ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1262 คุณชายสามเย่ที่ถูกรบกวนในช่วงเวลาสำคัญ (1)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- บทที่ 1262 คุณชายสามเย่ที่ถูกรบกวนในช่วงเวลาสำคัญ (1)
การเดินทางไปประเทศDครั้งนี้ของถังหลินไม่แน่ว่าอาจจะยอดเยี่ยมมากเลยก็ได้!! ไม่แน่ว่าฤดูใบไม้ผลิของถังหลินกำลังจะมาถึงแล้ว
“หลังจากที่นายไปประเทศDแล้วก็สามารถไปหาเจ้าชายได้เลย เขาช่วยนายได้” เย่ซือเฉินเป็นพวกที่เมื่อตัดสินใจแล้วก็จะทำโดยไม่ลังเล จากที่เขาได้สนิทสนมกันกับเจ้าชาย และที่เขาได้ร่วมงานกันกับเจ้าชาย ตรงจุดนี้เย่ซือเฉินมีความมั่นใจเป็นอย่างมาก
ถังหลินได้ยินคำพูดของเย่ซือเฉินแล้ว ดวงตาคู่นั้นก็เหลือบขึ้นมามองเย่ซือเฉินอย่างรวดเร็ว เย่ซือเฉินให้เขาไปหาเจ้าชายแห่งประเทศDอย่างนั้นหรือ?
นี่เย่ซือเฉินกำลังช่วยเขา?!
ช่วยเขาแก้ปัญหา? หรือว่าช่วยเขาสร้างความยุ่งยากที่ไม่จำเป็นกัน?
เจ้าชายองค์นั้นไปที่ไหนก็จะต้องพา ‘เจ้าชายน้อย’ไปด้วย
ถ้าหากเขาไปหาเจ้าชาย ก็จะต้องเจอกับ ‘เจ้าชายน้อย’ อย่างแน่นอน!!
ถังหลินรู้สึกว่าเย่ซือเฉินมีเจตนาอื่นอย่างเห็นได้ชัด
“นายต้องรู้ว่าที่ประเทศDนั้นไม่เหมือนกับประเทศพวกเรา หลายๆเรื่องของพวกเขานั้นมั่วมาก ไม่มีการสนับสนุนของทางราชการก็จะจัดการได้ยาก และเจ้าชายก็มีอำนาจบารมีสูงที่ประเทศDและมีอิทธิพลมากด้วย ถ้าหากไม่มีเหตุสุดวิสัย ในอนาคตเจ้าชายก็จะเป็นผู้นำของประเทศDด้วย นายไปหาเขาก็จะเป็นวิธีที่ดีที่สุด” เย่ซือเฉินสบตาที่ปรากฏความสงสัยออกมาอย่างชัดเจนของถังหลิน แล้วอธิบายออกมาอย่างจริงจังและมีความสงบนิ่ง
“เย่ซือเฉินพูดถูก เจ้าชายองค์นั้นจะทำอะไรก็ดูสุขุมและมั่นคง แล้วก็เป็นคนที่มีความชอบธรรมด้วย แกเกิดเรื่องขึ้นครั้งที่แล้ว ก็เจ้าชายนี่แหล่ะที่เป็นคนที่รับประกันแทนแก ไม่อย่างนั้นเรื่องราวก็คงจะสืบออกมาให้ชัดเจนไม่ได้ง่ายๆแบบนั้น” ถังหยุนเฉิงไม่ได้คิดอะไรมาก เห็นด้วยกับความหมายของเย่ซือเฉินเป็นอย่างมาก
สำหรับเรื่อง ‘เจ้าชายน้อย’ ครั้งที่แล้ว นอกจากถังหลิน เวินลั่วฉิง เย่ซือเฉิน ทั้งสามคนนี้แล้ว คนอื่นๆก็ยังไม่มีใครรู้ว่า ‘เจ้าชายน้อย’ เป็นผู้หญิง ดังนั้นถังหยุนเฉิงจะต้องไม่ได้นึกถึงด้านอื่นๆอย่างแน่นอน ส่วนเรื่อง ‘แก้พิษ’ ก่อนหน้านี้ ถึงแม้ถังหยุนเฉิงจะรู้สึกผิดกับ ‘เจ้าชายน้อย’อยู่บ้าง แต่เรื่องราวก็ผ่านไปนานขนาดนั้นแล้ว อีกทั้งเรื่องราวแบบนั้นถึงอย่างไรก็ไม่ใช่เรื่องที่มีเกียรติอะไรอยู่แล้ว ไม่ควรต้องพูดถึงอีกด้วยเช่นกัน
ถังหลินเม้มปาก ไม่ได้เอ่ยพูดอะไรออกมาอีก เพียงแต่คิ้วที่ขมวดขึ้นเล็กน้อยของเขาได้แสดงให้เห็นอารมณ์ของเขาในเวลานี้ แล้วก็เป็นเขาที่เป็นทุกข์เป็นร้อนไปเองอีกแล้ว เรื่องนั้นผ่านไปแล้ว เธอเองก็พูดกับเขาอย่างชัดเจนแล้วด้วยเช่นกัน เจอหน้ากันอีกแล้วจะเป็นอย่างไรกัน?
“ถ้าหากเจ้าชายประเทศDช่วย พวกเรานับว่าจะมีโอกาสชนะได้มากอีกด้วย ซือเฉิน เธอแน่ใจใช่ไหมว่าเจ้าชายองค์นี้จะช่วยพวกเรา? เพราะถึงอย่างไรอิทธิพลอำนาจขององค์กรโกสต์ซิตี้ก็มีแข็งแกร่งมาก” ท่านปู่ถังอดที่จะเอ่ยถามออกมาไม่ได้ เวลานี้สีหน้าท่าทางของท่านปู่ถังนั้นหนักแน่นและจริงจังอยู่บ้าง
“ท่านปู่ถังวางใจเถอะครับ ไม่มีปัญหาหรอกครับ” เย่ซือเฉินตอบอย่างรวดเร็ว แล้วก็มั่นใจมากด้วยเช่นกัน สำหรับเจ้าชายแห่งประเทศDนั้นเขาพอเข้าใจอยู่แล้ว คนๆนั้นยังมีน้ำใจคุณธรรมอยู่จริงๆ อีกทั้งเขาอยู่ที่ประเทศDมาหลายปีขนาดนี้ สำหรับเจ้าชายแห่งประเทศDแล้วเขามีความร่วมมือที่สำคัญกันมากมาย ผลประโยชน์ของเขากับเจ้าชายนั้นเชื่อมโยงต่อกัน
ดังนั้น เกรงว่าเจ้าชายจะร้อนใจมากกว่าเขาเสียอีก
เพราะถึงอย่างไรสำหรับเขาแล้วประเทศDเป็นเพียงแค่ทรัพย์สินส่วนเล็กๆส่วนหนึ่งเพียงเท่านั้น แต่สำหรับเจ้าชายแล้วกลับเป็นทั้งหมดของเขา
เย่ซือเฉิงเองก็ไม่ได้รู้สึกเป็นกังวลว่าเจ้าชายจะหักหลังเขาแล้วร่วมมือกับองค์กรโกสต์ซิตี้ในเวลานี้ เจ้าชายชัดเจนถึงอิทธิพลอำนาจของเขา แล้วก็รู้ถึงนิสัยของเขาอย่างชัดเจนด้วยเช่นกัน เพียงแค่เจ้าชายพอจะยังมีสมองอยู่บ้างเล็กน้อยก็จะไม่ทำแบบนั้น
“ถ้าหากเป็นแบบนี้ เรื่องนี้ก็คงจะจัดการง่ายแล้ว” ท่านปู่ถังรู้สึกโล่งใจอย่างเห็นได้ชัด สีหน้าท่าทางผ่อนคลายลง
ต่อให้กำลังขององค์กรโกสต์ซิตี้แข็งแกร่ง ที่ประเทศDเองก็ไม่แน่ว่าจะสามารถเอาชนะได้ เย่ซือเฉินกับถังหลินประกอบกับกำลังของเจ้าชายแห่งประเทศD ก็คงจะสามารถตีเสมอองค์กรโกสต์ซิตี้ที่ประเทศDได้
“พวกเราเองก็จะต้องป้องกันเมือง Aทางนี้ด้วยเช่นกัน เกิดเรื่องราวขึ้นมากมายขนาดนี้ เริ่มจากที่ซือเฉินจับเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้โยนออกมานอกประตูบริษัทตระกูลเย่กรุ้ป จากนั้นซือเฉินก็แถลงการณ์กับนักข่าวว่าหลุดพ้นออกจากความสัมพันธ์ของตระกูลเย่ พอๆกับการถอนหมั้นเพียงฝ่ายเดียว แต่องค์กรโกสต์ซิตี้กลับไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เรื่องนี้ดูแปลกๆอยู่บ้าง ไม่รู้ว่าหัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้นั้นหมายความว่าอะไรกันแน่ ผมกังวลว่าเขากำลังวางแผนร้ายอะไรอยู่” ถังหยุนเฉิงจะทำอะไรก็มีความระมัดระวัง คิดอย่างรอบคอบ เรื่องนี้นั้นดูแปลกมากเกินไปหน่อยจริงๆ
“ฉันเองก็รู้สึกว่าเรื่องนี้แปลกมากเหมือนกัน เจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ของพวกเขาหัวหน้าองค์กรเพิ่งจะได้ตัวกลับมา ว่ากันตามหลักการและเหตุผลแล้วควรจะต้องเป็นสิ่งที่มีค่ามากสิ ตอนนี้เจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ได้รับความไม่เป็นธรรมแบบนี้ หัวหน้าแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้กลับไม่มีการเคลื่อนไหวเลยแม้แต่นิดเดียว แม้กระทั่งไม่ได้ให้คนอื่นๆขององค์กรโกสต์ซิตี้ออกมาพูดแทนเจ้าหญิงด้วยเช่นกัน นี่เป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลจริงๆ” เห็นได้ชัดว่าท่านปู่ถังคิดเรื่องนี้อยู่เช่นกัน แล้วก็ยังไม่เข้าใจด้วยเช่นกัน
“ไม่สมเหตุสมผลจริงๆ ถ้าหากวันนี้เรื่องนี้มาเป็นเรื่องของฉิงฉิง ฉันจะสู้กับพวกเขาสุดชีวิต” ท่านย่าถังเป็นคนโผงผางมาโดยตลอด แน่นอนว่าท่านย่าถังเองก็ให้ท้ายลูกตัวเองเป็นที่สุดอยู่แล้ว ดังนั้นคำพูดของท่านย่าถังนั้นไม่ได้ดูโอเวอร์เกินไปเลยแม้แต่นิดเดียว
“แม่คะ การเปรียบเทียบแบบนี้ของแม่ไม่ค่อยจะเหมาะสมเท่าไหร่นะคะ ฉิงฉิงของพวกเราจะถูกคนจับโยนออกมาแบบนั้นได้อย่างไรกัน ฉิงฉิงของพวกเราไม่ได้รีบเร่งที่จะหมั้นกับคนที่เกลียดตัวเองแบบนั้น เจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้จะมาเทียบกับฉิงฉิงของเราได้อย่างไรกันคะ” เฟิ่งเหมียวเหมียวแย้งคำพูดของท่านย่าถังขึ้น ตอนนี้เฟิ่งเหมียวเหมียวเองก็ปกป้องเวินลั่วฉิงด้วยเช่นกัน ไม่อนุญาตให้ใครทำอะไรไม่ดีกับเวินลั่วฉิงได้แม้แต่นิดเดียว
“คุณย่าครับ ถ้าหากเย่ซือเฉินกล้าจับฉิงฉิงโยนออกมาจากบริษัท ผมคนแรกนี่แหล่ะที่จะไปจัดการเขา” ถังหลินหัวเราะเบาๆแล้วเอ่ยเสริมขึ้นมา แน่นอนว่าถังหลินรู้ว่านั่นเป็นเรื่องที่ไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว
“แกอย่าเยาะเย้ยซือเฉิน ซือเฉินทำแบบนี้ก็เพื่อฉิงฉิง ซือเฉินเป็นเด็กดี แกอย่าไปรังแกเขานะ” ท่านย่าถังจ้องไปยังถังหลิน หลังจากที่เกิดเรื่องเหล่านั้นขึ้น ท่านย่าถังก็ปกป้องเย่ซือเฉินขึ้นมาเป็นพิเศษ
“นี่มันอะไรกัน? เพิ่งจะผ่านไปไม่ถึงครึ่งวันเลย ท่าทีของคุณย่าเปลี่ยนไปขนาดนี้เลยหรือครับ ตอนนี้คนนอกอย่างเย่ซือเฉินนี่สนิทมากกว่าหลานแท้ๆของคุณย่าแล้วนะครับ” เวลานี้สีหน้าท่าทางของถังหลินนั้นดูโอเวอร์อย่างเห็นได้ชัด ถังหลินอยากจะปรับเปลี่ยนบรรยากาศ บรรยากาศที่ตระกูลถังของพวกเขาไม่ควรจะดูอึดอัดแบบนี้ อีกทั้งจื่อโม่เองก็ยังอยู่ตรงนั้นด้วย
ต่อให้เป็นเรื่องใหญ่โต เพียงแค่พวกเขาเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ก็ไม่มีอะไรที่แก้ไขไม่ได้แล้ว
“แกนี่นะ” ท่านย่าถังถลึงตาใส่ถังหลิน : “ซือเฉินไม่ใช่คนนอก ซือเฉินกับฉิงฉิงจะแต่งงานกันอยู่แล้ว ต่อไปพวกเราก็จะเป็นครอบครัวเดียวกันจริงๆแล้ว”
“อืม ควรจะแต่งงานกันได้แล้ว ลูกโตขนาดนี้แล้ว ไม่แต่งกันอีกนี่ก็ใช้ไม่ได้แล้วนะ” ถังหยุนเฉิงเอ่ยพูดต่ออย่างจริงจัง : “ซือเฉิน เรื่องนี้เธอจะต้องจัดการให้ดีนะ”
“อืม ผมทราบครับ” มุมปากเย่ซือเฉินอดที่จะยกขึ้นมาไม่ได้ ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มออกมาอย่างเห็นได้ชัด มือของเขานั้นจับมือของเวินลั่วฉิงเอาไว้แน่น สิบนิ้วประสานกัน แต่งงานกับเธอ เป็นสิ่งที่เขาอยากจะทำมากที่สุดมาโดยตลอดอยู่แล้ว