุณย่าเย่ค่ะ เหตุการณ์ก่อนหน้านี้จี้ให้เห็นว่าคุณปู่เย่แกล้งเป็นลม คุณจะอธิบายต่อเรื่องนี้ยังไงคะ?”
“คุณย่าเย่ครับ ทำไมคุณปู่เย่ถึงแกล้งเป็นลมล่ะครับ?”
“คุณย่าเย่ค่ะ ‘แต่งหน้าโทนศพ’บนใบหน้าคุณปู่เย่ เป็นฝีมือคุณวาดหรือเปล่าคะ?คุณช่วยคุณปู่เย่หลอกลวงทุกคนใช่ไหมคะ?ขอถามหน่อยค่ะว่าทำไมต้องทำแบบนี้คะ?”
“คุณย่าเย่ครับ ตอนคุณอยู่ที่บ้านตระกูลเย่ คุณจงใจเอ่ยถึงคุณชายสามเย่ จงใจพูดสองแง่สองมุมให้ทุกคนเข้าใจคุณชายสามเย่ผิด ดังนั้น คุณปู่เย่เป็นลม คุณเลยให้ความร่วมมือสุดความสามารถ เพื่อจะใส่ร้ายคุณชายสามเย่ใช่ไหมครับ?ทำไมพวกคุณต้องใส่ร้ายคุณชายสามเย่ด้วยครับ?”
“คุณย่าเย่ค่ะ คุณชายสามเย่เป็นหลานแท้ๆของคุณ ทำไมพวกคุณถึงทำได้ลงคอ หลังคุณปู่เย่เข้าโรงพยาบาล เกือบทุกคนที่ตำหนิคุณชายสามเย่ ขอถามหน่อยนี้คือผลที่พวกคุณอยากได้หรือเปล่าคะ?”
นักข่าวพูดติดกันเป็นท่อนๆไม่หยุดยั้ง มันทำให้คุณย่าเย่ใกล้จะระเบิดอารมณ์อยู่แล้ว คุณย่าเย่รู้ว่าสถานการณ์อย่างนี้ ท่านพูดอะไรก็ไม่เกิดประโยชน์ และอีกอย่างสิ่งที่ท่านพูดในขณะนี้ นักข่าวอาจจะขยายใหญ่ บิดเบือนหรือใช้เป็นเครื่องมือก็ได้
บัดนี้สีหน้าคุณย่าเย่บูดเบี้ยว ไม่พูดอะไร ปล่อยให้นักข่าวไล่ถามตามอำเภอใจ
“คุณย่าเย่ครับ วันนี้คุณย่าเย่แถลงข่าวว่าตัดขาดกับตระกูลเย่แล้ว จากนั้นพวกเขาจึงใช้วิธีการนี้ใส่ร้ายป้ายสีคุณชายสามเย่ พวกคุณไม่กลัวคุณชายสามเย่เสียใจเหรอครับ?”นักข่าวคนหนึ่งเห็นคุณย่าเย่ไม่ตอบ จึงอดส่ายหัวไม่ได้ ผู้ใหญ่อย่างนี้มีน้อยมาก มิน่าล่ะ คุณชายสามเย่จึงตัดขาดกับตระกูลเย่
“ซือเฉินเป็นหลานชายแท้ๆของพวกเรา พวกเราทำเพื่อหวังดีต่อเขา”คุณย่าเย่ได้ยินถ้อยคำของนักข่าวคนนั้น จึงอดโต้ตอบหนึ่งประโยคไม่ได้ ในทัศนวิสัยของท่าน พวกท่านทำเรื่องพวกนี้ก็เพื่อเย่ซือเฉิน เพราะหวังดีกับเย่ซือเฉิน
นักข่าวได้ยินประโยคนี้ของคุณย่าเย่ล้วนแล้วแต่นิ่งงัน เกิดความเงียบขึ้นมาในชั่วพริบตา เห็นได้ชัดว่าทุกคนคาดไม่ถึงว่าเวลานี้คุณย่าเย่ยังพูดอย่างนี้ได้อีก
คุณปู่เย่แกล้งเป็นลม คุณย่าเย่ช่วยสร้างกระแสให้เรื่องบานปลายใหญ่โต จากนั้นก็ให้ทุกคนก่นด่าคุณชายสามเย่ คุณย่าเย่ยังมีหน้ามาบอกว่าทำเพื่อคุณชายสามเย่?หวังดีกับคุณชายสามเย่อีก?
“คุณย่าเย่ ถ้าพวกคุณทำเพื่อคุณชายสามเย่จริงๆ ทำไมคุณชายสามเย่ต้องตัดขาดกับตระกูลเย่ด้วยครับ?”
“ใครอยากตัดขาดกับครอบครัวตัวเอง ในประเทศของพวกเรา เคยเกิดเรื่องไร้คุณธรรมจริยธรรมมาก่อนแล้ว หากคุณชายสามเย่ไม่ถูกพวกคุณบีบจนไร้หนทาง จะประกาศตัดสัมพันธ์กับตระกูลเย่เหรอ คุณชายสามเย่สลัดทุกอย่างของตระกูลเย่ทิ้ง เพียงเพื่อแลกกับอิสระ เห็นได้ว่าคุณชายสามถูกพวกคุณบีบจนถึงทางตัน จำเป็นต้องทำเช่นนี้ ตอนแรกผมยังคิดว่าการกระทำของคุณชายสามเย่ไม่เหมาะสม ตอนนี้ผมขอยกสองมือเห็นด้วยกับการกระทำของคุณชายสามเย่ครับ”
“คุณชายสามเย่เดินมาถึงขั้นนี้ ต้องถูกพวกคุณบีบบังคับแน่ พวกคุณอ้างว่าหวังดีกับคุณชายสามเย่ ไม่รู้ว่าปกติจะใช้ข้ออ้างนี้ทำร้ายคุณชายสามเย่เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่แล้ว”
“พวกคุณขัดขวางคุณชายสามเย่กับเวินลั่วฉิงไม่ให้อยู่ด้วยกัน คุณปู่เย่แกล้งขาแพลงเข้าโรงพยาบาล เพื่อใส่ร้ายเวินลั่วฉิง สุดท้ายเรื่องนั้นคุณชายสามเย่ก็โดนบีบจนต้องแถลงข่าวชี้แจง นี่ก็คือสิ่งที่พวกคุณเรียกว่าหวังดีกับคุณชายสามเย่……”มีคนเอ่ยถึงเรื่องเวินลั่วฉิงขึ้นมา
“พวกเราหวังดีกับซือเฉินแน่นอน เวินลั่วฉิงเธอ……”คุณย่าเย่ได้ยินเรื่องเวินลั่วฉิงก็รู้สึกเกิดอารมณ์ฉุนเฉียวผุดขึ้นมากลางอก ทุกอย่างในวันนี้ล้วนพังพินาศเพราะเวินลั่วฉิง ไอ้เด็กสมควรตายคนนี้ก็คือลูกของเวินลั่วฉิง ต้องเป็นเวินลั่วฉิงที่สอนให้เด็กทำอย่างนี้แน่นอน ทุกอย่างเป็นแผนการของเวินลั่วฉิงทั้งหมด
ดังนั้นเวลานี้คุณย่าเย่ไม่อยากได้ยินชื่อของเวินลั่วฉิงที่สุด เวินลั่วฉิงไม่คู่ควรกับซือเฉินของพวกท่าน
ทว่าคุณย่าเย่ถูกถึงกลางคันก็หยุด ก่อนหน้านี้ท่านขัดขวางไม่ให้ซือเฉินกับเวินลั่วฉิงอยู่ด้วยกัน เพราะเวินลั่วฉิงมีบุตรไม่ได้ ท่านปล่อยให้ซือเฉินไม่มีลูก ไร้ทายาทไม่ได้
ทว่าตอนนี้เวินลั่วฉิงช่วยซือเฉินคลอดลูกชายกับลูกสาวคู่หนึ่งแล้ว งั้นสาเหตุนั้นก็ไม่เป็นผลอีกต่อไป
ถึงหน้าคุณย่าเย่จะหน้าเพียงใด ทว่าตอนนี้ก็ไม่ได้หนาจนพูดสาเหตุนี้ออกมาได้
“เวินลั่วฉิงทำไมเหรอ?เวินลั่วฉิงแค่ขี้เหร่และโง่หน่อยไม่ใช่เหรอ?”นักข่าวที่ถูกถังจื่อโม่พาเข้ามาก่อนหน้านี้ รีบโต้แย้งคุณย่าเย่ทันที
เพียงแต่นักข่าวแค่พูดครึ่งหนึ่งเท่านั้น เพราะระหว่างนั้นสบตากับแววตาพิฆาตของคุณชายน้อยแห่งองค์กรยมบาล จนต้องชะงักค้าง ทำไมเหรอ?นี่มันอะไรกัน?เขาพูดผิดเหรอ?
นักข่าวไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรผิด ทว่าเขามองคุณชายน้อยแห่งองค์กรยมบาลแล้วก็รู้ว่าตัวเองพูดผิดแน่ นักข่าวรีบเปลี่ยนคำว่า “ไม่ว่าอย่างไรเวินลั่วฉิงก็เป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลเวิน ประเด็นสำคัญคือคุณชายสามเย่ไม่รังเกียจ คุณชายสามเย่ชอบ”
นักข่าวเห็นสายตาของคุณชายน้อยแห่งองค์กรยมบาลแล้วเปลี่ยนคำพูดใหม่ แววตาของอีกฝ่ายจึงไม่ค่อยคมแหลมมากแล้ว นักข่าวจึงรู้สึกโล่งอกหนึ่งเปราะ
ทว่า เมื่อกี้เขาพูดผิดตรงไหนเนี่ย?
เมื่อกี้เขาแค่บอกว่าเวินลั่วฉิงขี้เหร่และโง่เล็กน้อย……
หรือว่า?หรือว่าคุณชายน้อยแห่งองค์กรยมบาลโกรธเพราะเรื่องนี้?
เพราะเขานินทาเวินลั่วฉิงในทางไม่ดี ดังนั้นคุณชายน้อยแห่งองค์กรยมบาลจึงโกรธ?
ทว่าแล้วเพราะอะไรล่ะ?ทำไมเขาว่าเวินลั่วฉิงในแง่ร้าย คุณชายน้อยแห่งองค์กรยมบาลถึงรู้สึกโกรธ?
ทำไมคุณชายน้อยแห่งองค์กรยมบาลต้องปกป้องเวินลั่วฉิงด้วย?
คุณชายน้อยแห่งองค์กรยมบาลมีความสัมพันธ์อะไรกับเวินลั่วฉิงกันแน่?!
ทันใดนั้นนักข่าวก็นึกถึงคำพูดที่ถังจื่อโม่บอกว่าเขาเป็นสายเลือดตระกูลเย่ ดังนั้น เด็กเป็นลูกของคุณชายสามเย่กับเวินลั่วฉิงหรือเปล่า?
โอ้พระเจ้า?!
เขาเหมือนจะรับรู้ความลับอันใหญ่หลวงที่สะเทือนฟ้าสะเทือนดินเข้าแล้ว!!
นักข่าวคนนี้ล่วงรู้ความลับที่สะเทือนฟ้าดิน ทว่าคนอื่นไม่ได้ ‘ดื่มด่ำ’สายตาพิฆาตของคุณชายน้อยแห่งองค์กรยมบาล ไม่รู้รสชาติของมัน นักข่าวคนอื่นจึงตั้งคำถามกับคุณย่าเย่ไม่ขาดสายดังเดิม
ถึงแม้คุณย่าเย่จะฉลาดเฉลียวแค่ไหน ถึงแม้ปกติคุณย่าเย่จะควบคุมอารมณ์ด้วยความใจเย็นขนาดไหน ทว่าตอนนี้ก็รับกับการที่โดนนักข่าวรุมล้อมและโจมตีท่านมากมายไม่ไหว
คำถามของนักข่าวมากมาย เสียงดังหนวกหูมาก ชั่วขณะนี้คุณย่าเย่รู้สึกหูเกิดเสียงอื้ออึง คล้ายกับฟังไม่ได้ศัพท์จับไม่ได้ความเสียแล้ว
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะหนวกหูเกินไปหรือไม่ คุณย่าเย่ถึงกับรู้สึกวิงเวียนศีรษะ คุณย่าเย่รู้สึกใกล้จะหายใจไม่ออกแล้วที่ถูกคนล้อมรอบมากมายเช่นนี้
ท่านแต่งเข้าบ้านตระกูลเย่มาหลายปี ชีวิตครึ่งหลังนี้เรียกได้ว่าท่านรู้สึกภาคภูมิที่เกียรติและบารมีอย่างเหลือคณานับ ไม่เคยอเนจอนาถเพียงนี้มาก่อน!!
คุณย่าเย่ไม่เคยนึกไม่เคยฝันเลยว่าเรื่องจะกลายเป็นแบบนี้ ท่านคาดไม่ถึงว่าวันหนึ่ง ท่านจะกลายเป็นตัวโดนโจมตีของผู้คน
ตอนนี้ทุกคนล้วนเป็นปรปักษ์กับท่าน ทุกคนล้วนโจมตีท่านทั้งนั้น
ท่านไม่เข้าใจว่าเกิดดำเนินการถึงจุดนี้ได้อย่างไร?!
วางแผนไว้อย่างดีแท้ๆ การที่คุณปู่เย่แกล้งเป็นลมก็เพื่อให้ซือเฉินกลับบ้าน พวกท่านไม่มีเจตนาทำร้ายซือเฉิน พวกท่านอุตส่าห์ดิ้นรนอย่างตั้งใจ ทำไมจึงกลายเป็นแบบนี้ได้?
คนพวกนี้มีสิทธิ์อะไรมาโจมตีท่าน?มีสิทธิ์อะไรมาตำหนิท่าน?
ตอนนี้คุณปู่เย่รับรู้ถึงความรุนแรงของเรื่อง ทว่าการที่ท่านนอนอยู่บนเตียงทำให้หลุดพ้นจากการรุมโจมตีของนักข่าวสำเร็จ เวลานี้ คุณปู่เย่ยิ่งไม่อยากฟื้นกว่าเดิมแล้ว
เรื่องถึงขั้นนี้ เรื่องก็กระจ่างทุกอย่างแล้ว เด็กน้อยถังจื่อโม่เป็นฝ่ายชนะอย่างขาดลอย!!
มีนักข่าวหันไปมองถังจื่อโม่อีกครั้ง ซึ่งท่าทีไม่เหมือนปฏิบัติต่อคุณย่าเย่ ตอนที่พวกเขามองเด็กน้อยถังจื่อโม่นั้น ล้วนเต็มไปด้วยรอยยิ้มและอ่อนโยนเป็นพิเศษ แน่นอนดวงตาของทุกคนยังมีประกายสอดรู้สอดเห็นเกิดขึ้น เด็กคนนี้เก่งขนาดนี้ ตกลงเป็นลูกเต้า?!